เรื่องราวตอนนี้ น่าจะเป็นประโยชน์ต่อคนที่ท้อแท้กับชีวิต หรือคิดว่าไม่มีใครรักเรา หากลองมองดูดีๆจะเห็นว่า เราโชคดีแค่ไหนแล้วต่างหาก
พ่อ แม้จะไม่ได้เป็นคนให้กำเนิดเธอ
แต่เธอก็รู้ว่าท่านมีพระคุณต่อชีวิตเธอมากเช่นกัน
เพียงแต่พ่อไม่ได้ร่ำรวย เป็นคนชนชั้นกลางในสังคมคนหนึ่ง
แต่เพราะพ่อมีแม่หลายคน
ยิ่งแม่เป็นภรรยาคนหลังๆ รายได้ที่พ่อหามาได้ ก็มักจะตกอยู่ในมือแม่คนแรกๆเสมอ
พ่อจึงแอบเอาใส่กระเป๋าเสื้อนักเรียนหนูไปฝากให้แม่ตอนแอบมารับหนูที่โรงเรียนตั้งแต่อนุบาลเพราะพ่อไม่อยากให้เราลำบากมากนัก
ชีวิตของหนูเมื่อเทียบกับพี่ๆ จึงต่างกันราวฟ้ากับเหว
พี่ๆได้เรียนโรงเรียนดีๆ ใส่เสื้อผ้าแพงๆ และมีครอบครัวที่มีฐานะ
ส่วนหนู เรียนโรงเรียนวัด เรื่องเสื้อผ้าหรือสิ่งสวยงาม นานๆๆๆๆทีหนูถึงจะมีโอกาสได้หาซื้อมาใส่
ไม่ใช่เพราะไม่มีเงินมากพอ แต่สิ่งที่หนูคิด ตลอดในตอนนั้น คือการเอาชนะ
เอาชนะแม่ให้ได้ด้วยความดีของหนูเอง
ตอนหนูเรียนชั้นม.6 หนูก็ตั้งใจเรียนเพื่อเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัย
ความจริง หนูก็คิดเผื่อไว้แล้วว่า หนูเองคงไม่มีปัญญาเรียนถึง
มหาวิทยาลัยแน่ๆ เพราะค่าใช้จ่ายสูง
ครูแอ๋ว ครูแนะแนวใจดี ท่านทราบเรื่องหนู และเห็นผลการเรียนของหนูดี จึงส่งเข้าชิงทุนเรียนดีในเขตเมือง และหนูก็ไม่ทำให้ท่านผิดหวัง สอบเข้าได้เรียนในมหาวิทยาลัยอันดับต้นๆ ของประเทศ โดยไม่ต้องจ่ายค่าเทอมและมีเงินเดือนอีกต่างหาก ขอบพระคุณมหาวิทยาลัยจริงๆ หนูภูมิใจมาก อยากจะประกาศให้คนทั้งโลกได้รู้(เว่อจิงๆ)
พร้อมกับข่าวดี หนูก็ได้ทราบข่าวที่ไม่คาดคิด คือ พ่อของหนูเป็นมะเร็งที่ต่อมลูกหมาก
ที่น่าเศร้าคือ หนูเป็นญาติคนเดียวที่ไปเฝ้าพ่อที่โรงพยาบาลหลังจากพ่อป่วยแล้วเกือบเดือน
พี่ๆนึกรังเกียจพ่อและไม่มาสนใจพ่อเลย ทั้งๆที่พ่อรักพี่ๆไม่ต่างจากหนู
พยาบาลโทรหาญาติเท่าที่มีรายชื่อ ทุกคนมาเยี่ยมแล้วก็รีบกลับ มีเพียงหนูที่อยู่เฝ้าพ่อ ซึ้งในน้ำใจของทุกคนเลย ทุกคนอ้างว่างานยุ่ง และหายไป
ไม่น่าเชื่อว่าเดือนเดียว ที่หนูไม่ได้เจอพ่อ พ่อตอนนั้นน่าสงสารมาก เพราะมีสภาพแก่กว่าอายุจริงเกือบสิบปีและผอมตัวดำ เพราะฤทธ์คีโม พ่อเสียใจกับสิ่งที่ได้ทำลงไปกับแม่ เพราะตอนนั้นรักแต่จะสนุก พ่อโทษตัวเองตลอด
หนูก็ได้แต่ร้องไห้ แล้วก็ให้กำลังใจพ่อว่า:-)านเยอะ
บิลค่าใช้จ่ายงวดแรกออกมาหลังจากนั้นไม่นาน
หนูตกใจมาก เพราะมันมากกว่าค่าเทอมสี่ปีของหนูเสียอีก ลำพังเงินจากการเป็นลูกจ้างที่ตลาดนัดกับทำงาน7-11 คงไม่พอแน่นอน
อาและญาติของพ่อ แต่ละคนช่วยหนูกัน 100-500 บาท และหลายคนก็วางสายหนูโดยยังไม่ทันได้ฟังความเลย
ดีที่ประกันสังคมของพ่อ ช่วยแบ่งเบาค่าใช้จ่ายนี้ได้อีกแรง
แต่เราต้องย้ายห้องไปห้องรวม และได้รับการปฏิบัติอย่างแตกต่าง
หนูได้แต่บอกพ่อว่ากลัวพ่อเหงา และโรงพยาบาลเค้าต้องการห้องให้ผู้ป่วยฉุกเฉิน ห้องไม่พอ
เหมือนพ่อจะรู้ แต่หนูก็ทำอะไรมากกว่านั้นไม่ได้จริงๆ
ในแววตาหม่นเศร้าคู่นั้น พ่อต้องการจะบอกอะไรกับหนูมากมาย
หนูรู้ว่าพ่อดีใจ ที่หนูสอบได้ไปเรียนมหาวิทยาลัยที่ดี
"พ่อรู้ว่าหนูลำบากแค่ไหน
พ่อพยายามจะให้กำลังใจหนู
พ่อ ขอโทษหนูในสิ่งที่พ่อทำกับหนูและแม่
พ่อโทษตัวเองว่าทำให้หนูเดือดร้อน
พ่อไม่อยากมีชีวิตอยู่อีกต่อไป"
แต่หนูก็บอกพ่อเสมอว่า
พระคุณของพ่อที่ให้ชีวิตหนูนั้น มากเกินกว่าที่หนูจะทดแทนหมดในชาตินี้ แค่นี้มันยังน้อยเกินไปเสียอีก ถึงหนูจะไม่ได้เกิดมามีฐานะครบสมบูรณ์เหมือนเพื่อนๆพี่ๆ แต่หนูก็จะมีอนาคตที่ดีให้ได้ หนูจะต่อสู้และให้พ่อรอดูวันแห่งความสำเร็จนั้นของหนู หนูจะเอาชุดครุยมาถ่ายรูปกับพ่อ
พ่อจะต้องหายดี พ่อจะต้องกลับมาอยู่กับหนูกับแม่ให้ได้
น้ำตาหนูกับพ่อ ก็ไหลเอ่อ อีกครั้ง เรากอดกันร้องไห้อยู่นานเลย
ไม่อยากจะนึกถึงเลย เพราะน้ำตาของหนูมันไหลออกมาทุกที
เมือ่ได้มาอยู่ในมหาวิทยาลัยวิทยาเขตชานเมือง เพื่อนๆของหนูมีฐานะเรียกได้ว่า ขับรถมาเรียนกันเป็นเรื่องปกติ แต่สำหรับหนู เงินที่จะขึ้นรถเมล์ยังต้องคิดหลายตลบ เพราะเงินนี้อาจไม่พอกินข้าวเย็น หรือแม้แต่จะไปพ่อเยี่ยมพ่อที่โรงพยาบาลในเมือง
ชะตาชีวิตยังไม่ใจร้ายกับหนูจนเกินไป
เพื่อนที่มหาวิทยาลัยดีมาก พ่อเป็นผู้จัดการใหญ่โรงพยาบาลเอกชน
แถวมหาวิทยาลัย ท่านเมตตาทำเรื่องย้ายพ่อหนูไปรักษาและดูแลอย่างดี
โดยเฉพาะความเมตตาครั้งนี้ ทำให้พ่อกับหนูได้เจอกันบ่อยขึ้น
เมื่อได้มีโอกาสติดต่อแม่อีกครั้ง ทำให้ทราบว่า
แม่เองก็เริ่มเห็นท่าทีชีกอของอาดำ และ เริ่มมีคนบอกแม่เรื่องความเจ้าชู้ของอาดำ มีข่าวว่าอาดำไปข่มขืนเด็กนักเรียนท้อง ข่าวเริ่มหนาหูและแม่ก็เริ่มเข้าใจความจริงและจึงพยายามจะตีตัวออกห่าง
แต่เพราะอาดำยังหนุ่มเมื่อเทียบกับแม่ ชายหนุ่มวัยสามสิบต้นๆที่กำลังเมาได้ที่ จึงมีแรงมากพอจะทำร้ายแม่และเอาเงินกับแม่เพื่อพาสาวไปทำแท้ง
แม่ย้ายหนีอาดำก็ตามมาเจออีกสองสามครั้งจนแม่ไม่สามารถทำอะไรได้อีก
จึงต้องยอมให้อาดำมาขูดรีดเอาเงินไปเลี้ยงสาวและกินเหล้าในที่สุด
ชีวิตเด็กปีหนึ่งที่สดใสของหนู ยังไม่ทันได้เริ่มต้นดีเลยก็มี
เรื่องราวเกิดขึ้นมากมาย ทั้งๆที่หนูควรจะไปซ้อมร้องเพลงเชียร์ หรือไม่ก็ไปเต้นแร้งเต้นกากับเพื่อนๆ แต่ในเมื่อเราเลือกเกิดไม่ได้นี่หน่า
ความตั้งใจของหนู จึงเกิดความรักครั้งใหม่ซะอีกแน่ะ เรื่องมันชักจะไปกันใหญ่แล้วนะเนี่ย โปรดติดตามตอนต่อไป
จากคุณ :
ชะเอมหวาน
- [
30 มิ.ย. 51 19:31:21
]