Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    ความรักที่หักเห

    สายตาของเขาจับจ้องมองเมียงหญิงสาวที่ยืนเด่อยู่ในร้านขายของที่ระลึกตรงข้ามด้วยหัวใจที่ระรัวเป็นตีกลอง
    สองสายตาประสานกันลุกโชนวาววับราวกับประจุไฟฟ้าขั้วบวกขั้วลบแลบแล่นเข้าหากันเปล่งประกายพรายพร่าง หล่อนส่งยิ้มพริ้มพรายให้เขาแล้วแอบซ่อนความเหนียมอายต่อสายตาที่มีอำนาจไฟฟ้าคู่นั้นโดยหันหลังหลบเข้าไปหลังร้าน แว่วเสียงหัวเราะคิดคักตามมาอย่างมีจริตแง่งอน

        เจ้าหนุ่มผมยาวเคราครึ้มยืนนิ่งอยู่ตรงริมตลิ่งหนองน้ำใจกลางเมือง ตะลึงตะไลลานใจกับรอยยิ้มแจ่มจ้าของหล่อนที่ยังตกค้างอยู่ในใจ ในมือของเขาถือพู่กันชุ่มด้วยสีน้ำมัน ด้านหลังเป็นเฟรมผ้าใบบนขาหยั่งที่มีรูปวัดบนฟากฝั่งตรงข้ามถูกร่างไว้คร่าว ๆ ด้วยลายเส้นดินสอ ยิ้มของเจ้าหนุ่มยังอิ่มบานอยู่บนใบหน้า นักท่องเที่ยวฝรั่งคู่หนึ่งเดินผ่านมา ต่างมองดูเขาด้วยความสงสัย ไพล่คิดไปว่าเจ้าหมอนี่คงเสียสติเป็นบ้าไปเสียแล้วกระมังถึงยืนยิ้มเผล่อยู่คนเดียว ทั้งคู่หันกลับไปมองหน้ากันแล้วยิ้มพรืดออกมา เมื่อสายตาของเจ้าหนุ่มเหลือบเห็นเข้าดังนั้นก็รีบหุบยิ้มทันทีก่อนหมุนตัวกลับ ยกพู่กันในมือขึ้นตวัดแต้มแต่งภาพศิลปะบนผืนผ้าใบตรงหน้าอย่างตั้งอกตั้งใจอีกครั้ง

        ธันวา คือชื่อของเจ้าหนุ่มผมยาวเคราดกคนนั้น เพื่อน ๆ เรียกเขาว่า ‘ศิลปินเร่ร่อน’ เพราะเขาชอบเตร็ดเตร่เที่ยวท่องไปทุกหนทุกแห่งไม่อยู่ติดที่ แต่ในระยะปีสองปีมานี้ เพื่อน ๆ สามารถตามตัวเขาได้ที่เมืองเล็ก ๆ ท่ามกลางหุบเขาและสายหมอกแห่งนี้ เขาเป็นคนรักสงบแต่ก็โลดโผนกับชีวิต เขาเคยพร่ำบอกกับเพื่อน ๆ ว่า ‘ศิลปินมันต้องบ้า ลงถ้ามีอะไรเป็นปกติไปเสียหมดแล้วก็ไม่ใช่ศิลปิน จะให้ข้ามาใช้ชีวิตปกติราบรื่นและเรื่อยเฉื่อยอย่างพวกเองข้าคงทำไม่ได้ว่ะ ชีวิตมันไม่ไหววุ่น’

    ธันวาเดินทางมาเมืองนี้เมื่อปีกแห่งฤดูฝนกรายมาถึง แล้วกลับออกไปเมื่อสายหมอกแห่งกาลต้นหนาวห่มตัวหนาหนัก ไม่ใช่ว่าเขาไม่รักหมอกเหมย แต่เพราะต้องการหลีกให้กับคลื่นนักท่องเที่ยวที่แห่กันมาเมืองนี้เมื่อลมหนาวโบกตี และเมื่อสายฝนโปรยเม็ดลงมาอีกครั้ง เขาก็จะกลับมา หัวใจของเขาผูกไว้กับมนต์เสน่ห์เมืองนี้เสียแล้ว โดยเฉพาะกับหญิงสาวในร้านขายของที่ระลึกแห่งนั้นที่เป็นเหมือนดอกไม้ส่งกลิ่นหอมฟุ้งจรุงใจเย้ายวนเขาอยู่ทุกลมหายใจ ส่วนเขานั้นเล่า ก็คงไม่ต่างจากหมู่ภมรที่เฝ้าเชยชมดมกลิ่นดอกไม้ดอกนั้นอยู่ครามครัน

