ความคิดเห็นที่ 12
(4) เพราะฉะนั้น ผมอยากจะเสนอว่า ให้คุณออมสินทำใจ "มองข้าม" ข้อความช่วงต้นในกระทู้ของคุณพระนายไปก่อน แล้วหันมาคุยกันที่ ประเด็นที่คนในถนนฯ รอฟังอยู่
คุณปิยะรักษ์ได้เสนอแก่คุณพระนายฯ ไว้ในกระทู้นู้น คคห 24 ว่าให้ ช่วยแยกแยะประเด็นเปรียบเทียบมา เพื่อให้ผู้ชมรอบนอกเห็นภาพชัด เจนยิ่งขึ้น ว่าตรงไหนที่คุณพระนายฯ เห็นว่าเหมือน และเพื่อให้คุณ ออมสินอธิบายได้ง่ายยิ่งขึ้น และตรงกับข้อสงสัย คนอื่นก็จะได้ช่วยกัน ทำความเข้าใจด้วย
คุณพระนายได้ตอบไว้แล้ว ใน คคห 26 กระทู้นู้น ส่วนรายละเอียด เปรียบเทียบกันเป็นช่วงๆ คุณพระนายฯ ได้แสดงไว้ใน คคห 3, 9, 17, 18, 21 และ 22
อยากย้ำกับคุณออมสินว่า การชี้ประเด็นใน คคห 26 และการคัดข้อความ มาเปรียบเทียบกันในหลายความเห็นข้างต้นของคุณพระนายฯ นี้ เป็น แนวปฏิบัติที่ใช้กันเป็นมาตรฐาน เมื่อเกิดกรณีคำถามแบบนี้ขึ้น ทั้งที่ ถนนฯ นี้ และในห้องสมุด พันทิป ไม่ได้แสดงถึงเจตนาที่จะ "ฆ่า" กัน แต่อย่างใด
และคนอ่านในถนนฯ ก็คุ้นเคยกับการแยกแยะประเด็น และการเปรียบ เทียบข้อความย่อหน้าต่อย่อหน้าแบบนี้ดี (ทำมาแล้วหลายครั้ง)
(5) ส่วนคำชี้แจงของคุณออมสินเอง ในช่องสีฟ้าหัวกระทู้นี้ ผมคงต้อง เรียนให้ทราบว่า มันยังคลุมเครือ และไม่ตอบอะไรให้ชัดเจนครับ มัน เลือนลางไป คนถนนฯ ยังรอให้คุณออมสินอธิบายให้ชัดเจนกว่านี้อีก
วิธีอธิบายก็อย่างที่บอกข้างต้น เปิดดูประเด็นใน คคห 26 ของคุณ พระนายฯ แล้วตอบทีละประเด็น ว่าคุณออมสินคิดเห็นอย่างไร มีอันไหน ที่บังเอิญเหมือนกัน และมีอันไหนที่คุณออมสินศึกษาจากงานเขียนของ คุณพระนาย หรือหยิบมาใช้บ้างหรือเปล่า
ข้อความที่เปรียบเทียบกันใน คคห 3, 9, 17, 18, 21 และ 22 ก็เป็น ประโยชน์ครับ ถ้าคุณออมสินชี้ให้เห็นได้ว่า ข้อความที่ยกมาเทียบกัน ไม่ได้เหมือนกันในสาระสำคัญ หรือกลวิธีการเล่าใดๆ เลย คู่นั้นก็เป็น อันตกไป แต่ถ้ามันมีส่วนคล้ายกันจริงๆ คุณออมสินก็น่าจะอธิบายว่า มันบังเอิญคล้ายกัน หรือว่าเกิดจากสาเหตุอะไร
เมื่อคุณออมสินออกมาชี้แจงให้เป็นประเด็นชัดเจนแล้ว คนอ่านก็จะ สามารถรวบรวมข้อมูล และพิจารณาได้ ว่างานของคุณออมสิน ไปคล้าย กับงานของคุณพระนายฯ จริงหรือเปล่า คล้ายแค่ไหน น่าจะเป็นเพราะ อะไร
แต่ถ้าคุณออมสินไม่ออกมาชี้แจง ในประเด็น ถึงจะบอกเล่า มูลเหตุที่แท้จริง ซึ่งเป็นเรื่องส่วนตัวของคนสองคน คนถนนฯ ก็เอามา ใช้ในการพิจารณางานเขียนไม่ได้ครับ
ตรงนี้ เราพูดกันถึงเรื่อง "มารยาทและจรรยาบรรณ" ของคนเขียนงาน และเราสนใจวิเคราะห์กันที่ประเด็นตัวงานนะครับ
(ไม่ใช่ว่าเพื่อนร่วมถนนฯ จะไม่ห่วงความรู้สึกกัน แต่นั่นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ที่ต้องดูแลไปพร้อมๆ กัน ไม่ใช่มัวแต่ดูแลความรู้สึกกัน จนไม่ได้คำตอบ ในคำถามที่เป็นสาระสำคัญนะครับ)
ผมใช้เวลาหนึ่งชั่วโมงเขียนเมลตอบคุณออมสินเมื่อคืน และอีกชั่วโมง เขียนความคิดเห็นนี้ คุณออมสินเคยบอกว่าเห็นผมเป็นเพื่อนร่วมทาง คนหนึ่ง ผมอยากบอกว่า ที่ผมเขียนมายืดยาว และอาจจะดูเหมือน จุ้นจ้านสั่งสอนโดยไม่ได้ร้องขอนี้ ไม่ใช่เพราะผมอายุมากกว่า ไม่ใช่ เพราะผมอยู่ที่นี่มานานกว่า หรือเขียนหนังสือมานานกว่า
แต่เป็นเพราะผมมองตัวเองเป็นเพื่อนของคนเขียนหนังสือที่นี่ เป็นเพื่อน ของคุณออมสิน เป็นเพื่อนของคุณพระนายฯ เมื่อมีประเด็นคำถาม ระหว่างเพื่อน ผมก็อยากเห็นการพูดคุยให้เข้าใจกัน ไม่มีข้อกังขา โดยเฉพาะในเรื่องงานเขียน
สำหรับในเรื่องส่วนตัว ผมก็หวังอยู่ว่า เมื่อคุณออมสินอารมณ์เย็นลง และพร้อมที่จะเปิดรับข้อมูล และตีความข้อมูลอย่างเอาใจเขามาใส่ใจ เรามากขึ้นแล้ว บางทีคุณออมสินกับคุณพระนายฯ อาจจะเข้าใจผิดกัน ไปเอง และอาจจะมีทางปรับความเข้าใจกันในเรื่องส่วนตัวได้ด้วย นอก เหนือจากประเด็นงานเขียนที่รอการอธิบายอยู่
คนเป็นเพื่อนกันทะเลาะกันบ้าง เป็นเรื่องธรรมดาครับ แต่เมื่อทะเลาะ กันแล้ว ถ้าแต่ละฝ่ายละอารมณ์แล้วหันมาทำความเข้าใจกันได้ มิตรภาพ นั้นจะยิ่งเติบโตครับ
ด้วยความปรารถนาดีของเพื่อนร่วมทางอีกคนนะครับ
จากคุณ :
คุณพีทคุง (พิธันดร)
- [
26 ก.ค. 51 22:24:47
]
|
|
|