คนอีกคน
เปาะ...แปะ...เปาะ...แปะ...ซ่า....!!!!!!!...
...ว้า...อุตส่าห์รีบแทบแย่ ไม่ทันเสียแล้ว ไม่ได้เอาร่มมาด้วยสิ ท้องฟ้ามืดขนาดนี้ตกอีกนานแน่ๆ เลย...
หญิงสาวยืนมองท้องฟ้ามืดครึ้มอยู่ใต้ชายคา สีหน้าเซ็งๆ บ่งบอกถึงความผิดหวังที่ตัวของเธอเองอุตส่าห์รีบทำงานและเก็บข้าวของให้เสร็จโดยเร็ว แต่สุดท้ายก็ยังไม่ทันฟ้าฝนจนได้
...จะถึงบ้านกี่โมงเนี่ย...เฮ้อ...
เอาของผมไปใช้ก็ได้ครับ
เสียงนุ่มดังมาจากด้านหลัง หญิงสาวสะดุ้งเล็กน้อยก่อนหันกลับไปยังต้นเสียงและพบกับใบหน้าอันคุ้นเคยที่ส่งยิ้มสดใสมาให้เธอ
ขอโทษทีนะครับที่ทำให้คุณตกใจ
เอ้อ...ไม่หรอกค่ะ พอดีคิดอะไรเพลินๆ อยู่นิดหน่อยเท่านั้นเอง หญิงสาวยิ้มแก้เก้อก่อนตอบกลับชายหนุ่ม
นี่ครับ...ผมยังต้องเคลียร์งานอีกพักใหญ่ๆ กว่าจะเสร็จฝนก็คงจะหยุดแล้วล่ะครับ ชายหนุ่มยื่นร่มที่อยู่ในมือให้หญิงสาว
เอ้อ... หญิงสาวมองร่มในมือก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองชายหนุ่ม
ไม่เป็นไรหรอกครับ คุณเองเถอะ ถ้าขืนยืนรออยู่อย่างนี้ ไม่รู้จะถึงบ้านกี่ทุ่ม ชายหนุ่มพูดเชิงคะยั้นคะยอ
งั้นก็...ขอบคุณนะคะ หญิงสาวยื่นมือรับร่มจากชายหนุ่มด้วยใบหน้าเกลื่อนยิ้มก่อนจะกางร่มออกแล้วเดินเข้าสู่อ้อมกอดของสายฝน
ค่อยๆ เดินนะครับ ถนนลื่น ชายหนุ่มป้องปากตะโกนไล่หลังสู้กับเสียงสายฝนที่เทกระหน่ำลงมาอย่างหนัก
หญิงสาวหันกลับมา ส่งยิ้มให้พร้อมโบกมือไหวๆ แสดงอาการรับรู้
ชายหนุ่มมองหญิงสาวค่อยๆ เดินจนกระทั่งลับตาไปก่อนจะเดินกลับเข้าอาคารสำนักงานอย่างอารมณ์ดี
....................................
นี่ๆๆ...ได้ดอกไม้อีกแล้วเหรอ
หญิงสาวหันมองตามเสียงทักทายของเพื่อนร่วมงานซึ่งกำลังทำตาโตกับดอกไม้ช่อโตที่วางอยู่บนโต๊ะทำงานของเธอ
อืมมม... หญิงสาวยิ้มเนือยๆ เป็นเชิงบอกเพื่อน น้ำเสียงไม่แสดงความรู้สึกใดๆ เป็นพิเศษ
นี่เธอ ถามจริงๆ เหอะ พี่เขาน่ะ ทั้งหล่อ ทั้งรวย สาวๆ งี้ปลื้มเขาเป็นแถวๆ...แต่ฉันเห็นเขาคอยตามจีบเธอมาตั้งนานแล้วนะ ดอกไม้งี้มีให้แทบทุกอาทิตย์ แต่ทำไมฉันไม่เห็นแกจะดีอกดีใจอะไรสักเท่าไหร่เลย
หนึ่งในกลุ่มเอ่ยขึ้นมา ตาหรี่ข้างหนึ่งแบบมีเลศนัยก่อนจะก้มหน้าลงมาใกล้หญิงสาว
หรือว่า...แกชอบใครอยู่ ฮึ
บ้าเหรอ...อย่ามาพูดบ้าๆ น่ะ หญิงสาวพูดปฏิเสธเสียงแข็ง ก้มหน้าไม่กล้าสบตาเหมือนกลัวจะถูกอ่านความคิดจากทางสายตา
นี่...แกก็ออกจะสวยอย่างนี้ หนุ่มๆ ก็ตามจีบกันหัวกระไดออฟฟิศแทบจะไม่แห้ง แล้วทำไมไม่ลองคบกับใครสักคนเสียทีนะ อีกหนึ่งในกลุ่มเอ่ยขึ้นมาบ้าง
หญิงสาวยิ้มแห้งๆ ไม่สบตาใครเช่นเคย ก่อนจะก้มหน้าก้มตาเริ่มทำงานที่กองอยู่ตรงหน้า
....................................
