..
เช้าอย่างนี้มองไปไกลตาภูเขาถูกโอบกอดด้วยม่านหมอก
แสงแดดอ่อนๆกลับให้ความรู้สึกอบอุ่นมากมาย
ฉันใช้สองมือกอดกระชับรอบตัวเองไว้ถ่ายเทความอบอุ่นจากมือสู่ร่างกาย
จากร่างกายสู่มือ
หน้าบ้านพักกล้วยไม้ดินที่ปลูกเป็นแถวลดหลั่นตามเนินดินชูช่องดงาม
มองไปไม่ไกลนัก ต้นบ๊วยเรียงรายเป็นแถว ข้างๆถัดไปเป็นสวนท้อ
ต้นนางพญาเสือโคร่งยืนต้นเป็นแถว ดอกสีชมพูงามสะพรั่ง
ว่ากันว่า งดงามราวดอกซากุระ จนได้ชื่ออีกชื่อว่า ซากุระเมืองไทย
มองไปไกลตาเป็นไร่กาแฟอาราบิก้า
ที่นี่เป็นแปลงทดลองปลูกไม้เมืองหนาว ขุนวาง
สองสามปีให้หลังฉันมาที่นี่ทุกปี มาช่วงเวลานี้ที่ดอกซากุระผลิบาน
มีสีชมพูแต้มไปทั่วเขา มากับเขามากับชัยเพื่อนสนิทของเขา
ต่อไปก็คงมีแค่ ชัย ที่พามา หรือไม่ก็คงต้องมาเองคนเดียว
หัดช่วยเหลือตัวเองบ้าง อย่าให้เขาว่าได้ว่าพอไม่มีเขาก็ทำอะไรเองไม่ได้
แค่คิดถึง เขา ก็รู้สึกร้อนผ่าวที่เปลือกตา
เวลา ฉันต้องการเวลาเพื่อเยียวยาความปวดร้าวลึกๆในใจ
สูดหายใจเข้าลึกๆ ค่อยๆปล่อยลมหายใจออกช้าๆนับหนึ่งถึงแปด
อย่างนี้ใช่มั้ยหนึ่งในวิธีจัดการกับความเครียด
ทำดีที่สุดแล้ว
ใช่ ฉันทำดีที่สุดแล้ว และนั่นคือสิ่งที่ควรกระทำ
เขา ทรมานจากความเจ็บปวดจากโรคร้ายที่เขาเป็น
เรารู้ว่ามีเวลาไม่นาน เราต่างเก็บเกี่ยวความสุขที่อยู่ร่วมกันไว้ในมากที่สุด
เร็วมาก
เมื่อต้นปีที่เขาตรวจพบโรคร้ายที่นอนหลับอย่างสงบเสงี่ยมในร่างกาย
หลบซ่อน อย่างเงียบเชียบ ไม่มีสัญญาณเตือน ไม่ตอบรับต่อการตรวจสุขภาพประจำปี
เจออีกทีก็เกินเยียวยา เขาต่อสู้กับมันด้วยการผ่าตัดตามด้วยเคมีบำบัด
พอเถอะ เหนื่อยเหลือเกินแล้ว เดือนที่แล้วที่เขาออกปาก
...
ฉันไม่ได้ร้องไห้ในวันสุดท้ายที่เขาลาจาก
ฉันอยู่นี่ มือของเขาเย็น มือของฉันเย็น มือของเราอยู่ในมือของกันและกันใบหน้าที่คุ้นตา ร่างกายที่ผ่ายผอม ซีดเซียว ลมหายใจแผ่วเบา บางครั้งหอบกระชั้น
ช่วยด้วย คำพูดแผ่วเบา
แล้วฉันก็ตัดสินใจ
เข็มที่สามของมอร์ฟีนช่วยให้เขาสงบ ลมหายใจแผ่วและ..เสียงหัวใจและชีพจรแผ่วเบา
ในห้องสี่เหลี่ยมเล็กๆของโรงพยาบาล
ฉันกอดเขาไว้ในอ้อมแขนเป็นครั้งสุดท้าย
จะอยู่กับฉันในใจของฉัน เราอยู่ด้วยกันเสมอ รู้ใช่มั้ย
ฉันกระซิบบอกเขาที่ข้างหู
ไม่มีเสียงคร่ำครวญไม่มีหยดน้ำตา เสียงความเศร้า เอะอะอยู่ในห้องเล็กๆ
ชัย บินกลับจากต่างประเทศหลังจากไปดูงาน
ทันได้ช่วยงานศพ ตลอดสามวันชัยอยู่เคียงข้างฉัน อยู่จนเสร็จงาน
ชัย ตามไปที่บ้านช่วยจัดบ้าน อยู่เป็นเพื่อนจนแน่ใจและไว้วางใจว่าฉันอยู่ได้ถ้าเขาต้องกลับไปทำงานต่อ
ฉันไม่เป็นไร อยู่ได้จริงๆนะ เขาสอนให้เข้มแข็ง เขาอยู่นี่กับฉันตลอดเวลา
ฉันแตะมือสองข้างลงที่ตำแหน่งที่ตั้งของหัวใจและยิ้มให้ชัยบางๆตอนที่ส่งเขาขึ้นเครื่องกลับเชียงใหม่
ชัยกอดฉันไว้ในอ้อมแขนของเขา
เธอรู้ใช่มั้ยว่าจะตามฉันได้ที่ไหน ทุกเมื่อ ทุกเวลานะ ประโยคสุดท้าย
ก่อนที่ชัยจะก้มลงจูบหน้าผากของฉัน ฉันยิ้มมองตามเขาจนเดินหายไปกับผู้คน
...
เราไม่มีใคร เขา เป็นพ่อ เป็นแม่ เป็นเพื่อน เป็นทุกอย่างที่ฉันอยากให้เป็นแต่ความจริงคือเขาเป็น พี่ เราเป็นพี่น้องคราวพ่อคราวลูก
ก็พี่กับฉันห่างกันตั้ง10 ปี พ่อกับแม่จากเราไปตอนที่ฉันอายุ 15 ปี
อุบัติเหตุ ฝนตก ถนนลื่น มีรถสิบล้อแหกโค้งไถลลื่นมาชน ท่านเสียชีวิตคาที่
ไม่ทรมานนาน แล้วฉันก็อยู่กับพี่ เราไม่มีญาติสนิท ปู่ย่า ตายายจากเราไปตั้งนานแล้ว
ญาติคนอื่นๆ มีเพียงน้าและครอบครัวของน้า นานๆติดต่อหากันที
ไม่มีญาติทางพ่อเพราะพ่อเป็นลูกคนเดียว น่าเศร้า
งานศพ พี่ ฉันแทบจะตามหาใครไม่ได้ กำพร้าเต็มรูปแบบจริงๆ
...
หนึ่งเดือนหลังอยู่คนเดียว เหงาๆเงียบๆเหมือนกัน แต่ฉันก็อยู่ได้
ชัย โทรศัพท์หาฉันเกือบทุกวัน ไม่ใช่ญาติก็เหมือนญาติ ไม่ใช่พี่ก็เหมือนพี่
ชัย เพื่อนของพี่ เพื่อนรุ่นน้อง
อย่ามาเรียกฉันว่าพี่ ฉันไม่เคยคิดอยากเป็นพี่เธอ ชัยเคยว่าไว้อย่างนั้น คนอะไรอย่างนั้นนะ
สามปีให้หลังนี่เองที่นานๆเจอที ส่วนใหญ่จะโทรศัพท์คุยกันซะมากกว่า
เพราะครอบครัวของชัยย้ายไปอยู่เชียงใหม่ เห็นว่าได้มรดกเป็นที่ดินจากคุณปู่
เรายังเคยแซวเล่นๆว่าต่อไปคงต้องเรียกชัยว่า พ่อเลี้ยง
มาเชียงใหม่คราวนี้ฉันไม่ได้บอกชัย ขึ้นมาขุนวางคนเดียว
เหมารถให้ขึ้นมาส่ง อยากลองมาคนเดียวบ้าง เผื่อต่อไปชัยไม่ว่างจะได้มาได้
.
จากคุณ :
สิงห์อมบ๊วย
- [
7 ก.ค. 51 12:11:53
]