Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    เรื่องของผม เธอ และคนอื่นอีกมากมาย

    วันแรก

    ผมไม่อยากจะอยู่คนเดียวเลยต้องนี้ เพราะมันจะทำให้ผมคิดฟุ้งซ่านไปต่างๆ นาๆ ทั้ง ๆ ที่พยายามเตือนตัวเองอยู่ตลอดเวลาว่าอย่าคิดอะไรให้ไกลเกินสามเดือนเลย

    ...เวลาสามเดือนที่ผมและเธอจะต้องผ่านบททดสอบนี้ไปให้ได้...

    เมื่อเช้านี้เธอเพิ่งโทรมาบอกผมว่าเย็บแผลให้คนไข้ที่ถูกเครื่องบดเนื้อบดมือมาและโดนเข็มเย็บแผลแทงนิ้ว ในขณะที่เธอกำลังเย็บเล็บที่แตกออกจากกันให้คนไข้ เล็บแข็งและต้องใช้แรงเยอะ และมันก็พลาดจนได้ ช่วงเวลาที่เธอใช้เข็มที่สองเย็บลงไปนั้นเข็มพลาดมาโดนนิ้วมือเธอจนเลือดไหล เธอบีบเลือดออกแต่ในใจยังคงห่วงกังวล เอ่ยถามคนไข้ว่าเคยมีพฤติกรรมเสี่ยงหรือไม่ คนไข้ตอบว่าไม่เคย เธอขอเจาะเลือดคนไข้ เพื่อนำไปห้องตรวจเพื่อยืนยัน

    ผมฟังเรื่องนี้ด้วยความเป็นห่วง เพราะเมื่อหลายวันก่อนแม่เธอฝันเห็นเธอโกนหัวนุ่งเสื้อขาวและนุ่งผ้าถุงดำ แม่บอกกับเธอว่ามันเป็นลางไม่ค่อยดี

    ตอนกลางวันเธอยังคุยกับผมด้วยเสียงร่าเริงอยู่เลย ผมถามเธอว่ารู้ผลตรวจเลือดหรือยัง เธอบอกว่ายัง ผมถามว่าทำไมถึงนานนัก เธอบอกไม่รู้สิ เรื่องนี้ต้องถามเจ้าหน้าที่ counseling ดู

    อีกสามชั่วโมงต่อมาเธอโทรหาผม เสียงเธอสั่นเครือ เธอเรียกชื่อผมและบอกว่าผลตรวจออกมาแล้ว คนไข้ติดเชื้อ HIV แต่ผลตรวจเลือดของเธอยังเป็น Negative เจ้าหน้าที่ให้เธอกินยาต้านไวรัส และให้รอดูอาการอีกสามเดือนข้างหน้า

    ....สามเดือนที่จะเป็นบททดสอบชีวิตระหว่างผมและเธอ..บททดสอบที่หนักและยากเหลือเกิน

    ผมนิ่งและอึ้งทำอะไรไม่ถูกไปพักใหญ่ ได้แต่ถามเธอกลับไปว่าจะรู้ผลแน่นอนได้ยังไง เธอบอกว่าต้องรอดูให้แน่ใจหลังสามเดือนนั่นไปอีกจนครบสองปี ผมบอกเธอว่าไม่เป็นไรผมรอได้ เธอนิ่งไป บอกผมว่าไม่ต้องรอ ผมถอนหายใจยาว กังวลถึงความสัมพันธ์ของเราทั้งสองคน คุยกันได้ไม่นาน เธอจึงขอตัวไปทำงานต่อ

    ผมนั่งถอนหายใจอยู่บนโต๊ะทำงาน ถอนหายใจทิ้งหลายครั้ง ตัวเริ่มสั่น ผมพยายามควบคุมมัน แต่ผมกำลังรู้สึกกลัว กลัวว่าเวลาที่ผมและเธอจะได้อยู่ด้วยกันนั้น มันอาจจะสั้นกว่าที่เราสองคนคิดไว้

    สิบนาทีต่อมาผมโทรหาเธออีกครั้ง น้ำเสียงเธอยังไม่ค่อยดีนัก ตอนนั้นเธอยังยุ่งอยู่กับคนไข้ เธอน่าจะได้พักแต่ต้องขึ้นเวรนอกเวลาต่อจนถึงสองทุ่ม ตอนนั้นผมคงแย่มากที่ถามย้ำเธอกลับไปว่าโอกาสที่จะติดเชื้อมีมากน้อยแค่ไหน...ผมเป็นห่วงเธอแต่ผมคงทำให้เธอรู้สึกแย่ลงเพราะคำพูดประโยคนี้

    ผมฝืนตัวเองให้นั่งทำงานจนถึงเย็น ทั้งๆ ที่อยากจะกลับห้องพักใจจะขาด ผมไม่อยากให้ใครเห็นผมร้องไห้ ตัวเธอเองก็คงพยายามฝืนตัวเองอยู่เหมือนกัน กลับถึงห้องพักหลังจากที่ปิดประตูห้องแล้ว ความอ่อนแอที่กดเก็บไว้ก็ผุดขึ้นมาอีก ผมวางกระเป๋าเอกสารไว้ที่พื้น ถอดถุงเท้า เอาโทรศัพท์มือถือไปชาร์จแบต พอเห็นรูปเธอที่ตั้งอยู่บนโต๊ะ ความอดทนก็สิ้นสุดลง ผมยืนไม่ไหวแล้ว ผมทรุดตัวลงและเริ่มร้องไห้ ผมร้องไห้หนัก สะอื้นไห้เสียงดัง

    ...ทำไมมันต้องเป็นอย่างนี้...ทำไมมันต้องเกิดกับเรา...

    ผมร้องไห้ ร้องไห้จนรู้สึกหายใจไม่ออก ต้องผ่อนลมหายใจออกมาทางปาก ผมไม่ไหวแล้วต้องคุยกับใครซักคน ผมตัดสินใจโทรหาพี่คนหนึ่งที่ทำงานเป็นสาธารณสุข

    แกบอกผมว่าไม่เป็นไร เรื่องอาจจะไม่เลวร้ายอย่างที่ผมคิดก็ได้ ที่สำคัญตอนนี้ผมต้องเข้มแข็งและเป็นหลักที่พักใจให้เธอ ช่วยให้เธอเข้มแข็งขึ้นมา เพราะตอนนี้เธอเองก็คงจะรู้สึกย่ำแย่เหมือนกัน และอาจจะรู้สึกย่ำแย่มากกว่าผมด้วยซ้ำ แกบอกผมไม่ให้คิดมาก อย่าคิดให้ไกลเกินสามเดือน..ผมอยากจะไปหาเธอตอนนี้เลยด้วยซ้ำ ถ้าเราไม่อยู่ห่างกันถึงสองร้อยกว่ากิโล...ตอนนั้นผมคิดอย่างนั้น

    ผมคุยกับพี่เขาอยู่นาน เริ่มตั้งตัวทำใจได้บ้าง จึงวางสายโทรศัพท์ นอนร้องไห้สู้กับความรู้สึกตัวเองต่อในห้องอีกครู่ใหญ่ ผมถอนหายใจยาว ผ่อนลมหายใจ บอกกับตัวเองว่าอย่าคิดอะไรเกินสามเดือน ผมกับเธอต้องผ่านสามเดือนนี้ไปให้ได้ก่อน บอกกับตัวเองว่าเราต้องผ่านมันไปให้ได้ เธอคงจะไม่เป็นอะไรมากอย่างที่กังวล

    ผมคุยกับตัวเองจนหลับไป และตื่นขึ้นมาหลังจากนั้นอีกประมาณครึ่งชั่วโมง ในใจคิดอยากให้เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเพียงแค่ความฝัน หรือเป็นเรื่องที่เธอโทรมาอำผมเล่น ตื่นมาคุยกับตัวเองอีกพักใหญ่แล้วผมจึงคิดได้

    ...ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ผมจะอยู่เป็นเพื่อนเธอจนถึงที่สุด...

    สมมติว่าอีกสามเดือนให้หลังผลการตรวจเลือดระบุว่าเธอติดเชื้อจริงๆ...ผมไม่อยากคิดถึงมันเลย...มันทำให้ผมรู้ว่า “ จริงๆ แล้วเราอาจจะไม่มีเวลาอยู่กับคนที่เรารักมากอย่างที่เราคิดก็ได้”...ผมกับเธอเคยคุยกันถึงเรื่องแต่งงาน ถ้าเราทำงานเก็บเงินไปอีกสองปี แล้วเราจะแต่งงานกัน อยู่ด้วยกันไปจนแก่จนเฒ่า...แต่ตอนนี้มันอาจจะไม่แน่นอนแล้วก็ได้...ดังนั้นช่วงเวลาที่มีอยู่เราควรจะใช้ไปเพื่อทำให้คนที่เรารักมีความสุขให้มากที่สุด

    ผมบอกกับตัวเอง ผมจะไม่ร้องไห้อีกแล้ว ผมจะใช้เวลาสามเดือนนี้ทำให้เธอมีความสุขเหมือนเดิมให้ได้ เผื่อว่าวันหน้าเกิดอะไรขึ้น เราสองคนจะได้มีวันเวลาที่ดีๆ เก็บไว้ในความทรงจำของเราต่อไป

    ...เราต้องผ่านมันไปให้ได้ด้วยกัน เพราะถ้าเราผ่านมันไปได้ มันจะทำให้เรารักกันมากขึ้น...ผมคิด

    ผมโทรหาเธอพยายามทำน้ำเสียงให้เป็นปกติให้มากที่สุด ชวนเธอคุย และทำให้เธอหัวเราะ เธอบอกว่าพอทำใจได้บ้างแล้ว และเธออยากให้ผมกับเธอมาเริ่มนับหนึ่งกันใหม่ ให้ผมกับเธอมาเริ่มเป็นเพื่อนกันใหม่

    ...เป็นเพื่อนกันนั่นแหล่ะ ดีแล้ว...เธอบอก ผมรู้ว่าเธอเองก็เป็นห่วงผม คำพูดของเธอเหมือนจะบอกให้ผมเผื่อใจไว้บ้าง เพราะอีกสามเดือนข้างหน้าอะไรจะเกิดขึ้นบ้างก็ยังไม่มีใครรู้

    ไม่เป็นไรผมและเธอจะต้องผ่านมันไปด้วยกันให้ได้...ผมบอก ผมได้แต่หวังว่าอีกสามเดือนข้างหน้าเธอจะไม่เป็นไร ผมพยายามคิดในทางที่ดีไว้ เธอจะต้องไม่เป็นไร ถ้าเราผ่านสามเดือนนี้ไปได้ด้วยดี ถ้าเธอไม่เป็นไร ถึงต้องรอฟังผลให้มั่นใจไปอีกสองปี เราก็ต้องผ่านมันไปได้เช่นกัน และถ้าผ่านสองปีนี้ไปได้ด้วยดีเราจะแต่งงานกัน และผมจะรักเธอให้มากที่สุด ตราบเท่าชีวิตของผมและเธอจะจากกันไป

    แม่ของเธอโทรมาหาเธอในช่วงตอนกลางคืน หลังจากที่คุยกับแม่เธอแล้วยิ่งทำให้เธอรู้สึกแย่ลงไปอีก...บางครั้งความเป็นห่วงเป็นใยที่มากเกินไปจากคนที่รักเรา ก็ทำให้เรารู้สึกแย่ได้เหมือนกัน...

    ผมโทรหาเธออีกครั้งตอนดึก จับน้ำเสียงของเธอได้ว่ากำลังร้องไห้ เธอขอตัวนอน ผมบอกเธอว่าถ้าไม่ไหวให้โทรหาผมได้ตลอดเวลา และบอกให้เธอนั่งสมาธิแผ่เมตตาให้กับสิ่งต่างๆ

    ...หวังว่าผ่านคืนนี้ไปผมและเธอจะค่อย ๆ เข้มแข็งขึ้น....

    ใกล้ๆ ตีสามของคืนนี้ผมจึงข่มตานอนหลับได้ เธอล่ะไม่รู้ว่าคืนนี้เธอจะข่มตานอนได้หรือเปล่า

    จากคุณ : ลมพายุพัดมาพัดไป - [ 15 ส.ค. 51 13:28:05 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom