สวัสดีค่ะ -___-"
คนเขียนยังไม่หายจิตตกเลยอ่ะ
ยังไงก็ขอบคุณทุกคนที่เข้าอ่านและแสดงความห่วงใยในอาการจิตตกของอิฉันนะคะ
ยังงอนพระเอกนิยายอยู่นิดหน่อย แต่พอทำใจได้บ้างแล้ว ^^"
ตอบ comment ละกันนุ ^__^
คุณ พีทคุง :
จิตตกมากค่ะคุณพีท 2-3 วันเข้าไปแล้ว จิตอิฉันยังไม่กลับมาฟูเหมือนเดิมเสียที
(ตอนนี้วางนิยายเรื่องนั้น หันไปหาอีกเรื่องแทนแล้วล่ะค่ะ)
แถมบอกพระเอกไปแล้วด้วยว่า "เราห่างๆ กันสักพักเถอะนะ เผื่อเรื่องระหว่างเราจะดีขึ้น และฉันจะลองศึกษาคนอื่นดูด้วย" (เพ้อเจ้อ)
คุณ teansri :
ขอบคุณที่แวะมาอ่านนะคะ
คุณ scottie :
หนุ่มน้อยเรื่องไหนคะ อิฉันจะได้ตามไปตกหลุมมั่ง
(ทีวีเจ๊งมาหลายวัน ไม่ได้ตามอะไรเลย)
คุณ BestChild :
กินนมปั่นจะช่วยเหรอคุณ Bestฯ?
ไม่รู้จักทั้ง 2 ชนิดนี้ก็ดีเหมือนกันค่ะ จะได้อ่านด้วยอีก feel หนึ่ง
แต่อิฉันว่าที่เกษตรฯ มันต้องมีเจ้าต้นนี่ด้วยแน่ๆ
คุณ กุลธิดา :
เหอๆ เห็นกระแสนี้กำลังมาแรงค่ะ
คุณ สวนดอก :
ขอบคุณค่ะที่แวะมาอ่าน
คุณ PiN.VE :
ฮือ T^T ไม่บอกได้ไหมคะว่าเรื่องไหน แค่พูดชื่อเรื่องก็ปวดใจ
คุณ ออมสิน :
คุณออมสินเข้าใจไม่ผิดหรอกค่ะ ^^
คุณ Mnemosyne :
มาต่อให้แล้วค่ะ
คุณ Paulo :
นั่นน่ะสิคุณ Paulo น่าจับหัวเขย่าจริงๆ เลยเนอะ
แต่เรื่องนี้ไม่ได้พาไปเที่ยวน้า
คุณ โยษิตา :
พี่บีมเลยเหรอคะ หล่อใสไปหน่อยไหมเนี่ย ^^
ไม่พูดมากดีกว่า อ่านเลยละกันเนาะ
นี่ตอนที่ 1 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W6871121/W6871121.html
*********************************************
-ตอนที่ 2-
สามวันแล้วที่ปีลันธน์มาพักอยู่กับกวีพล หล่อนนอนในห้อง และเขานอนอยู่ข้างนอก เขาตื่นแต่เช้าเพื่อเปิดร้าน หล่อนก็ตื่นเช้าพอๆ กันเพื่อมาช่วยงานเขา รับออร์เดอร์บ้าง เสิร์ฟกาแฟบ้างตามแต่ใจหล่อน ไม่ใช่งานวุ่นวายหนักหนาอะไรนัก ในเมื่อร้านกาแฟของกวีพลก็ไม่ได้มีลูกค้าพลุกพล่านมากมาย นอกไปเสียจากลูกค้าประจำไม่กี่กลุ่ม ซึ่งโดยปกติเขาก็เป็นทั้งเจ้าของร้านและพนักงานเสิร์ฟในตัวเองอยู่แล้ว
ดังนั้น เวลาส่วนใหญ่ กวีพลก็เห็นเพื่อนสาวของเขาออกไปนั่งจิบกาแฟอ่านหนังสือเงียบๆ อยู่ที่โต๊ะริมระเบียง หล่อนไม่ได้หิ้วโน้ตบุคมาทำงานอย่างที่เขาคิด ไม่ได้โทรศัพท์ติดต่อกับใคร แม้แต่คนรักของหล่อนเอง...
วันนี้ฝนตกแต่เช้าและแม้จะล่วงมาบ่ายจัดแล้วก็ยังไม่มีทีท่าจะหยุด อากาศเย็นชื้น และดอกกาสะลองก็ร่วงหล่นจนขาวพราวไปหมดที่พื้นสนามหญ้าด้านนอก ตลอดบ่ายนี้ยังไม่มีลูกค้าสักราย กวีพลจึงปิดร้านแล้วหลบมานั่งวาดภาพในเรือนไม้อันเป็นเสมือนห้องทำงานศิลปะของเขา
กวี อยู่ไหน? เสียงปีลันธน์ร้องเรียกชื่อเขาดังลั่นไปหมดอยู่ที่ด้านนอก
กวีพลถอนใจนิดหนึ่ง เขาร้องตะโกนตอบไป เราอยู่ในนี้ปีบ ในเรือนไม้
เสียงฝีเท้าย่ำบนพื้นดินแฉะๆ ดังใกล้เข้ามา แล้วใบหน้าของปีลันธน์ก็โผล่เข้ามาตรงประตูที่เปิดทิ้งไว้ หล่อนยิ้มเมื่อเห็นเขานั่งอยู่ข้างใน ตรงหน้ามีเฟรมผ้าใบขนาดใหญ่กางอยู่ หญิงสาวเดินอ้อมมาหยุดข้างๆ เก้าอี้ บนเรือนผมสีดำสนิทของหล่อนมีละอองน้ำเกาะพราว คงเพราะวิ่งฝ่าสายฝนมาจากตรงชายคาบ้าน แต่ดูเจ้าตัวจะไม่ใส่ใจนัก หล่อนเพียงแต่ใช้มือปาดหยดน้ำที่ไหลลงมาตามขมับทิ้งไปลวกๆ ปีลันธน์มองภาพที่เขากำลังวาดค้างไว้แล้วเอ่ยถาม
กาสะลองอีกแล้วเหรอ?
อืม สวยไหม? กวีพลพยักหน้า ป้ายสีเขียวจากปลายพู่กันลงตรงส่วนที่เป็นภาพใบไม้
ก็สวยนะ แต่...กวีไม่เบื่อเหรอ วาดแต่รูปแบบนี้
ไม่เบื่อหรอก...เราชอบ
ปีลันธน์พยักหน้่าหงึกหงัก แล้วก็เดินเตร่จากมุมที่เขานั่งอยู่ไปที่โต๊ะไม้ขนาดใหญ่ด้านใน บนโต๊ะมีเฟรมผ้าใบหลายขนาดกองซ้อนกันอยู่เป็นสิบ หล่อนเปิดดูทีละภาพแล้วก็พูดลอยข้ามห้องมา
ไม่ใช่แค่ชอบเฉยๆ หรอกมั้ง? วาดไว้เป็นสิบๆ แบบนี้...อย่างนี้เขาเรียกว่าหลงรัก
กวีพลสะดุ้งนิดหนึ่ง แล้วก็ทำเป็นเออออ ก็...จะว่าอย่างนั้นก็ได้
ชายหนุ่มมองเห็นเพื่อนสาวอมยิ้มนิดๆ เดินไปนั่งที่เก้าอี้ชิดหน้าต่างบานเล็กซึ่งอยู่ตรงข้ามกับที่เขานั่งอยู่ มองดูเขาวาดรูปครู่หนึ่ง แล้วก็หันหน้าออกไปด้านนอก เท้าแขนลงบนกรอบหน้าต่าง เกยคางลงเฝ้ามองเม็ดฝนหล่นจากชายคาอยู่เงียบๆ
เดี๋ยวฝนหยุด ออกไปข้างนอกกันนะกวี เราอยากไปเที่ยว หล่อนพูดลอยๆ
เที่ยวไหน? ฝนตกแบบนี้เฉอะแฉะจะตาย เขาโคลงศีรษะ ทำท่าไม่เห็นด้วย
ไปอ่างแก้วกัน ไม่ได้ไปนานแล้ว คิดถึง... หล่อนพูด น้ำเสียงกระตือรือร้น แล้วเมื่อหล่อนเหลียวมาสบตา ดวงตาคู่นั้นก็เป็นประกายระยับ และประกายตาแบบนี้เองที่กวีพลไม่เคยปฏิเสธได้ลง
แก้ไขเมื่อ 09 ส.ค. 51 14:20:45
แก้ไขเมื่อ 09 ส.ค. 51 14:05:07