++++++++++++++++++++++++++++++++++

อาจจะกล่าวได้โดยไม่เกินจริง ว่ามหกรรมคลื่นลูกหนัง ไม่ว่าจะลีกใด นัดใด หรือจะชนชาติใด (ตั้งแต่ยูโร โคปา บุนเดสลิกา จนถึงพรีเมียร์ลีก) เป็นสีสันที่ขาดไม่ได้ในความระอุแห่งแก้วเหล้า บาร์เบียร์ และข้าวต้มรอบดึกที่จะช่วงหนุนส่งอุณหภูมิแห่งการกินดื่มให้พุ่งทะลุองศาของทุกเขตคามยามนี้ (ยิ่งกว่ากาแฟอ้ายวีเสียอีก ขอบอก….) เรียกว่าทำเอาคาราโอเกะ ดนตรีสด หรือแม้แต่อนงค์นางเชียร์แขกหน้าตาจุ้มจิ้มอวบอัดทุกสัดส่วนชวนให้ลิ้มลองต้องบอกชิดซ้าย เพราะมันจะไปสู้ความระทึกใจในลูกกลมๆ บนสนามหญ้าสีเขียว กับมนุษย์อีกยี่สิบสองคนที่วิ่งวนแย่งชิงกันราวกับชายชาญชาติทหารชาวสปาร์ตามุ่งพุ่งเข้ามาฆาตกรรมฝ่ายตรงข้ามในสนามรบอย่างไงอย่างงั้นได้อย่างไร


และด้วยค่าที่ว่าเกมพนันขันต่อต่างไหลวนอยู่ในกระแสโลหิตของหมู่เราชาวไทยแต่โบราณกาลมา จะตีรันฟันแทง แยงลงรู ดูเป่ากบ หรืออะไรก็ได้ เราเก่งกล้าสามารถพอที่จะจับมาทำนายทายทัก วางเดิมพัน และลุ้นเสี่ยงสร้างความระทึกโกลาหล และเพิ่มความร้อนแรงให้กับทุกมหรสพรื่นเริงได้อย่างไม่อายใคร การที่จะพลาดไปกับความมันส์สะใจแห่งเกมลูกหนังไปได้นั้น….เป็นไม่มี


ก็ในเมื่อเหล้ารสดี ดนตรีเข้าท่า ลูกบอลกลิ้งในสนามหญ้า พร้อมรอรับทรัพย์เข้ากระเป๋า จะมีอะไรที่น่าอภิรมย์ได้เท่านี้อีก?


ยิ่งช่วงนี้แทบไม่ต้องพูดถึง มหกรรมฟุตบอลยูโร 2008 นั้นหรือก็สนุกสนานกำลังดีทวีดีกรีเดือด พลิกผันล้มโผกันระเนระนาด ยิ่งล่าสุดกับฟาเบรกาสแห่งกระทิงดุสเปนเสียบลูกโทษเข้าประตู ส่งยอดนักรักแดนสปาร์เก็ตตีอย่างอิตาลีตกรอบไปอย่างเหนือความคาดหมาย เชื่อว่าผลทำนายแห่งเกจิพนันคงแทบเป็นหมัน และเงินเดิมพันตามโต๊ะบอลคงแพร่สะพัดหลั่งไหลไม่ต่างอะไรกับการหมุนเวียนเงินกองทุนหมู่บ้านละหนึ่งล้านจากรัฐบาลสมัยที่แล้ว


ข้าวจะแพง น้ำมันจะแซงราคาเป็นรายวัน ก็ช่างหัวมัน เพราะเงินพนัน คือดรรชนีบ่งบอกสภาพเศรษฐกิจแห่งประเทศที่แท้จริงวันยังค่ำอยู่ดี


