 |
ปฏักแห่งความกล้า
ปฏักแห่งความกล้า
แม้ไม่มีอาวุธ เรายังมีกายา มีสติและปัญญา แม้ยังหายใจ ยังมีทาง คิดหาหน แม้ชีพสิ้น ขอธำรง แผ่นพื้นปฐพี ยังอยู่คง ไว้เพื่อ ลูกหลานไทย
...ปัจจุบัน...
มันเป็นเพียงเศษไม้อันเล็กๆ ที่ฉันต้องจ่ายแลกมาด้วยจำนวนเงินสูงถึงสามพันบาท เจ้าเศษไม้ที่มีผิวกลมกลึงราบลื่นเหมือนถูกคนสัมผัสมานานปี ตรงปลายไม้สวมเหล็กที่มีปลายแหลมรัดเอาไว้ ลักษณะเหมือนที่เขียนกระดาษไข เสียดายที่ด้ามหักเป็นปากฉลามเหลือสั้นๆ เพียงแค่ไม่ถึงคืบซ่อนไว้ในอุ้งมือได้
เจ้าของร้านเล่าว่าเจ้าไม้อันนี้ได้เข้าสู่การกู้ชาติครั้งสำคัญ เขาถามฉันว่ารู้จักไหมวีรกรรมทุ่งสัมฤทธิ์ การกู้ชาติที่เริ่มจากสองมืออันว่างเปล่าของผู้หญิงตัวเล็กๆ ซึ่งใครๆ ต่างมองว่าสถานที่เหมาะสมของพวกเธอคือห้องครัวและห้องนอนเท่านั้น ฉันกำมือแน่นคำแทงใจดำนั้น ทำให้ฉันแลกเศษไม้ขี้ประติ๋วมาโดยไม่ต่อราคาสักคำ
ที่อยู่ของผู้หญิงคือห้องนอนและห้องครัวเท่านั้นจริงๆ หรือ ฉันที่เติบโตมาในบ้านที่พอโงหัวขึ้นมาก็ต้องหุงข้าวต้มผัก ให้ทุกคนในบ้านได้กิน ก่อนแยกย้ายกันออกไปทำงาน ฉันต้องเก็บที่หลับที่นอน กวาดบนเรือน กวาดลานบ้าน ล้างชาม ซักผ้า ตักน้ำใส่ตุ่ม กว่าจะได้ไปโรงเรียนที่ห่างออกไปอีกหลายกิโล รองเท้านะหรือไม่ต้องพูดถึง หน้าตาเป็นยังไงไม่รู้เพราะเคยเห็นแต่ในรูป
เรียนจบแค่ ป.หก ก็ต้องออกมาเอาผัว แถมไอ้ผัวเฮงซวย ยังติดม้า ม้าที่วิ่งสี่ขา ม้าพยศวัยเอ๊าะๆวิ่งสองขาและม้าไม่มีขาเม็ดกลมๆ แล้วมันก็เข้าไปอยู่ในคุก หน้าที่ประจำตอนที่อยู่กับมัน ไม่พ้นอยู่ในครัว หุงข้าวทำกับแกล้มให้มันกิน
ตอนนี้เธอไม่มีหน้าที่ประจำอยู่ในครัว แต่ห้องนอนคือที่ทำงาน ฉันเบ้ปากอย่างแสนทุเรศตัวเอง แต่จะไปทำอะไรได้ความรู้น้อย ต้องเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง คนเราเลือกไม่ได้ เพื่อให้ชีวิตรอด อะไรก็ต้องทำ
ไม่ว่าจะต้องทำอะไร
เสียงโทรศัพท์มือถือดังเบาๆ ฉันถอนหายใจ เบื่อไอ้เครื่องติดตามตัวนี่จริงๆ
ค่ะ ฉันกรอกเสียงลงไปสั้นๆ เพื่อฟังเสียงปลายสายว่าใคร ใช่หรือไม่ใช่
มาลัยหรือ เสียงทุ้มๆ ถามมาเสียงที่คุ้นเคย คุ้นที่ยิ่งกว่าคุ้น
ค่ะ ฉันรับคำ เจือแววออดอ้อนลงไปเล็กน้อย
มีเรื่องที่โคราช ฉันไม่ว่างเธอไปจัดการแทนหน่อย เสียงสั่งเป็นงานเป็นการ งานพิเศษเล็กๆน้อยๆ ที่ฉันผ่านมาตั้งแต่คนที่ไม่รู้เรื่อง ผู้ช่วย และเดี๋ยวนี้จัดการแทนได้
ค่ะ เท่าไรคะครั้งนี้ ฉันถามถึงเรื่องที่ต้องไปจัดการ
ห้า เสียงตอบมาง่ายๆ
ห้าล้านไม่มากแล้วก็ไม่น้อย ที่บอกให้ฉันรู้ได้ว่าใครบ้างอยู่ในข่ายที่ฉันต้องไปติดต่อบ้าง
แล้วจะพาไปญี่ปุ่นเสียงทุ้มๆ บอกมาด้วยแววปรานี
ญี่ปุ่น จะอยากไปทำไม เพราะที่เธอจะเห็น ก็แค่เพดานห้อง กับผ้าปูที่นอนสีอะไรลายอะไร เที่ยว...ที่ยังคงเป็นงานที่ไม่พ้นห้องนอน แต่ฉันจะตอบเป็นอย่างอื่นไปได้อย่างไร นอกจาก ค่ะ
ฉันเก็บของใส่ลงในกระเป๋าถือใบใหญ่ สตาร์ทรถ เปลี่ยนเป้าหมายจากร้านอาหารในโรงแรมสักแห่ง เป็นเส้นทางออกนอกกรุงเทพ นครราชสีมาเป็นเป้าหมายของฉัน นี่เพิ่งจะห้าโมงเช้า ก่อนค่ำคืนนี้ฉันน่าจะกลับมานอนสบายที่ห้องของฉันได้ อาทิตย์หน้าไปญี่ปุ่น ฉันเบ้ปากอย่างหมิ่นๆ
ธุระเสร็จเร็วกว่าที่คิด แค่จอดรถลงหน้าบ้าน ใบโอนเงินก็ถูกยื่นส่งให้อย่างนอบน้อมพร้อมคำขอโทษขอโพยว่าธุรกิจช่วงนี้ฝืดส่งช้าไปหน่อย พร้อมเสนอเลี้ยงอาหารมื้อเที่ยงที่เลยเวลามาบ่ายมากแล้ว เมื่อฉันเปรยๆ ว่าท่านร้อนใจ ฉันต้องรีบมา ยังไม่ได้กินแม้แต่กาแฟสักถ้วย แถมปิดท้ายด้วยของหวานล้ำ เงินใส่ซองเป็นค่าน้ำมันรถกลับกรุงเทพของฉัน ที่ฉันก็รับมา เงินทองหามาได้อย่างยากลำบากนี่ เมื่อได้อยู่ตามลำพังในรถฉันกดโทรศัพท์ตรวจสอบยอดเงินว่าเข้าบัญชีเรียบร้อยแล้วหรือยัง
ยังเหลือเวลาอีกสองสามชั่วโมง ฉันตั้งใจว่าจะออกจากโคราชสักหกโมง จะได้ไปถึงกรุงเทพช่วงที่รถไม่ติด ทุ่งสัมฤทธิ์ คำนี้ผุดขึ้นมาในหัว ทุ่งสัมฤทธิ์นี่อยู่ที่ไหนนะ
ป้า รู้จักวีรกรรมทุ่งสัมฤทธิ์ไหม ฉันถามแม่ค้ากล้วยทอดข้างทางที่เห็นแล้วน้ำลายสอ จนอดจอดรถลงไปซื้อไม่ได้
คุณไม่ใช่คนโคราช แม่ค้าวัยแม่ตอบด้วยคำถามพร้อมรอยยิ้มกว้างขวาง
อ้าวมันเกี่ยวอะไรล่ะ โคราชกับทุ่งสัมฤทธิ์นี่
ไม่มีคนโคราชคนไหนไม่รู้จักทุ่งสัมฤทธิ์หรอกคู๊ณ แม่ค้าหยิบผ้าที่พาดบ่าเอาไว้ลงมากระพืดพัดไล่ลมร้อน
เพี้ยราม
สีหน้าแม่ค้าบ่งบอกแววอ่อนใจ
เจ้าอนุวงค์ยกทัพผ่านเมืองโคราช กวาดต้อนครัวไทยไปเวียงจันทร์ ย่าโมท่านนัดแนะครัวไทยกู้อิสรภาพที่ทุ่งสัมฤทธิ์ ปู่ย่าตายายเล่ากันว่าเด็กคนไหนเล็กจนนั่งหลังควายไม่ได้มันฆ่าทิ้งหมด
ตายจริง ฉันอุทานยกมือทาบอกตามบทบาท แม่ค้ายิ้มให้
คุณขับไปทางนี้ซิ ทางไปอนุสาวรีย์ของท่าน ไปกราบท่านเป็นสิริมงคล
ท้าวสุรนารี ฉันอ่านป้าย
นั่นล่ะ ย่าโม
ฉันไม่ได้แวะไปในวันนั้น เพราะอิ่มอร่อยกับกล้วยแขกรสเลิศ ที่แม่ค้าไปสรรหากล้วยสุกงอมๆ มาทอดเป็นกล้วยแขก นิ่มหวานอร่อย ไม่มีรสฝาด
อาทิตย์ต่อมาฉันไปญี่ปุ่น งานที่ไม่พ้นในห้องนอนกับชายหลายหลาก ข้อตกลง ตกลงกันในเตียงง่ายดายเสมอ
แล้วฉันก็ได้กลับมาเมืองโคราชอีกครั้ง แวะไปทุ่งสัมฤทธิ์สถานที่ที่เกิดสงครามเมื่อร้อยกว่าปีก่อน ไม่น่าเชื่อ ความรู้เกี่ยวกับวีรกรรมทุ่งสัมฤทธิ์ทยอยมาตรงหน้า ลงหนังสือที่ฉันต้องอ่านเพื่อให้ทันข่าวสาร ทุ่งสัมฤทธิ์ที่ไม่เคยรู้จักเริ่มแทรกซึมลงในความทรงจำ
ที่นี่ไม่เหมือนอย่างที่คิด อนุสาวรีย์เป็นเพียงศาลาหลังเล็กๆ กลางทุ่งโล่งว่างเปล่ากระทบใจฉันนัก ทุ่งนาแห้งแล้งเหมือนท้องนาที่บ้านเกิด
ฉันไม่ได้จุดธูปบูชาอย่างที่ควรจะทำ กลับอยากจะตะโกนถามว่าผู้หญิงสมัยโบราณแน่หรือที่ทำเช่นนั้น ผู้หญิงที่ถูกเก็บไว้ในครัวไว้ในห้อง อะไรทำให้พวกเธอลุกขึ้นมาต่อต้านผู้ชายที่แข็งแกร่งกว่ามีอาวุธและความชำนาญกว่าแล้วยังชนะ อะไรอย่างนั้นหรือ ลมชายทุ่งพัดกรรโชกมาพร้อมฝุ่นดินแดง
แม่มาลัย แม่มาลัย เสียงเรียกพร้อมกับมือที่มาเขย่าปลุก ฉันอยากจะร้องด่าออกไป นังเด็กนี่เข้ามาปลุกไม่รู้จักเวล่ำเวลา ไม่รู้หรือ เวลาท่านมาถ้าฉันไม่ออกจากห้อง แกเข้ามาไม่ได้
มาลัย คราวนี้บังอาจมาเขย่าแขนด้วย มันจะมากไปแล้วนะ ฉันลืมตาโต กะตวาดด่าเต็มที่...
จากคุณ :
pajan
- [
15 ก.ค. 51 06:28:27
]
|
|
|
|
|