Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    เงิน...เงิ๊น...เงิน (จบ)

    เงิน...เงิน...เงิน...(ตอนจบ)  

    http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W6721868/W6721868.html

                อะไรว้า...ทำยังกับว่า  ประเทศไทยกำลังจะล้มละลาย...หรือ

    บริษัทต่าง ๆ ในตลาดหลักทรัพย์กำลังจะถูกสั่งปิดกิจการซะอย่างนั้น...

               มันเป็นการยากมากทีเดียวสำหรับการปรับตัว  ปรับใจให้ยอมรับ

    ได้ กับภาวะวิกฤติแบบนี้  

               ฉันเริ่มนอนไม่หลับ  หัวถึงหมอนเป็นตาค้าง  ไม่รู้จะแก้ไขปัญหา

    อย่างไร ความรู้จากตำรา  กรณีศึกษาจากเหล่าเซียนหุ้นทั้งหลาย  ก็เริ่มจะ

    ใช้ไม่ค่อยได้ผล  หรืออาจได้ผล  แต่ใจฉันไม่เย็นพอ  

             ฉันได้แต่พยายามปลอบใจตัวเองว่า...เอาน่า  เดี๋ยวมันก็ขึ้น  เดี๋ยว

    มันก็ดีดกลับ  หรือ  รีบราวน์  ตามศัพท์ที่เค้าใช้กันในวงการหุ้น...จนกระทั่ง

    ฉันหลับไป  พร้อมกับตัวเลขสีแดงเถือกใน พอร์ต ที่นับวันจะถอยหลังลง

    คลอง

               และในค่ำคืนนี้ที่ฉันหลับไหล  แม้ในความฝันก็ยังผจญอยู่ภายใต้

    ภาวะกดดันของตัวเลขสีแดงในพอร์ต  ซึ่งไม่น่าเชื่อว่ามันยังอุตส่าห์วิ่งตาม

    มาหลอก  มาหลอนฉันอีก...ฉันทำได้เพียงวิ่งหนีจนกระทั่งหมดแรง  
           
                แต่ก็หนีไม่พ้น...  ตัวเลขสีแดงที่อยู่ใน พอร์ต  กระโดดทับร่าง

    ของฉันอย่างเลือดเย็น

                ฉันสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมกับเสียงร้องโหยหวน  โชคดีที่มันเป็นแค่

    ฝันร้าย  โบราณว่า  ฝันร้ายจะกลายเป็นดี  แต่ดูสภาพฉันตอนนี้สิ  ร่างกาย

    อิดโรย  หน้าตาหมองคล้ำ  เหมือนไม่ได้นอนมาเลยทั้งคืน  ในใจคิดแต่

    เพียงว่า...วันนี้ลองดูอีกที...เผื่อมันจะรีบราวน์  ถ้ามันรีบราวน์ขึ้นมาบ้าง

    ฉันก็จะขายทิ้ง  และ ลงไปรับที่ต่ำกว่า  และขายเอาตอนรีบราวน์  อีกที  

    วน ๆ อยู่อย่างนี้  ตามตำราที่ฉันได้อ่านมา  ฉันลองคิดวาดภาพล่วงหน้าดู ฉัน

    จะได้หุ้นจำนวนเท่าเดิม  และยังได้ส่วนต่างจากราคาที่เป็นลบนี่  ฉันจะแก้ไข

    ด้วยวิธีนี้  น่าจะได้ผลที่สุด  

               ตลาดเปิด  10  โมง  มันรีบราวน์เล็กน้อย  เพียง ช่องเดียว  และ

    ลงต่อ  วิธีแก้ปัญหาการขาดทุน  ที่ฉันคิดวางแผนเอาไว้  ฉันกลับไม่ทำ  ก็

    ฉันใจแข็งไม่พอ  ฉันไม่ยอมขาย  เพราะฉันดูแนวโน้มแล้วคิดเอง เออเอง

    ว่า  จากสภาพแบบนี้  ราคาน่าจะกลับมาเป็นปกติได้  โดย ประโยคเด็ดอีก

    ประโยคที่ว่า  ไม่ขาย  ไม่ขาดทุน  ก้องอยู่ในหูของฉันในขณะนั้น  

               หนึ่งชั่วโมงผ่านไป  ไม่รู้เพราะอะไร ราคาหุ้นเป้าหมายกลับรูดลบ

    ลงเรื่อย ๆ  และมีแนวโน้มว่าจะลงต่อไปอีก  เพราะฝรั่งหัวดำ

    หัวแดงต่างเทขายไปเรื่อย ๆ อีกทั้งใครที่กู้เงินโบรกเกอร์ มาเล่น หรือ  เล่น

    มาร์จิ้น  ก็ถูกเจ้าหนี้บังคับขายออกมา...ทุกราคา  หรือที่เรียกว่า  Cut Loss  

               มัน Cut Loss จริง ๆ Cut มันซะไม่สนใจอะไรเลย  ด้วยเหตุนี้จึงทำ

    ให้หุ้นเป้าหมายร่วงอย่างรวดเร็วลงไปถึง 50% กว่า  คำสบถหนึ่งที่บังเกิดขึ้น

    ในใจอย่างอัตโนมัติ  คือ “...นรกแล้วตรู...”  นี่ฉันต้องยอมมอบตัวและพัก

    ผ่อนเป็นระยะเวลาไม่มีกำหนดแล้วเหรอนี่  มันไม่ไหวจริงๆ  หรือว่าสงครามนี้

    ฉันแพ้แล้ว  
               
               ไวเท่าความคิด  ฉันกดขายทุกราคาตามกระแส...พอฉันกดส่งคำ

    สั่ง เสร็จ  ราคาหุ้นที่ว่าก็ดีดกลับ หรือ  รีบราวน์ คืนมาอย่างรวดเร็ว  เกือบ

    เป็นปกติ...

                ฉันมีความรู้สึกเหมือนกับว่าโดนรถเก๋งชน  และร่างของฉันกระเด็น

    ลอยระริ่ว  ไปกระแทกกับรถโรงพยาบาลที่กำลังจะวิ่งเข้ามาช่วยผู้ประสบ

    เหตุอย่างฉัน  จิตใจฉันบอบช้ำเป็นเท่าทวีคูณ...

                 ระยูแท้...ฉันไม่เหลืออะไรแล้ว.... ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ   คำ

    สบถเหล่านี้ก้องอยู่ในหัวสมองฉันอย่างต่อเนื่องและยาวนาน...

                 ฉันลุกจากหน้าคอมพิวเตอร์ที่รายการในโปรแกรมราคาหุ้น เต็ม

    ไปด้วยตัวเลขสีแดงที่ วิ่งขึ้น  วิ่งลงตลอดเวลา  (แม้จะวิ่งขึ้นไปแค่ไหน  ก็ยัง

    สีแดงอยู่ดี)  และเดินไปเปิดวิทยุ  เพื่อหวังฟังเพลงปลอบใจตัวเอง...เผื่อคิด

    อะไรออกได้บ้าง  

                 ตอนนี้ฉันรู้สึกมึนงงไปหมดแล้ว  กับสิ่งที่พึ่งเกิดขึ้นกับฉัน  มันทำ

    ให้ฉันคิดถึงหนังเรื่อง  The Mist  หมอกกินคน  ที่ตอนจบ  พระเอกของเรื่อง

    ได้ตัดสินใจในภาวะกดดัน  ยิงนางเอก  ลูกชายของตัวเอง  และสองตายาย

    ที่หนีมาด้วยกัน จนตายทุกคน  ในรถที่น้ำมันหมด เพราะคิดและสรุปไปเอง

    ล่วงหน้าว่า  ยังไงเราก็หนีไม่พ้นสัตว์ประหลาดทะลุมิติพวกนั้น  และโดนจับ

    กินเหมือนที่เคยเกิดขึ้นกับเหล่าผองเพื่อนเขาเป็นแน่แท้  กระสุนมีเพียง 4

    นัด  และได้ใช้ปลิดชีพ  คนที่รักไปจนหมดแล้ว  เหลือพระเอกที่หาทางตาย

    เอาเอง  พระเอกของเราเดินออกจากรถ และเดินโซเซไปควานหาสัตว์

    ประหลาดในหมอกหนา  อึมครึมนั้น  เพื่อหวังให้มันมาจับตนเองกิน ซะให้มัน

    หมดๆ เรื่อง ไป  แต่แล้ว ตรงกันข้าม  หลังม่านหมอกที่หนาทึบ เขาได้พบ

    กับ เหล่าทหารหาญแห่งกองทัพสหรัฐที่ปรากฎตัวขึ้นเป็นกองพัน   และได้

    ช่วยคลี่คลายสถานะการณ์เอาไว้ได้...

               ทุกคนที่รอคอยการช่วยเหลือ  และอยู่รอดจนถึงทหารมา  ก็

    ปลอดภัยทุกคน...ฉันคงมีอาการเดียวกับพระเอกหนังฝรั่งในเรื่องนี้

               "...พอแล้วพอ...ช้ำใจแค่เพียงนี้ก่อน...วอนขอวอน  ขอไปรักษา

    แผลใจ...อาจจะยาว  นานวันก็คงจะหาย  ตกลง  พร้อมใจ...ยอม...ยก...

    ธง...งง....งง...งง...งง..."  เสียงเพลงดังจากคลื่นวิทยุ  เป็นเพลงเก่า ๆ

    ของอดีตนักร้องที่ผันตัวเองไปเป็นนักการเมือง  เสียงเหมือนคนอมฮอลล์ไว้

    ในแก้ม  อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ   แต่เนื้อหาบาดอารมณ์ฉันในขณะนี้ยิ่งนัก

                  ฉันคิดถึงความหวัง  ลม ๆ แล้ง ๆ ของฉันที่ว่า  ฉันอยากมีอิสระ

    ทางการเงิน  มีเวลามากพอให้กับลูกสาวตัวน้อย  ไปรับไปส่งที่โรงเรียน  ได้

    เห็นพระอาทิตย์ตกดิน  และไม่จำเป็นต้องเร่งรีบไปไหน...

                  ฉันคงเริ่มต้นคิด  และทำทุกอย่างใหม่หมด...
     
                  แต่ฉันจะเริ่มจากตรงไหนดี  ตอนนี้หัวสมองของฉันคิดอะไรไม่

    ออกแล้ว...

    The  End

    แก้ไขเมื่อ 22 มิ.ย. 51 22:20:40

    จากคุณ : p_phet - [ 22 มิ.ย. 51 22:15:09 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom