Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    เรื่องเล่าขำๆ ของคนไข้ต่างชาติ ตอน พูดสั้นๆ ง่ายๆ.... แล้วเป็นไง???

    * เข้ามาแก้ไขคำผิดตั้งหลายรอบ เพิ่งเห็นว่า..หัวข้อก็พิมพ์ผิด...อืมมม ขอแก้ไขนะคะ...เป็น

    เรื่องเล่าจากต่างแดน...ตอน พูดง่ายๆสั้นๆ..แล้วเป็นไง
    ........................................................................................................

    จริงๆแล้วก็เกรงใจหลายๆท่านนะคะที่มาโพส ตอนใหม่วันนี้
    เนื่องจากเพิ่งโพสตอนแรกไปเมื่อวานนี่เอง...แต่เนื่องจาก
    พรุ่งนี้ต้องเดินทางไปฮอลิเดย์กับครอบครัว
    คิดแล้วคิดอีก..เกรงใจก็เกรงใจ..แต่ไหนๆก็เขียนไว้แล้ว..เลยขออนุญาตเอามาลงนะคะ

    ..........................................................................


    เรื่องเล่าขำๆ จากต่างแดน ตอน ฟังไม่ได้ศัพย์...จับไป?????

    http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W6674911/W6674911.html

    เรื่องเล่าขำๆ จากต่างแดน ตอน พูดสั้นๆ ง่ายๆ แล้วเป็นไง????


    หลายครั้งที่ดิฉันเกิดอาการขยันหารายได้พิเศษขึ้นมา ทำให้ตระเวนรับจ๊อบพิเศษไปทั่วทั้งโรงพยาบาล...
    ครั้งหนึ่งทำหน้าที่เป็นพยาบาลประจำคลีนิคโรคเบาหวาน...

    หนึ่งในผู้ป่วยที่ดิฉันให้การบริการในครั้งนั้น เป็นหญิงชรา อายุ 82 ปี มารับการตรวจตามที่แพทย์นัด

    ครั้งนี้ คุณหมอให้ดิฉันตรวจสภาพตาด้วย เนื่องจากเกรงว่าภาวะน้ำตาลในเลือดที่สูงในขณะนั้น
    จะส่งผลกระทบต่อการมองเห็นของคุณยายได้   ดิฉันบอกกับคุณยายว่า

    " Could you please cover your left eye and read the chart for me "


    "I can' t dear "  คุณยายตอบ

    "Okay ,cover your other eye and read the chart please"

    ดิฉันบอกให้คุณยายเปลี่ยนเป็นปิดตาอีกข้างหนึ่ง แล้วลองอ่านแผ่นป้ายอีกครั้ง

    "I can't dear"  คุณยายตอบเหมือนเดิม

    ดิฉันหยุดคิดชั่วขณะหนึ่ง แล้วถามคุณยายว่า

    " Could you  see the chart " ดิฉันถามเพราะไม่แน่ใจว่าคุณยายมองเห็นตัวหนังสือหรือเปล่า

    "Oh yes dear"  คุณยายบอกดิฉันพร้อมทั้งพยักหน้ารับ

    "Well.... , could you please read the chart for me "  

    ดิฉันบอกให้คุณยายลองอ่านอีกครั้ง หลังจากที่แกยืนยันว่ามองเห็นตัวหนังสือดี

    "I can't dear"  

    คุณยายส่ายหน้า..ยืนยันคำเดิม...ซึ่งทำให้ดิฉัน
    งง หนัก เข้าไปอีก ..เลยนึกในใจว่า สงสัยคุณยายแกจะมีอาการสับสน
    ตามประสาคนแก่วัยนี้ ..อ่านได้บ้าง ไม่ได้บ้าง...ยังไงกันแน่
    เลยบอกอีกครั้งว่า ให้ปิดตาข้างใดข้างหนึ่งแล้ว อ่านตัวหนังสือให้ดิฉันฟัง

    "I can't dear"

    หลังจากที่คุณยายตอบเหมือนเดิมทุกครั้ง ดิฉันถึงกับถอนหายใจ
    พลางนึกในใจว่า..มาทำงานคลินิคผู้ป่วยนอกครั้งแรกก็เจอคนไข้
    ลองเชิงเสียแล้ว..คิดไปคิดมา..เลยพูดกับคุณยายอย่างน้อยใจว่า..

    "Why  didn't you read it for me because you said you could see it"
    คุณยายมองหน้าดิฉัน พร้อมกับบอกเสียงอ่อยๆว่า

    "Oh dear !!!!! I would love to read it for you ....but...
     "I can't pronounce it !!!!!! "

    เฮ้อออออออ....กว่าจะถึง..บางอ้อ...อ่านไม่ออกก็ไม่ยอมบอกตั้งแต่แรก ปล่อยให้ถามอยู่ตั้งนาน....

    ..........................................................................

    เรื่องต่อมา...หนักกว่าเดิมหลายเท่าเพราะ
    คนก่อเหตุคือตัวดิฉันเอง...(อายนะเนี่ย..แต่ก็จะเล่า)

    หลายๆท่านก็คงจะรู้ดีว่า ตอนที่เราเรียนภาษาอังกฤษที่เมืองไทย
    อาจารย์จะสอนให้พูดถูกหลักไวยากรณ์ทุกอย่าง  หลังจากที่มาอยู่ที่นี่แล้ว
    จะได้ยินคนทั่วๆไป พูดคุยกันด้วยภาษาที่สั้นๆ ง่ายๆ ไม่เต็มรูปประโยค
    แต่ละไว้ฐานที่เข้าใจ  ดิฉันเองก็เริ่มคุ้นเคยกับการพูดแบบนี้...
    แต่ทว่า...บางครั้งถ้ามันสั้นๆ หรือง่ายๆ เกินไป ก็นำมาซึ่งความอับอายขายหน้าได้...
    อย่างเช่นเรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้ค่ะ

    ทุกเช้าวันพุธ ที่ตึกคนไข้ของดิฉันจะยุ่งมากเป็นพิเศษ เนื่องจากมีคนไข้ที่นัดมาทำหัตถการหลายๆอย่าง
    พร้อมกันหลายคน

    คนไข้รายหนึ่งมาตามนัด เพื่อทำการตรวจชิ้นเนื้อที่ไต  ดิฉันเห็นMr. Fords เดินเข้ามา
    ก็กล่าวทักทาย พร้อมทั้งส่งเสื้อผ้าสำหรับคนไข้ให้ และบอกว่า

    "Get everything ready in the toilet ,then go to (the)bed with me"

    สิ้นเสียงอันเจื้อยแจ้วแจ่มใสยามเช้าของดิฉัน ทุกคน (หมอ พยาบาล และคนไข้รายอื่นๆ
    รวมทั้ง Mr. Fords ) ก็หัวเราะขึ้นพร้อมๆกัน  

    ดิฉันเองก็รู้ตัวว่าพูดพลาดไปแล้วล่ะ....ด้วยความที่งานยุ่งและรีบเร่ง เพราะมีคนไข้รออยู่หลายคน
    จึงทำให้พูดรวบรัดจนเกินไป    

    เพราะประโยคที่ว่า "go to bed with me"  หมายถึง การชวนใครสักคนไปนอนด้วยกัน
    แถมยังบอกให้คนไข้หนุ่มรายนี้ เตรียมตัวให้เรียบร้อยจากในห้องน้ำมาอีกต่างหาก
    เพราะจะได้ไม่ต้องเสียเวลาเปลี่ยนเสื้อผ้าที่เตียง(...โอ้ชักจะไปกันใหญ่...)

    นึกๆแล้ว ตอนที่พูดกับ Mr. Fords ..คำ " the" ก็คงไม่ได้เน้นหนักมาก...
    เมื่อคนไข้ฟังแล้ว.."go to bed with me.."
    ก็กลายเป็นเรื่องน่าหวาดเสียวทีเดียว เพราะแทนที่จะมาทำหัตถการตามแผนการรักษา..กลับกลายเป็นได้ขึ้นเตียงกับพยาบาลแทน ....
    ตกลงงานนี้...ไม่รู้ใครโชคดีกันแน่...คนไข้ หรือ พยาบาล????

    ตามที่ควรแล้ว ดิฉันควรจะบอกกับคนไข้ว่า...

    " Could you please get changed in the toilet , then follow me to this way...
    I will take you to the bed for the procedure"

    สรุปว่า..แค่ admitted คนไข้คนแรกวันนั้น ก็ได้รับความอับอายไป100% เต็มๆ
    หลังจากนั้น..เวลาเดินผ่านไปมาในตึก คนไข้ผู้ชายก็พากันยิ้มล้อเลียนดิฉัน...แต่ด้วยความที่ผิวหนังของดิฉัน
    หนาขึ้นตามลำดับอายุตัว..ทำให้ดิฉันยิ้มตอบกลับไป (อย่างไม่หวั่น...แม้มันจะอับอายมาก)
    พร้อมกับทำหน้าที่ของพยาบาลที่แสนดีต่อไป จนกระทั่งเลิกเวร.....เฮ้อออออ....

    ( ปล....จะว่าไปแล้วคนไข้รายนั้นก็หน้าตาหล่อเหลาเอาการอยู่นะ..จะบอกให้..อิอิ)

    .........................................................................

    ....ขอให้สนุกกับการอ่านกันนะคะ...ไปล่ะ..แล้วจะเที่ยวเผื่อทุกคนนะจ๊ะ.....

    แก้ไขเมื่อ 06 มิ.ย. 51 02:14:35

    แก้ไขเมื่อ 06 มิ.ย. 51 00:41:40

    แก้ไขเมื่อ 06 มิ.ย. 51 00:37:18

    แก้ไขเมื่อ 06 มิ.ย. 51 00:35:14

    จากคุณ : teansri - [ 6 มิ.ย. 51 00:33:27 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom