ความคิดเห็นที่ 1 (ต่อเนื่อง)   ชายหนุ่มเล่าไปพร้อมกับขยับเนคไทให้เข้าที่เข้าทาง เหงื่อบนใบหน้าเริ่มแห้งหายไป แต่ใบหน้าที่ขาวใสนั้นยังแดงระเรื่ออยู่ วิชัยยื่นมือปรับแอร์ไปที่เบอร์ 3 ลมแรงกว่าเดิมมาก ชายหนุ่มเป่าปากด้วยท่าที่ที่เริ่มสบายตัวมากขึ้น “ทั้งที่ผมไปตรวจมาแล้วว่าเป็นหมัน พูดแล้วก็นึกโมโห” วิชัยยื่นขวดน้ำเย็นที่เพิ่งซื้อมาก่อนหน้านี้ให้ “ถ้าไม่รังเกียจนี่ครับ น้ำเย็น ผมยังไม่ได้ดื่ม คุณดื่มได้นะครับ จะได้ใจเย็นๆขึ้น” วิชัยรีบพูดตัดบท “ขอบคุณครับ” ชายหนุ่มรับน้ำเย็นที่เต็มเปี่ยมไปด้วยน้ำมิตรจากโชเฟอร์แท็กซี่ เขาดื่มอย่างกระหาย น้ำดื่มขนาด 250 มิลลิลิตร หายไปครึ่งขวด “เดี๋ยว พี่แวะปั๊มก่อนก็ได้นะครับ...ผมจะซื้อคืนให้” ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบแต่ดูจริงใจ “ไม่เป็นไรครับ ไม่ต้องเกรงใจ เดี๋ยวผมส่งคุณเสร็จผมก็จะเข้าบ้านแล้วครับ ไปกินที่บ้านก็ได้ ” วิชัยกล่าวด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล “อ้าว! พี่ก็.....ผมเกรงใจ” “ไม่เป็นไรจริง ๆ ” วิชัยย้ำอย่างชัดเจน รถแท็กซี่ขึ้นทางด่วน ซึ่งขณะนี้เปรียบเสมือนลานจอดรถลอยฟ้าขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยรถนานาชนิด จอดนิ่งติดกันเป็นแพขนาดเต่าเดินแซงได้ และนี่คือความธรรมดาที่ไม่ธรรมดาของชั่วโมงเร่งด่วน วิชัยและชายหนุ่มคุยกันเพื่อฆ่าเวลาขณะรถติด โชเฟอร์แท็กซี่มักจะเหลือบมองชายหนุ่มผ่านกระจกมองหลังอยู่เรื่อยๆ แต่ชายหนุ่มก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมากนัก เขามักจะมองดูนาฬิกาบนข้อมือบ่อยๆ เวลาผ่านไป....ทั้งคู่เริ่มไม่รู้จะคุยอะไรกันแล้ว วิชัยสังเกตเห็นว่าชายหนุ่มนั้นเริ่มมีอาการง่วงนอน ก่อนจะหลับไป.................... จากคุณ : daxter - [ 20 มิ.ย. 51 12:43:43 ]

ความคิดเห็นที่ 2 (ต่อเนื่อง) วิชัยเริ่มขับเร็วกว่าเดิมเพราะตอนนี้ถนนค่อนข้างโล่ง วิชัยขับรถตรงดิ่งไปทางสมุทรสาคร บนถนนพระราม 2 เส้นทางสายนี้มีอยู่หลายช่วงที่เปลี่ยวและมืดมาก วิชัยไม่สน เขากลับตะบี้ตะบันเหยียบคันเร่งเพราะเขารู้ว่ายาที่เขาใส่ลงไปในน้ำเย็นนั้น อาจจะหมดฤทธิ์ได้หากชักช้า วิชัยเลี้ยวรถลงซอยข้างทางซึ่งด้านหลังเป็นป่าโกงกาง เป็นแหล่งที่ต้นไม้สวะๆขึ้นเต็มไปหมด เหมาะจะเป็นสถานที่ก่ออาชญากรรมของเขา วิชัยรีบดับไฟหน้ารถก่อนที่จะเลี้ยวเข้าไป ทุกอย่างเงียบและดูวังเวงมากทั้งๆที่เพิ่งจะ 2 ทุ่มเท่านั้น เขาหวังว่าเหยื่อรายนี้น่าจะกระเป๋าหนักน่าดู วิชัยเริ่มลงมือปลดทรัพย์สินทีละชิ้นอย่างชำนาญ เปิดดูกระเป๋าที่ชายหนุ่มเอามาด้วย มันเป็นกระเป๋าหนังแท้จากอิตาลี นาฬิกาโอเมกาล้อมเพชร เครื่องประดับเหล่านี้มันเลยกลายเป็นของที่เขาคุ้นมืออยู่มากที่เดียว เพราะก่อนหน้านี้เขาเคยทำงานอยู่ที่โรงจำนำ หลังจากถูกจับได้ว่ามีเจตนายักยอกทรัพย์ ก่อนจะถูกตำรวจจับติดคุก 6 เดือน หลังจากนั้นก็เลยมาขับรถ จึงเป็นการไม่ยากนักที่วิชัยจะสามารถแยกแยะได้ง่ายดาย เพียงแค่มองดูภายนอกเท่านั้น...... ทันทีที่เขาเปิดมันออกดู เขาแทบไม่อยากจะเชื่อเลยว่าในกระเป๋าหนังใบนี้จะอัดแน่นไปด้วยธนบัตรใบละ1,000 บาทอยู่จำนวนมาก ตั้งแต่เขาถูกยัดเยียดให้ยึดอาชีพนี้ เขายังไม่เคยได้เงินมากขนาดนี้มาก่อนเลยในชีวิต หากจะมีเพียงครั้งหรือสองครั้งเท่านั้น ที่เขาได้เงินมากร่วมแสนจากหญิงสาวที่เขารับมากจากดอนเมือง แต่ครั้งนั้นมันก็แค่ 50,000 บาทเท่านั้น ก่อนที่ยานอนหลับที่เขาใส่ไว้ในน้ำอัดลมมันหมดฤทธิ์ ในขณะที่เขากำลังปลดทรัพย์อยู่นั้นสาวเจ้าก็ได้สติก่อนที่จะโวยวายออกมา ด้วยความที่เขากลัวเจ้าทุกข์จะจำหน้าได้ ประกอบกับอาการตกใจสุดขีด วิชัยได้ลงมือปีบคอจนเจ้าหล่อนสิ้นลมคามือ ตอนนั้นวิชัยทำอะไรไม่ถูกไปมากกว่าทำตามสันดานดิบ วิชัยลากศพหล่อนออกมาจากรถก่อนที่จะเอาศพโยนลงน้ำ ซึ่งเป็นบริเวณใกล้เคียงกัน รายนี้กว่าตำรวจจะพบศพก็ปาเข้าไป 5 วันแล้ว สภาพศพจึงเน่าไม่มีชิ้นดีจนดูไม่ได้ และที่สำคัญตำรวจยังไม่สามารถควานหาตัวผู้กระทำความผิดได้..... ตำรวจสรุปว่าเป็นการฆ่าเพื่อชิงทรัพย์ เนื่องจากว่าทรัพย์สินมีค่าทั้งหมดหายไป จากคดีนั้นจนมาถึงครั้งนี้ก็เป็นเวลา2ปีแล้ว ที่ยังไม่มีใครรู้ว่าเขาคือฆาตกร จากคุณ : daxter - [ 20 มิ.ย. 51 12:44:46 ]

ความคิดเห็นที่ 3 (ต่อ) แม้กระทั่งภรรยาของเขาเอง เธอรู้อย่างเดียวว่าเวลาที่เขามีเงินมากๆนั้น เขามักจะบอกว่าได้มาจากการแทงบอล และฝากเอาไว้ในธนาคารที่เปิดขึ้นโดยใช้ชื่อลูกสาวเขาเอง ดังนั้นแล้วความสงสัยเลยไม่มี ทุก ๆ ครั้งที่เขาได้ทรัพย์สินมา วิชัยมักจะจัดการกับทรัพย์สินให้กลายเป็นเงินอย่างรวดเร็ว โดยมีเฮียเส็งเป็นคนรับซื้อทรัพย์สินทั้งหมด เฮียเส็งแกเปิดร้านขายของมือสองประเภทกระเป๋าและรองเท้าอีกสารพัดที่อยู่ในร้าน ร้านเฮียเส็งที่ท่าน้ำวังหลังใกล้ ๆ กับโรงพยาบาลศิริราชมักเนืองแน่นไปด้วยลูกค้าหลากหลายวัย เฮียเส็งเป็นนักธุรกิจที่ทำงานบนหลังโจร