หาอะไรอยู่หรือครับ
เสียงชายหนุ่มดังขึ้นด้านหลังหญิงสาวที่กำลังเก้ๆ กังๆ ผุดลุกผุดนั่งอยู่กับพื้นออฟฟิศ
หากุญแจบ้านอยู่ค่ะ รีบเก็บของ คุ้ยกระเป๋าไปคุ้ยกระเป๋ามากุญแจตกไปไหนก็ไม่รู้ค่ะ เฮ้อ...แบบที่เขาว่ากันจริงๆ ยิ่งรีบก็ยิ่งช้า
หญิงสาวยิ้มแหยๆ หันกลับมาพูดกับชายหนุ่ม เหงื่อตามใบหน้าและทรงผมที่เริ่มกระเซอะกระเซิงบอกให้รู้ว่าเธอน่าจะหาสิ่งที่กำลังหามาสักพักหนึ่งแล้ว
ใช่พวงนี้รึเปล่าครับ ชายหนุ่มยื่นพวงกุญแจที่มีกุญแจอยู่สองสามดอกให้หญิงสาว
ใช่...ใช่ค่ะ ขอบคุณนะ คุณไปเจอที่ไหนเนี่ย หลังจากที่ต้องเหงื่อตกพักใหญ่ สิ่งที่ชายหนุ่มยื่นให้ดูตรงหน้าก็ทำให้หญิงสาวยิ้มออกมา
หน้าห้องน้ำน่ะครับ พอดีผมเดินไปเข้าห้องน้ำแล้วเห็นมันตกอยู่ แล้วคนที่อยู่ที่นี่ก็เหลืออยู่ไม่กี่คน ก็เลยไม่ยากที่ผมจะเดินถามทีละคน ชายหนุ่มตอบหญิงสาวอย่างอารมณ์ดี
หา...เหลือไม่กี่คนซะที่ไหนล่ะ นี่เดินถามทีละคนเลยเหรอ หญิงสาวทำตาโต พูดเสียงสูงอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง
ความจริงแล้วผมก็กะจะทำอย่างนั้นล่ะครับ ชายหนุ่มยิ้มแหยๆ ก่อนจะใช้มือเกาหัวตัวเอง แต่บังเอิญว่าผมโชคดีที่เดินมาถามคุณเป็นคนแรก
หญิงสาวทำท่าทางโล่งอกอดที่จะอมยิ้มไม่ได้ในคำตอบของชายหนุ่ม
รีบกลับเถอะครับ ดึกแล้ว เดี๋ยวจะถึงบ้านมืดซะเปล่าๆ ผมขอตัวไปทำงานต่อก่อนนะครับ
ชายหนุ่มบอกก่อนจะขอตัวเพื่อกลับไปทำงานต่อ
....................................
เฮ้ย...พี่ถามเอ็งหน่อยเหอะ เอ็งตอบตรงๆ นะเว้ย เสียงรุ่นพี่ร่วมงานดังขึ้นหลังจากในห้องเงียบอยู่พักใหญ่
อะไรครับพี่ ชายหนุ่มมองไปยังต้นเสียง สีหน้าท่าทางค่อนข้างจะงุนงงที่จู่ๆ พี่ที่นั่งทำงานอยู่ในห้องก็พูดจาขึ้นมาแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย
เอ็งอยู่ทำอะไรทุกคืนหา งานด่วนน่ะเสร็จไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอ บ้านช่องน่ะทำไมไม่กลับ ไม่คิดจะหลับจะนอนให้สบายๆ มั่งรึไง
ชายหนุ่มฟังคำถามอย่างอึ้งๆ รู้สึกว่าตัวเองปั้นหน้าไม่ถูก
อ่า...เอ่อ...ก็แบบว่า...ผม...ทำงานดึกจนชินไงพี่...ทีนี้...เอ่อ...พอกลับบ้านเร็ว มันก็เลยดูแปลกๆ ใช่ป่ะ
เสียงกล้อมแกล้มตอบแบบติดๆ ขัดๆ เท่าที่ชายหนุ่มจะนึกขึ้นได้ถูกส่งออกมาจากลำคออันตีบตัน
แล้วก็... ชายหนุ่มลดเสียงลงจนแทบจะไม่ได้ยิน ยื่นหน้าเข้าไปใกล้รุ่นพี่
แล้วก็อะไร รุ่นพี่หยุดมือกับงานตรงหน้า ยื่นหน้ามาอย่างสนใจ
พี่น่ะ...กลัวผีไม่ใช่เหรอ ผมก็เลยมาอยู่เป็นเพื่อนไง พี่เห็นป่าวว่า ถ้าผมไม่อยู่น่ะ ทั้งห้องเหลือพี่คนเดียวเองนะ ห้องก็เงียบ ตรงโน้นก็มืด ตรงนั้นก็สลัว พี่ไม่กลัวเหรอ
ชายหนุ่มพูดพร้อมชี้มือชี้ไม้ไปทางโน้นทีทางนี้ทีและทำหน้าตาให้ดูน่ากลัวที่สุดเท่าที่จะทำได้อย่างอารมณ์ดี
พอ...พอเลยเอ็ง...พูดเข้าไป...เลิกๆๆ...ทำงานต่อดีกว่า...เอ็งอยากจะทำอะไรก็เชิญเถอะ รุ่นพี่พูดอย่างเสียอารมณ์ในคำตอบของชายหนุ่มก่อนจะก้มหน้าก้มตาทำงานต่อไป ปล่อยให้ชายหนุ่มหัวเราะเล่นหัวตามลำพัง
...ชายหนุ่มมองไปยังนอกหน้าต่าง...ก่อนจะเงยหน้าขึ้น...หลับตา...ยิ้ม...ปล่อยจิตใจล่องลอยไปกับสายลมแห่งรัตติกาล...
....................................
...ค่ำคืนนี้ ท้องฟ้าใสกระจ่างกว่าหลายๆ คืนที่ผ่านมา...
หญิงสาวนั่งอยู่ริมหน้าต่าง แหงนหน้ามองแสงดาววิบวับที่เผยให้เห็นอยู่บนท้องฟ้า ปลดปล่อยจิตใจล่องลอยไปกับแสงดาวตรงหน้า
รอบกายเธอรายล้อมไปด้วยเพื่อนฝูงมากมาย...เสียงเฮฮา...รอยยิ้ม...ความสนุกสนาน เรื่องที่นึกทีไรก็อดยิ้มออกมาไม่ได้
...ทำไมแกไม่ลองคบกับใครสักคนเสียทีนะ...คำพูดของเพื่อนร่วมงานวันนี้หวนกลับมา...
ใช่แล้ว...นอกจากเพื่อนๆ ที่รายล้อมอยู่รอบกายเธอ ทั้งรุ่นพี่และเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ ซึ่งก็หมายรวมถึงบุคคลซึ่งคอยแวะเวียนมาขายขนมจีบให้เธอไม่ห่างก็ล้วนดีต่อเธอ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเธอแทบจะไม่เคยพบกับคำว่าเหงาเลยแม้สักครั้งเดียว ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็เห็นแต่รอยยิ้ม
...หากแต่...คนอีกคน...คนซึ่งเมื่อเธอมองเลยผ่านจากกลุ่มบุคคลซึ่งอยู่รายล้อมเธอ...บุคคลซึ่งเธอเห็นเป็นเพียงเงารางๆ เท่านั้นภายนอกความสดใสรอบกายเธอ...
...เงารางๆ ที่เธอเห็นแทบจะทุกครั้งที่เธอต้องการความช่วยเหลือ...
...เงารางๆ ที่ทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นและยิ้มออกมาได้อย่างผ่อนคลายเมื่อได้เห็นรอยยิ้มและท่าทางอันเป็นธรรมชาติของเขา...
...หญิงสาวหลับตา...ถอนใจยาว...
....................................
จากคุณ :
KTHc
- [
8 ส.ค. 51 20:17:34
]