ความคิดเห็นที่ 32
ยัง ยังไม่จบแค่นั้น มีสาวอีกนางนึงคนนี้เป็นคนในพื้นที่ คนนี้สวย สูง เก่ง พูดเพราะ ชีเรียนเก่งจริง ๆ เก่งมาก ๆ ในห้องเรียนชีจะไม่พูดไม่จากับใคร ยิ้มหวาน จด Lecture ด้วยลายมืออันสวยงาม สอบทีไร Top หรือไม่ก็เป็นรองแค่นั้นทุกครั้ง แต่ฉันจะเห็นชีอยู่ในผับดังแห่งหนึ่งในละแวกนั้น ที่เล่าไปแล้วตั้งแต่บทนำ กับสาว ๆ เพื่อนแก๊งของชีที่สวยพอกันและสวยมากกว่าชีอีกกลุ่มนึงประมาณ 6 คน ฉันก็ฉงนฉงายว่า กรูก็เที่ยว ชีก็เที่ยว ทำไมน๊า ชีถึงได้เรียนเก่ง ก็เลยรวบรวมความกล้าไปถามชี ชีก็บอกเคล็ดไม่ลับว่า ตอนอยู่ในห้อง อุ๋ยก็ตั้งใจเรียนมาก ไม่คุย ไม่เล่น ตั้งใจฟัง พอตกเย็นกลับหอ (ชีอยู่หอนอก ตรงข้ามหอสดใสนั่นแหละ) ก็รีบทำการบ้านที่ได้รับ + อ่านหนังสือย้อนหลังและล่วงหน้าพรุ่งนี้ไว้ พอถึง 4 ทุ่ม ก็ออกตระเวนราตรี อ๋อ ๆ ๆ ๆ เป็นอย่างนี้นี่เอง ฉันคิด โอ้โห ผู้หญิงคนนี้ ช่างมีอะไรพิเศษในตัวเองจิง ๆ นะ เธอช่างสวยพริ้ง เพียบพร้อม (ชีรวยด้วย) ดูดี สง่า ไฮโซ เออลืมเล่าว่าในผับนั่น ชีไม่ทานเหล้า ชีทานเพียงน้ำเปล่าและโค๊กเท่านั้น มีหน้าที่ไปเต้นและสวย อยู่ในผับปลากระป๋องนั่น ฉันก็เริ่มชอบชีอีก (เอ๊ะ ฉันเป็นชาย สงสัยช่วงนั้นพระจันทร์จะเป็นข้างแรมบ่อย) แต่ไม่กล้าสำแดงมากเหมือนตอนจีบภาพหรอก ได้แต่เล่าให้เพื่อนผู้ชายฟังว่าเค้าน่ารัก น่าจีบ ฉันก็แค่เพียงยิ้มให้ ยืมเลกเชอร์มาลอก คุยบ้างในผับ แค่นั้น ไม่กล้ามาก เพราะกลัวแห้วอีก จนเรียนจบไป ก็ไม่ได้บอกเธอว่า ฉันชอบนะ
ก็ยังไม่พออีก แค่ 2 ชิมิ ยังไม่พอค่ะ มีอีก อีกคนนึง เธอชื่อ ไก่ คนนี้มาแรงแซงโค้งตอนปีสาม ชีคนนี้มีลักษณะปากกล้า ฝีปากเนี่ยนะ ... อย่าบอกใคร แต่ชีก็มีส่วนนึงที่ฉันชอบอีกตามเคย คือ อารมณ์ดี ชีเป็นคนพูดจาฉะฉาน ฉลาด ขาว อวบ อะไรเงี้ย ฉันก็อยากจีบอีก แต่คราวนี้ จีบมากกว่าอุ๋ย แต่น้อยกว่าภาพ (คงเข้าใจระดับนะคะ) แต่ก็แห้วอีก เร็วกว่าตอนจีบภาพอีก ไก่รีบบอกฉัน พอฉันจีบได้สัก 2-3 สัปดาห์เองมั๊ง ว่าคงไม่ชอบฉันหรอก อะไรเงี้ย ซึ่งฉันก็นิ่ง ๆ เพราะชินซะแล้ว อีกอย่าง จีบก็คือจีบ ฉันไม่ได้รู้สึกมากมายว่า คิดถึงมาก อยากไปหา หรือไรงั้น แปลกจัง
