ความคิดเห็นที่ 5
เรื่องเล่าขำๆ ตะลุยต่างแดน (ลาวใต้) เกร็ดเมืองลาว เกร็ดเมืองลาว Jan 6, 2008 10:53 PM
ระหว่างทางก็ชวนพี่เค้าคุย ถามนู่นถามนี่ ก็ได้ความรู้มาบ้างว่าสวัสดีภาษาลาวเค้าจะพูดว่า สบายดี พยัญชนะลาวเนี่ยมี 33 ตัวแล้วจะไม่มีตัวหนังสือหลายตัวใช้อ่านเสียงเดียวกันเหมือนไทย เช่น เสียง ทอ บ้านเราจะมีท.ทหาร กับ ธ.ธง ไม่มีช.ช้างมีแต่ซ.โซ่ ที่ลาวเนี่ยมีทีวีของลาวเองแค่ช่องเดียว คือช่องลาวสตาร์ แต่คนที่นี่รับภาพของไทยได้เกือบทุกช่อง 3, 5, 7, 9, และ ITV แต่จะชอบดูช่อง 7 กับช่อง 3 มากกว่า บางบ้านอาจมีจานดาวเทียมก็จะรับ ข่องเวียดนามได้ 2 ช่องด้วย เค้าเรียกกษัตริย์ของเค้าว่า เจ้าชีวิต ซึ่งก็คือเจ้าบุญอุ้ม ซึ่งตอนเปลี่ยนการปกครองได้เป็นนายกรัฐมนตรี แล้วถูกลี้ภัยทางการเมืองไปประทับที่ฝรั่งเศส แล้วสิ้นพระชนม์ในไม่กี่ปีต่อมา ตอนนี้ไม่มีกษัตริย์แล้ว เหลือแต่ลูกๆหลานซึ่งก็มาลาวบ้างบางครั้ง ถนนที่นี่แปลกมาก มีด่านเก็บเงินด้วย ทั้งที่ไม่ใช่ทางด่วน พี่แสงบอกว่าเก็บค่าบำรุงรักษา เราก็งง ถามว่าแล้วพี่ไม่เสียภาษีเหรอ เค้าบอกว่าเสีย คนละ 300 บาทต่อปี อ้าวแล้วเก็บอีกทำไม งง เค้าก็ไม่รู้ แต่จ่ายจนชินแล้ว พี่แสงมีลูก 3 คน เค้าบอกว่า คนลาวเชื่อว่าถ้ามีลูกเยอะๆจะรวยไม่ทุกข์ (หมายถึงจนนั่นแหละ) แนวคิดแปลกมากตรงกันข้ามกับเราที่ว่ามีลูก 1 คนจนไป 1ปี เค้าบอกว่าส่วนใหญ่มีลูก 10 คน ตอนเล็กๆอาจทุกข์ แต่พอลูกโตๆจะมาช่วยพ่อแม่ทำนา บ้างก็ไปทำงานต่างเมืองหรือมาทำงานเป(็นคนงานก่อสร้าง, ช่าง, แม่บ้านที่เมืองไทย เงินเดือนดีเดือนละ 5,000 บาท (ถ้าทำงานที่ลาวได้เงินเดือนละ 1,000 บาทเท่านั้นเอง) ก็จะส่งมาให้พ่อแม่ พ่อแม่ก็จะสบายยามแก่เฒ่า เออ ก็จริง อ้อลืมบอกไปที่นี่ถนนเค้าวิ่งกันคนละเลนกับบ้านเราเพราะพวงมาลัยคนขับอยู่ด้านซ้าย คุยไปคุยมาก็ถึงทางเข้าคอนพะเพ็ง มีด่านเก็บค่าธรรมเนียมด้วย ถ้าเป็นนักท่องเที่ยว ต้องคนละ 6000 กีบ แต่พี่แสงบอกว่าเราเป็นคนลาวเค้าก็ลดลงให้เหลือ คนละ 3000กีบ เฮ้อได้งัย ยอมจ่ายแพงดีกว่าถูกมองว่าหน้าเหมือนคนลาวง่ะ
ลาวใต้ Jan 6, 2008 10:54 PM
ติ่นสายอีกแล้ว นัดเค้ามารับ 7:30 แต่ตื่น 7โมงรีบอาบน้ำสุดชีวิต ก็นอนไม่ค่อยหลับนอนอ่านนิยายของ Nicholas Sparks เรื่องใหม่ The Guardian ไปตั้งครึ่งเล่ม กว่าจะเรียบร้อยก็ลงมาที่ Lobby 7:45 พี่เค้ามารอแล้วอดกินข้าวเช้าเลย ไม่เป็นไร เมื่อคืนแอบกินมาม่าไปแล้ว ตุนพลังงานไว้ที่ท้องน้อยแล้ว ลุยเลย พี่แสง หรือท้าวแสงอรุณ คนขับรถตู้ของเราบอกว่าเราจะไปที่คอนพะเพ็ง ไนแองการ่าแห่งเอเชียก่อนประมาณ 160 กิโล แล้วเราจะทานข้าวที่นั่น ะ พอไปถึงก็ได้ยินเสียงน้ำตกแว่วๆมาแต่ไกล เอ หรือว่าท้องพี่ตี้ร้องนะ เพราะบ่นหิวมาตลอดทาง เราก็แวะกินข้าวก่อน แม่ค้าร้านอาหารก็พยายามนำเสนอปลาอยู่นั่นแหละ ประมาณว่าหยิบปลามาโชว์ เปิดตู้แช่ปลาเกือบทุกร้านเลย แต่เรามุ่งมั่นมากว่าอยากกินเนื้อย่าง พอนั่งสั่งซักพัก พี่แสงบอกว่าน่าจะอีกนานเพิ่งนึ่งข้าวเอง ไปเดินเล่นดูน้ำตกก่อนดีกว่าใกล้เอง ที่น้ำตกนี้จะมีจุดชมวิวด้วยมองเห็นได้ชัดมาก (พี่แสงเรียกว่าหอคอย) จริงๆเป็นศาลานั่งพักนั่นแหละ โหสวยมากกกกกกกกกกกกก ตระการตา อลังการเกินคำจะบรรยาย ไนเองการ่าที่เคยเห็น (ในทีวี) น่าจะประมาณนี้ น้ำไหลแรงมากกระทบสองฝั่งเสียงดัง สวยจริงๆ สายน้ำเชี่ยวกรากประมาณว่าถ้าตกลงไป ก็อธิษฐานขอขึ้นสววรค์ไปเลยเพราะขอรอด คงยากส์ พี่แสงบอกว่าเป็นพลังจากแม่น้ำโขงไหลผ่านแก่งน้อยใหญ่แล้วมาตกลงบรรจบกัน เป็นแอ่งใหญ่มาก โอ็ยถ่ายรูปอย่างเมามัน สวยสุดๆ ชอบมากกกกกก พอชมอาหารตาเสร็จก็มาชมและชิมอาหารจริงๆซะที ไก่ทอด ลาบหมู ส้มตำปู และเนื้อย่าง J ปรากฏว่าเนื้อย่างหนามาก เคี้ยวยากโคตร สงสัยคนลาวไม่กินเนื้อย่างกัน พี่แสงแอบสั่งปลากดเผามาให้เรากิน พอเรากะพี่ตี้ชิมเท่านั้นหล่ะ อร่อยมากๆ เนื้อปลานุ่ม หวาน และรู้สึกถึงความสดของปลาจากลุ่มน้ำโขง ค่อยไหลลื่นลงคอ อร่อยเหาะจริงๆ อิ่มเสร็จขอแวะซื้อของฝากเล็กน้อย เป็นครกไม้ ว่าจะส่งให้เดนนิส เพราะคราวที่แล้วบ่นๆว่าอยากได้ แล้วก็ซื้อหมอนหวาย แปลกนะ นิ่มดีมาอีก 4 ใบ (28000 กีบ)มาอีกด้วย เอ้าเตรียมเที่ยวหลีผีต่อ พอไปถึงพี่แสงบอกว่าต้องนั่งเรือประมาณ 40 นาที (เหมาลำ 500 บาท) แล้วไปต่อรถอีก 10 นาที (เหมาคัน 300 บาท) ถึงจะเห็นน้ำตกหลีผี โหอะไรเนี่ย ยากส์เย็นจริงๆ ตอนนั่งเรือก็สบายดี แดดร้อนก็จริง แต่ลมพัดเย็นปะทะหน้าตลอดทาง บรรยากาศสองผั่งโขงจะเห็นชาวบ้านลาวพายเรือแจวทอดแห จับปลากันเป็นระยะๆ ซักพักจะเห็นความลงมาเล่นน้ำ น่าดูมากๆ สดชื่นจริงๆ ตลอดทางจะเห็นบังกะโลมุงจาก ธรรมชาติให้ฝรั่งเช่าเป็นเดือนๆ เหมือนเกาะช้างสมัยก่อนบ้านเราเลย พอมาถั่งฝั่งก็นั่งรถกระป๊อต่อไปที่น้ำตก โหยก้นแทบพัง ฝุ่นตลบ ทางก็แคบอย่าได้คิดว่ารถจะสวนกันเลย นั่งกันตัวโยกตัวโยน สงสัยจริงๆว่า ป่านนี้คนขับไม่เป็นไส้เลื่อนไปแล้วเหรองัย พอรถจอดเท้าเราก็เต็มไปด้วยฝุ่น หน้าไม่ต้องโบ๊ะเลย Bobby Brown ก็ยังแพ้ เพราะหนากำลังดี แล้วลงจากรถต้องเดินเท้าอีกประมาณ 100 เมตรก็จะเห็นแก่งหินต้องปีนลงไปอีกนิดโอ้โห สมกับความลำบากจริงๆ เหมือนแกรนแครนย่อนเลย แต่เป็นหินแกรนิตสีดำ น้ำไหลเชี่ยวกราก แง่งหินก็น่าหวาดเสียวปนความท้าทายให้ลงไปถ่ายรูปจริงๆ นั่งเล่น ถ่ายรูปกันซักพักก็เตรียมกลับเพราะร้อนและเหนื่อยมากๆ ต้องนั่งตัวดยนกลับมาและนั่งเรือกลับอีก เป็นประสบการณืที่ดีจริงๆ ขากลับตอนแรกกะจะให้พี่แสงแถมปราสาทวัดภูอีกแห่งแต่ พี่แสงบอกว่าต้องให้รถข้ามเรือไปอีก โอ๊ยไม่ไหวกลับปากเซดีกว่า ตลอดทาง IPHONE ช่วยได้เยอะจริงๆ ฟังเพลงและหลับไปเรื่อย มารู้สึกตัวอีกทีก็ถีงโรงแรมพอดี ทายซิเราจะทำอะไรต่อ ฮิฮิ เมื่อยซะขนาด มุ่งตรงเข้าสปาเลย ราคาถูกมาก 35,000กีบ ประมาณ 150 บาทเอง เราก็เลยเลือกนวดเท้า พี่ตี้เลือกนวดตัวกันคนละ 1 ชั่วโมง เฮ้อ นวดเสร็จก็ไปกินข้าวแล้วเข้านอนเลย พรุ่งนี้ต้องตื่นเช้าเพราะจะกลับตอน 7 โมงเช้าเลย เฮ้อ ง่วงจัง
ในที่สุดก๊กลับถึงบ้านอย่างปลอดภ้ยอ่ะ
จากคุณ : jjchan - [ 8 มิ.ย. 51 23:19:23 ]
จากคุณ :
ทะเลหวาน
- [
8 มิ.ย. 51 23:46:26
]
|
|
|