"ผมไปทำงานก่อนนะ แล้วจะรีบกลับนะจ๊ะ"
สุรพันธ์ พนักงานบริษัทซอร์ฟแวร์ชื่อดังลาภรรยาก่อนไปทำงานตอนเช้า
"เดินทางดีๆนะคะคุณ แล้วเจอกันตอนเย็นค่ะ" ภรรยาของเขาตอบ
สุรพันธ์เดินเข้าไปหอมแก้มภรรยาหนึ่งครั้ง ก่อนที่จะเข้าไปหอมแก้มลูกสาวตัวน้อยวัยสองเดือนของเขาที่กำลังหลับอยู่ในเปล ชีวิตของสุรพันธ์กำลังอยู่ในช่วงขาขึ้นอย่างสุดขีด ทั้งเรื่องการงานที่ได้เลื่อนตำแหน่งสองปีซ้อน เรื่องครอบครัวที่มีภรรยาที่รักและให้กำลังใจเขาเสมอ รวมไปถึงลูกสาวตัวน้อยๆที่เพิ่งเกิดที่เหมือนกับน้ำหล่อเลี้ยงชีวิตของสุรพันธ์
"พ่อไปทำงานก่อนนะลูก แล้วพ่อจะรีบกลับมาหาลูกจ้ะ" เขาพูดกับลูกสาวทั้งที่รู้ว่าในตอนนี้เด็กน้อยยังไม่รู้เรื่องกับคำพูดของเขา
"เหนื่อยเหมือนกันนะ อยู่บ้านแถวชานเมืองแต่ต้องเข้ามาทำงานในเมืองทุกวันเนี่ย แต่ก็ต้องอดทนไว้ก่อน พอเก็บเงินได้แล้วค่อยหาบ้านในเมืองอยู่แทน" สุรพันธ์พูดกับตัวเองระหว่างเดินไปรอรถเมล์ที่ปากซอย ทันใดนั้น เขารู้สึกเหมือนถูกอะไรพุ่งเข้ามาชนจากทางด้านข้างจนตัวเขาล้มคว่ำ เขาชะโงกหน้าขึ้นมอง ก็เห็นหลังคนวิ่งอยู่ไวๆ ห่างจากตัวเขาไปเรื่อยๆ สุรพันธ์ทั้งเจ็บทั้งงงว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ด้วยความสงสัยจึงมองไปทางที่คนที่ชนเขาพุ่งออกมา ด้านข้างของสุรพันธ์เป็นซอยย่อยแคบๆที่เชื่อมกับซอยหลักที่สุรพันธ์เดินผ่านทุกวันโดยไม่ได้สนใจอะไร แต่วันนี้เมื่อสุรพันธ์มองเข้าไป เขาพบร่างผู้หญิงนอนคว่ำอยู่ในซอย ลึกเข้าไปราวๆห้าเมตร ร่างนั้นท่วมไปด้วยเลือด
ด้วยความตกใจ สุรพันธ์วิ่งเข้าไปหาร่างนั้น พลิกขึ้นมาดู ดวงตาของผู้หญิงเบิกโพลง ปากอ้าออก แต่ไม่มีลมหายใจ
"ทำยังไงดีวะ ใช่ ตำรวจ ต้องแจ้งตำรวจก่อน" สุรพันธ์พูดกับตัวเองก่อนที่จะหยิบโทรศัพท์มือถือในกระเป๋าออกมาด้วยมือที่สั่นเทา ยังไม่ทันได้กดหมายเลข เขาก็ได้ยินเสียงร้องออกมาจากด้านหลัง
"ฆ่าคนตาย!! ช่วยด้วย!! ฆาตรกรฆ่าคนตาย!!" สุรพันธ์หันหลังกลับไปดูต้นเสียง เจ้าของเสียงกรีดร้องเป็นผู้หญิง ดูจากการแต่งตัวน่าจะเป็นพนักงานบริาทแห่งหนึ่งที่ต้องเดินทางไปทำงานเช่นเดียวกับสุรพันธ์ สุรพันธ์รีบลุกขึ้นพร้อมกับเดินเข้าไปหาเพื่อจะแก้ต่างให้กับตัวเอง แต่ร่างกายและเสื้อผ้าของเขาที่เปื้อนเลือดของผู้ตาย ไม่ได้ทำให้สถานการณ์ดีขึ้นเลย
"อย่าเข้ามานะ!! ฆาตกร!! ช่วยด้วย!! ใครก็ได้ช่วยที!!" หญิงสาวเจ้าของเสียงวิ่งหนีสุรพันธ์พร้อมกรีดร้อง สุรพันธ์ออกวิ่งตาม
"เดี๋ยวก่อนคุณ ฟังผมก่อน มันไม่ใช่อย่างที่คุณคิด" สุรพันธ์ตะโกน แต่หญิงสาวไม่สนใจพร้อมกับวิ่งหนีต่อไป
เวลานั้น ในซอยเริ่มมีผู้คนเดินกันขวักไขว่มากขึ้น ส่วนใหญ่จะเป็นพนักงานที่ต้องเข้าไปทำงานในตัวเมืองเช่นเดียวกับสุรพันธ์ สุรพันธ์วิ่งตามไปได้ซักพักก็ถูกกระชากจนล้มลงโดยชายรูปร่างเล็กกว่าคนหนึ่ง ชายคนนั้นกอดรัดสุรพันธ์ไว้แน่น
"จะหนีไปไหน ไอ้ฆาตกร" ชายคนนั้นตะโกนที่หูของสุรพันธ์
"ปล่อยผม ฟังผมก่อน" สุรพันธ์พูดพลางสะบัดให้หลุดพ้นจากการกอดรัด
"มืงไม่ต้องมาแก้ตัว เลือดเต็มตัวมืงแบบนี้มืงอย่ามาบอกว่ามืงไม่รู้เรื่อง"
"ปล่อยผม ปล่อยผม" ด้วยอาการสับสนปนตกใจ สุรพันธ์ใช้แรงทั้งหมดที่มี เหวี่ยงชายที่กอดรัดอยู่กระเด็นออกไปได้ ร่างของชายคนดังกล่าวกลิ้งตกจากฟุตบาทลงไปที่ถนน จังหวะพอดีกับรถที่แล่นมา รถคันนั้นแล่นทับเข้าไปที่ชายคนนั้น ล้อรถเหยียบเข้าไปตรงที่หัวจนกระโหลกแตก มันสมองสีขาวปนเหลืองทะลักออกมาพร้อมๆกับเลือดที่กระจายเต็มท้องถนน
เสียงกรีดร้องด้วยความสยองและตกใจของผู้คนรอบข้างดังขึ้น แต่ละคนต่างก็วิ่งหนีให้ห่างจากจุดเกิดเหตุอย่างรวดเร็ว เสียงตะโกน ไอ้ฆาตกร ฆ่าคนตาย ดังกึกก้องอื้ออึงไปหมด สุรพันธ์ทรุดตัวนิ่งลงกับพื้น ตัวสั่นไปทั้งตัว ตามองไปที่ร่างไร้วิญญาณของชายคนนั้น รถที่ก่อเหตุไม่แม้กระทั่งจะจอดลงมาดูผลงานของตัวเอง
สุรพันธ์นั่งอยู่ตรงที่เกิดเหตุไม่นาน เขาก็ได้สติคืนมาเพราะได้ยินเสียงหวอของรถตำรวจ
"อยู่ไม่ได้แล้ว" สุรพันธ์คิดพลางออกวิ่ง เขาเลี้ยวเข้าไปในซอยย่อยอีกซอยหนึ่งที่รถเข้าไม่ได้ แต่เขาก็ต้องหยุดเมื่อพบกับผู้หญิงคนหนึ่งยืนขวางทางอยู่
"มืงอย่าหนีไปไหน" ป้าเมียดเจ้าของเพิงขายอาหารตามสั่งประจำซอยพูดขึ้น
"กูอยู่แถวนี้มาตั้งแต่เกิดจนแก่ ไม่เคยมีเรื่องฆ่ากันตายมาก่อน มืงอย่าหวังเลยว่าถ้ามืงไม่ถูกจับแล้วกุจะปล่อยให้มืงรอดไปได้ โธ่ กูเห็นมืงมากินข้าวที่ร้านกูอยู่บ่อยๆ ลูกมีเมียมืงก็มีแล้ว ไม่นึกเลยว่ามืงจะเป็นฆาตกร"
"ไม่ใช่นะป้า ฟังผมก่อน ผมไม่ได้ทำ" สุรพันธ์พยายามอธิบาย
"มืงอย่ามาโกหก กูเห็นด้วยตาของกูเนี่ย ว่ามืงผลักคนให้ถูกรถทับ"
"มันเป็นอุบัติเหตุป้า ผมไม่ได้ตั้งใจ ผมไม่ใช่..."
สุรพันธ์ได้ยินเสียงคนจากด้านหลัง เขาจึงตัดสินใจไม่ต่อล้อต่อเถียงกับป้าเมียดอีก พร้อมกับพยายามวิ่งฝ่าไป ป้าเมียดคว้าเอวเขาไว้ได้
"มืงจะไปไหน กูไม่ให้มืงไป ตำรวจ ทางนี้!! ไอ้ฆาตกรมันอยู่ทางนี้!!" ป้าเมียดตะโกนด้วยเสียงอันดัง
"ปล่อยผมนะป้า อย่ามาขวางผม" สุรพันธ์พยายามสะบัดให้พ้นจากการกอดของป้าเมียด จนในที่สุดป้าเมียดถูกสุรพันธ์เหวี่ยงออกจนล้มหัวกระแทกพื้น สุรพันธ์เกือบจะออกวิ่งต่อถ้าไม่ได้เห็นเลือดที่ไหลออกมาจากหัวป้าเมียดทางด้านหลังที่ดูเหมือนท่อประปาท่อเล็กๆแตก เขารีบช้อนตัวป้าเมียดขึ้นมา ตาของหญิงชราเบิกกว้างแต่เลื่อนลอย ไม่มีสัมผัสของการมีชีวิตเหลืออยู่ ตรงพื้นด้านหลังของหัว มีก้อนหินขนาดเท่าสองกำปั้นวางอยู่ที่พื้น เลือดอาบก้อนหินทั้งสองก้อนนั้น
"นั่นไง มันอยู่นั่น" สุรพันธ์มองกลับไปด้านหลัง พบตำรวจสามนายชี้มือมาทางเขาพร้มกับพูดขึ้น สุรพันธ์ทิ้งร่างของป้าเมียดไว้กับพื้น วิ่งต่อเข้าซอยลึกไปเรื่อยๆ ไอ้เด่น หลานป้าเมียด เดินออกมาตามป้าที่หายไปนาน ในมือของมันถือมีดทำครัวอยู่ ด้วยความที่มันไม่ได้มอง กับสุรพันธ์ที่วิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิต ทำให้คนทั้งสองชนกันอย่างจัง ทันทีที่ได้สติ สุรพันธ์เหลือบมองไปด้านหลัง เห็นตำรวจทั้งสามนายใกล้เข้ามาเรื่อยๆ เขาไม่ต้องคิดอะไรมากนอกจากคว้ามีดทำครัวของไอ้เด่นที่ตกอยู่ข้างตัวขึ้นมา ล็อคคอไอ้เด่นที่ยังตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นเอาไว้ พร้อมกับเอามีดจ่อไปที่คอ ตำรวจทั้งสามนายหยุดนิ่ง
"ใจเย็นๆก่อนนะคุณ มีอะไรค่อยพูดค่อยจากันได้ ทิ้งมีดลงก่อน" ตำรวจนายหนึ่งพยายามไกล่เกลี่ย
"ใจเย็นเหรอ!! จะให้ผมใจเย็นอีกเหรอ!! ผมบอกว่าผมไม่ได้ทำ ผมไม่ได้ฆ่าคนตาย มีใครเชื่อผมบ้างมั้ย ผู้หญิงคนนั้นผมตั้งใจจะเข้าไปช่วยเธอ ส่วนผู้ชายคนนั้นมันเป็นอุบัติเหตุ คุณเข้าใจมั้ย มันเป็นอุบัติเหตุ!!"
"วางมีดลงก่อนนะคุณ เชื่อผม แล้วเราค่อยมาคุยกันว่ามันเกิดอะไรขึ้น"
"คุยเหรอ คุยแล้วจะได้อะไร คนในซอยทั้งซอยตะโกนเรียกผมว่าฆาตกรแบบนี้น่ะ ไม่มีซักคนเดียวที่บอกว่าผมไม่ได้ทำ มันเป็นอุบัติเหตุ แล้วแบบนี้ยังจะมีอะไรให้ผมพูดได้อีกเหรอ!!!"
"ถ้าคุณไม่ได้ทำ เราก็ไปพิสูจน์ด้วยขั้นตอนของกฎหมายสิ คุณเข้าใจมั้ย คุณทำแบบนี้ไปมันก็ไม่มีอะไรดขึ้นมา เชื่อผมนะ ทิ้งมีดซะก่อน" ตำรวจนายหนึ่งพูดพลางค่อยๆเดินเข้ามาหาสุรพันธ์
"อย่าเข้ามานะ อย่า!!!" ด้วยสถานการณ์ที่กดดันกับความรู้สึกที่สับสบกับเหตุการ์ที่เกิดขึ้นมาตลอดของสุรพันธ์ทำให้แขนของเขากระตุกขึ้นมาเองโดยไม่ได้ตั้งใจ มีดทำครัวที่ใหญ่และคบกริบ ปาดเข้าที่คอของไอ้เด่น เลือดพุ่งกระฉูดออกมาเป็นสาย พร้อมๆกับร่างของไอ้เด่นที่ค่อยๆทรุดฉวบลง ตำรวจทั้งสามนายตกใจจนทำอะไรไม่ถูก รวมไปถึงสุรพันธ์
"ไม่... ไม่ใช่... ผมไม่ได้จะฆ่า.... ผมไม่ได้ทำ..... " สุรพันธ์พูดขึ้นช้าๆ เขาเงยหน้าขึ้นมองไปที่ตำรวจทั้งสามอย่างเลื่อนลอย แต่แล้วจู่ๆตาของสุรพันธ์ก็เบิกโพลงขึ้น
"ไม่!!!!!" สุรพันธ์ตะโกนออกมาพร้อมกับวิ่งเข้าใส่ตำรวจทั้งสมนาย ในมือของเขายังกำมีดไว้แน่น
เสียงปืนหลายนัดดังคำรามลั่นทั่วซอย
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
วันต่อมา
"เฮ้ย อ๊อด อ่านข่าวนี้ยังวะ ระวังนะ เห็นเอ็งเครียดเรื่องงานบ่อยๆ เดี๋ยวจะกลายเป็นแบบนี้เข้า" ต้อง เพื่อนร่วมงานของผมพูดขึ้นพร้อมกับวางหนังสือพิมพ์ลงตรงหน้าผมแล้วเดินกลับไปที่โต๊ะของเขา
ผมหยิบหนังสือพิมพ์ขึ้นมาอ่านรายละเอียดของข่าวหน้าหนึ่งที่พาดหัวเอาไว้
"โปรแกรมเมอร์หนุ่มเครียด คลั่งไล่ฆ่าคน ตำรวจวิสามัญดับ"
ผมอ่านอยู่ซักพักจึงค่อยวางหนังสือพิมพ์ลงแล้วทำงานต่อโดยที่ไม่ได้สนใจข่าวนั้นอีกต่อไป
จากคุณ :
พันธุ์หมาบ้า
- [
24 ก.ค. 51 23:21:15
]