        ธันวาจำได้แม่นติดตรึงในวันแรกพบหญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งรอยยิ้มสดใสคู่นั้น มันเป็นเวลายามเย็นที่ตะวันใกล้ลาลับฟ้า พ่อค้าแม่ขายต่างออกวางสินค้าตามสองข้างถนนคนเดินรอบหนองน้ำสาธารณะแห่งนี้วุ่นวายอึงมี่ เขากำลังจรดปลายพู่กันลงบนผืนผ้าใบถ่ายทอดวิถีชีวิตริมฝั่งหนองยามอาทิตย์อัสดงทุกรายละเอียดนิ้ว ทันใดนั้น สายตาของเขาก็แวบเห็นหญิงสาวสะคราญนางหนึ่งกำลังจัดข้าวเรียงของอยู่หน้าร้านขายของที่ระลึกซึ่งตั้งอยู่อีกฝั่งหนึ่งของถนน มีหญิงสาวอ้วนมักคั่กคอยจ้ำจี้จ้ำไชเจ้าหล่อนอยู่ไม่ห่าง เมื่อประจักษ์เห็นเช่นนั้นก็รู้สึกแปลกประหลาดวาบขึ้นในใจ เสน่ห์ของนางทำให้เขาวางมือจากงาน จ้องมองหล่อนราวพยัคฆ์จ้องตะครุบเหยื่อ นับแต่นั้นธันวาก็แอบมองสาวสะอางนางนั้นเรื่อยมาแต่ไม่ยักจะกล้าพอเดินเข้าไปทำความรู้จักกับหล่อนเสียที มีสิ่งหนึ่งที่ธันวารู้สึกประหลาดใจอยู่ไม่น้อยที่ไม่เคยเห็นชายใดมาข้องแวะกับหญิงสาวพราวยิ้มคนนี้เลย ความสวยของหล่อนไม่แตะตาต้องใจพวกหนุ่ม ๆ แถวถิ่นนี้บ้างเชียวหรือ  แต่ความสงสัยนั้นก็ไม่ใช่ประเด็นใหญ่โตที่เขาจะต้องเก็บมาครุ่นคิดให้หนักหัว เวลานี้มีสิ่งเดียวที่ค้างคาใจจนยากจะถ่ายถอน คือความกระสันเต็มตื้นใจที่มีต่อหล่อนเสมือนดั่งไฟกาฬที่คอยเผารนจิตใจอยู่ทุกเมื่อเชื่อยาม
        ตะวันคล้อยแผดแสงเจิดจ้า หอบลมพัดอ้าวผ่านมา ปะทะผิวน้ำในหนองแตกพร่าเลื่อมพราย  ภาพวาดสีน้ำมันบนขาตั้งยังเป็นแค่ลายเส้นดินสอหยาบ ๆ มีเพียงไม่กี่จุดที่ถูกแต่งแต้มจากปลายพู่กัน  ธันวาทรุดตัวลงนั่งบนม้าหินอ่อน กราดมองหญิงสาวสะคราญตาที่ทำให้สมาธิของเขาเตลิดเปิดเปิงจนมิอาจสร้างสรรค์งานศิลปะต่อไปได้ ชั่วลมพัดผ่าน เจ้าของหุ่นระเบิดเฉิดฉันดังกล่าวก็ย่างเท้าออกมาจากหลังร้าน สาวแฉล้มแก้มอิ่มส่งสายตามายังหนุ่มผมยาวเคราหนา เมื่อสายตาของทั้งคู่ประสานกัน ต่างสะเทิ้นอาย หลบสายตากันวูบวาบ หัวใจของธันวาเต้นถี่กระชั้น เร็วขึ้น แรงขึ้น จนแทบระเบิดออกมาเป็นเสี่ยง ๆ เขาถอนใจลึก เหมือนรวบรวมความกล้า ชั่วอึดใจ หนุ่มผมยาวกล่นเคราก็ลุกขึ้น แล้วเดินแน่วไปยังร้านขายของที่ระลึกแห่งนั้น
    ธันวามุ่งหมายเอาวันนี้เป็นวันชะล้างความขุ่นมัวในใจที่เปรียบเหมือนสนิมกัดกินใจเขามานานหลายเดือน เขายึดข้อที่ว่า ความกล้าหาญเป็นเสรีภาพจากความเกรงกลัวอย่างที่มหาตมะ คานที กล่าวไว้ ธันวาสาวเท้าเข้าไปในร้านขายของที่ระลึกที่ขึ้นป้ายหน้าร้านไว้ว่า ‘ของฝากราคาถูก’ ด้วยความมั่นใจเต็มแปล้ แต่เมื่อเข้ามาอยู่ในร้านแล้วเขากลับยืนแน่นิ่ง มือไม้เย็นเฉียบประหม่าหวั่นไหว ไม่รู้ว่าความมั่นใจที่พกมาเต็มกระเป๋านั้นอันตธานหายไปไหนเสียสิ้น เขาคงจะยืนนิ่งอั้นอยู่อย่างนั้นไปอีกนานแสนนานถ้าหากไม่มีเสียงนุ่มหวานหูแว่วขึ้นมาจากมุมหนึ่งของร้าน
    “เลือกซื้ออะไรดีคะ”
    ธันวาหันขวับไปตามเสียงนั้น รู้สึกผวาวาบในหัวใจเมื่อเห็นรูปโฉมพิลาศพิไลของสาวเจ้าที่หมายตากำลังเดินกรีดกรายมาหาเขา ด้วยรอยยิ้มเปิดกว้างบนใบหน้า หนุ่มผมยาวในชุดซอมซ่อมีเหงื่อผุดพราวไปทั่วตัว แน่นิ่งเหมือนถูกสะกดด้วยกระแสไฟฟ้าที่ประจุอยู่ในดวงตาคมฉาบคู่นั้น แล้วนั่นก็ทำให้เขาเป็นอ่างขึ้นมาอย่างปัจจุบันทันด่วน

    “ง่า...เอ้อ”
    เจ้าของสายตาที่มีอำนาจไฟฟ้าขมวดคิ้วมุ่นด้วยความสงสัยในทีท่างก ๆ เงิ่น ๆ ของคู่สนทนา ส่วนธันวาได้แต่หลุบสายตาลงต่ำไม่กล้ามองอีกฝ่ายตรง ๆ ความเงียบเข้าครอบงำชั่วขณะ  หญิงสาวจ้องมองใบหน้าที่รกครึ้มด้วยหนวดเคราของฝ่ายชายอย่างพินิจพิเคราะห์ สักพักดวงตาที่แจ่มจรัสของหล่อนก็ขาวขุ่นและวาวรื้น แล้วหยาดน้ำตาเม็ดเขื่องก็ไหลผ่านร่องแก้มพร้อมเสียงสะอื้นกระซิกตามมา
    ธันวาเงยหน้ามองหญิงสาวเบื้องหน้าด้วยความสงสัยงุนงง หล่อนเกิดอารมณ์ไหนขึ้นมาถึงได้สะอื้นไห้เช่นนี้  ดีใจที่เห็นเขาเดินเข้ามาในร้านหรือเสียใจที่เขานิ่งเงียบไม่เอ่ยตอบหล่อน แต่ความสงสัยนั้นยิ่งเขม็งเกลียวเมื่อหล่อนพร่ำเพ้อขึ้นมาอย่างน่ากลัวว่า

    “ไม่ใช่เขา ไม่ใช่เขาคนนั้น เขาทิ้งเราไปแล้ว เขาทิ้งเราไปแล้ว”

    สิ้นเสียงรำพันนั้นก็มีเสียงหวีดร้องลั่นทุ่งตามมา สีหน้าของหล่อนเง้างอ แล้วหญิงสาวที่เคยงดงามด้วยรอยยิ้มและคำพูดก็ยกนิ้วชี้หน้าเจ้าหนุ่มผมยาวพร้อมตวาดไล่อย่างกราดเกรี้ยว

    “ออกไป! -งออกไปจากร้านกู ไอ้คนทรยศ  ”

    ธันวาตกใจกระถดเท้าออกห่างจากตัวหญิงสาวที่เขาเคยชื่นชม ตะลึงพรึงเพริดต่อคำผรุสวาทและทีท่าที่เปลี่ยนไปของหล่อนราวกับถูกผีห่าซาตานครอบงำ  ขณะที่เจ้าหนุ่มกำลังมึนงงกับเหตุการณ์ที่เผชิญอยู่ หญิงเจ้าเนื้อที่ประจำร้านอีกคนก็วิ่งโร่ออกมาจากหลังร้าน พอมาถึงตัวหญิงสาวที่บัดนี้กลายเป็นปีศาจร้าย ก็กระชากลากแขนหล่อนถูลู่ถูกังกลับไปทางเดิมพร้อมตะเบ็งเสียงด่าจนหญิงสาวที่กริ้วปังอยู่นั้นสั่นเทิ้มด้วยความเกรงกลัว
    “-งทำให้กูขายหน้าอีกแล้ว กูบอกกี่ครั้งกี่หนว่าอย่าไปไล่ลูกค้า สอนเท่าไหร่ -งก็ไม่เคยจำ จะให้กูทำยังงัยดี หา”
    พอผลักหญิงสาวอารมณ์บูดบึ้งพ้นประตูหลังร้าน เจ้าของหุ่นตุ้ยนุ้ยก็ปิดประตูปังใหญ่แล้วย่างเท้ากลับมาหาธันวาที่ยืนตะลึงจังงังใบหน้าซีดขาวอยู่หน้าร้าน

    “อิฉัน ต้องขอโทษคุณแทนน้องสาวด้วยนะค่ะ อย่าได้ถือสาเอาความมันเลย สติสตังมันไม่ค่อยดี”

    ประโยคสุดท้ายสะดุดหูธันวายิ่งนัก  หญิงสาวที่เขาชื่นชอบเป็นคนสติฟั่นเฟือนดอกหรือ ให้ดิ้นตายเหอะ สาวสวยเฉิดฉายอย่างเธอจะเป็นบ้าไปได้อย่างไร กัน เขาแทบไม่เชื่อสองหูของตนเองเลยเทียว

    “ชีวิตของมันน่าสงสารเหลือเกิน แต่ก่อนมันไม่บ้าบออย่างนี้หรอกค่ะ” หญิงตุ๊ต๊ะคนนั้นเริ่มเล่าความหลังอันขมขื่นของน้องสาวอย่างระทดใจ ส่วนธันวายืนอ้อต้อตั้งใจคอยฟัง

    “แต่ภายหลังที่มันโดนผัวทิ้งไปมีเมียใหม่ แล้วลูกชายคนเดียวก็มาจมน้ำตายอีกคน มันก็เลยยอมรับสภาพความเป็นจริงไม่ได้” หญิงสาวร่างท้วมคนนั้นเริ่มมีน้ำตาไหลพรากร่องแก้ม

    “อีชั้นก็พยายามปลอบใจมันนะค่ะ แต่ก็ไม่มีประโยชน์ ในที่สุดมันก็เลย...มันก็เลยกลายมาเป็นอย่างนี้ เวลาเห็นผู้ชายคนไหนมีหนวดเคราครึ้ม มันก็นึกไพล่ไปถึงผัวเก่าทุกที”
    สิ้นประโยคนั้นก็มีเสียงโฮใหญ่ตามมา จนธันวาต้องปลอบประโลมคนสะอื้นไห้แล้วเอ่ยว่า

    “เอาเถิดครับ ผมไม่ได้ถือสาเอาความน้องสาวคุณอยู่แล้ว แค่อยากเดินเข้ามาเลือกซื้อโปสการ์ดสักสองสามฉบับเท่านั้นเอง”
    หนุ่มผมยาวเคราหนาพยายามพูดกลบเกลื่อนความจริง เอ่ยจบเขาก็หยิบโปสการ์ดโดยไม่เลือกจากแท่นวาง ยื่นเงินให้หญิงสาวที่กำลังเช็ดน้ำตาป้อย ๆ  แล้วก็เดินออกไปจากร้านอย่างฉับไว

    ฝนยังคงตกพรำขมุกขมัวไม่ขาดสาย รถโดยสารสีแดงบุโรทั่งแล่นตะกึงตะกังฝ่าม่านฝนออกจากท่ารถประจำจังหวัด
    ธันวาทอดมองวัดพระธาตุที่ตั้งเด่นอยู่บนยอดเขาด้านทิศตะวันตกด้วยความอาลัย ฤดูฝนยังไม่เคลื่อนคล้อยลอยผ่าน อีกหลายเดือนกว่าลมหนาวจะโบกพัดมา แต่ธันวาต้องจำใจออกจากเมืองเล็ก ๆ แห่งนี้ไปด้วยความเศร้าใจ
    เพราะความรักที่หักเหจริงแท้.

                                                         แดนดิน
                                            15 สิงหาคม 2551
                                                   ณ เมืองปาย

    จากคุณ : Daendin - [ 17 ส.ค. 51 03:54:25 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom