Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    ชีวิตที่เลือกไม่ได้ของยายมินนี่ ตอน หัวใจสีชมพูของหนูมินนี่

    ดีใจที่มีคนติดตามนะคะขอบคุณมากค่ะ เรื่องของน้องมินนี่ยังไม่จบง่ายๆค่ะ สงสัยต้อง
    ขอลงหมายเหตุ
    หมายเหตุ
    1.เรื่องนี้ดัดแปลงจากเรื่องของน้องที่เรารู้จักนะคะ ไม่ใช่เรา
    เพราะว่า หลายคนคิดว่าเป็นเรื่องของเรา ซึ่งเราเองไม่เคยมีประสบการณ์พวกนี้เลยค่ะ
    3.เจตนาที่เขียนขึ้น เพื่อเป็นกำลังใจให้กับน้องๆทุกคนที่คิดว่า เบื่อชีวิต หรือรู้สึกว่าเรื่องของเราหนักน่ะค่ะ
    ว่าอย่างน้อย น้องเค้าไม่ได้มีพร้อมอย่างเรา ก็สามารถเลือกชีวิตตัวเองได้ค่ะ จึงขอดัดแปลงบุคคลและเหตุการณ์ในเรื่องค่ะ
    2 . หนู เป็นสรรพนามที่มินนี่เรียกแทนตัวเองค่ะ เพื่อให้เรา(ผู้เขียน)พิมพ์ง่ายขึ้นน่ะค่ะ และเพื่อให้เหมือนกับว่ามินนี่เองเป็นคนเล่าเรื่องค่ะ

    (เข้าสู่เรื่องดีกว่านะคะ)
    ชีวิตช่วงนั้นของหนูมีแต่เรื่องเรียน..เรียน...งาน...งาน..เรียน..เรียน...งาน
    สลับกับการไปเฝ้าพ่อ ทุกครั้งที่มีโอกาส

    หนูเรียนและทำงานแถวรังสิต
    ส่วนพี่หนุ่มก็เริ่มทำงานเป็นพนักงานที่ออฟฟิศแถวบางนา
    คนละซีกโลก

    เวลาหนูคุยโทรศัพท์กับพี่หนุ่ม
    "อยู่อย่างนี้ ยิ่งไปอยู่หอซะไกลพี่หนุ่ม หนูละคิดถึงพี่หนุ่มที่สุดเลย"
    "พี่ก็เหมือนกัน พ่อเป็นยังไงบ้างมินนี่"
    "พ่อ แอบกินอาหารที่หมอห้ามด้วยแหละพี่หนุ่ม
    แถมยังแอบกินเหล้าด้วย หมอรู้เพราะตรวจเจอที่ตับ ทั้งๆที่ในโรงพยาบาลน่ะไม่มีขายเลยนะ พ่อยังแอบไปกินได้ ดื้อจริงๆ
    เนี่ย อาการเลยยังไม่ดีขึ้นเท่าไหร่ สงสัยพ่อจะประชดแม่กับพี่ๆที่ไม่มาเยี่ยมแน่เลย"
    "อืม ต้องให้กำลังใจพ่อนะ ช่วงเวลานี้แหละ ที่เราจะได้ทำหน้าที่ลูกได้เต็มที่
    เราก็เหมือนกันนะตัวเล็ก(พี่หนุ่มเรียกหนูว่าตัวเล็กค่ะ) ต้องดูแลตัวเองดีๆ เดี๋ยวจะไม่สบายอีกคน"
    "ค่า พี่หนุ่มน่ะ อย่าเรียกหนูว่าตัวเล็กสิ ตอนนี้หนูโตแล้วนะ
    เรียกมินนี่แหละดีแล้ว"
    "แหม ก็พี่เรียกของพี่อย่างนี้มานานแล้วนี่หน่า
    เรียกตั้งแต่เรายังตัวเล็กๆอยู่เลย"
    "ดูพูดจาเข้า ตอนนี้ไม่ตัวเล็กหรือไง"
    "ยังไง มินนี่ที่น่ารักของพี่หนุ่ม ก็เป็นหนูน้อยตัวเล็กเสมอหละจ้ะ"
    "โธ่ ถึงจะตัวเล็ก แต่ก็เล็กพริกขี้หนูนะพี่หนุ่ม"
    ...
    แต่ก่อน...ตลอดเวลาที่หนูเหนื่อย จะมีพี่หนุ่มนี่แหละ ที่อยู่ข้างๆ
    เหมือนเป็นกำลังใจในยามที่เราเหงาและว้าแหว่ให้กันและกัน
    เพราะ พี่หนุ่มจะพาไปกินข้าวตอนเย็น หรือหนูจะซื้อขนมไปฝากที่หอ
    บางที ที่หนูท้อ พี่หนุ่มจะชอบขยี้หัวหนู แล้วก็บอกว่า "ตัวเล็กสู้ๆ"
    มีกำลังใจขึ้นเยอะเลยค่ะ

    พักหลังๆพี่หนุ่มเองก็งานยุ่งเหมือนกัน เวลาที่เราสองคนมีให้แก่กันจึงน้อยลง
    ยอมรับว่า ห่างกันไปโดยไม่รู้ตัว

    มารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่หนูเริ่มจะมีคนเข้ามาในหัวใจอีกคนแล้ว

    พูดตรงๆว่าหนูเองไม่ใช่คนสวย เหมือนที่ทุกคนคิด(ไม่รู้มีใครคิดรึเปล่า)
    แต่หนูมักจะบอกให้เพื่อนๆอ้วกเล่นว่า "หนูงามอย่างมีคุณค่า" 5555
    ไม่ใช่หรอก หนูบอกว่าหนูโชคดีที่มีคนดีๆเข้ามาในชีวิตต่างหาก

    ลำพังแค่ทำงานกับเฝ้าพ่อ ก็เหนื่อยแทบจะไม่อยากทำอะไรต่อแล้ว
    แต่เพราะหนูเห็นว่าอนาคตเป็นสิ่งที่หนูจะต้องเลือกเอง

    หนูต้องปรับเวลาใหม่ ให้เข้าสู่สภาวะนักศึกษาด้วย
    เพราะทุนที่หนูได้ต้องทำเกรดให้ได้ 3.00 ถึงจะมีสิทธิ์เรียนต่อ
    โดยหนูจะพยายามเข้าเรียน
    และลาออกจากงานเดิมมาหุ้นกับเพื่อนขายของกิ๊ฟช้อป
    ที่ตลาดนัดตอนเย็นๆ และเสาร์อาทิตย์

    หนูจึงมีเวลามาเรียนมากขึ้น
    แต่ก็ยังตามเพื่อนไม่ค่อยทันอยู่ดี เพราะต้องไปเฝ้าพ่อที่โรงพยาบาล

    อย่างที่หนูเคยบอกว่าหนูโชคดีที่มีคนดีๆเข้ามาในชีวิต "กอล์ฟ" เป็นเพื่อนที่มีตารางเรียนเหมือนหนูทุกตัวโดยไม่ได้ตั้งใจ
    เราจึงมีโอกาสได้คุยกันมากขึ้น

    (กริ๊งงงงงง)
    "ฮัลโหล"
    "กอล์ฟหรอ นี่มินนี่นะจ้ะ"
    "ครับ มีอะไรหรอ เรื่องเลคเชอร์รึเปล่า"
    "อ้าว..รู้ได้ไงเนี่ย อิอิ(ทำหน้าตาเจ้าเล่ห์อยู่คนเดียว)"
    "ก็มินนี่ไม่ได้เข้าเรียนวิชาภาษาไทยคาบที่แล้วนี่นา แถมภาษาอังกฤษก็ออกมาก่อน ไม่ทันเช็คชื่อท้ายคาบเลย ทำไมมินนี่ขาดเรียนบ่อยจัง "
    "อือ ขอโทษด้วยนะจ้ะ เราต้องรีบไปขายของแหละ ถ้าไปช้าเดี๋ยวจองที่ไม่ทันเลยต้องออกมาก่อน
    ว่าแต่.. ช่วงนี้มีรายงานอะไรต้องทำส่งก่อนรึเปล่าอะ ช่วยบอกมินนี่ด้วยนะจ้ะ"
    "ได้เลย แต่มันเยอะเหมือนกันนะ มินนี่ ต้องมาเอาไปซีร็อกซ์"
    "ได้ๆ แต่ว่า..เราต้องไปกินข้าวกับแจงก่อนนะ กอล์ฟกินข้าวรึยัง"
    "ยังเลย เล่นเกมเพลินไปหน่อย สงสัยไม่ได้กินแล้วละ"
    "โหย เดี๋ยวก็เป็นโรคกะเพาะหรอก มากินข้าวด้วยกันเถอะ "
    "ไม่เอาหละ ขอบคุณมาก เรากำลังเล่นเกมมันส์อะ"
    ...
    ถึงจะรู้จักกันช่วงแรก แต่หนูก็เลยจัดการซื้อขนมนมเนยมาฝากกอล์ฟตอนไปเอาชีท เพื่อเป็นค่าเลกเชอร์ (กอล์ฟคงว่าไม่คุ้มเล้ยที่ให้หนูยืมชีทเนี่ย)

    แต่มันทำให้หนูและกอล์ฟสนิทกันเร็วขึ้น เพราะหนูต้องโทรถามงานกับกอล์ฟ หรือยืมลอกเลคเชอร์เสมอ

    ในช่วงเวลาที่พี่หนุ่มหายไป กอล์ฟ ก็ค่อยๆเข้ามาในชีวิตหนูโดยไม่รู้ตัว

    กอล์ฟ นอกจากจะเรียนเก่ง ลายมือสวย เป็นนักฟุตบอลโรงเรียนแล้วยังมีฐานะดีอีกต่างหาก เรียกได้ว่า มีครบตามที่สาวๆหลายคนจับตามองเลย

    ไม่ต้องพูดถึงเรื่องการแต่งกาย เรียกได้ว่าหัวเข็มขัดและหัวรองเท้าขัดมัน
    ผมที่ออกจากบ้านจะต้องจัดทรงอย่างดีทุกครั้ง เรื่องความเนี๊ยบละก็ ตรงข้ามกับหนูเลยทีเดียว เสียอยู่อย่างเดียว ติดเกมมากไปหน่อย เลยไม่ค่อยได้สุงสิงกับใคร

    หนูผ่านปีหนึ่งมาได้ ก็เพราะกอล์ฟคนนี้หละ ที่ช่วยเหลือหนูอย่างมากในเรื่องเรียน เพราะรายงานหลายตัวที่ต้องจับคู่หรือทำเป็นกลุ่ม ก็จะมีกอล์ฟ เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงใหญ่ที่จะช่วยหนูทำ(จนหนูเกือบตายแน่ะตอนสอบ)

    และเพราะกอล์ฟมีฐานะ
    กอล์ฟจึงมักจะขับรถพาหนูไปเยี่ยมพอ่และพาเที่ยวรอบๆมหาวิทยาลัย
    พาไปกินข้าวที่ร้านอาหารหรูๆ ที่ชาตินี้หนูเองไม่เคยคิดว่าจะได้เหยียบสักเท่าไหร่หลังจากที่เราทำรายงานเสร็จ

    จำได้ว่าเวลากอล์ฟมารับหนูทีไร จะต้องมีนมดัชมิลล์มิกกี้เม้าส์มาให้ทุกที เพราะรู้ว่าหนูชอบมินนี่มากขนาดไหน(กอล์ฟบอกว่าแลกกับขนมที่หนูเอาให้)
    นึกแล้วก็ตลก เพราะคนอย่างกอล์ฟที่ตัวสูงใหญ่ ดูจะไม่เหมาะกับนมกล่องเล็กๆแบบนั้นเลย

    ตอนแรก ที่กอล์ฟรู้เรื่องหนู เค้าสงสารหนู แต่พอได้ร่วมงานกัน หนูเป็นคนตลก แถมพูดเก่งเป็นต่อยหอยและทำให้กอล์ฟยิ้มเสมอ เราจึงสนิทกันง่ายขึ้น

    เรื่องกอล์ฟกับหนูเป็นที่กล่าวถึงของรุ่น เพราะดูกอล์ฟจะไม่เคยมีทีท่าว่าจะชอบใคร แถมความเนี๊ยบของกอล์ฟ ก็ทำให้หลายๆคนพลอยคิดว่ากอล์ฟอยู่สมาคมป่าไม้เดียวกันอีกต่างหาก


    กอล์ฟ ถึงจะตัวใหญ่ เป็นนักกีฬา แต่ลึกเป็นผู้ชายที่อ่อนไหวมากๆเลยหละ
    มีครั้งหนึ่งกอล์ฟโหลดซีรีย์เกาหลีใส่โน๊ตบุ๊ค มาดูที่ใต้หอหนูตอนทำรายงาน กอล์ฟแอบร้องไห้น้ำหูน้ำตาไหลเลย(นี่หละมั้งที่ใครๆมักจะคิดว่ากอล์ฟเป็น..)หรืออาจเป็นเพราะหนูไม่เคยเห็นผู้ชายอกสามศอกร้องไห้กับละครก็เป็นได้
    จริงๆ กอล์ฟติดละครเหมือนผู้หญิงทั้งหลายติดเลย ยิ่งละครน้ำเน่าน่ะ ดูหมด

    หนูเคยถามกอล์ฟว่า
    "ทั้งเล่นเกม ทั้งละคร แล้วก็เรื่องเรียน เอาเวลาที่ไหนไปแบ่ง"
    "ก็ไม่ต้องแบ่งสิ อันไหนมาก่อนก็ทำอันนั้น"(กวนสุดๆเลย)
    "แล้วเอาเวลามาพาเราไปเยี่ยมพ่อเนี่ย คิดดีแล้วหรอ"
    "ก็..เป็นสิ่งเล็กๆน้อยๆที่เราจะทำให้เธอได้หละ"

    (พอสนิทกันก็เรียก เรา กับ เธอแล้ว)

    แต่แปลกนะ หนูกลับชอบที่กอล์ฟละเอียดอ่อนและเอาใจใส่หนูดีมาก
    การที่กอล์ฟเรียนเหมือนหนูทุกวิชา เราจึงแทบจะอยู่ด้วยกันตลอดเวลาที่เรียนเลยหละ กอล์ฟจะช่วยดูว่าวันนี้หนูแต่งตัวถูกระเบียบรึเปล่า
    (ที่มหาวิทยาลัยปีหนึ่งจะต้องแต่งชุดเครื่องแบบให้ครบ)
    ชมว่า วันนี้หนูใส่ตุ้มหูอันใหม่ รองเท้าสีนี้เข้ากับหนูรึเปล่า จดจำวันสำคัญต่างๆได้ดีกว่าหนูอีก และทุกครั้ง กอล์ฟจะพยายามประดิษฐ์ของน่ารักๆให้หนู(ทั้งๆที่ควรจะเป็นหนูที่ทำให้กอล์ฟซะอีก)

    ตอนเรียน ที่ใต้โต๊ะหนูจะมีมือของกอล์ฟอยู่ กุมกระดาษเล็กๆที่ให้กำลังใจจากกอล์ฟ
    ยิ่งสายตาหวานๆของกอล์ฟที่ส่งมาให้หนูระหว่างเรียนเนี่ย
    หนูละไม่เป็นอันเรียนเลยหละ

    "นี่เธอ เธออย่ามาทำตัวแบบนี้ตอนเรียนสิ เราเรียนไม่ได้" หนูบอกกอล์ฟ
    "เราหล่อล่ะสิ"
    "แหวะ พูดจามองหน้าตัวเองหน่อยเหอะ(แต่เค้าก็หล่อจริงๆแหละ)"หนูแลบลิ่นปลิ้นตา แต่ก็รู้สึกตรงข้ามกับสิ่งที่พูด

    ตอนนั้น จะเรียกว่าหนูหวั่นไหวก็ไม่เชิงหรอก
    เพราะมันทำให้ความตึงเครียดเรื่องงานกับเรื่องพ่อน่ะ ลดลงไปมากเลย

    แต่สำหรับหนู ถึงสิ่งที่กอล์ฟทำให้มันดีมากแค่ไหน แต่ก็ไม่เหมือนความผูกพันของพี่หนุ่มกับหนูอยู่ดี เพราะพี่หนุ่มเป็นทั้งพี่ เป็นทั้งเพื่อน ทั้งพ่อในคนเดียวกัน แต่เพราะพี่หนุ่มเป็นผู้ใหญ่กว่าหนูตั้งหลายปี บางเรื่องคุยกับกอล์ฟก็จะสนุกกว่า

    มีคนนินทาว่า"หนูน่ะ คบกับกอล์ฟ เพราะเงิน "
    หนูเสียใจจนต้องตีตัวออกห่างกอล์ฟเลย โดยที่กอล์ฟก็ไม่รู้ว่าเรื่องอะไร

    แต่เพราะเรื่องเรียน และความดีของกอล์ฟ หนูก็ใจอ่อนทุกที

    ยิ่งตอนพี่หนุ่มโทรมา และหนูอยู่กับกอล์ฟ
    หนูจะอยู่ในสถานการ์ณที่พูดไม่ออกบอกไม่ถูกเลยหละ

    คือ..รู้สึกว่าทำผิดที่ไม่ได้บอกพี่หนุ่ม
    แต่ถ้าพี่หนุ่มรู้ เรื่องใหญ่แน่ๆ เพราะพี่หนุ่มทั้งหึงทั้งหวงหนู

    ส่วนกอล์ฟ รู้ว่าหนูมีแฟนแล้ว
    แต่ท่าทีที่กอล์ฟทำก็เหมือนกับว่าจะคบกับหนู
    ทั้งๆที่ เค้าไม่เคยเอ่ยคำว่ารักหนูนี่หน่า ถ้าหนูบอกเลิกเค้าก่อนก็หน้าแตกสิ
    เพราะหนูอาจจะคิดไปเองข้างเดียวก็ได้

    หนูเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่า ความสัมพันธ์ของหนูกับกอล์ฟเรียกว่าอะไร

    แล้วจะปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปจะไหวหรอ
    อาการพ่อก็ยังทรงๆ ทรุดๆ เฮ้อ! หนูจะหาทางออกกับเรื่องนี้ยังไงดีละเนี่

    จากคุณ : ชะเอมหวาน - [ 4 ก.ค. 51 11:26:27 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom