รำลึกถึงครูกวีศรีรันตโกสินทร์ (๒)
นิราศภูเขาทอง ของ สุนทรภู่
บทเกริ่น
........
เดือนสิบเอ็ดเสร็จธุระพระวสา
รับกฐินภิญโญโมทนา
ชุลีลาลงเรือเหลืออาลัย
ออกจากวัดทัศนาดูอาวาส
เมื่อตรุษศารทพระวสาได้อาศัย
สามฤดูอยู่ดีไม่มีภัย
มาจำไกลอารามเมื่อยามเย็น
โอ้อาวาสราชบุรณะพระวิหาร
แต่นี้นานนับทิวาจะมาเห็น
เหลือรำลึกนึกน่าน้ำตากระเด็น
เพราะขุกเข็ญคนพาลมารานทาง
จะยกหยิบธิบดีเป็นที่ตั้ง
ก็ใช้ถังแทนสัดเห็นขัดขวาง
จึ่งจำลาอาวาสนิราศร้าง
มาอ้างว้างวิญญาในสาคร
ภิกษุสุนทรภู่ลงเรือจากวัดราชบุรณะ(วัดเลียบ ตรงข้ามโรงเรียนสวนกุหลาบ)แจวขึ้นทิศเหนือผ่านพระบรมมหาราชวัง
ถึงหน้าวังดังหนึ่งใจจะขาด
คิดถึงบาทบพิตรอดิศร
โอ้ผ่านเกล้าเจ้าประคุณของสุนทร
แต่ปางก่อนเคยเฝ้าทุกเช้าเย็น
พระนิพพานปานประหนึ่งศีรษะขาด
ด้วยไร้ญาติยากแค้นถึงแสนเข็ญ
ทั้งโรคซ้ำกรรมซัดวิบัติเป็น
ไม่แลเห็นที่ซึ่งจะพึ่งพา
จึงสร้างพรตอตส่าห์ส่งส่วนบุญถวาย
ประพฤติฝ่ายสมถะถึงวสา
เป็นสิ่งของฉลองคุณมุลิกา
ขอเป็นข้าเคียงพระบาททุกชาติไป
เรือแล่นผ่านท่าราชวรดิษฐ์และท่าช้างวังหลวง
ถึงหน้าแพแลเห็นเรือที่นั่ง
คิดถึงครั้งก่อนมาน้ำตาไหล
เคยหมอบรับกับพระจมื่นไวย
แล้วลงในเรือที่นั่งบัลลังก์ทอง
พระทรงแต่งแปลงบทพจนารถ
เคยรับราชโองการอ่านฉลอง
จนกฐินสิ้นน้ำแลลำคลอง
มิได้ข้องเคืองขัดหัทยา
เคยหมอบใกล้ได้กลิ่นสุคนธ์ตระหลบ
ละอองอบรสรื่นชื่นนาสา
สิ้นแผ่นดินสิ้นรสสุคนธา
วาสนาเราก็สิ้นเหมือนกลิ่นสุคนธ์ ฯ
(ยังมีต่อ)
จากคุณ :
เจียวต้าย
- [
19 มิ.ย. 51 09:34:07
]