Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    เรื่องของคนๆหนึ่ง

    เสียงนาฬิกา ปลุกผมตื่นจากการหลับไหลอีกครั้ง  วันนี้ก็เป็นเหมือนเดิมๆที่ผมต้องไปทำงานตามปกติ

    "เพิ่งหกโมงเอง อยากนอนต่อชะมัด" ผมพูดกับตัวเอง

    แต่ผมก็ทำแบบนั้นไม่ได้หรอก  เลยต้องลุกขึ้นไปทำธุระส่วนตัว เตรียมจะออกไปทำงาน  กว่าจะออกจากบ้านก็เกือบๆเจ็ดโมง ผมเดินไปที่รถ

    "ไอ้หมาขี้เกียจ เจ้าของเอ็งต้องตื่นไปทำงานแต่เช้าแท้ๆ เอ็งเป็นแค่สัตว์เลี้ยงดันมามัวนอนอยู่ได้" ผมพูดขึ้นเมื่อเห็นไอ้จ๋อ หมาของผมนอนอุตุอยู่ข้างรถ  ผมเดินไปหยิบกระบวยตักน้ำ  ตักน้ำจนเต็มแล้วสาดไปที่ไอ้จ๋อ  มันตื่นขึ้นพร้อมกับทำหน้าเหลอหลาเหมือนตกใจอะไรบางอย่าง  ผมหัวเราะอยู่ในใจ  เดินไปขยุ้มเอาอาหารหมาจากถุง โยนไปที่ชามข้าวของไอ้จ๋อ แล้วค่อยขับรถออกจากบ้านไป

    ระหว่างขับรถ ผมแอบคิดถึงไอ้จ๋อว่าสักวันมันคงหัวใจวายตายแน่ๆเพราะผมปลุกมันแบบนี้แทบทุกเช้า  แต่ถ้ามันตายไปจริงๆก็คงจะดี  ผมจะได้ไม่ต้องเห็นมันที่เป็นสัตว์เลี้ยงที่แฟนของผม  ไม่ใช่สิ  แฟนเก่าผม เอามาเลี้ยงเอาไว้



    "อ๊อต! ทำงานผิดอีกแล้ว  ผมบอกคุณแล้วไงว่าตรงนี้คุณต้องดูให้ดีๆ ตัวเลขมันเยอะจะพลาดเอาได้ง่าย  เอา! เอามาไปแก้ใหม่"  เสียงหัวหน้าเอ็ดผม  ก็เป็นเรื่องปกตินั่นแหละที่ผมจะถูกต่อว่าแบบนี้  คนที่ไม่เอาถ่านแบบผม ถูกปฎิบัติแบบนี้มาจนชินซะแล้วล่ะ  เดี๋ยววันนี้กลับไปค่อยไประบายอารมณ์กับไอ้จ๋อแทนก็ได้   ผมรับงานคืนจากหัวหน้าด้วยใบหน้าที่เฉยชา

    ผมรู้สึกว่าเวลาทำงานในแต่ละวันมันผ่านไปอย่างรวดเร็วตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ  ใช่สิ ผมจำได้แล้ว ตั้งแต่ที่แฟนเก่าทิ้งผมไป  เธอเก็บข้าวของทุกอย่างของเธอออกไปจากบ้านของผม เหลือไว้แต่ไอ้จ๋อให้ผมดูต่างหน้า  ไม่สิ เหลือไว้ให้ผมต้องทนอยู่กับความทุกข์ทรมานที่เสียเธอไปต่างหาก  ผมเห็นไอ้จ๋อทีไรก็อดที่จะนึกถึงแฟนเก่าไม่ได้ซักที  ไอ้จ๋อเลยกลายเป็นที่ระบายอารมณ์ให้กับมือเท้าผมเป็นประจำ  แต่ก็แปลกนะว่ามันไม่เคยจะเห่าหรือกัดตอบโต้ผมเลย  โธ่! ไอ้หมาขี้ขลาด

    หลังเลิกงาน ผมขับรถตรงกลับบ้าน  พอจอดรถเสร็จ ลงจากรถ  ไอ้จ๋อก็วิ่งตรงเข้ามาหาผมทันที  ท่าทางของมันเหมือนกับเด็กที่ดีใจเมื่อเห็นพ่อแม่กลับมา  มันกระดิกหาง เอาตัวเข้ามาคลอเคลียผม พร้อมกับเสียงครางเล็กๆ   ผมยิ้ม พร้อมกับทักทายมันด้วยการเตะมันที่ลำตัว  ไอ้จ๋อกระเด็นออกไปเล็กน้อย  มันทำท่าเหมือนกับงงไปซํกพัก  แต่แล้วมันก็กระดิกหางเข้ามาคลอเคลียผมต่อ

    "ไอ้หมาปัญญาอ่อนเอ๊ย"  ผมพูดพลางถีบไอ้จ๋อเข้าอีกที  จนมันล้มหงายท้อง  ผมเดินเข้าบ้านไปทันทีโดยที่ไม่หันมามองมันแม้แต่น้อย


    ตอนที่ผมกินข้าวเย็นเสร็จ(แน่นอนว่าเป็นอาหารถุง) โทรศัพท์ของผมก็ดังขึ้น

    "สวัสดีครับ  อ๋อ แม่เองเหรอ"  ผมพูดเมื่อรู้ว่าเสียงของฝั่งปลายทางเป็นเสียงของแม่ผมเอง

    "อะไรนะครับ  ห้าหมื่นเหรอ  ผมเพิ่งโอนไปให้แม่รอบนึงตอนสองอาทิตย์ที่แล้วเองนี่ครับ"

    "ไม่ใช่อย่างนั้นครับแม่  ผมไม่ได้คิดอย่างนั้น  ครับ ครับ  เข้าใจแล้วครับ  ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวพรุ่งนี้ผมจะโอนไปให้อีกครับ"

    ผมตอบรับแม่อย่างว่าง่ายเพราะรู้นิสัยแม่ผมดีว่า  ถ้าแม่ผมอยากจะได้อะไร ใครก็ขัดแกไม่ได้หรอก

    "ห้าหมื่นเหรอ"  ผมพูดกับตัวเอง  แล้วอย่างนี้ผมจะทำอะไรต่อไปดีล่ะ  เงินทองก็ร่อยหรอลงทุกวันๆ  ทำงานหาเงินมาได้  ก็ถูกที่บ้านเอาไปใช้ด้วยเหตุผมที่หลายๆครั้งมันฟังไม่ขึ้นเลย  ผมส่าผมเคยอธิบายกับที่บ้านไปแล้วนะว่าคนทำงานเงินเดือนหมื่นกว่าๆอย่างผมน่ะ จะให้ส่งเงินกลับบ้านครั้งละหลายๆหมื่นมันคงเป็นไปไม่ได้หรอก   ผมก้มหน้า  ใช้สองมือขยุ้มไปที่หัวตัวเองจนผมเส้นผมหลุดติดออกมา   ผมคงต้องหาทางระบายอารมณ์อีกแล้ว  ผมหยิบไม้พลองที่วางอยู่ใต้บันไดออกมา  เปิดประตูบ้านพร้อมกับเดินไปหาไอ้จ๋อที่กำลังกระดิกหางอย่างดีใจเมื่อเห็นผมกำลังเดินเข้าไป

    แล้วเสียงหมาที่ร้องโหยหวนเพราะความเจ็บปวดก็ดังลั่นซอยอีกครั้ง



    เช้าวันต่อมา ผมขับรถไปทำงานตามปกติ แต่วันนี้ไม่เห็นไอ้จ๋อตอนเช้า มันคงแอบไปหลบที่ไหนสักแห่ง ผมเลยอดได้แกล้งมัน  ก่อนเข้าทำงานแวะโอนเงินที่ตู้เอทีเอ็มที่ตั้งอยู่หน้าตึก  ผมรับใบสลิปที่ออกมาจากเครื่อง  มองเสร็จแล้วได้แต่ส่ายหน้า  เงินเก็บตั้งแต่ผมเริ่มทำงานมา จากหกหลัก ตอนนี้เหลือแค่ห้าหลักซะแล้ว   ถึงแม้จะเป็นจำนวนที่พออยู่ได้ก็จริงอยู่  แต่ถ้าเป็นแบบนี้อยู่เรื่อยๆ  สักวันมันคงเหลือศูนย์แน่ๆ  ผมหัวเราะให้ตัวเองเล็กน้อยก่อนจะเดินขึ้นลิฟต์เพื่อไปทำงาน

    "อ๊อต เข้ามาที่ห้องผมหน่อย ผมมีเรื่องจะคุยด้วย"  หัวหน้าเรียกผมเมื่อเห็นผมเดินเข้ามาในออฟฟิส  ผมเดินตามหัวหน้าเข้าไปในห้องทำงานของเขาที่อยู่ริมทางเดิน

    "นั่งลงก่อนสิ"  หัวหน้าบอกผม  แล้วเดินไปนั่งที่เก้าอี้หนังด้านหลังโต๊ะทำงาน  ผมลากเก้าอี้ที่อยู่ด้านหน้าของโต๊ะทำงานหัวหน้าออกแล้วนั่งลง

    "คืออย่างนี้อ๊อต  ผมพิจารณาถึงประสิทธิภาพในการทำงานของคุณ  ผมว่าช่วงหนึ่งปีให้หลังนี้ มันตกลงไปเยอะมากเลยนะ  หลายๆงานที่คุณทำผิดพลาด บางครั้งก็ทำให้บริษัทเสียหายไปไม่น้อยเลย"

    หัวหน้าพูดมาแค่นี้ ผมก็พอจะรู้แล้วว่าผมจะโดนอะไรต่อไป

    "ผมอยากให้คุณปรับปรุงการทำงานของตัวเองหน่อย  ตั้งใจกับมันให้มากกว่านี้  อย่าให้พลาดซ้ำแล้วซ้ำอีก  ถ้าไม่อย่างนั้น บางที ผมอาจจะต้องพิจารณาคนอื่นเข้ามาทำงานแทนในส่วนของคุณก็เป็นได้  คุณคงเข้าใจนะ"

    "ครับ"  ผมตอบหัวหน้าสั้นๆ

    หลังจากออกมาจากห้องหัวหน้า  ผมมานั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานของผม  แปลกนะที่ผมไม่ค่อยรู้สึกเศร้าเท่าไหร่เลย  ถึงแม้ถ้าไม่ใช่แค่การเตือน แต่เป็นการไล่ผมออกแทน  ผมก็คงจะไม่เศร้ามากไปกว่านี้เท่าไหร่ล่ะมั้ง  นานแล้วนะที่ผมไม่ได้รู้สึกเสียใจออกมาจากใจจริง  จำได้คลับคล้ายคลับคลาว่าน่าจะเป็นตอนที่แฟนเก่าทิ้งผมไปล่ะมั้ง เป็นวันที่ผมร้องไห้เป็นครั้งสุดท้าย   หลังจากนั้นผมก็ไม่เคยเสียน้ำตาอีกเลย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไร  ไม่ใช่ว่าผมจะไม่รู้สึกอะไรหรอกนะ  มันแค่เหมือนเก็บสะสมอยู่ข้างในเท่านั้นเอง   ผมคิดว่าผมคงต้องระบายมันออกมาบ้างเสียแล้ว

    หลังเลิกงาน ผมขับรถตรงเข้าบ้านเหมือนทุกๆวัน  ลงจากรถก็เจอไอ้จ๋อยืนทำหน้าเซ่อๆกระดิกหางให้ผมอย่างเคย  วันนี้ผมไม่ได้เตะมันเหมือนทุกๆวัน  แต่ผมเดินเข้าไปในบ้าน  หยิบไม่พลองท่อนเดียวกับที่ตีไอ้จ๋อเมื่อวาน  เอามาฟาดใส่ไอ้จ๋ออย่างไม่ยั้ง  มันร้องอย่างเจ็บปวดพลางวิ่งหนีผม  แต่ผมก็ตามเข้าไปตีมันซ้ำได้อีกสองสามครั้งก่อนที่มันจะมุดเข้าไปแอบอยู่ใต้ชั้นเก็บข้างขนาดใหญ่ริมรั้วที่ผมตามเข้าไปไม่ถึง

    "ไอ้หมาขี้ขลาด"  ผมตะโกนออกมา   เหวี่ยงไม้พลองลงกับพื้นแล้วเดินเข้าบ้านไป  วันนั้นผมไม่ได้ให้ไอ้จ๋อกินข้าวเย็น



    กลางดึกคืนนั้น ผมตื่นขึ้นเพราะเสียงหมาเห่าปนคำราม  ผมเดินออกมาจากห้องนอน  เดินไปใต้บันไดเพื่อจะหาไม้พลองท่อนประจำ แต่นึกขึ้นได้ว่าเมื่อเย็นไม่ได้เอากลับเข้ามาในบ้าน ผมเลยคว้าไม้อีกท่อนที่พิงอยู่ที่ใต้บันไดมาแทน

    "หาเรื่องเจ็บตัวอีกแล้วนะเอ็ง ไอ้จ๋อ" ผมพูดกับตัวเอง

    ผมเปิดประตูบ้านออก  แต่สิ่งที่ผมเห็นกลับเป็นสิ่งที่ผมคาดไม่ถึง  ผมพบผู้ชายแปลกหน้าสองคนอยู่ในรั้วบ้านผม  ส่วนไอ้จ๋อเห่าอย่างไม่หยุด พลางคำรามใส่คนแปลกหน้าทั้งสองไปด้วย

    "เฮ้ย! ขโมยเหรอวะ"  ผมร้องออกมา  แทนที่ผมจะหนี หรือหลบไปแจ้งตำรวจ  ผมกลับพุ่งเข้าใส่สองคนนั้น  ไม้พลองในมือผม ฟาดเข้าเต็มๆหน้าของชายคนหนึ่ง  แต่ผมก็ถูดหมัดของชายอีกคนหนึ่งเข้าที่เต็มแก้มจนผมล้มกลิ้ง

    "กล้านักเหรอมืง" ชายคนที่ต่อยผมพูดขึ้น พร้อมทั้งประเคนเท้าใส่ร่างของผมที่ล้มอยู่  ส่วนอีกคนหนึ่งที่เหมือนเริ่มได้สติ เดินตามมาสมทบ  ผมถูกทั้งแตะทั้งต่อยจนผมไม่สามารถทำอะไรสองคนนั้นได้อีกเลย  แต่ก่อนที่สติของจะดับวูบลง  ผมเห็นไอ้จ๋อวิ่งเข้าใส่หนึ่งในสองคนนั้น พร้อมกับกัดเข้าที่แขน  ไม่นานมันก็ถูกสะบัดหลุดออกไป  ไอ้จ๋อลุกขึ้นพร้อมกับกัดเข้าที่ขาของชายคนเดิม  เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดของชายคนนั้นดังขึ้น  แต่ชายอีกคนที่เหลืออยู่ก็เข้ามาเตะไอ้จ๋อจนมันกระเด็นออกไปอีกครั้ง  ไอ้จ๋อลุกขึ้นมาพร้อมกับเห่าด้วยเสียงอันดังอย่างไม่หยุด  ผมเห็นขามันสั่นไม่น้อยเลย

    "ท่าไม่ดีแล้วว่ะ วันนี้ไปกันก่อนเหอะ" ชายคนที่เตะไอ้จ๋อพูดกับอีกคนหนึ่ง จากนั้นทั้งสองคนก็ปีนรั้วบ้านผมออกไป

    ผมนอนหงายอยู่กับพื้น ร่างกายระบบไปหมด  ความจริงผมยังพอจะมีแรงลุกขึ้นไหว แต่ผมอยากจะนอนอยู่ตรงนั้นไปเรื่อยๆมากกว่า

    "ขนาดมีเรื่องเสียงดังแบบนี้ ยังไม่มีเพื่อนบ้านคนไหนออกมาดูกันสักคน" ผมคิดในใจพลางแค่นหัวเราะให้กับตัวเอง

    ผมรู้สึกเหมือนมีอะไรอุ่นๆแฉะๆที่ตรงแก้ม  ผมเหลือบตาขึ้นไปดูพบว่าไอ้จ๋อกำลังเลียที่แก้มผมอยู่  มันกระดิกหางพร้อมกับครางในลำคอเบาๆเหมือนกับที่มันทำทุกวันเวลาเจอผม  ผมลุกชันตัวขึ้นมา ที่ตาผมรู้สึกเหมือนมีน้ำตาคลออยู่  ผมหันไปกอดไอ้จ๋อไว้แน่น พร้อมกับร้องไห้ออกมาเหมือนเด็กๆ

    จากคุณ : พันธุ์หมาบ้า - [ 15 ก.ค. 51 01:14:16 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom