Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    [ผู้ชายดี ๆ มีแต่ในนิยาย] เรื่อง...คนดี...ที่ฉันไม่เคยลืม

    เรื่องความรักไม่มีใครบังคับกันได้แน่นอน บางคนฉันก็รักเขาแทบตายแต่เขาไม่เคยรักฉันเลย แต่บางคนดีแสนดีทำไมฉันไม่เคยรักเขา ส่วนบางคนฉันไม่ได้ตั้งใจจะรักแต่กลับรักเข้าอย่างจัง ทั้งหมดเหล่านี้มันเป็นเพียงความรู้สึกของหัวใจดวงน้อย ๆ ของฉัน และก็ไม่เคยลืมคนดีคนนั้นที่ฉันไม่ได้รัก คนดีที่มีความหมายคนหนึ่งในชีวิตของฉัน

    แม้ว่าเรื่องราวเหตุการณ์มันเกิดขึ้นนานหลายปีแล้ว แต่ฉันไม่เคยลืมมันได้สักที ในตอนนั้นฉันยังเด็กมาก ไม่รู้สังคมภายนอกมากนัก ไม่เคยเข้าใจถึงความรู้สึกของผู้ชายที่เคยช่วยชีวิตตัวเองเลย ไม่รู้ว่าเขาต้องการอะไรจากฉัน เพราะเขาไม่เคยบอกฉันตรง ๆ และฉันเองก็ไม่เคยถามเขาสักครั้ง ฉันจึงไม่เคยรู้ความรู้สึกที่แท้จริงของเขา

    ทั้งชีวิตของฉันก็ไม่มีวันที่จะลืมเขาคนนี้ได้เลย ฉันไม่ได้รักเขาแต่ทำไมฉันไม่เคยลืมเขา หรือว่าเขาคือ ผู้ชายที่ดี ๆ ในนิยายอีกคนหนึ่งที่ฉันจะต้องขีดเขียนให้ทุกคนได้อ่านกัน และก็ถือเอาฤกษ์วันนี้เขียนเรื่องราวให้กับ ผู้ชายที่ชื่อ ทรายศิลป์ หรือที่ใคร ๆ เรียกกัน พี่ทราย

    เมื่อหลายปีก่อน สมัยที่ฉันยังวัยรุ่น ยังเด็กมากและก็ไม่ค่อยจะเข้าใจเกี่ยวกับความรักเลย ในตอนนั้นฉันทำงานโรงงานอยู่กับเพื่อนสาวหลายคน โรงงานที่ทำงานอยู่นั้น มีพนักงานผู้หญิงเยอะมาก ดังนั้นจึงไม่แปลกที่ฉันและเพื่อน ๆ สาวไม่มีหนุ่มมาจีบสักคน เพราะมองไปทางไหนก็มีแต่ผู้หญิงทั้งนั้น เพื่อนสาวน้อยคนนักที่จะมีแฟนเป็นตัวเป็นตน

    อันที่จริงพวกฉันก็ไม่ได้หน้าตาขี้ริ้วขี้เหร่เลย ฉันและเพื่อน ๆ แต่ละคนก็มีหน้าตาพอไปวัดไปวาได้ ไม่โดดเด่นเหมือนสาวงามตามเวทีประกวดต่าง ๆ แต่ถ้าหนุ่มคนใดได้ควงก็ไม่อายเพื่อนแน่นอน ถึงแม้พวกฉันจะเป็นสาวบ้านนอก ทำงานเป็นแค่สาวโรงงาน แต่พวกฉันก็มีความน่ารักอยู่ในตัวเสมอ

    เพื่อนสาวในโรงงานมักจะเรียกฉันว่า “อ้อน” อันที่จริงฉันก็มีชื่อเล่นและชื่อจริงอยู่เหมือนกัน แต่เพื่อน ๆ ในแผนกที่ทำงานอยู่ด้วยกัน ไม่เคยมีใครเรียกชื่อเล่นที่แท้จริงของฉันเลยสักคน ทุกคนร่วมด้วยช่วยกันตั้งชื่อใหม่ให้ฉันพร้อมกัน เพื่อที่จะให้ชื่อใหม่คล้องจองกับบุคลิคที่แท้จริงของฉัน

    และนับตั้งแต่วันแรกที่เข้าไปทำงานในในไลน์การผลิต ฉันก็กลายเป็นคนชื่อ “อ้อน” ไปโดยปริยาย เรื่องของเรื่องก็ไม่ใช่อะไรหรอก เพราะฉันเป็นคนที่พูดช้า พูดเอ๋อ ๆ เสียงเอื่อย ๆ ชอบลากเสียงแต่ละคำยาวมาก พูดหวานและออดอ้อนรุ่นพี่เป็นประจำ นี่แหละคือสิ่งที่ทุกคนยกฉายานี้ให้กับฉัน

    ส่วนเรื่องการทำงานนั้น ฉันกลับตรงข้ามกับชื่อที่เพื่อนตั้งให้หมดเลย ถึงฉันจะพูดช้าและเอ๋อ ๆ ไปหน่อย แต่เวลาทำงานนั้น ฉันมักจะทำงานได้เร็วและเสร็จก่อนเพื่อนทุกที

    “พี่อ้อขา...... งานหนูเสร็จแล้ว ช่วยเอางานตัวใหม่ให้หนูหน่อยได้ไหม”

    ขาที่ฉันใช้เรียกชื่อเพื่อนแต่ละครั้งไม่ได้สั้น ๆ อย่างที่คนอื่นได้ยิน แต่ลากยาวเสียจนคนบางคนขนลุกเชียว

    พี่อ้อมองค้อนและอมยิ้มกับน้ำเสียงของฉัน

    “ไอ้น้องอ้อน ช่วยขาสั้น ๆ หน่อยได้ไหม นี่ถ้าเข้ากะดึกและเดินอยู่ในไลน์เงียบ ๆ คนเดียว พี่มีหวังขนลุกหัวตั้งแน่เลย”

    เมื่อถูกเพื่อนตำหนิฉันก็ยิ้มเขิน ๆ “ค่ะ....” และก็ยังลากเสียงยาวเหมือนเดิม แต่ครั้งนี้สั้นกว่าตอนแรกนิดหนึ่ง ทั้งหมดเหล่านี้คือเรื่องราวและความเอ๋อเหมือนไม่ค่อยจะเต็มของฉันเอง


    แน่นอนทุก ๆ ครั้งที่แผนกของฉันทำงานได้เกินเป้าหมาย ซุปเปอร์ไวเซอร์ก็มักจะพาไปเลี้ยงตลอด ไม่ว่าจะไปเลี้ยงตามร้านอาหารหรือภัตตาคารต่าง ๆ หรือแม้แต่จัดนำเที่ยวก็มีบ่อยครั้ง ฉันในฐานะที่เป็นน้องใหม่ไม่ได้ร้ายแต่บริสุทธิ์ใจ ก็ตามรุ่นพี่เสียเหลือเกิน ไม่ว่าพี่ ๆ จะชวนไปเที่ยวที่ไหน ฉันก็ไม่เคยปฏิเสธเลยสักครั้ง และก็ตามเพื่อนรุ่นพี่ไปตลอด

    ชีวิตของฉันไม่ค่อยรู้อะไรมากนัก ฉันรู้ว่าป้ายรถเมล์ที่มารอรถรับส่งของบริษัทอยู่ตรงไหน รู้ว่าเส้นทางไปที่ทำงานคือถนนสายอะไร ส่วนห้างก็รู้แค่ไม่กี่แหล่งเท่านั้น สังคมของฉันแคบมาก จะว่าฉันอ่อนต่อโลกก็ใช่ ฉันก็ยอมรับว่าใช่และมันก็จริง ๆ เพราะฉันรู้เฉพาะในสังคมโรงงาน รู้เกียวกับเรื่องราวที่รุ่นพี่เล่าให้ฟัง รู้ว่าสิ่งที่พวกพี่ ๆ บอกสอนคืออะไร ดังนั้นจึงไม่แปลกที่ฉันมักจะทำตามและเชื่อฟังรุ่นพี่ตลอด และก็นับว่าโชคดีที่รุ่นพี่ไม่เคยพาฉันไปเสียคนเลยสักครั้ง

    ตอนที่ฉันเข้าไปทำงานในโรงงานนี้ใหม่ ๆ ฉันก็สนุกสนานกับงานพอสมควร ฉันเห็นรุ่นพี่แต่ละคนพากันแซวพวกหนุ่มวิศวกรที่มาทำงานในแผนกเป็นประจำ ตอนนั้นฉันก็ได้แต่มองอย่างไม่เข้าใจกับสิ่งที่ได้ยิน

    “พี่โป้งหล่อจัง คนอะไรก็ไม่รู้ หล่อชะมัดเลย” รุ่นพี่พากันซุบซิบนินทาเกี่ยวกับหน้าตาความหล่อของวิศวกรหนุ่มที่เพิ่งจะเดินผ่าน

    ฉันส่ายหัวไม่เห็นด้วยกับความคิดของรุ่นพี่ “ไม่เห็นหล่อเลย แก่ก็แก่”

    ฉันเองก็ไม่เข้าใจความคิดของตัวเองเหมือนกัน ตอนนั้นฉันรู้สึกว่าผู้ชายที่อายุยี่สิบห้าปีขึ้นไปถือว่าแก่มาก ๆ อาจจะเป็นเพราะว่าฉันยังเด็ก จึงชอบที่จะมีความรักแบบเด็ก ๆ ชอบที่จะมองผู้ชายอายุเท่า ๆ กันมากกว่า ถ้ามีผู้ชายคนไหนมาจีบ ฉันก็มักจะถามอายุเสียก่อน ถ้าอายุเท่ากับฉันและเกินกว่าหนึ่งปี ฉันให้จีบได้และยินดีคุยด้วย แต่ถ้าอายุมากกว่านั้น ฉันมักจะหลบหน้าเป็นประจำ

     
     

    จากคุณ : roslita - [ 21 ส.ค. 51 05:20:49 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom