นั่งคอยดูฤดูใหม่ใกล้เปลี่ยนผ่าน
ได้ขับขานบทเพลงของบุปผา
วนเวียนเปลี่ยนมาเมื่อถึงเวลา
เหมันต์จากคิมหันต์มาลาฤดู
เมื่อหน้าแล้วไม้แห้งทิ้งใบกรอบ
เหมือนโดยรอบแต่ยังมีชีวิตอยู่
คูณหลับใหลแต่ว่ายังคงรับรู้
เตรียมพรั่งพรูบทเพลงเมื่อถึงกาล
ลืมตาตื่นตาผลิดอกออกระย้า
ตามคบคาตามกิ่งยิ่งสนาน
ดอกตูมเขียวรายเรียงเคียงเป็นพุ่มพาน
รอวันบานบนช่อที่โรยลง
ค่อยค่อยตื่นเปิดตาอย่างช้าช้า
คลี่กลีบทักทายมาภาษาส่ง
จากวันนี้นิรันดร์เรามั่นคง
จะไม่หลงไม่ลืมแม้เมื่อไร
สะพรึบพรั่งเพริศเพราเป็นพุ่มมาศ
ดารดาษต้องแดดสว่างไสว
เป็นต้นไม้เหลืองอร่ามต่างทั่วไป
ไม่ว่าใครผ่านมาพาชื่นชม
กาลต่อมาลมต้องต้องปลิวพลิ้ว
ลอยละลิ่วปลิวไปตามความเหมาะสม
ปลิวตามฝันปลิวตามความนิยม
ดอกคูณอมน้ำตาลาเพื่อนกัน
แสนโคกเศร้าเมื่อเราลาจากพวกพ้อง
ที่ทั้งผองเคยเคียงข้างร่วมสุขสันต์
เคยร่วมทางพร้อมหน้ามาทุกวัน
และแบ่งปันสุขทุกข์มาทุกคราว
ร่อนลมลอยคว้างอยู่ ณ กลางฟ้า
ณ นภาโผไปในกลางหาว
ออกรำร่ายร่ายรำร่ำเรื่องราว
ประดิษฐ์เป็นเรื่องยาวของดอกคูณ
มีสุขได้หัวเราะร่าน้ำตาไหล
มีกำเนิดเติบใหญ่และดับสูญ
มีแก่งแย่งชิงดีมีเกื้อกูล
คอยเพิ่มพูดถ้อยคำร่ำวาจา
ตระหวัดกลีบจารึกลายในอากาศ
โผบินทั่วเวหาสน์ทั้งเวหา
ตระเวนว่อนเวียนวนจนอ่อนล้า
ไม่อาจอยู่ท้องฟ้ามาลงดิน
ยามดอกคูณร่วงหล่นเกลื่อนกล่นพื้น
เป็นพรมผืนเหลืองทองทั่วดินสิ้น
ทุกดอกรวมกันอีกครั้งหลังชีวิน
รอโผบินอีกครั้งในหมู่ผู้คน
โปรดประจักษ์เพลงดอกคูณที่เล่นขาน
มีผลิบานครั้นแล้วก็ร่วงหล่น
เราทั้งหลายได้โปรดจงเตือนตน
ตราบฤดูยังเวียนวนน่ายลเอย
จากคุณ :
เจรามี
- [
25 พ.ค. 51 11:39:40
]