..มะลิของแม่..
11 สิงหาคม
มือกุมทัพพีข้าวสั่นน้อย ๆ ขณะตักข้าวลงบาตรพระ.. นัยน์ตาช้ำ สีหน้าซีดเซียวของผู้ทำบุญ ทำให้ภิกษุที่รับบาตรเอ่ยถาม
โยม ไม่สบายหรือ
ขอโทษค่ะ หลวงพ่อ เธอปาดน้ำตาที่ไหลริน ก่อนพนมมือไหว้
ทุกข์ใจใดหรือโยม เสียงสงบของภิกษุชราถามอย่างเมตตา
หลวงพ่อเจ้าคะ ดิฉันทำบุญมาก ๆ แล้วจะช่วยชีวิตลูกชายได้ไหมคะ..
ว่าไงนะโยม..
ความอัดอั้นตันใจทำให้หญิงวัยห้าสิบร้องไห้ออกมาทั้งที่พนมมือ เธอเล่าทั้งน้ำตา
เมื่อ 3 อาทิตย์ก่อน ลูกชายดิฉันไปทำบุญถวายเทียนที่เพชรบุรี ทำไมคะหลวงพ่อ ทั้งที่ไปทำบุญแท้ ๆ แต่กลับรับเคราะห์ อุบัติเหตุที่เกิดทำให้ตอนนี้ชีวิตเขากึ่งเป็นกึ่งตาย หมอบอกว่าถ้าภายใน 1 เดือนนี้ยังไม่ฟื้น แกก็จะเป็นเจ้าชายนิทราตลอดไป
ผู้เป็นแม่สะอื้น ภาพเสียงหัวเราะของลูกชายยังตึงติดในความทรงจำ...
โอ้ ซึ้งใจดีแท้ แม่ใครเนี่ย คำหยอกล้อพร้อมรอยยิ้มสุดท้ายที่รับเทียนพรรษาจากมือเธอ ก่อนขึ้นรถไปทำบุญกับยาย..
นี่จะครบเดือนแล้วแกยังไม่มีวี่แววจะฟื้นเลย...พ่อเขาก็ถอดใจแล้ว บอกหมอว่าอาทิตย์นี้ถ้าหากไม่ฟื้น ก็ให้ถอดสายออกซิเจนเลย ..ตลอดเดือนที่ผ่านมา ดิฉันเที่ยวทำบุญ ทั้งบนบานวิงวอนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกที่ที่ทำได้ จนกระทั่งบัดนี้..
น้ำตาที่นองหน้าทำให้ภิกษุมองสีกาคนนี้ด้วยเวทนาและเห็นใจ
ดิฉันทุกข์เหลือเกินค่ะหลวงพ่อ...ใจ..ใจเหมือนมันจะแตกเป็นเสี่ยงๆ ..ลูกดิฉันกำลังจะตาย..
เธอหลับตา น้ำอุ่นใสไหลคลอแก้ม..น่าแปลกนัก..คนเรามักไม่เห็นค่าของสิ่งหรือคนอยู่ที่อยู่ใกล้...จนกระทั่งเวลาจะสูญเสียไป...ถึงเห็นว่ามีตัวตน..
ยามปกติเธอไม่ค่อยจะใส่ใจกับลูกคนนี้นัก จะว่าละเลยก็ว่าได้..แต่ว่าเวลานี้...ณ จุดนี้....เธอกลับรู้สึกว่าอะไรบางอย่างในชีวิตเธอมันขาดไป เจ็บปวดแทบใจสลายหากว่าเธอต้องเสียลูกคนนี้ไปจริงๆ
ใจเย็นก่อนโยม...ทุกข์ของโยมนั้นอาตมาเข้าใจ มันเป็นทุกข์ของทุก ๆ คนบนโลก... ทุกข์ที่เกิดจากความสูญเสีย การสูญเสียนั้นถ้ารับได้ก็ไม่ทุกข์ หากรับไม่ได้ก็ทุกข์
หลวงพ่อ...
เราทุกคนมีกรรมเป็นของตัวเองนะโยม การที่บุตรชายโยมทำบุญแล้วรับเคราะห์เช่นนี้ อาจเป็นเพราะกรรมเก่าของเขาเองที่เคยทำมาแต่ปางก่อนได้ตามมาตัดรอน
หลวงพ่อ..ดิฉันจะช่วยเขายังไง
ช่วยโดยตรงไม่ได้หรอกโยม ด้วยลิขิตชีวิตนั้นคือกรรมของแต่ละคนที่ปรุงแต่งกันมาเอง
ช่วยโดยตรงไม่ได้ แต่ช่วยโดยอ้อมได้ใช่มั้ยคะหลวงพ่อ
ภิกษุยิ้มบางกับคำถาม
โยมตักบาตรแล้ว จะกรวดน้ำเลยไหม
เธอแปลกใจเมื่อหลวงพ่อไม่ตอบคำถามแต่กลับย้อนถามเรื่องกรวดน้ำ แววตาสงบของภิกษุชรามองสีกาที่คุกเข่าตรงหน้า
จานพลาสติกถูกวางบนพื้น ภาชนะใสบรรจุน้ำเต็มแก้วค่อยๆ เอียงลง..
แม้ช่วยไม่ได้ แต่อาจผ่อนหนักเป็นเบาได้บ้าง.. ตั้งจิตระลึกถึงบุตรชายของโยมนะ อุทิศให้กับเจ้ากรรมนายเวรของเขา
เสียงสวดพร้อมกับสายน้ำที่รินลงจนหมดแก้ว สายลมเย็นพัดบางเบาดังจะส่งผ่านผลบุญให้ลอยไปไกลแสนไกล จิตใจของผู้เป็นแม่สงบขึ้น แม้ว่าความทุกข์นั้นจะยังไม่หายไปจากใจ เธอกราบพระภิกษุชรา ก่อนนำน้ำในจานไปเทลงต้นไม้ใหญ่
ประตูเหล็กถูกเลื่อนปิดลง เมื่อเธอเข้าบ้าน ในนาทีนั้นเองที่ลูกชายคนเล็กเดินสวนออกมา
เพชรจะไปไหนแต่เช้าน่ะลูก
แม่จะมายุ่งอะไรกับผมนักหนา คนถูกถามขึ้นเสียงไม่พอใจ
นี่พูดกับแม่อย่างนี้หรือ
ก็ผมรำคาญ อายุ 17 แล้วนะแม่ ตามตูดต้อยๆ เหมือนผมอายุ 10 ขวบอยู่ได้
เพชร!! พูดหยาบกับแม่อย่างนี้ได้ยังไง!
ทำไม!? เอะอะก็ขึ้นเสียง ด่าๆ อยู่ได้ เบื่อเว้ย!!
สมุดโทรศัพท์ใกล้มือเด็กชาย ถูกเหวี่ยงไปที่พื้นโดยแรงเฉียดโดนเท้ามารดาไปแค่ก้าวเดียว
ทำไมทำอย่างนี้ล่ะลูก.. ผู้เป็นมารดาเสียงขื่น น้ำตาซึม
ทำไมน่ะหรือ ก็เพราะแม่นี่แหละ! ตามประคบประหงมผมตลอดจนใครๆ ก็มองผมว่าอ่อนแอ! เป็นไอลูกแหง่! เพื่อนๆ รวมกันแอนตี้ผม ฝ้ายกับผมต้องเลิกกันก็เพราะแม่!!
แม่หวังดีนะ ลูกยังอยู่ในวัยเรียน ไม่ใช่เอาเวลาไปเสเพลกับเด็กพวกนั้น ไม่ใช่เวลาคิดเรื่องรักใคร่แบบนี้
ใช่.... เด็กชายยิ้มเหยียด โทสะที่คั่งค้างผลักคำพูดออกมาโดยไม่คิด
เวลานี้มันก็ไม่ใช่เวลาที่แม่มายุ่งกับผม...เอาเวลาที่เหลือไปยุ่งกับพี่หินเถอะ! ศุกร์นี้ได้ถอดสายออกซิเจนแน่ๆ
เพชร!! เสียงฝ่ามือกระทบแก้มขาวของเด็กชายดังไม่น้อย มันก้องในใจผู้เป็นแม่.. ครั้งแรก..ครั้งแรกที่เธอตีลูกคนที่รักที่สุดคนนี้ตั้งแต่เลี้ยงเป็นตัวตนมา
คนเป็นแม่ก้าวเข้าไปหา แต่เด็กชายเพชรก้าวเท้าถอยห่างๆ กระชากกระเป๋าสะพายเดินลิ่วออกจากบ้าน ปิดประตูตามหลังเสียงดังด้วยอารมณ์แรง ผู้เป็นมารดาทรุดตัวลงนั่งกับเก้าอี้ ซบหน้ากับฝ่ามือร้องไห้...เด็กคนนี้ทำให้เธอต้องเสียน้ำตาอีกแล้ว
มอเตอร์ไซด์แต่งเครื่องยนต์อย่างดีวิ่งอย่างรวดเร็วไปตามถนน ลมเย็นที่สาดปะทะหน้าไม่ได้ทำให้อารมณ์ที่เร่าร้อนเย็นลงได้เลย..จักรยนต์คันหรูวิ่งไปตามถนนก่อนจะเลี้ยงเข้าไปจอดในโรงพยาบาล
ป้ายวันแม่ ภาพหญิงให้นมบุตรที่ติดตามบอร์ดและผนัง เด็กชายเพชรมองดูก่อนจะผ่านเลยไปอย่างไม่แยแส แม่ให้ชีวิตได้ ก็ทำลายชีวิตได้เหมือนกัน..เด็กหนุ่มนึกค่อนขอดในใจ ขณะเดินไปตามทางพื้นสีขาวสะอาด
ไม่เห็นแม่จะมายุ่งย่ามพี่หินเลย ทีกับเราทำไมยุ่งนักวะ เขาบ่นพึมพำก่อนจะถอนใจเมื่อนึกถึงพี่ชาย..
ไปทำบุญกับคุณยาย.. ฮึ!! ไปตายแท้ๆพี่กู...ขับรถอีท่าไหนไปเสยต้นไทรซะได้
แม้เขาจะทำตัวไม่ดีนัก แต่เขาก็รักและนับถือพี่ชายคนนี้มากอยู่ อาจมากกว่าพ่อผู้เห็นเงินและธุรกิจสำคัญกว่าครอบครัวด้วยซ้ำ!
ประตูห้องคนไข้ถูกเปิดออก และในห้องพักพิเศษนั้นเอง เพชรก็เห็นหญิงชราวัยเจ็ดสิบกำลังอ่านหนังสือบนเก้าอี้
คุณยาย เด็กชายพนมมือไหว้ หญิงชรารับไหว้ เอ่ยถาม
มาเยี่ยมพี่เขาหรือลูก
เด็กเพชรพยักหน้ารับ มองเตียงซึ่งมีเครื่องมือแพทย์ร้องเตือนถึงการมีชีวิตอยู่ของพี่ชายเป็นระยะ มือนิ่งมีสายน้ำเกลือระโยงระยาง แสงไฟทำให้ใบหน้าคมคาย ดูซีดขาวราวกระดาษ
แม่เขาไม่มาด้วยหรือ คำถามของยายทำให้เด็กชายชะงัก อารมณ์ที่กรุ่นดับไปคุขึ้นมาใหม่
เดี๋ยวว่างก็มาเองล่ะยาย เสียงตอบไม่ยี่หระ
เพชร..พูดกับแม่เขาดีๆ สิลูก ตอนนี้เขาต้องการกำลังใจ....
ยายก็ให้กำลังใจแม่เองสิ ยังไงๆ แม่ก็ลูกยายเหมือนกัน
มันไม่เหมือนกัน ถ้า.... คุณยายนิ่งไป น้ำอุ่นใสคลอหน่วยตา เมื่อมองหลานชายอีกคนที่นอนนิ่งบนเตียง
ถ้าพี่เราเป็นอะไรไป.. หลานต้องเป็นกำลังใจอยู่เคียงข้างแม่ของหลานนะ
เด็กชายเพชรหน้าเครียด อารมณ์ขัดเคืองที่ค้างมาจากบ้านบดบังความจริงและเหตุผลในคำพูดของคุณยายเสียสิ้น
โมหะและโทสะทำให้คำพูดฝากฝังนั้นกลายเป็นภาระอันยิ่งใหญ่ที่ตกกระทบลงบ่าเขาอย่างจัง คนน้องหันมองศิลาที่นอนเป็นเจ้าชายนิทราอยู่บนเตียงคนไข้
เฮ้ย!! อย่าตายนะพี่หิน! ฟื้นขึ้นมาเดี๋ยวนี้เลย! อย่าผลักภาระบ้าๆ นี่ให้ผม!!
เพชร!
คุณยายตกใจ หลานชายคนเล็กตะคอกใส่ร่างนอนนิ่งของหลานชายคนโตด้วยอารมณ์แรง เสียงตะคอกดังจนหมอและพยาบาลด้านนอกตกใจวิ่งเข้าดู แล้วเชิญเด็กชายวัยรุ่นใจร้อนออกนอกห้องผู้ป่วย
คุณยายส่ายหน้าน้อยๆ สงสารลูกสาวตัวเองจับใจ ข้างนอกยังขนาดนี้ กับพ่อแม่จะก้าวร้าวกันแค่ไหน
เสียงกระแทกส้นเท้า อย่างไม่พอใจและหงุดหงิดทำให้ใครต่อใครหันมามอง
หน้าตาก็ดี แต่ทำตัวน่ารังเกียจ พยาบาลกระซิบกระซาบไล่หลัง
เซ็งเว้ยยย!! เด็กชายจอดรถที่สวนสาธารณะไม่ไกลจากโรงพยาบาลมากนัก ก่อนหยิบโทรศัพท์ โทรหาเพื่อน
เฮ้ย เอ็งอยู่ไหน
ข้าเซ็งหว่ะ ทำไมไม่มีใครเข้าใจข้าเลยวะไอแสง
พูดอะไรวะ...ตัวเองยังไม่เข้าใจ จะให้ใครเขามาเข้าใจได้ยังไง....เฮ้ยๆ หยุดเลยๆ ไอแสง ไม่ต้องมาเทศน์ ข้าฟังจากยาย จากแม่จนเบื่อแล้วเว้ย
เสียงกดตัดสายโดยที่อีกฝ่ายพูดยังไม่ทันจบด้วยซ้ำ
เบื่อชิบ นายเพชรกดโทรหาเพื่อนคนใหม่
ได้ข่าวว่าเย็นนี้พวกเอ็งไปเกะกันรึ ที่ไหน? เสียงในโทรศัพท์บอกชื่อสถานบันเทิงคาราโอเกะบนห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่ง
เออ สี่โมงข้าไปหา รอด้วย อย่าเพิ่งสั่งอาหารและเครื่องดื่มล่ะ
ติ้ด! (เสียงกดปุ่มวางสาย)
ทันใดนั้นเองเด็กชายเพชรสังเกตว่ามีเด็กหญิงวัยสิบขวบในชุดนักเรียนถือตะกร้าเล็ก ๆ ที่บรรจุดอกไม้ผ้าสีขาวไว้เต็มยืนมองเขาอยู่ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม เด็กคนนั้นยื่นดอกไม้สีขาวติดเข็มกลัดให้ชายหนุ่ม
พี่ชายช่วยหนูซื้อดอกมะลิวันแม่หน่อยนะคะ 5 บาทเอง
ไปขายคนอื่นเถอะหนู พี่ไม่รู้ซื้อไปทำอะไร
ให้คุณแม่ไงคะ
นายเพชรนิ่งไปก่อนส่ายหน้า
ช่วยหนูหน่อยนะคะ เงินที่ได้หนูจะเอาไปให้คุณย่า
อ้าว..ไม่เอาเงินไปให้แม่หรือ เขาถาม นักเรียนหญิงเงียบไป สีหน้าสลดลง
หนูไม่มีแม่หรอกค่ะ มีแต่คุณย่าที่เลี้ยงหนูมา
คำพูดเด็กวัยสิบขวบ ก่อความรู้สึกกระอักกระอ่วน และความรู้สึกผิดน้อยๆ ในใจ เขาควักแบงค์ยี่สิบส่งให้
เอามาดอกนึงก็ได้..
เด็กชายมองดอกมะลิผ้าเล็ก ๆ หวนนึกถึงสมัยเด็กที่เวลาวันแม่ทีไร โรงเรียนก็จะให้มาหนึ่งดอกเพื่อไปมอบให้คุณแม่เสมอ
ทุกวันที่ 12 สิงหา เขาจะบรรจงติดเข็มกลัดดอกมะลิเข้าที่เสื้อมารดา..
ทำอย่างนี้ตั้งแต่หกขวบถึง 12 ปี หลังจากนั้น...ทำไมนะเขาถึงไม่ได้ติดดอกไม้ให้มารดาในวันแม่อีกเลย....
อ้อ...จำได้ล่ะ วันแม่ในปีที่เขาอายุ 13 เขาไม่ได้อยู่กับครอบครัวเหมือนเคย...แต่หนีไปดูหนังตามคำชักชวนของเพื่อน...กินข้าวเล่นโบวลิ่งอยู่ในห้างสรรพสินค้าทั้งวัน..
หลังจากนั้น...ปีถัดๆ มา ก็ไม่มีมะลิให้แม่อีกเลย...ใช้เวลาวันหยุดเรียนนั้นเที่ยวกับเพื่อนทุกปี
นัยน์ตาเหลือบนาฬิกาข้อมือ ใกล้เวลานัดเพื่อนแล้วจึงยัดเข็มกลัดดอกมะลิที่ซื้อมาใส่กระเป๋าเสื้อ แล้วซิ่งรถจักรยานยนต์คันหรูออกไป
แก้ไขเมื่อ 12 ส.ค. 51 12:21:51
จากคุณ :
NMR
- [
วันแม่แห่งชาติ 12:16:23
]