กานต์ ดาวเต็มฟ้าเลยอยากให้ได้เห็นจัง
จิราอยู่ไหน โทร.หาสองสามครั้งทำไมไม่ติด ที่ร้านก็ไม่แวะมา แล้วนี่โทร.มาจากไหน ดาวที่ไหนเต็มฟ้า
โห
ถามซะยาว ตอนนี้นอนดูดาวอยู่บนดอยที่สูงเป็นอันดับสองของประเทศนะ รู้ปะที่ไหน ติ๊กตอก ติ๊กตอก
ผิดค้าบ
อ้าวยังไม่ตอบเหรอ รู้ปะๆ ฉันนอนหัวเราะล้อกานต์เล่น
ไม่รู้ บอกมาเลยยัยเบอะ
ดอยฟ้าฮ่มปก หรือดอยผ้าห่มปกไง อยู่ที่อำเภอฝาง อุทยานแห่งชาติแม่ฝาง เคยมายัง ยังล่ะซี้ อุ๊ยๆๆๆ
ดาวตกๆ ว้า!ยังไม่ทันได้อธิษฐานเลย ว้าๆๆ
หา..ดอยผ้าห่มปก ไปกับใคร ยังไง จิรา
อย่าทำเสียงอย่างนั้นสิกานต์ เดี๋ยวคิดนะ คนยิ่งกำลังโลนลี่อยู่นะ เดี๋ยวเถอะเดี๋ยวคิดจริงๆด้วย
เสียงกานต์จุ๊ปาก
อุ๊ยๆๆดาวตก ขอให้โลกสงบสุข ขอให้คนไทยรักกัน เพี๊ยง หลังคำอธิษฐาน ฉันได้ยินเสียงใครสองสามคนทำเสียงโอ๊กอ๊าก และตามมาด้วยเสียงหัวเราะสนุกสนาน ฉันคงอธิษฐานเสียงดังไปหน่อยหลายคนคงอิจฉา
ไปกันหลายคนเหรอได้ยินเสียงหัวเราะ ไม่ชวนเลยนะจิรา
ไม่มีแผนไงกานต์ อยากมาก็มาเลยชวนไม่ทันขอโทษนะกานต์กานต์ พอดีเจอกลุ่มนักท่องเที่ยวกลุ่มนึง
มีอยู่สักสิบคนน่าจะได้ ทุกคนน่ารักมาก
แล้วไปเจอกับเขาได้ไง
ขับรถมาไงจอดไว้ข้างล่างแล้วก็ขอเกาะขึ้นมา
โถ กานต์จะห่วงอะไรนักหนา พรุ่งนี้เย็นๆก็กลับแล้วนะ พรุ่งนี้จะต้องตื่นแต่เช้าจะไปเก็บตะวันบนยอดดอยโน่น ต้องนอนแล้วนะกานต์ พรุ่งนี้จะโทร.หาอีกละกันนะ ฝากจุ๊บแก้มคุณทศทีนึง ห้ามเกินนี้นะ อิอิ
แล้วฉันก็ตัดสายไม่ปล่อยโอกาสให้กานต์ถามอีก ตั้งนาฬิกาปลุกไว้ตอนตีสามตามที่เพื่อนใหม่ที่เกาะมาด้วยบอก ไหว้พระไหว้เจ้าป่าเจ้าเขา ซุกตัวเข้าถุงนอนนอนอุ่นๆในคืนที่หนาวเย็น
ใครนะใครถึงได้เข้าใจมาตั้งชื่อ ม่อนวัดใจ เส้นทางเดินขึ้นเขาเส้นนี้ ม่อนวัดใจ ถ้าใจไม่ถึงก็ถอยกลับไปซะเถิด เดินมาแค่ไม่กี่สิบเมตร ฉันก็หอบลิ้นห้อยเส้นทางมืดๆ มีสองสามคนเดินนำอยู่ข้างหน้า และมีคนอีกสี่ห้าคนกำลังเดินตามมาข้างหลัง คิดถึงกานต์กับคุณทศจัง ถ้าสองคนหรือคนใดคนหนึ่งมาด้วยก็คงจะดี คงไม่เหงาอย่างนี้
นี่ฉันตัดสินใจผิดอีกแล้วรึไงนะยัยจิรา
หลังจากที่โดนแสนบอกเลิก ชีวิตของฉันก็ดำเนินไปตามปกติ มีขาดๆเกินๆบ้างเช่น ต้องทานข้าวคนเดียว ดูหนังคนเดียว บ่นคนเดียว แต่จะว่าไปกิจกรรมที่ว่ามาก่อนหน้านั้นก็เป็นอย่างนี้ น่าขำ คบกันกับแสนยังไงทำมั้ยทำไม ชีวิตมันไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงทั้งก่อนและหลัง
..
มืดตึ๊ดตื๋อเลย พอเดินขึ้นมาถึงข้างบนมองไปที่ไหนก็มืด ต้นไม้ใหญ่ปกคลุมไปทั่ว สามคนที่เดินออกก่อน หายไปตรงโค้งข้างหน้า ฉันหยุดยืนพักเหนื่อยและลังเลว่าจะเดินไปยังไงดี รอกลุ่มข้างหลังก่อนดีกว่า หันกลับมองไปด้านหลังก็ทำเอาใจหายวูบก็จู่ๆก็มีคนยืนอยู่ข้างหลัง
มาเมื่อไหร่ไม่รู้เงียบเชียว
ช่วยแบกเป้มั้ยครับ
ไม่เป็นไรค่ะขอบคุณ เป้ไม่หนักแต่คนน่ะ..เหนื่อย ฉันยิ้มให้ความมีน้ำใจของเขา จะมองเห็นรึเปล่าไม่รู้สิก็มันมืด
รอกลุ่มหลังก่อนก็ได้ หรือจะเดินต่อ เดินตามทางไม่หลง แต่อาจจะหลอนนิดหน่อยเพราะมืด
ฟังเขาว่าสินั่น แล้วฉันจะกล้ามั้ยเนี่ย ทำหน้าเริ่ดเชิดไว้
เหรอคะ งั้นฉันค่อยๆเดินไปก่อนละกัน เพราะฉันเดินช้า เดี๋ยวกลุ่มข้างหลังก็ตามทัน
ฉันส่องไฟฉายนำทางแล้วออกเดินต่อ เดินไปสักพักมีเสียงสัตว์และแมลงกลางคืนร้อง ฉันตกใจเลยต้องหยุดยืน เดินถอยหลังสองสามก้าวและชนเข้ากับใครบางคนที่เดินตามหลังมา ได้ยินเสียงหัวเราะอยู่ข้างหลัง หึ หึ พอหันกลับไปดูก็เจอผู้ชายคนเมื่อกี้ยืนอยู่ คนอะไรตัวก็ออกจะโตแต่เดินเบายังกับผี เฮ้ย..หรือจะไม่ใช่คน คิดเลอะเทอะไปได้ขนาดนั้นยัยจิรา เฮ้อ..ยัยจิราคิดอะไรเนี่ย
มาเถอะเดี๋ยวผมเดินนำ เขาว่าแล้วส่องไฟฉายเดินนำ ฉันมองไปข้างหลังเห็นลำแสงของไฟฉายหลายลำ
เสียงพูดคุยแว่วมาให้ได้ยิน
สิครับ เดี๋ยวไม่ทันดูแสงแรกของวันนะ เขาหันกลับมาเรียกเมื่อฉันยังไม่เดินตาม
ฉันจึงฉายไฟส่องทางและเดินตามหลังเขาไป มีเสียงอะไรสักอย่างร้องขึ้นนั่นทำให้ฉันรีบก้าวตามเขา
ระวังรากไม้นะครับ ระวังหัว หนามนะครับ เสียงบอกระวังนั่นนี่อยู่ตลอดเวลา
ยิ่งเดินยิ่งสูง ยิ่งสูงยิ่งหนาว ยิ่งสูงยิ่งเหนื่อย สาบานได้ว่าพยายามหายใจเบาๆแล้วแต่มันก็หอบดังจนคนเดินนำหน้าได้ยิน ก็เร่งเดินตามคนขายาวนั่นทำให้ฉันเหนื่อยมากๆ และเขาคงได้ยินเสียงหอบหายใจจึงหยุดพักและหันมาบอกกับฉันว่า พักก่อนก็ได้ครับพ้นดงไม้ข้างหน้าจะถึงที่โล่งแล้ว และเราจะเริ่มมองเห็นแสงรำไรบ้างแล้วล่ะ ฉันหยุดพักกำลังจะยกน้ำขึ้นมาดื่มนึกขึ้นได้จึงยื่นส่งให้เขาก่อนแต่เขาปฏิเสธ ท่าทางเหมือนไม่เหนื่อยเลย
คุณเหนื่อยมั้ย เสียงถามขาดห้วง
เขาหัวเราะหึ หึ ในคอ นิดหน่อยครับ ฉันพยักหน้าบอกเขาว่าไปต่อได้ เขาจึงเดินนำ
พอพ้นดงไม้ก็เจอที่โล่งไม่กว้างเลย เป็นต้นหญ้าต้นใหญ่ๆ ท้องฟ้าเบื้องบนเริ่มมีแสงสว่างบ้างแล้ว เขาเดินนำขึ้นไปอีกไม่กี่เมตรก็ถึงที่หมาย จุดสูงสุดของยอดเขา จุดชมพระอาทิตย์และทะเลหมอก มีป้ายที่เจ้าหน้าที่ปักไว้เป็นหลักฐาน เราเจอสามคนที่เดินออกก่อน หลังจากทักทายกัน
เขาเดินสำรวจสันเขารอบๆและเลือกพื้นที่ที่จะนั่งชมพระอาทิตย์ได้อย่างชัดเจนและเดินมาเรียกให้ฉันนั่งพัก เขาดึงผ้ายางผืนไม่ใหญ่มากพอนั่งได้สองสามคนออกมาปูและชวนฉันนั่ง ถึงเวลานี้ไม่มีอิดออด เหนื่อยจะแย่อยู่แล้ว เราดับไฟฉาย ลง เพราะเริ่มมีแสงสว่างบ้างแล้วแม้จะไม่ชัด ตีห้าครึ่ง พรายน้ำบนหน้าปัดนาฬิกาบอกอย่างนั้น
บนท้องฟ้ายังมีดาวบางดวงกระพริบ ดาวประจำเมืองสุกใส เสียงลมพัดใบไม้คล้ายเสียงดนตรี
เสียงเฮของนักท่องเที่ยวที่ตามมา แต่ละคนต่างก็เดินหามุมนั่งพักรอชื่นชมการแสดงแสงสีของธรรมชาติ
เสียงพูดคุยกันเบาๆ ฉันกับเขาเรานั่งกันเงียบๆฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาชื่ออะไร ไม่บอกก็ไม่ถามล่ะนะ ถึงแม้จะอยากรู้ก็ตาม ฉันเปิดเป้หยิบกระติกเก็บความร้อนที่ชงกาแฟใส่เมื่อเช้ามืด ไม่สิเมื่อตอนตีสามออกมา
รินกาแฟใส่ในฝากระติกและยื่นให้เขา เขามองหน้าก่อนยิ้มออกมาและเปิดเป้หยิบกระติกออกมาเหมือนกัน แปลได้ว่าต่างคนต่างพกมา กลิ่นกาแฟหอมๆกาแฟร้อนๆที่ตอนนี้ช่วยให้บรรยากาศเย็น อุ่นขึ้น
เราต่างนั่งกันเงียบๆ คนแปลกหน้าไม่มีเรื่องราวใดๆจะพูด
บนเทือกเขาผีปันน้ำ ผู้คนหนึ่งหยิบมือนั่งเฝ้ารอการแสดงของธรรมชาติ มีแสงสีแดงระเรื่อที่ปลายฟ้า
มีปุยนุ่นหนาล่องลอยไปมา แสงสีส้มแสดแดงค่อยๆกระจ่างตา อยากจะเป็นนักกวี อยากจะเป็นนักเขียน
จะเก็บความงดงามเหล่านี้ไปฝากกานต์กับคุณทศ กล้องเล็กๆของฉันถูกหยิบขึ้นมากดเก็บความงดงามไว้
ฉันยิ้มให้ความงามที่เห็นเบื้องหน้า
สวยจัง
ใช่ สวยจัง คนที่นั่งอยู่ข้างๆเอ่ยขึ้นเบาๆ ฉันหันหน้าไปมองเขาก็พบว่าเขามองจ้องอยู่ก่อนแล้ว
ใบหน้าของฉันยังคงเปื้อนยิ้ม และยังยิ้มค้างเอื้อเฟื้อไปให้เขาด้วย
จากคุณ :
สิงห์อมบ๊วย
- [
6 ส.ค. 51 22:41:19
]