Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    หน้าแหก!!!

    หน้าแหก !!!

    ราส์ส กิโลหก

                           ผมชะเงื้อมองไปตามถนนหน้าบ้าน  ส่ายตา มองหาแถวพระประมาณ 4-5 องค์ซึ่งท่านต้องเดินผ่านจุดนี้เป็นประจำทุกเช้า   คนที่ผมต้องการพบคือเจ้าหนุ่ยลูกศิษย์วัด   เพราะมันจะต้องเดินตามหลังพระออกมาบิณฑบาต ไม่นานนักก็เห็น แถวของพระมองเห็นเหลืองอร่ามมาแต่ไกล  

                           
    ผมหัวใจพองโตเพราะผมกำลังจะได้รับจดหมายรักจากคนที่ผมหมายปอง  โดยมีเจ้าหนุ่ยเป็นตัวเชื่อมโยงในฐานะพ่อ สื่อ ตัวน้อย   ผมรีบออกไปเดินเกร่อยู่ริมถนนเพื่อจะรอรับจดหมายจากเจ้าหนุ่ย..  

                             
    พระหยุดรับบิณฑบาตจากชาวบ้านแถวนั้น   ผมรีบเดินไปหาเจ้าหนุ่ย..

                           
    เจ้าหนุ่ยเป็นลูกศิษย์วัด   อายุอานามประมาณ 8 ปีท่าทางเป็นเด็กแก่นพอสมควร  เจ้าหนุ่ยชอบมายิงนกตกปลาแถวบ้านที่ผมเช่าอยู่  จึงได้รู้จักกัน...จนครั้งหนึ่งผมไปกับเจ้าหนุ่ยเพื่อซื้อของที่ตลาดหมู่บ้าน  และบังเอิญไปพบเห็นผู้หญิงคนหนึ่ง  เธอมีบ้านอยู่ใกล้ๆตลาด..

                         
    ตลาดแห่งนี้ไม่ใหญ่นักเพราะมีร้านค้าอยู่ 2-3 ร้านขายของทุกอย่างทั้งกับข้าวของกินของใช้  ชาวบ้านจะมาเดินซื้อของกันที่นี่    ผมแกล้งพูดเล่นๆว่า “สวยดีนะ” เท่านั้นเป็นเรื่องเจ้าหนุ่ยอาสาเป็นพ่อสื่อให้ทันที   และยุให้ผมเขียนจดหมายไปจีบเธอโดยเจ้าหนุ่ยเป็นบุรุษไปรษณีย์น้อยให้...อ้ายเราก็เป็นคนหนุ่มและเป็นโสดก็เลยลองดูซักตั้ง.. อ้อลืมบอกไปผู้หญิงคนนี้ชื่อ “ตุ๋ย”..

                         
    “ เฮ้ย ! หนุ่ย  น้องตุ๋ย   ตอบจดหมายมาหรือยัง ? ” ผมถามขณะที่เดินไปถึงตัวเจ้าหนุ่ย พร้อมสายตาผมสอดส่ายไปที่กระเป๋าเสื้อ  เพราะทุกทีจดหมายจะอยู่ที่กระเป๋าเสื้อ...

                           
    เจ้าหนุ่ย ยิ้มแบบล้อเลียน  ทำหน้าทะเล้น  “ ใจเย็นๆ ลูกพี่ ใจเย็นๆ อยู่ที่กระเป๋าเสื้อนี่แหละ..รับรองถึงมือลูกพี่ แน่”  แล้วทำท่าหลบไปมา พอพระออกเดินมันจึงควักจากกระเป๋ามายื่นให้  แต่ก็พูดทิ้งท้ายเหมือนเดิม

                             
    “เดี๋ยวผม ไปสั่ง เป๊ปซี่ ที่ร้านน้า ดวง 1 ขวดนะ !”...

                           
    “เออๆ บอกให้จดบัญชีของพี่”...เป็นสินบนที่ผมจ่ายให้เจ้าหนุ่ยเป็นประจำทุกครั้ง  ..เมื่อมันเอาจดหมายผมไปส่ง หรือ นำจดหมาย น้องตุ๋ย มาให้..

                             
    ผมรับจดหมายจากเจ้าหนุ่ย...พร้อมหันหลังเดินเข้าบ้านใจจดจ่ออยู่ที่จดหมาย  ใจมันร้อนรนอยากเห็นอยากอ่านข้อความในจดหมายเร็ว.ๆ.โอ้..ความรักนี่มันเหมือนสีชมพู เป็นสิ่งดีงามเป็นสิ่งกระตุ้นให้เราได้พบเห็นและรู้สึกแต่สิ่งดีๆ..

                             
    จดหมายฉบับนี้ เป็นฉบับที่ 10 แล้ว   จดหมายที่น้องตุ๋ยเขียนมาก็เป็นกระดาษสมุดธรรมดาไม่มีสีสันอะไร ผมยังนึกชื่นชมอยู่ในใจว่าเธอคงเป็นคนง่ายๆ ภาษาที่เขียนมาก็เป็นภาษาง่ายๆซื่อๆ. ดูตัวหนังสือที่เขียนตอบมา  เธอคงเรียนไม่สูงนัก หรือพ่อ แม่ไม่ได้ส่งเสริมให้เรียนหนังสือ  ซึ่งดูเป็นธรรมดาของชาวบ้านแถบนี้..

                           
    จดหมายฉบับแรกๆการเขียนก็เขียนแบบธรรมดา..แต่ฉบับต่อๆมาความเข้มข้นของน้ำตาลในจดหมายได้ทวีความหวานมากยิ่งขึ้น เข้าขั้นหยอดย้อย...เลยที่เดียว  

                           
    เช่นเริ่มต้น ว่า   “ตุ๋ยที่รักยิ่งของ.........”  .และลงท้ายด้วยว่า ... “คิดถึงและรักมากที่สุด”

                           
    และจดหมายน้องตุ๋ย ตอบกลับมา ก็ไม่ต่างกัน    “.......ที่รักยิ่งของตุ๋ย” ลงท้ายแบบเดียวกัน..

                           
    เขียนโต้ตอบกันไปมาโดย พ่อสื่อหนุ่ย   แต่ผมไม่เคยได้พูดคุยกับตัวน้องตุ๋ยเลย  ก็นึกเอาแล้วกันหนุ่มสาวสมัยนั้น( 30 กว่าปีมาแล้วคงไม่ไวไฟเหมือนสมัยนี้ )  ใจไม่กล้ามันเขินๆสำหรับหนุ่มอายุ 20 ปีเศษและเพิ่งเริ่มทำงาน  ได้แต่เดินเห็นกันและเมียงมอง อย่างอายๆ..  

                           
    เช้าวันนี้ผมมารอรับจดหมายตามเคย...

                             
    หลวงพ่อที่เดินอยู่แถวหน้า ท่านเห็นผมประจำจนคุ้นหน้า ..ได้พูดกับผมว่า “ โยม อาทิตย์หน้าวันที่.......ที่วัดมีงาน..ถ้าอยากทำบุญไปที่วัดซิ !” ..ครับผมตอบแล้วยกมือไหว้..

                             
    โอกาสของผมที่จะเจอน้องตุ๋ยตัวจริงเสียงจริง  มาถึงแล้วผมรวบรวมความกล้า เขียนจดหมายนัดเจอกันที่วัดเสียเลย...ถ้าเจอตัวจริงแล้วจะได้เลิกเขียนจดหมาย  เบื่อเขียนจดหมายเต็มที  เบื่อเจ้าหนุ่ยด้วยขี้เกียจมานั่งรอจดหมายจากมัน ที่สำคัญไม่ต้องเสียเงินค่าน้ำขวดให้มันอีกต่อไป..

                                 
                         
    ถึงกำหนดวันงาน เช้านี้ผมหาเสื้อผ้าที่ใส่แล้วคิดว่า หล่อที่สุด..กว่าจะออกจากบ้านได้ส่องกระจกเป็นสิบๆเที่ยว.... การเดินทางไปที่วัด ต้องไปตั้งต้นที่ตลาดของหมู่บ้านก่อน  แล้วนั่งเรือเครื่องหางยาวซึ่งเป็นเรือรับส่งผู้โดยสาร  ล่องไปตามคลองต่อไปอีกประมาณ 2 กิโลเมตร ..


    วัดนี้ตั้งอยู่ริมคลองซึ่งคลองน้ำใสสะอาด น่าลงไปว่ายเล่น  บริเวณวัดร่มรื่นสวยงามมีพระจำพรรษาอยู่ไม่มาก  ชาวบ้านละแวกนี้ส่วนมากจะมาทำพิธีการทางศาสนาที่นี่ เหมือนเป็นวัดประจำหมู่บ้าน

                         
    ผมไม่ค่อยรู้จักใครมากนัก ที่รู้จักแน่ๆคือเจ้าหนุ่ยและน้าดวง เจ้าของร้านค้าในตลาด และ ก็ แฮ้ม!! ..น้องตุ๋ย ไง ! เราสนิทกันแล้วทางจดหมายรัก.และฉบับสุดท้ายผมรวบรวมความกล้าขอนัดพบน้องตุ๋ยที่วัดในงานบุญวันนี้  


    .ไปถึงวัด..  ผมไปยืนอยู่แถวท่าน้ำซึ่งเรือโดยสารจะส่งผู้โดยสารขึ้นที่นี่..

                         
    พยายามกวาดสายตามองหาเจ้าหนุ่ย  จะชวนมาอยู่เป็นเพื่อนเสียหน่อย   ก็ไม่เห็นคิดว่ามันคงยุ่ง คงต้องช่วยพระจัดโน่นจัดนี่ ตามหน้าที่ของเด็กวัด..

                         
    เสียงเรือหางยาวจอดเทียบท่าวัด  ผมมองตามไป หัวใจผมเต้นแรงขึ้นมาทันที น้องตุ๋ยนั่งอยู่ในเรือ ที่แปลกใจคือเธออยู่ในชุดเครื่องแบบนักศึกษาพยาบาล  ผมเดาเอาว่าคงรีบมาทำบุญเสร็จแล้งคงไปเรียนหนังสือต่อ ในจดหมายไม่เคยพูดถึงเรื่องเรียนเลยผมยังคิดว่าเธอไม่ได้เรียนหนังสือ  

                         
    เธอเดินขึ้นมายืนรวมกลุ่มกับผู้หญิงอายุกลางคนและชายหนุ่มแต่งชุดนักศึกษามหาวิทยาลัยทุกคนในมือต่างถือ ปิ่นโต ถุงอาหาร ดอกไม้และธูปเทียน..เพื่อเตรียมมาทำบุญและไหว้พระตามประเพณีไทย

                         
    บังเอิญ ! สายตาผมมองเห็นเจ้าหนุ่ย แว๊บนึง..แต่อยู่ไกลถึงริมกำแพงโบสถ์จะตะโกนเรียกก็ไม่ทัน  มันเดินหายไปในโบสถ์..

                         
    ผมรีบเดินออกไปพยายามทำตัวเป็นเป้าสายตาให้น้องตุ๋ยมองเห็น...ผมพยายามมองไปที่ตัวเธอด้วยสายตาที่มีความหมายที่สุด ..พอเธอมองเห็น..ผมเธอเฉยๆ คิดว่าคงกลัวแม่และพี่ชายที่มาด้วยจะดุเอา..ผมก็ไม่ละสายตาพยายามจ้องมองอีก  เพื่อให้เป็นสัญญาณเธอจะได้เดินมาหาผม...จนเธอต้องหันมามองตอบ..

                     
    ได้การละ  ผมกระหยิ่มอยู่ในใจ...เห็นเธอพูดอะไรกับแม่และพี่ชาย...จากนั้นก็เดินมาหา  ด้วยความดีใจผมรีบเดินไปหาเธอเช่นกัน  จนพบกันระหว่างกึ่งกลางทาง..บรรยากาศพบกันครั้งแรก นี่ ช่างวิเศษเสียเหลือเกิน...เหมือนพระเอกและนางเอกวิ่งเข้าหากันในภาพยนตร์ยอดนิยม..

                     
    “ ตุ๋ย  จ๋า   พี่มารอตั้งแต่เช้าแล้ว  พึ่งมาหรือ จ๊ะ !!” ผมทำเลียนเสียงพระเอกในหนัง...

                       
    เธอทำตาโต..หน้าแดง  แล้วก็ตามมาด้วย หัวคิ้วขมวดเข้าหากันมองเห็นชัดเจน..

                     
    “ เอ๊ะ  คุณเข้าใจอะไรผิด หรือเปล่า ? หรือคุณ ทักคนผิด หรือคุณขาดยา ?”  เธอสนองความรักของผมออกมาเป็นชุด...

                     
    แม่เธอและพี่ชาย..แต่ความจริงเป็นแฟนเดินตามมาสมทบ...พอฟังรายละเอียดจาก ตุ๋ย พวกเขามองผมเป็นสัตว์ประหลาด...ผมแทบจะว่ายน้ำกลับตลาดท่าน้ำโดยไม่ต้องรอเรือโดยสาร...

                     
    หลังจากนั้นความจริงก็ปรากฏว่า อ้ายเจ้าหนุ่ย ตัวแสบ มันเขียนจดหมายตอบเองทั้งหมด  โดยที่  หญิงตุ๋ย ไม่รู้เรื่องอะไรด้วยเลย  ผมก็บ้ารัก เขียนตอบจดหมายกับอ้ายหนุ่ยนี่เอง...เพียงเพราะมันอยากกินน้ำขวดของโปรดเท่านั้น.....เวรกรรม  คบเด็กสร้างบ้านจริงๆๆ...เด็กสาระนัง !!!

     
     

    จากคุณ : สวนดอก - [ 23 ก.ค. 51 08:34:30 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom