แม้รักไร้วาจา แต่จีรังยั่งยืน
เขียนโดย หลิวยง
แปลโดย อนุรักษ์ กิจไพบูลทวี
สิ่งของของคุณพ่อ ไม่เคยล็อกกุญแจ ยกเว้นลิ้นชักอันนั้น
คุณพ่อไม่ยอมให้ใครดู ทุกคนก็ไม่กล้าดู ทุกคนรู้ดีว่าข้างในนั้นใส่อะไรเอาไว้
ทุกคนอยากให้คุณพ่อลืมมันเสีย
จนกระทั่งวันหนึ่ง คุณพ่อไอแรงมาก ลูกๆ วิ่งเข้าไปหาในห้องนอน
พยุงคุณพ่อที่นั่งอยู่บนพื้นพร้อมกับน้ำตาอาบแก้ม จึงได้เห็นลิ้นชักเปิดอยู่
กับเสื้อเชิ้ตที่พับเก็บอยู่อย่างเรีบบร้อยตัวนั้น
สามสิบกว่าปีก่อน คุณพ่อต้องเดินทางบ่อยๆ ทุกครั้งที่จะออกจากบ้าน
คุณแม่มักจะรีดเสื้อเชิ้ตให้เรียบร้อย พับอย่างเป็นระเบียบ บรรจงใส่ใน
กระเป๋าเดินทางอย่างตั้งใจ คุณแม่พับเสื้อทุกตัวอย่างระมัดระวัง
ไม่เพียงแต่พับตามรอยตะเข็บเท่านั้น ยังติดกระดุมทุกเม็ดบนเสื้ออีกด้วย
"อย่ามักง่ายขนาดนั้น จับจุกสุ่มสี่สุ่มห้ารู้ไหม ตัวที่ใส่แล้วเอาไว้ข้างหนึ่ง
ตัวที่ยังไม่ได้ใส่เอาไว้อีกข้างหนึ่ง ตอนใส่ก็ไม่ต้องรีบร้อน ค่อยๆ แกะกระดุม
ทุกเม็ดออก สะบัดเบาๆ หนึ่งทีแล้วค่อยใส่ ก็จะเหมือนเพิ่งรีดใหม่ๆ"
คุณแม่เก็บกระเป๋าให้คุณพ่อไปพลางบ่นไปพลาง
"อย่าให้คนข้างนอกนึกว่าไม่มีเมียอยู่ที่บ้าน" แล้วก็กำชับอีกครั้งว่า
"เจอสาวๆ สวยๆ อย่าเข้าใกล้เกินไป ระวังลิปสติกจะติดเสื้อ ไหนจะซักยาก
ไหนจะทำให้ฉันโมโหอีก"
"คุณบ่นน้อยๆ หน่อยบ้างไม่ได้หรือ" คุณพ่อมักพูดกลั้วหัวเราะ
"คุณรู้ไหม ในโลกนี้นะ เมียที่รู้ใจที่สุด แต่ก็ขี้ระแวงที่สุดก็คือคุณนี่แหละ
แม้แต่พับเสื้อยังมีวางแผนชั่วร้าย"
"ใช่! ฉันบอกไว้ก่อนเลยนะ ถ้าคุณเกิดไม่ระวังไปทำเปื้อน แอบเอาไปซัก
แล้วใช้ให้ผู้หญิงคนอื่นช่วยพับให้ ฉันนะ ดูทีเดียวก็รู้แล้ว!"
แต่ว่า คุณแม่มักจะคำนวณวันเดินทางของคุณพ่อ โดยใส่เสื้อเชิ้ตเกินไว้ให้หนึ่งตัว
"เอาเผื่อไว้หนึ่งตัว เป็นสำรอง ไม่ได้หมายความว่าให้คุณกลับมาสายหนึ่งวันนะ!"
วันนั้น คุณพ่อไม่ได้กลับมาสาย แต่เมื่อวิ่งเข้าบ้าน กลับสายไปหนึ่งก้าว
คุณพ่อกอดคุณแม่ร้องไห้ตลอดคืน และนั่งซึมคนเดียวอีกหนึ่งวัน จากนั้นก็ลุกขึ้น
เปิดกระเป๋าเสื้อผ้า หยิบเสื้อเชิ้ตที่คุณแม่พับเผื่อไว้ให้ตัวนั้นออกมาใส่ไว้ในลิ้นชัก
ค่อยๆ กัดฟันพูด ทีละคำ ทีละคำว่า
"ห้ามเปิด ห้ามโดน!"
แน่นอน นอกจากตัวของคุณพ่อเอง
โดยเฉพาะเร็วๆ นี้ คุณพ่อมักเปิดลิ้นชักบ่อยๆ ลูบคลำเสื้อเชิ้ตตัวนั้น
สองมือที่เต็มไปด้วยริ้วรอยของความชรา สั่นน้อยๆ เริ่มคลำตั้งแต่กระดุมเม็ดแรก
ตรงคอเสื้อ ลูบเรื่อยลงไปจนถึงรอยพับ
"ดูสิเห็นไหม แม่แกรีดเรียบขนาดไหน พับเก่งขนาดไหน!"
ครั้งหนึ่ง หลานคนเล็กยื่นมือออกไปจับ ท่านผู้เฒ่าตะโกนใส่เสียงลั่น
จนกระทั่งเด็กน้อยตกใจร้องไห้ สำหรับเรื่องนี้ ลูกชายกับลูกสะใภ้ถึงกับ
ทะเลาะกันยกใหญ่
"คุณพ่อเขารักหลานอยู่แล้ว แต่เสื้อตัวนั้นมันพิเศษมาก ใครก็ห้ามโดน!"
แต่ว่า วันนี้ คุณพ่อกลับชี้ไปที่ลิ้นชักอันนั้น พลางมองลูกชายและพยักหน้าให้
ลูกชายบรรจงหยิบเสื้อเชิ้ตออกมา วางไว้ขอบเตียง แกะกระดุมออกทีละเม็ด
สามสิบกว่าปีแล้ว เสื้อเชิ้ตสีขาวเปลี่ยนเป็นเหลืองแล้ว โดยเฉพาะส่วนที่พับ
อยู่ด้านล่าง อาจเป็นเพราะแนบกับพื้นลิ้นชักโดยตรง จึงเป็นคราบเหลืองปื้นใหญ่
ลูกชายลังเลสักครู่ อยู่ๆ คุณพ่อก็ถอนหายใจเฮือกหนึ่ง กล่าวว่า
"คลี่ออก! เอามาใส่!"
เสื้อถูกคลี่ออกแล้ว ลูกชายพยุงคุณพ่อขึ้นนั่ง ลูกสาวช่วยสวมแขนเสื้อให้ทีละข้าง
"เดี๋ยวก่อน!" ลูกสาวยั้งมือครู่หนึ่ง ก้มหน้าดูอย่างตั้งใจ ค่อยๆ หยิบ
เส้นผมดำขลับเส้นยาวขึ้นมาเส้นหนึ่งพูดว่า
"ของแม่!"
ท่านผู้เฒ่าลืมตาโต เปล่งประกายสุกใสอย่างไม่ค่อยได้เห็นนัก
ยกมือที่ดำช้ำจนม่วงแล้วขึ้นมา รับเส้นผมเส้นนั้นไป
พอติดกระดุมเสื้อจนเสร็จ ลูกชายกระซิบเบาๆ ว่า
"คุณพ่อไปแล้ว!"
ลูกสาวค่อยๆ รวบมือคุณพ่อมาวางไว้บนอก
สิ่งที่สองมือคู่นั้นกุมแน่นเอาไว้ คือเส้นผมเส้นนั้น
อ่านเรื่องสั้นอีกสองตอนในเล่มเดียวกันพร้อมภาพประกอบได้ที่
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=beer87
ที่มา
http://www.readingtimes.com.tw/timeshtml/ad/PX0006/index.htm#1
จากคุณ :
beer87
- [
22 พ.ค. 51 14:11:06
]