จึงมีหลายคนเรียกแกว่า “โจรเหนือโจร” เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้า ชายหนุ่มหลับใหลไร้สติอยู่หลังรถไม่มีวี่แววว่าจะลุกขึ้นมาโวยวายอะไร วิชัยเร่งมือปลดทรัพย์สินที่ติดตัวมาทุกอย่างเท่าที่จะค้นเจอ แม้กระทั่งเสื้อผ้าของเหยื่อก็ไม่ละเว้น ในกระเป๋านั้นนอกจากจะมีเงินที่ประมาณคร่าวๆด้วยสายตาแล้วว่าน่าจะอยู่ในจำนวนหลายแสน ยังมีสร้อยคอทองคำหนักเส้นโตขนาดเท่านิ้วก้อยของลูกสาววิชัย แล้วก็ยังมีปืนพกขนาด 9 มม. เป็นรางวัลในการก่ออาชญากรรมครั้งนี้แถมมาให้อีกด้วย ซึ่งตัววิชัยเองนั้นเขาไม่เคยพกปืนติดตัวหรืออาวุธใด ๆ เลย เขาหยุดคิดนิดหนึ่งก่อนที่จะเอาปืนออกมาถือไว้ในมือเพื่อสำรวจตรวจสอบ แล้วเขาก็เตรียมจะเก็บเอาไว้ในกระเป๋าอย่างเดิม ขณะที่เขากำลังจะเตรียมนำร่างเปลือยเปล่าของผู้โดยสารหนุ่มออกมาจากรถนั้น เมื่อร่างกายเปล่าเปลือยปะทะกับอากาศรอบข้างที่ค่อนข้างเย็น เขาจึงเริ่มได้สติขึ้นมาบ้าง “พี่..............ครับ.....ถึงแล้ว.........หรือ” ชายหนุ่มพูดด้วยเสียงแหบแห้งงัวเงีย วิชัยตกใจก่อนที่จะปล่อยร่างชายหนุ่มจนกระแทกกับพื้นถนน ไม่มีเสียงตอบจากวิชัย เขายืนตะลึงก่อนที่จะรีบวิ่งไปที่รถ แล้วเอาปืนของชายหนุ่มมาถือไว้ในมือ มือเขาสั่นระริกจิตใจสับสน เหงื่อแตก เขาเดินตรงมายังชายหนุ่มที่กำลังพยายามลุกขึ้นนั่ง และประคองสติตัวเองให้อยู่ วิชัยใช้ปืนตีไปที่หัวของชายหนุ่ม ร่างของชายหนุ่มเซ ถลาเหมือนนกปีกหัก ก่อนที่จะล้มลงสลบ เลือดไหลนองเต็มหน้า วิชัยยืนดูอยู่สักครู่ก่อนที่จะคิดได้ว่า “มันต้องมีคนมาเห็นแน่ๆ เดี๋ยวมันต้องแจ้งตำรวจเราแย่แน่ๆ ทำไงดี” วิชัยบ่นกับตัวเอง ทันใดนั้นความคิดด้านมืดที่กำลังก่อตัวอย่างเงียบ ๆ ในใจก็เริ่มมีอำนาจมากขึ้น บวกกับความกลัวว่าผู้โดยสารหนุ่มจำหน้าได้ก็ผุดขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “ต้องฆ่า มันจะได้ไม่ไปบอกใคร เอาไงดีว่ะ จะฆ่ามันยังไงดี ” จากคุณ : daxter - [ 20 มิ.ย. 51 12:45:37 ]

ความคิดเห็นที่ 5 (ยังไม่จบอีกนิด) “พ่อ พ่อ ตื่นเถอะ สายแล้วนะ ไปใส่บาตรกันวันนี้วันเกิดลูกนะ” มลภรรยาของวิชัยปลุกเขาแต่เช้า “........เดี๋ยว...เดี๋ยวจะพาไปที่วัดเลยดีกว่า ขอนอนก่อนนะ นะ” วิชัยอิดออด “อย่างนี้ทุกทีเลย” มลบ่น บรรยากาศที่วัดนั้นเงียบสงบ มันเหมาะสำหรับคนที่ต้องการความสงบอย่างแท้จริง วิชัยขับรถแท็กซี่ของตัวเองมาจอดอยู่ใต้ร่มไม้ใหญ่ เขาอุ้มลูกสาวตัวน้อยไว้ในอ้อมแขน มลเดินตามหลังในมือถือถังสังฆทาน ที่ในถังนั้นบรรจุไว้ด้วยข้าวของที่จำเป็นและไม่จำเป็นต่อพระสงฆ์ “พ่อจ๋า.....เรามาวัดทำไมคะ” ลูกสาววัย 3 ขวบถามอย่างสงสัย “มาทำบุญวันเกิดหนูไงล่ะ” วิชัยตอบ “ทำไมต้องทำบุญด้วยคะ” “เกิดชาติหน้า เราจะได้สบายไงล่ะคะ” เขาพูดกับลูกสาวอย่างนี้เสมอ ๆ “นี่...พ่อพูดซะลูกงงหมดแล้ว”มลเตือนวิชัย หากสิ่งที่ได้ทำนี้มันช่วยดับความรุ่มร้อนและว้าวุ่นที่มันกำลังจะแผดเผาตัวเขาให้กลายเป็นจุล แต่ในความรู้สึกลึกๆแล้ววิชัยนั้นคิดว่าการมาทำบุญวันเกิดลูกสาวเขา เหมือนกับว่าเขาได้ทำบุญให้กับเหยื่อของเขาเองอีกด้วย ..แน่ล่ะการทำบุญนั้นมันไม่ได้ช่วยให้ฆาตกรอย่างเขาได้ขึ้นสวรรค์ อย่างน้อยมันคงช่วยให้สภาพจิตใจของเขาตอนนี้เย็นลงและหายว้าวุ่นได้สักระยะ “พี่ แล้วเรื่องหนี้ของเราจะเอายังไงดีล่ะ เมื่อวานนี้เขามาทวงแล้วล่ะ” มลถาม “ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวพี่จัดการให้ ถ้าเขาโทร.มาบอกว่าให้เข้ามาเอาได้เลย” วิชัยตอบ “พี่.......ต้องสัญญาก่อนนะว่า ใช้หนี้เสร็จเราจะกลับไปเปิดร้านค้าเล็กๆที่บ้านนอกนะ” “ไม่นานหรอก ใจเย็น ๆ นะ” วิชัยพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “อย่าลืมล่ะ สัญญาแล้วนะ” มลพูดเปรยขึ้นมา จากคุณ : daxter - [ 20 มิ.ย. 51 12:47:58 ]

ความคิดเห็นที่ 6 (อีกทีน่านะ) “เอาน่า” วิชัยทำเสียงแข็ง “โอเค.ๆๆไม่ถามแล้ว” มลก้มหน้าก้มตาเดินอย่างเร่งรีบ “วันนี้ เราไปฉลองวันเกิดน้องจ๋ากันนะลูก” วิชัยพูดออกมา “เย้......ไปที่ไหนคะ แม่เดินเร็ว ๆ สิ หนูหิวแล้วนะ” ลูกสาววัย 3 ขวบเร่งให้แม่ของเขาเดินตามมาให้ทัน เย็นวันนั้นเป็นวันที่ครอบครัววิชัยมีความสุขตามประสาพ่อแม่ลูก และทุก ๆ ครั้งที่เขามองหน้าลูกและเมียเขาก็อดคิดถึงเรื่องที่ยังมาไม่ถึงเขาไม่ได้ แต่มันก็คงไม่นานหรอก ทุกอย่างอาจจะไม่เป็นอย่างนี้อีก หากแม้วันหนึ่งเขาต้องอาญาแผ่นดินแล้ว ลูกและเมียเขาคงจะต้องอยู่อย่างลำบาก แต่ทว่าเขาก็ได้เตรียมทุกอย่างเอาไว้แล้ว หากวันหนึ่งเขาต้องเดินเข้าสู่ดินแดนที่ไร้ซึ่งอิสรภาพภายใต้กำแพงหนานั้น ลูกเมียคงสบายเพราะเงินที่อยู่ในบัญชีลูกสาวเขา ถึงตอนนี้มันมียอดพุ่งสูงถึง 8 แสนแล้ว อย่างน้อย เขาก็ได้ทำหน้าที่ของพ่อที่ดีได้ในระดับหนึ่ง อย่างน้อย ลูกเมียก็คงไม่ต้องไปเดินแบมือขอใครกิน อย่างน้อยมลก็น่าจะหาโรงเรียนดีๆให้ลูกจ๋าได้ อีกมากมายที่เขาคิด....... “วันนี้เมื่อเวลา 15.30น เจ้าหน้าตำรวจได้รับแจ้งจากชาวบ้านที่เก็บของเก่าว่า พบศพชายหนุ่มร่างกายเปลือยเปล่า.........” เสียงโทรทัศน์เสนอข่าวช่วงภาคค่ำ วิชัยหันไปดูโทรทัศน์อย่างตั้งใจ “ สภาพศพถูกยิงด้วยกระสุนที่หัว 3 นัด ไม่มีเอกสารระบุว่าเป็นใคร สันนิษฐานว่าน่าจะโดนฆ่าเพื่อชิงทรัพย์” วิชัยหน้าซีดถอนหายใจยาวก่อนที่มลจะเดินมาสะกิด “โธ่..! มล ตกใจหมดเลย เข้ามาเงียบๆ” วิชัยตวาดเสียงเข้ม “อ้าว.....แค่นี้ก็ตกใจ...ไปก็ได้.................” มลงอน เธอรีบเดินไปกอดลูกสาวแล้วทำหน้าบึ้ง วิชัยได้สติแล้วจึงลุกขึ้นไปบอกมลว่า “พี่ขอโทษนะ......ก็พี่ตั้งใจดูข่าวมากไปหน่อย ขอโทษนะ นะๆๆ หายโกรธนะ” วิชัยอ้อนเมียเพื่อกลบเกลื่อนอาการพิรุธ ทั้งสามนั่งกอดกันกลมอยู่หน้าห้องนอน จนกระทั่ง..... “ วันนี้เมื่อเวลา 10.00น ที่บริษัท.....................เจ้าของคือนายทะนง เสี่ยใหญ่เจ้าของธุรกิจส่งออก ได้มีผู้พบศพ น.ส.วิสา อายุ 25 ปี ถูกฆ่าตายอย่างอนาถในบ้านพักที่อยู่บนออฟฟิศของบริษัท..................... ในสภาพศพโดนฆ่ารัดคอ” เสียงรายงานข่าวนี้ทำให้วิชัยรีบเดินมาดูอย่างสนอกสนใจ “ตำรวจคาดว่าน่าจะเป็นเรื่องชู้สาว เพราะผู้ตายเป็นคู่รักกับนายทะนง เจ้าของบริษัท หลังจากเกิดเหตุ...ได้มีพยานเห็นนายทะนงขับรถออกไปอย่างรวดเร็ว.....................ตำรวจไปพบรถจอดเสียอยู่ริมถนนบางนา - ตราด ซึ่งห่างจากบริเวณที่เกิดเหตุเพียง 1 กม. เท่านั้น” วิชัยเห็นภาพข่าวที่ถ่ายให้เห็นรถ benz ตากลม ทั้งสีและรุ่น อีกทั้งตำรวจยังเผยให้เห็นรูปของผู้ต้องสงสัย วิชัยพูดไม่ออกก่อนเดินไปกอดมลแล้วบอกว่า “ที่รัก.....ถึงเวลาแล้วนะ เราจะทำความฝันของเราให้เป็นจริงกันซะที ”วิชัยพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบกับภรรยาที่อยู่ในอ้อมกอดอันเย็นยะเยือกและสั่นสะท้านของเขา... จากคุณ : daxter - [ 20 มิ.ย. 51 12:48:36 ]

ความคิดเห็นที่ 7 อ้าวจบแล้วเหรอ มันห้วนไปนิด เขียนต่ออีกหน่อยน่า แง๊วววว จากคุณ : ข้าวโพดแมวติสต์แตก - [ 20 มิ.ย. 51 13:53:42 ]

ความคิดเห็นที่ 8 สรุปว่า คนที่วิชัยฆ่าตาย ไปฆ่าผู้หญิงอีกคนมาใช่มั้ย??? งงๆ จากคุณ : teansri - [ 20 มิ.ย. 51 19:33:08 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เวรกรรม เป็นเช่นนั้นไป... จากคุณ : คุณพีทคุง (พิธันดร) - [ 20 มิ.ย. 51 20:45:13 ]

ความคิดเห็นที่ 10 คิดเหมือนคุณเทียนสีค่ะ แต่ไม่ค่อย get ว่าตอนจบที่คุณวิชัยพูด หมายความว่าไงอ่ะคะ แล้วจบแล้วจริงป่าวคะเนี่ย ? จากคุณ : Life's for Rent - [ 20 มิ.ย. 51 21:07:45 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ต่อ ต่อ อย่าเพิ่งจบ จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 20 มิ.ย. 51 21:24:02 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เอ ถึงผู้ชายจะฆ่าคนอื่นมา แต่วิชัยก็ฆ่าเขาเหมือนกัน งงด้วย หรือกะว่าจะใช้การไปต่างจังหวัดเป็นการหนี จากคุณ : scottie - [ 20 มิ.ย. 51 23:37:06 ]

ความคิดเห็นที่ 13 จบ? ความฝันอะไรหว่า? จากคุณ : โก้ (เซโก้4) - [ 21 มิ.ย. 51 11:28:11 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ขอบคุณที่มาคอมเม้นท์ให้ครับ  เรื่องนี้เขียนไว้ตั้งแต่ปี48  แล้วยังไม่เคยปรับมันอีกเลย  ขอบคุณทุกเม้นท์จริงๆครับผมจะเอาไปปรับปรุงในงานชิ้นต่อๆไป  อันนี้ผมจงใจให้มันจบแบบนี้ครับเพราะมันทำให้คนอ่าน  ทั้งงงและสงสัยชวนให้เกิดประเด็นต่างๆนานา  คือพยาทำให้มันค้างๆคาๆใจอย่งนี้แหละ   หลายคนที่ผมให้เขาอ่านก็เม้นท์ประมาณเดียวกันกับพวกเพื่อนๆเนี้ยแหละครับ  ขอบคุณจริงๆ......ไม่ได้โม้ จากคุณ : daxter - [ 21 มิ.ย. 51 11:29:43 ]

ความคิดเห็นที่ 15 -*- จากคุณ : Life's for Rent - [ 21 มิ.ย. 51 16:57:16 ]

ความคิดเห็นที่ 16 น่าจะบรรยายภาพจากข่าวด้วยนะค่ะ คนจะได้เข้าใจที่มาที่ไปของทนง จากคุณ : sugarhut - [ 21 มิ.ย. 51 18:10:15 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เอ่อ...มางงด้วยอีกคนค่ะ จากตอนจบก็เข้าใจได้นะว่าเป็นความตั้งใจของคนเขียน แต่ที่งงคือตรงข่าวมากกว่า เกิดความไม่สัมพันธ์กันมากๆตรงช่วงหักมุมทำให้ผลที่ได้ออกมาเลยลดทอนคุณค่าของเรื่องลงไป ในเรื่องสั้น ต่อให้จบแบบเก็บไปคิดเอง หรือจบแบบก็ตามที่คนเขียนต้องการให้มันเป็น มันมีความสมบูรณ์ในตัวเองของมัน นั่นคือ การที่คนเขียนให้ clue แก่คนอ่านจนพอเดาเรื่องได้ หรือถ้าไม่ได้นั่นคือการเก็บให้คนอ่านไปแต่งต่อเองตามจินตนาการ ซึ่งอย่างหลังนี้ต้องเป็นสิ่งที่คนเขียนจงใจให้มันเป็น (เรื่องสั้นคือเรื่องแต่ง ไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นได้เองตามธรรมชาติ ดังนั้นจะเห็นได้ชัดเจนถึงเจตนาคนเขียนค่ะ) ถามว่าพอเดาเรื่องได้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้น คำตอบคือพอคลำๆได้ แต่ถามว่าสมบูรณ์ในแบบที่มันควรจะเป็นไหม คำตอบคือมันไม่สมบูรณ์พอ เราไม่แน่ใจว่าตอนช่วงสุดท้าย เพราะคุณรู้ว่ามันเป็นจุดสำคัญหรือเปล่า ตอนที่เขียนอาจมีการแก้ไขบ่อยจนทำให้การเขียนขาดตอนไป   ถ้าสามารถทำให้เนื้อข่าวสมบูรณ์ขึ้น ตัดความคลุมเครือที่จงใจสร้างแต่ไม่สมบูรณ์พอทิ้ง รวมทั้งการเว้นวรรคที่ทำให้คนอ่านเข้าใจได้ว่ามันแยกหรือปะติดปะต่อกันได้ จะทำให้สมบูรณ์มากขึ้น ตัวอย่างของรายละเอียดเพื่อตอบโจทย์ของคำถามที่คนเขียนสร้างขึ้นแต่เก็บไม่หมด อย่างเช่น ทำไมผู้โดยสารถึงต้องการไปสีลม คือตามความคิดเรา ถ้าคนจะหนีคดีไม่น่าจะไปในใจกลางเมืองแบบนั้น ก็เลยชักไม่แน่ใจว่าจะใช่คนเดียวกับผู้โดยสารหรือเปล่า คุณอาจจะบอกคำตอบในข่าวก็ได้ เช่น ที่สีลมอาจเป็นบ้าน บ้านเพื่อน ลูกน้อง หรืออะไรที่เป็นที่ต้องสงสัยว่าเขาจะไปกบดานอยู่ เป็นต้น (ซึ่งในความรู้สึกก็คือยังไม่ค่อยเมคเซ้นส์แฮะ ^^") แต่สำหรับประโยคจบของวิชัย เราค่อนข้างชอบนะคะ ถือว่าเป็นประโยคจบที่มีความสมบูรณ์ภายในตัวของมัน ที่มันสมบูรณ์เพราะมันให้ guideline ที่ดีสำหรับคนอ่าน ซึ่งเป็น foreshadow ว่าในอนาคตหากเขายังทำอย่างที่เป็นอยู่ต่อไป เขาอาจพบจุดจบแบบนี้เหมือนกัน จริงๆเรื่องทั้งหมดที่เราเขียน คือเราอ่านเรื่องนี้รอบเดียวนะคะ ถ้าเราให้ความเห็นในสิ่งที่คุณทำแล้วแต่เรามองไม่เห็นเองก็ต้องขอโทษด้วยแล้วกันนะคะ ถือเสียว่าเป็นความคิดเห็นหนึ่งของคนอ่านเท่านั้นพอ จากคุณ : peiNing - [ 22 มิ.ย. 51 01:26:06 ]

ความคิดเห็นที่ 18 พระเจ้าขอบคุณคอมเม้นท์ที่กรุณาเข้ามาอ่าน  และยังให้ความรู้เป็นวิทยาทานด้วย  ยินดีมากครับที่ได้อ่าน  ผมต้องการแบบนี้แหละครับคอมเม้นท์แบบนี้เลย   แต่ไม่ใช่ว่าท่านอื่นไม่ดีนะครับยินดีน้อมรับทุกท่านครับ  แต่ที่ชอบของท่านpeiningมากเนี้ย  ก็เพราะว่าทำให้คนที่ประสบการณ์น้อยๆอย่างผมมองปัญหาที่ผม  ไม่เคยเห็นเลยตลอดเวลาได้แจ่มชัดขึ้นจริงๆและเป็นสิ่งที่ผมอยากได้มากที่เดียว  ครั้งหน้าผมจะลองเอาไปให้อ่านอีกครับแต่ให้ผมเขียนก่อนนะครับ  5555   คุณชี้ให้เห็นถึงจุดบอดที่ผมพลาดและมองข้ามไปแถมยังแนะนำได้ยอดมากจริงๆ  ผมเองยังเห็นด้วยกับคุณเลยครับว่า  "เออว่ะ  เป็นอย่างนั้นจริงๆ"   ขอบคุณมากที่สุดเลยครับ นับถือครับและขอบคุณพี่น้องทุกท่านอีกครั้ง จากคุณ : daxter - [ 22 มิ.ย. 51 03:33:32 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ^^ มาอ่านด้วยคนครับ จากคุณ : KTH (KTHc) - [ 23 มิ.ย. 51 12:05:21 ]