ตอนปีสามนี่แหละที่ฉันก็เริ่มมองผู้ชายบ้างแล้ว หลังจากที่ประสบความล้มเหลวบ่อยครั้งในการจีบหญิง เพราะว่าญาติ ๆ ไม่มีใครเป็นเกย์ ทอม ดี้ กระเทยเลย แถมเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ที่มีคนนับหน้าถือตามาก ฉันจะถูกสอนเสมอว่า ให้เป็นคนดี เป็นหน้าเป็นตาของวงศ์ตระกูลนะ อย่าทำอะไรเสื่อมเสียนะ เพราะต้นตระกูลของเรา เป็นคนดี คนทั่ว ๆ ไปรู้จักและเคารพนับถือ เราต้องเป็นสายป่านที่สืบทอดคุณความดีเหล่านั้นไว้ ตราบนานเท่านาน ฯลฯ โอ้ววววว ช่างเป็นสิ่งที่ยากจัง สำหรับฉัน แต่ก็ช่างเหอะ หนีมาเรียนตั้งไกล ใครจะรู้ ใครจะเห็น (ฉันคิด)
ฉันเริ่มเข้าสู่โลกอินเทอร์เน็ตตั้งแต่ปีหนึ่งแล้วหละ แต่สมัยนั้น อะไรในคอมเป็น Windows 95 (เก่าแก่มาก) ส่วนการ chat ก็เป็น ICQ และ Pirch โอ้โห ใครเกิดทันจะรู้สึกประทับใจมาก เสียงนัง ICQ ก็คือ โอ๊ะโอ เวลามีคนทักเข้ามา และก็จะมีคลิบกระดาษสีเหลือง ๆ กะพริบ ๆ น่ารักมาก แต่ต้อง search หาเพื่อนเอง หรือไม่ก็ต้องรู้จัก หมายเลข ICQ ของกันและกันถึงจะคุยกันได้ ซึ่งก็ดีนะ เป็นโปรแกรมที่คัดแยกคนสนิทไว้เท่านั้น อีกโปรแกรมนึงที่ตีคู่คือ Pirch โปรแกรมนี้ World Wide มาก เพราะเป็นห้อง Chat สด รวมกัน คนจะอยู่เยอะแยะ มีห้องโน้นห้องนี้ ห้องจีบสาว, ห้องเด็กมหาวิทยาลัย, ห้องเกย์ภาคตะวันออก, ห้องคนโสด, ... อะไรต่อมิอะไรมากกกกก มายให้เลือกเข้าไป ฉันก็เริ่มเข้าห้องกลุ่มที่มี Keyword เป็นเกย์ ในขณะที่ภายนอก ฉันยังคงชอบผู้หญิง ตามที่กล่าวมา แต่พอเข้าโลกไซเบอร์แล้ว ฉันรู้สึกว่า ฉันต้องการผู้ชายค่ะ ผู้ชาย
ตอนนั้นมีคนมากมายที่ฉันรู้จักในโลกไซเบอร์ คุยกันไป คุยกันมา คุยกันไป คุยกันมา ฉันก็รู้ว่าโลกไซเบอร์มัน:-)แค่ไหน ขนาดฉันเองยังหลอกว่า ฉันขาว สูง (กว่าที่เป็น) อะไรเงี้ย อยู่เสมอ ขนาดอาวุธ ก็ใหญ่กว่าที่เป็นจริง ส่วนใหญ่เวลาพวกเก้งเจอกัน (เก้งเป็นคำศัพท์แทนคำว่าเกย์ เพราะมีนังพิธีกรทีวีชื่อดัง เรียกกลุ่มเกย์ว่าเก้ง) ต้องถามก่อนว่า เป็นพวกไหน มันจะมี เก้งคิง คือ พวกชอบเสียบคนอื่น เก้งควีน คือ พวกชอบถูกเสียบ โบท (นี่ ฉันชอบใช้อันนี้) คือ พวกที่สลับโหมดเป็นคิง หรือควีน ก็ได้ตามแต่สถานการณ์และคู่นอนจะกำหนด ส่วนไบ ก็คือพวกที่ได้ทั้งชายหญิง ฉันชอบบอกคนอื่นว่าฉันเป็นโบท เพราะมีโอกาสสุ่มเสี่ยงที่จะได้เจอคิงมากกว่า เพราะบางทีถ้าระบุเป็นควีนนี่ เค้าอาจเข้าใจว่าเป็นกระเทยแจ่มแจ้ง เปิดเผยในที่โล่งแจ้งได้ อะไรเทือกนั้น ซึ่งไม่มีใครอยากจะสำแดงว่าเป็นเกย์อย่างแจ่มชัดขนาดนั้น ฉันก็เลยเลือกกลุ่ม โบท เป็นหลักในการมุ่งมั่นหาแฟนในอินเทอร์เน็ต
จนกระทั่งฉันไปเจอผู้ชายคนนึง เค้าบอกว่าเค้าเป็นคิง ก็คุยกันแทบทุกครั้งที่ออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็น Pirch หรือว่า ICQ สนิทขึ้นเรื่อย ๆ ฉันไม่รู้แน่ชัดหรอกว่าเค้าทำงานอะไร ช่างตอบได้ชัดเจนมาก ว่า ทำงานบริษัทในกรุงเทพ จบละ โคตรจะชัด ส่วนฉันก็โคตรจะโง่ เพราะว่าเค้าก็พูดจาอ่อนหวาน จีบฉันอย่างโง้นอย่างงี้ ไอ้ฉันก็มีประสบการณ์น้อยเสียด้วย ก็หลงเค้า หลงมาก อยากจะเข้าเนตทุกเวลา เรียนอยู่ก็อยากเข้าเนต จนกระทั่งเค้านัดฉันไปเจอ ... ฉันตื่นเต้นมาก มาก มาก เค้าบอกว่าเค้าจะมาสัมมนาที่พัทยา แล้วก็จะอยู่ค้างที่พัทยาต่อ เท่าที่รู้คือ เค้ารวย ฉันรู้แค่นั้น ตอนนั้นฉันก็อยากอินเทรนด์ ด้วยการมีเสี่ยเลี้ยง เด็กมหาวิทยาลัยเป็นอะไรก็ไม่รู้ การมีเสี่ยเลี้ยง จะเป็นอะไรที่เท่มาก เป็นจุดสนใจและโดดเด่นในวงการบันเทิงยิ่งนัก ฉันก็เลยตัดสินใจ ว่าจะไปดีไม่ไปดี โดยไม่ปรึกษาใครเลย กลุ่มแก๊งชาวเหนือที่ว่าสนิท ก็ไม่ได้ปรึกษาพวกมัน เพราะเค้าคิดว่าฉันเป็นผู้ชายกันอยู่ คนทั้งมหาวิทยาลัยก็คิดว่าฉันเป็นผู้ชาย รวมถึงเจ้าของร้านเนตที่ฉันเข้าประจำ ก็เข้าใจว่าฉันเป็นผู้ชาย จนได้สนิทกับเจ้าของร้าน 2 คน เป็นชายหนุ่มหน้าตาดีคนนึง หน้าตาปกติคนนึง ... ไว้เล่าต่อว่ามันมีอะไรต่อมา
ฉันตัดสินใจไปพัทยา เพียงลำพัง พร้อมด้วยเสื้อผ้าอีก 1 ชุด แต่สิ่งที่ลืมคือ ถุงยางอนามัย เรานัดกันที่ห้างแห่งหนึ่ง เราก็โทรหากัน (ตอนนั้นฉันไฮโซ ระบบโทรศัพท์เพิ่งเข้ามา ฉันก็เก็บเงินซื้อจนได้ แพงมาก เครื่องละเป็นหมื่น) ฉันก็เห็นแล้วว่า ไม่ได้หล่อเลย อ้วน เตี้ย ดำ สูงกว่าฉันนิดหน่อย หน้ามีรอยเหมือนโดนของมีคมทำร้ายใบหน้ามาก่อน ชื่อว่า พี่เอ (ลืมชื่อไปแล้วเหมือนกัน) พอพี่เอเจอฉัน เค้าก็ทำหน้าหื่นกามใส่ฉันทันทีที่กลางห้างนั่น จับมือฉันเดินรอบห้าง เหมือนจะพา ช๊อปปิ้งนะ แต่ไม่ซื้ออะไรให้ฉันเลยซักกะอย่างนึง ฉันเกิดพุทธิปัญญาขึ้นมาว่า จะหาวิธีไหน หลบเลี่ยงผู้ชายคนนี้ดีนะ เพราะดู ๆ แล้วคงอยากจะกินฉันแต่ไม่ลงทุนเพียงอย่างเดียว ก็เลยทำเป็นว่า อยากเปลี่ยนสีผม (วิธีที่โง๊ โง่) ก็เลยซื้อน้ำยาย้อมผม ซัลซิล (ไฮโซในสมัยนั้นอีกตามเคย) กล่องเหลือง เป็นสีน้ำตาลอ่อนมั๊ง เพราะเค้าชวนชั้นไปนอนกับเค้าที่โรงแรมใกล้ ๆ ห้างนั่นแหละ จะได้ถ่วงเวลาด้วยการย้อมผม ไปพลาง คุยกันไปพลาง จะได้รีบชิ่งหนี ตอนนั้นฉันลืมไปแล้วว่าเค้าทำหน้าหื่นใส่ฉัน เพราะมัวแต่หากลวิธีหนีอยู่
พอถึงโรงแรม ก็พลบค่ำแล้วหละ เค้าก็พาเข้าห้องไป โรงแรมนี้หรูหรา ติดริมหาดพัทยาเชียวนะ มีหาดส่วนตัว มีสระว่ายน้ำ นวด (สมัยก่อนยังไม่มีสปา) โอ๊ย บอกได้อย่างเดียวว่าไฮโซ ห้องที่พักก็เปิดหน้าต่างเห็นทะเล และสวนภายในโรงแรม ฉันก็กะว่า จะไปเฉิดฉายซะหน่อย แต่ฝันก็ดับวูบ พี่เอปิดม่าน ล๊อคห้อง และหรี่ไฟลง จิบไวน์ (ไฮโซมาก) พี่เค้าก็ถอดเสื้อผ้าทันที ฉันก็นะ เริ่มจิบไวน์ไป และลืมไปแล้ว เรื่องย้อมผม คิดดูว่าฉันขี้ลืมขนาดไหน ครั้งแรกของฉันที่จะมีอะไร อะไรกับผู้ชายมาถึงแล้วเหรอ ฉันอายุ 20 ปีแล้ว กว่าจะถึงวันนี้ โอ้โห สารพัดสารพัน ที่วิ่งวุ่นวายในหัว ฉันยังคิดไม่จบ เสื้อผ้าฉันก็หมดจากร่างไป และยืนในห้องน้ำ เค้าก็ชวนอาบน้ำก่อน (ทำไมเนอะ ต้องอาบน้ำก่อน สงสัยกลัวเหนียว หรือต้องล้างตัวให้สะอาดก่อน ตอนนั้นฉันไม่เข้าใจ) อ่ะ อาบก็อาบ เค้าก็เริ่มโลมเล้าฉัน ในห้องน้ำนั่นแหละ ด้วยความที่ไม่เคย ฉันก็ระบายความอึดอัด ภายในไม่ถึง 20 นาที ซึ่งเค้าก็ไม่ได้ว่าอะไรฉัน แล้วเราก็กลับมาที่เตียงนอน โดยเค้าอุ้มออกมาจากห้องน้ำ (กึ๋ย ๆ) เค้าก็พยายามจะ...ฉันต่ออีก ซึ่งฉันก็ยอม เพราะเมาแล้ว เค้าพยายามเอาสิ่งนั้นเข้ามาที่ทวารหนักฉัน แต่มันเข้าไม่ได้ ฉันก็ไม่เข้าใจว่าทำไมไม่ได้ สรุปว่า เค้าพยายามมากแค่ไหน ฉันก็ยิ่งต้านมากเท่านั้น และแล้วคืนนั้น เค้าก็ ช่วยตัวเอง ข้าง ๆ ฉันนั่นแหละ ฉันก็เลยยังคงเวอร์จิ้นอยู่ (คิดว่านะ) ตื่นเช้าขึ้นมาเค้าก็เปลี่ยนเป็นคนละคน ชวนเราไปกินข้าวเที่ยง (เพราะตื่นสายกันมาก) ที่ร้านส้มตำริมชายหาด ร้านนี้อร่อยมาก ราคาไม่แพง เป็นตรอกเล็ก ๆ ทางพัทยาเหนือ ไว้วันหลังหาเวลาไปกินอีกดีกว่า และฉันก็กลับมหาวิทยาลัย โดยปลอดภัย... ลืมยาย้อมผมไว้อีกต่างหาก ที่โรงแรมนั่น
จากคุณ :
Arthristry
- [
6 ก.ค. 51 10:51:00
A:202.91.19.204 X: TicketID:180618
]
|
|
|