อย่างไรก็ดี (ที่บางหลายครั้ง ไม่ค่อยจะดี) ในขณะที่เงินเดินสะพัดไหลเวียน ความห่วงใยจากหน่วยงานภาครัฐที่มีต่อการพนันบอลผิดกฏหมาย ที่ส่งผลร้ายต่ออนาคตของชาติอย่างนักเรียนและนักศึกษา ก็สะท้อนก้องไปมาประหนึ่งเสียงแห่งยุคสมัย อันจะสืบต่อเป็นภัยสังคมที่ขยายผลเป็นปัญหาระดับชาติ ที่ต้องริเริ่มเร่งแก้ไขกันอย่างจริงจังและทันด่วน ปล่อยปละละเลยไปเสียไม่ได้ ก็ดูเป็นความห่วงหาอาทรที่เข้าท่า….


แต่เราคงต้องพิจารณากับสภาวะในปัจจุบันกันอีกสักหน….


ท่ามกลางเสียงอื้ออึงคะนึงอลในการต่อต้านการพนันผิดกฏหมาย การชิงรางวัลจากหนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่ล้อกระแสไปกับเกมลูกหนังก็ยังคงดำเนินแบบรายวัน วันนี้แจกบ้าน มะรืนแจกรถ สดใสชื่นมื่นกันทั่วหน้า


ทั้งที่รสขมแปร่งปร่า และพิษร้ายแห่งสังคม….ไม่ได้จางหายไปไหน


เศรษฐกิจตกสะเก็ด อาชญากรรม ปัญหาสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เรื่องร้ายๆ ก็ยังดำเนินไปแบบเป็นรายวัน ไม่มีรอ ไม่มีหยุด ขึ้นลงไม่คงที่ประหนึ่งรถไฟเหาะที่ไม่รู้ว่ามันเริ่มต้นตรงไหน และจะไปจบลงที่ใด….


แต่จะใส่ใจทำไม ในเมื่อเรายังมีความสนุกสนานแห่งการพนันขันต่อรอคอยอยู่….


ชีวิตคนไทย ไม่อาจปราศจากได้ซึ่งการพนัน เราคงไม่ต้องไปมองไกลที่ไหน เพราะในขณะที่อีกซีกโลกหนึ่งกำลังดวลแข้งกันตูมตามครามโครม บรรดาท่ามผู้ทรงคุณวุฒิ และทรงเกียรติแห่งแวดวงการเมือง ก็กำลังปะทะกันในเกมลูกหนังรายวันแห่งสภาและเดินขบวนตามท้องถนน ที่ร้อนแรงแซงมันทุกหัวโค้ง มีลูกล่อลูกชน เทคนิค กลยุทธ์ และจุดพลิกผันมากมายเสียจนท่านเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสันแห่งแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด หรือกุนซือหน้าหักอาร์เซน เวนเกอร์แห่งอาร์เซนอลยังต้องยอมสยบคารวะหมอบราบคาบแก้ว ยังไม่นับรวมบรรดา ‘แฟนคลับ’ จำนวนมากมายมหาศาล ชนิดที่ถือหางข้างใคร รักคนไหน เชียร์ทีมใด ก็เลือกกันได้ตามแต่ใจจะโปรด


วันนี้ฝ่ายตรงข้ามเปิดเกมเดินขบวน ปักหลักจากราชดำเนิน สวนเลื้อยหลบออกข้างสนาม ต่อด้วยกลยุทธ์ดาวกระจาย ย้ายไปสะพานมัฆวาน แถมฟรีคิ๊กจี้จุดอ่อนแบบถึงตายในความเกี่ยวพันกับรัฐบาลชุดที่แล้ว ฝ่ายผู้นำไม่รอช้า แก้เกมจากรุกเป็นรับ โต้กลับสมน้ำสมเนื้อ ประกาศข้อความผ่านสถานีโทรทัศน์บ้าง ใช้ความร้อนแรงแห่งฝีปากบ้าง หาเรื่องแก้ไขตัวบทกฏหมายบ้าง ปัดประเด็นให้ตกไปราวกับสายลม ฝ่ายทีมเสื้อเหลืองเห็นไม่เข้าท่า พุ่งทะลวงกองหลังด้วยประเด็นเขาพระวิหารที่กำลังร้อนฉ่าจนน่าตกใจ ขยายผลต่อไปจนไฟแทบลามทุ่ง เป็นอีกครั้งที่ทีมรัฐบาลต้องเฝ้าบ้านรักษาสภาพเจ๊า (แต่ชวนเจ๊งอยู่มะร่ำมะร่อ) นี้ให้ดำเนินต่อไป ท่ามกลางเข็มนาฬิกาแห่งครึ่งสุดท้ายนับถอยย้อนรอย และลดน้อยลงไปทุกที


มาถึงตรงนี้ ใช่ว่าผมจะหาเหตุมาสนับสนุนการพนันขันต่อใดๆ เป็นความชอบธรรม (แต่จะ ‘ชอบทำ’ หรือไม่ นั่นก็สุดแท้แต่) ปัญหาสังคมที่เกิดขึ้นอย่างเรื้อรังท่ามกลางความผันผวนและพิษร้ายแห่งการพนัน ก็ยังคงเป็นสิ่งที่ต้องพิจารณาแก้ไขกันด้วยความใส่ใจและไม่อาจมองข้าม กับเยาวชนของชาติทั้งหลายก็ยิ่งแล้วใหญ่ แต่สภาพการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันก็ดูขำขื่นและสวนทางกับสิ่งที่ประกาศออกมากันปาวๆ อย่างสิ้นเชิง แทบไม่ต้องอ้างอิงในตัวบทกฏหมาย เพราะผู้ที่ต้องยึดมั่นและใช้มันอย่างสุดหัวใจอย่างคณะผู้ปกครองในแวดวงการเมือง ก็กลับหาเรื่องฉีกทิ้งเขียนใหม่ราวกับกระดาษวาดรูปสีเทียนในห้องเรียนอนุบาลกันได้อย่างหน้าด้านและหน้าทน


และตราบเท่าที่ผู้ปกครองและผู้เกี่ยวข้องทั้งหลายยังคงเปลี่ยนความจริงจังในนโยบายอันจะเกี่ยวกับปากท้องของคนทั้งชาติให้กลายเป็นตลกปาหี่ เร่ขายออกโชว์เป็นเกมลูกหนังที่รับส่งลูกกันไปมาน่าสนุกเช่นนี้ ที่ทางและเวลาสำหรับแก้ไขปัญหาพนันขันต่อฟุตบอลเถื่อนก็คงไม่มี และจะยังคงคาราคาซังเช่นนี้ ต่อๆไป….


ก็อาจจะจริงอย่างที่ได้เรียนให้ทราบ คนไทยไม่อาจขาดได้ซึ่งการพนัน….


ชีวิตทุกวันมันก็ยุ่งยากหัวใจพออยู่แล้ว การได้เสี่ยงทายพนันผลไม่ว่าจะจากเกมแข่งขันใดๆ ให้สนุกสนาน คงเป็นเครื่องหมายชี้วัดถึงการตัดสินใจในชะตาชีวิตของตนเอง ที่นับวัน จะยิ่งน้อยลงไปทุกขณะ


แต่ท่ามกลางความเร้าอารมณ์แห่งการขันต่อ ใน ‘เกมพนันระดับชาติ’ ที่ผู้นำทั้งหลายได้พึงกระทำเป็นนิจศีลมาทุกยุคทุกสมัยนั้น แท้จริง เราอาจจะไม่ได้เป็นผู้ชม….


ผู้เสี่ยงทายพนันก็ไม่ใช่…..




“เพราะเราอาจจะเป็นได้แค่ ‘ชิพ’ ที่พวกเขาทอยเล่นกันอย่างมันมือ มาโดยตลอด แค่นั้นเอง….”

แก้ไขเมื่อ 26 มิ.ย. 51 00:32:40