Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    เรื่องเล่าขำๆจากต่างแดน ตอน ....บ้านนอกเข้ากรุง

    ช่วงนี้อากาศที่ประเทศอังกฤษร้อนอบอ้าว ติดต่อกันมาหลายวันแล้วค่ะ   ร้อนๆอย่างนี้ทั้งคนไข้และพยาบาล อาจจะเพี้ยนขึ้นมาพร้อมๆกันก็ได้นะคะ

    หลังจากที่เอาเรื่องของคนไข้และเพื่อนร่วมงานมาชื่นชมพอสมควรแล้ว จากกระทู้ก่อนๆ  ถ้าไม่พูดถึงเรื่องของตัวเองเลยก็กระไรอยู่  ใครเขาจะเชื่อว่าพยาบาลไทย บ้านนอกอย่างดิฉันจะดีพร้อมขนาดไม่มีเรื่องหน้าแตก เปิ่น เชยมาเล่าสู่กันฟังบ้าง  และเรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้เกิดขึ้นตั้งแต่อาทิตย์แรกที่ทำงานเป็นพยาบาลฝึกหัดของอังกฤษค่ะ

    โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยแห่งนี้ มีคนไข้เยอะมาก  แต่ละตึกก็ไม่ต่ำกว่า 40 คนทุกวัน ที่นอนพักรักษาตัว  ตึกที่รับดิฉันทำงานครั้งแรกในชีวิตที่นี่ คือ ตึก ศัลยกรรมโรคเส้นเลือด ( Vascular Unit) คนไข้ส่วนใหญ่ช่วยเหลือตัวเองได้บ้าง แต่เน้นหนักเรื่องนอนพักบนเตียง  

    วันหนึ่งขณะที่ดิฉันกำลังให้การดูแล Mr. Woods คนไข้ผู้ชาย  อายุราวๆ 60 ปี คนหนึ่ง ซึ่งป่วยด้วยโรค  Legs ulcer  ทำให้ขามีแผลเนื้อตายเขียวดำ เนื่องจากการขาดเลือดมาเลี้ยง   คุณลุงคนนี้ต้องนอนพักบนเตียง และทำแผลทุกวัน

    “  Nurse , I want to wee , could you please help me”  คนไข้ถามขณะที่ดิฉันเดินผ่าน

    จากป้ายปลายเตียง  “ Bed Rest Only ” ทำให้ดิฉันรู้ว่า Mr. Woods  ไม่สามารถเดินไปเข้าห้องน้ำเพื่อถ่ายปัสสาวะเองได้ ดิฉันจึงถามว่า

    “ Would you like me to get you a bottle ”

    ดิฉันถามคุณลุงเพื่อความมั่นใจว่าแกจะใช้กะเปาะใส่ปัสสาวะหรือไม่  เพราะบางครั้งคนไข้อาจจะอยากใช้ commode (โถส้วมเคลื่อนที่) แทนก็ได้

    “ I don’t need a bottom , why do I need it, I got one myself ”

    Mr. Woods ตอบมาว่า แก ไม่ต้องการ "ก้น" เพราะแกมีก้นของแกเองอยู่แล้ว

    ดิฉันอดขำไม่ได้กับคำตอบของคนไข้ ซึ่งอาจจะเป็น เพราะแกได้ยินไม่ชัด หรือ อาจจะเป็นเพราะสำเนียงภาษาอังกฤษของดิฉันแย่เกินไป ก็อาจเป็นได้  ทำให้แก เข้าใจผิด คิดว่าดิฉันจะไปเอา “ ก้น” มาให้ให้แก

    “ ์No, I meant….a bottle for your wee wee ”

    ดิฉันพูดซ้ำ คำเดิมกับแก  พยายามออกเสียงให้ชัดที่สุด เท่าที่จะทำได้

    " I don't need a bottom "  แกยืนยันคำเดิม

    " Not Bottom, I said.. bottle " ดิฉันพยายามอธิบาย

    “............”    

    Mr. Woods    มองหน้าดิฉันอย่าง งงๆ พร้อมทั้งหันไปถามคนไข้ผู้ชายเตียงใกล้ๆว่าดิฉันพูดว่าอะไร

    “ What did the nurse say ”

    “ She asked if you want ้a bottle ”  

    คนไข้อีกคน วัย 40 ปี บอกกับแกว่า จะเอากะเปาะใส่ปัสสาวะหรือไม่ พยาบาลจะไปหยิบให้

    “ Oh   yes,  please ”  

    คุณลุงหันมาตอบพร้อมทั้งหัวเราะ อย่างถูกอกถูกใจทีแกหลงเข้าใจผิดดิฉันในตอนแรก

    ดิฉันยิ้มให้แก พร้อมทั้งกล่าวขอบคุณคนไข้คนนั้น ที่ช่วยแก้ไขปัญหา ให้  มิฉะนั้น คงต้องอธิบายกันเรื่อง “ ก้น”  ที่แกเข้าใจผิด กันอีกนาน และเผลอๆ แกอาจจะปัสสาวะรดที่นอนแทน ก็เป็นได้ กว่าจะพูดกันรู้เรื่อง

    ขณะที่ดิฉันเดินผ่านหน้าเคาท์เตอร์พยาบาล ไปยังห้องน้ำเพื่อหยิบขวดที่ว่า  พยาบาลรุ่นพี่คนหนึ่งถามดิฉันว่า

    “ Where are you going ”

    “ I am going to get a bottle for one of my patients ”

    ดิฉันตอบว่าจะไปหยิบกะเปาะถ่ายปัสสาวะให้คนไข้คนหนึ่ง

    พยาบาลคนนั้นมองหน้าดิฉันแบบ งง ยกกำลังสอง พร้อมทั้งถามว่า

    “ What do you mean ? Get a bottom ??????? ”

    อีกแล้วหรือนี่ ???  ทำไมภาษาดิฉันมันเพี้ยนได้ขนาดนี้ ดิฉันเดินไปหยิบ   BOTTLE  (ขวดใส่ฉี่) ที่ไม่ใช่ BOTTOM ( “ ก้น” ของใครก็ไม่รู้)  มาส่งให้เธอดู  พยาบาลรุ่นพี่คนนั้นหัวเราะกับเพื่อนอีกคนอย่างฝืนเอาไว้ไม่ได้  ............

    ในขณะที่ดิฉันเดินเอาเจ้าสิ่งนั้นไปให้คนไข้  อย่างเซ็งๆ ในความสามารถด้านภาษาของตัวเอง

    กลับถึงบ้านตอนเย็น พยายามฝึก ออกเสียง Bottle กับ Bottom อยู่หลายสิบรอบ
    เหมือนคนบ้าก็ว่าได้


    ..................

    ยัง......................ยังไม่จบเพียงแค่นั้น  ถ้าเรื่องหน้าแตก....มีเพียงแค่นี้ ก็คงไม่ใช่ พยาบาลหลังเขาที่ ทะเยอทะยาน สมองไหล มาทำงานเมืองนอก อย่างดิฉันแน่นอนค่ะ

    หลังจากผ่านเรื่อง “ ขวด” กับ “ ก้น” มาได้ไม่กี่วัน  เหตุการณ์ที่หนักกว่าเดิม ก็เกิดขึ้น  ขณะที่ดิฉัน ช่วยตามคณะแพทย์ราวด์คนไข้ในช่วงเช้าตรู่วันหนึ่ง ก่อนที่จะลงเวรดึก  

    Mr.   Trent  วัย  43 ปี  เป็นคนไข้รับใหม่ในเวรดึกของดิฉัน

    คนไข้ผู้ชายรายนี้ มีแผลที่เกิดจากภาวะการขาดเลือดไปเลี้ยง หรือ  Ischemia เช่นเดียวกับคนไข้คนอื่นๆในตึก  อีกทั้งเกิดการติดเชื้อที่แผลร่วมด้วย  

    เนื่องจากหมอประจำบ้าน และ หมอเฉพาะทางยังไม่เคยเจอคนไข้มาก่อน ทำให้ ดิฉันต้องรายงานอาการของคนไข้ ให้กลุ่มหมอที่มาเยี่ยมรับทราบ

    ขณะที่ดิฉันเล่ารายละเอียดต่างๆอยู่นั้น  อาจารย์หมอถามว่า

    “ How is the wound , can I have a look ”  

    หลังจากที่ดิฉันเปิดแผลให้กลุ่มหมอที่มาเยี่ยมไข้ดู  หมอคนหนึ่งพูดขึ้นว่า

    “ It doesn’t look that bad …I don’t think it is infected ”

    หมอประจำบ้านคนหนึ่งพูดแย้งขึ้นว่า ลักษณะของแผลที่เห็น ไม่น่าจะติดเชื้อ ขณะที่หมอคนอื่นๆกำลังคิดว่าควรจะให้ยาปฏิชีวนะร่วมกับการทำแผลด้วย

    ดิฉันได้ยินดังนั้นจึงพูดขึ้นว่า

    “  He didn’t have any temperature this morning , but he did last night .. He was really hot in bed  when I got him in at  11.00   pm

    ทุกคนหัวเราะขึ้นพร้อมๆกัน รวมทั้งคนไข้ เมื่อได้ยินพยาบาลต่างชาติมือใหม่ รายงานอาการจบ

    ดิฉันก็สงสัยตัวเองว่า พูดอะไรผิดเพี้ยนไปอีกแล้วนะ  ทั้งๆที่พยายามอธิบายเพื่อสนับสนุนอาการว่า แผลคนไข้น่าจะติดเชื้อจริง เพราะมีไข้ร่วมด้วยตอนแรกรับเข้ามาไว้ที่ตึก

    ดิฉันมองหน้าคนโน้นที คนนี้ที ด้วยหน้าตาเด๋อด๋าสุดๆ  ก็จะอะไรอีกล่ะ  ถ้าไม่ใช่เพราะภาษาอังกฤษของดิฉันวิบัติอีกแล้ว

    ประโยคที่เรียกเสียงหัวเราะ ( แถมเวทนาด้วยหรือเปล่าก็ไม่รู้) จากทุกคนก็คือ

    “ He was really hot in bed ”

    ก็ประโยคที่ว่านี้ ถ้าแปลดีๆ แล้วมันหมายถึง  อุณหภูมิความร้อน บนเตียง ที่ส่อไปในทางอย่างว่า..
    เสียมากกว่า  แถมดิฉันยังยืนยันด้วยอีกว่า  when I got him in at 11.00 pm
    (ขณะที่ดิฉันรับคนไข้ผู้ชายรายนี้ไว้เมื่อเวลา 5 ทุ่ม เมื่อคืนนี้)

    แปลรวมๆแล้วคือ  คนไข้ผู้ชายรายนี้ ร้อนมาก (ขณะที่นอน) บนเตียงเมื่อคืนนี้ ตอนที่ดิฉันรับเขาไว้ในการดูแล เมื่อ เวลา 23.00 น.

    เรื่องภาษาเพี้ยนๆ สร้างความอับอายขายหน้าให้ดิฉัน มีอยู่แทบทุกวันในช่วงนั้น   จะว่าไปแล้ว ก็เหมือน เด็กบ้านนอกเข้ากรุง  แต่ที่อาการมันเปิ่น เฉิ่มกว่าหลายเท่านัก  เพราะมันเป็น กรุงลอนดอน เจ้าค่ะ  ก็ภาษาอังกฤษไม่ใช่ภาษาที่แม่หัดให้พูดตั้งแต่เล็กๆนี่นา....

    รู้อย่างนี้แล้ว...ไปบอกใครที่ไหนเขาจะเชื่อว่า....ทุกคนที่จะมาเป็นพยาบาลที่อังกฤษ ต้องผ่านการสอบ IELTS  คะแนน  7.0  มาก่อน....เฮ้ออออ

    แก้ไขเมื่อ 28 ก.ค. 51 04:06:04

    แก้ไขเมื่อ 28 ก.ค. 51 03:55:08

    จากคุณ : teansri - [ 28 ก.ค. 51 03:36:21 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom