ปัญหาในโลกนี้มีมากมายก่ายกอง ทุกคนล้วนมีปัญหาของตัวเอง วิธีแก้ปัญหาก็แตกต่างกันไป ผมในฐานะนักแก้ปัญหาก็เปรียบเสมือนคนที่คอยช่วยเหลือผู้ที่จนปัญญาในการแก้ปัญหา แต่ดูเหมือนว่าผมจะทำให้ผู้คนเริ่มที่จะหลีกหนีปัญหาเสียแล้ว หลังจากที่ผมทำงานได้ระยะหนึ่ง ลูกค้าคนเดิมๆเริ่มกลับมาหาผมเพื่อขอความช่วยเหลือเช่นเคย แรกๆผมก็ทำแต่ระยะหลังมานี้รู้สึกว่าปัญหาบางอย่างมันไม่จำเป็นที่จะต้องจ้างผมเลยนี่ดังเรื่องที่ผมจะเล่าต่อไปนี้
วันนั้นอากาศแจ่มใส ผมตั้งใจว่ายังไงก็ต้องออกไปเดินเที่ยวสักหน่อย แต่ก็มีโทรศัพท์เข้ามาหาผม เสียงอีกฝากหนึ่งของสายเป็นเสียงของหญิงสาวคนหนึ่ง ผมจำเสียงนั้นได้ เธอเป็นเพื่อนสมัยเรียนมหาวิทยาลัยนั่นเอง เธอมีปัญหากับแฟนแล้วต้องการให้ผมจัดการให้ ไอ้เรารึก็เห็นว่าเป็นลูกค้าก็เลยรับงานมา แต่ที่ไหนได้เธอต้องการให้ผมไปพบแฟนเป็นเพื่อนเธอเพราะว่าแฟนเธอโหดมาก
"ทำไมฉันต้องมาเป็นเพื่อนเธอด้วยเนี่ย" ผมถามขณะที่เราทั้งสองกำลังเดินทางไปยังร้านอาหารแห่งหนึ่ง เธอขับรถมารับผมที่บ้านครับ
"เดี๋ยวก็ถึงแล้ว เธอนี่ไม่เปลี่ยนเลยนะ ขี้บ่น" เธอแขวะผม
เมื่อเรามาถึง ผมก็เดินตามหลังเธอเข้าไปยังร้านอาหาร เราเดินไปยังโต๊ะที่มาชายร่างใหญ่หน้าตาดีนั่งอยู่ เมื่อเขาเห็นการมาถึงของเราทั้งสอง สีหน้าที่ดูเรียบเฉยก็ออกอาการสงสัยจนน่ากลัว
เพื่อนผมแนะนำผมกับแฟนของเธอ แฟนเธอชื่อ เอก เราสองคนแสดงกริยาสุภาพใส่กันจนเริ่มอึดอัด แล้วน้ำ(เพื่อนผม) ก็ทำลายความเงียบโดยการคุยกันถึงธุระที่เธอนัดแฟนเธอออกมาพบ
"นี่เอก ตกลงเรื่องคราวนั้นจะว่าอย่างไร" เธอถาม ซึ่งดูเหมือนจะตะคอกมากกว่า
"อะไร นี่น้ำเราพูดไม่รู้เรื่องหรือไง ก็บอกแล้วไงว่าไม่มีอะไร" ฝ่ายชายเริ่มตอบกลับดังๆบ้าง
ผมซึ่งนั่งอยู่และเป็นคนนอก ก็ได้แต่ทำตัวให้ไม่เป็นที่สังเกตุเห็น ผมนั่งเล็มข้าวในจานอย่างเงียบๆ เงียบที่สุด ...
ทั้งสองคนโต้เถียงกันจนเสียงดัง โต๊ะรอบข้างก็เริ่มมองมายังโต๊ะของเรา ผมจับใจความได้ว่าแฟนของน้ำนั้นแอบมีกิ๊ก แล้วน้ำจับได้แบบคาหนังคาเขา แต่เอกก็ปากแข็งบอกว่าเป็นน้องที่ทำงาน แต่จากที่ผมพิจารณาแล้ว เอกจะมีกิ๊กก็ไม่แปลก ก็รูปร่างที่ดีสมส่วน หน้าตาก็ดี แถมดูยังมีเงินอีกด้วย ผมไม่เข้าใจว่าน้ำจะพาผมมาด้วยทำไม ในเมื่อมันเป็นเรื่องส่วนตัวชัดๆ แต่อยู่ๆก็มีคำๆหนึ่งมาสะกิดให้ผมออกจากภวังค์
"งั้นเราเลิกกัน" น้ำพูดเสียงดัง แฟนของเธอนั่งอ้าปากค้าง ผมก็ด้วย
"ทำไม" แฟนเธอเก็บปาก แล้วถามเสียงเรียบ
น้ำไม่ตอบ เป็นเหตุให้สายตาจ้องเอาชีวิตมองตรงมายังผม ผมทำเป็นไม่รู้สึกแต่รังสีอัมหิตผิดมนุษย์ทำให้ผมเหลือบไปมองนิดหนึ่ง
"เฮ้ย ไมกลายเป็นงี้ว่ะ" ผมพูดเบาๆกับน้ำ น้ำไม่ตอบ น้ำตาไหลจนนองหน้าไปหมด ผมเห็นแล้วก็สงสาร
"เป็นแฟนใหม่เมียกูใช่ไหม" แฟนของน้ำพูดกับผม ท่าทางสุภาพหายไปสิ้น ผมถึงกับเดาธาตุแท้ไอหมอนี่บอก "ถ้าอยากได้ของใช้แล้วก็เอาไป กูเบื่อแล้ว" มันพูดด้วยสีหน้าเหยียดหยามแล้วมองไปยังน้ำ ผมมีความรู้สึกที่บอกไม่ถูก หัวใจเต้นเร็วขึ้นจนแทบจะทะลุหน้าอกออกมา
อันที่จริง น้ำเป็นแฟนเก่าผมสมัยที่เรียนมหาวิทยาลัยครับ แต่ต้องเลิกรากันไปเพราะต่างคนต่างก็ต้องทำงานและอยู่ห่างกัน และช่วงนั้นก็เป็นช่วงที่ผมยังเป็นคนหลักลอยอยู่จึงไม่อยากให้เธอซึ่งมีอนาคตสดใสกว่ามาจมปลักกับผม เราจึงตกลงแยกทางกันซึ่งก็เจ็บช้ำกันทั้งคู่
ขณะที่ผมกำลังนึกย้อนอดีตอยู่ แฟนของน้ำก็เอารูปในมือถือมายื่นให้ผมดู น้ำมีสีหน้าตกใจมาก พร้อมกับพยายามแย่งมือถือจากมือแฟนของเธอแต่ก็ล้มเหลว รูปที่แฟนเธอยื่นให้ผมดูนั้นเป็นรูปน้ำในอริยาบถต่างๆ มันคงจะไม่ทำให้ผมระเบิดได้ถ้าไม่ใช่รูปเหล่านั้นล้วนแล้วแต่เป็นตอนที่น้ำเปลือยทั้งสิ้น บางรูปเป็นตอนร่วมเพศกันด้วยซ้ำ เพียงเท่านั้นก็เพียงพอแล้วที่คุณธรรมในตัวผมจะหยุดทำงานชั่วคราว
ผมคว้าโทรศัพท์ของแฟนน้ำอย่างรวดเร็วจนผมเองก็ตกใจก่อนที่จะขว้างลงพื้นแล้วเหยียบซ้ำจนพังยับเยิน แฟนน้ำไม่รีรอปล่อยหมัดตรงเข้าหน้าผมทันที แม้จะมีเลือดไหลแต่ผมก็ไม่สนใจ ผมสวนกลับด้วยหมัดขวาเต็มเหนี่ยว ตามด้วยหมัดซ้ายอย่างเร็ว ก่อนที่จะระดมออกอาวุธใส่ชายตรงหน้าอย่างไม่ปราณี (อันที่จริงผมเคยต่อยมวยสมัยเรียนมหาวิทยาลัย และเข้าร่วมกิจกรรมอื่นๆอีกมากมายจนเป็นที่รู้จักกันไปทั่ว)
แฟนของน้ำทรุดลงกับพื้น ผมเตะส่งท้ายไปอีกที สายตาหลายสิบคู่มองมายังสังเวียนของเรา น้ำร้องไห้เข่าอ่อนอยู่ข้างๆ ผมมองไปยังซากโทรศัพท์ หยิบเมมโมรี่ออกมาและเก็บลงกระเป๋าเสื้อเชิ้ตของผมทันที โดยที่ไม่หันไปมองอีก ผมประคองน้ำที่ยังร้องไห้อยู่ออกมานอกร้านและพากลับบ้านโดยผมขับรถของเธอไปส่งเธอ
หลังจากเหตุการณ์นั้น ผมและน้ำก็ติดต่อกันบ่อยขึ้น หลักๆจะเป็นผมปลอบใจเธอมากกว่า และไม่นานเราก็เริ่มคบกันอีก แต่น้ำคงยังมีแผลในใจจึงทำให้เธอยังไม่ยอมเปิดใจให้ผมเท่าไหร่นัก ผมไม่รู้ว่าไอ้หมอนั่นเคยทำอะไรกับเธอไว้ แต่ที่แน่ๆ เธอเสียใจมากที่เลิกกับเขา ผมคิดว่าทำไมคนดีๆตั้งไม่ไปชอบ ดันไปชอบไอ้ขยะสังคมพันธุ์นั้น ผู้หญิงที่เคยตกเป็นเหยื่อของมันเยอะแยะมากมาย ผมเห็นรูปต่างๆจากเมมโมรี่การ์ดที่เอามา ผมทำลายมันทันที(หลังจากดูจนหมดแล้ว)
ผมเริ่มต้นหางานที่มั่นคงขึ้นเพื่ออนาคตของเราสองคน แต่งานก็ไม่ได้หาได้ง่ายๆเลยจริงๆ จนวันหนึ่งเพื่อนผมที่เป็นตำรวจก็โทรมา
"ได้ข่าวว่าจะเลิกรับจ้างแก้ปัญหาแล้วเหรอว่ะ" มันถามน้ำเสียงราบเรียบ
"เออว่ะ กูคบกับน้ำอยู่ เลยอยากหาอะไรที่มันมั่นคงหน่อย" ผมบอกกลับไป เพื่อนผมเงียบไปพักหนึ่ง
"กูมีงานประจำให้ทำเอาป่าว" มันบอก
"งานอะไรว่ะ กูจบไม่ตรงสายนะ"
"มาช่วยงานตำรวจดิ กูจะให้เอ็งเป็นสายลับ"
ปัญหาต่างๆที่มีอยู่อย่างมากมายนั้นผมเชื่อว่าปัญหาของใครคนๆนั้นก็ควรที่จะแก้เองเพื่อก้าวไปข้างหน้าได้อย่างมั่นใจ จึงทำให้ผมตัดสินใจเลิกอาชีพนักแก้ปัญหาและเริ่มต้นใหม่โดยเป็น "สายลับ"
จากคุณ :
witwas
- [
21 ส.ค. 51 13:07:49
]