Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    Lonely Project ตอนที่ 1: เหงา เศร้า เคล้าความสุข

    ท่ามกลางสายฝนที่โปรยปราย ในวันศุกร์ที่แสนจะน่าเบื่อวันหนึ่ง ผมยืนรอคิวแท็กซี่ภายใต้ร่มสีเขียวน้ำทะเล ด้วยสีหน้าที่กล้ำกลืนความโดดเดี่ยวและพยายามอดทนถึงขีดสุด กับสถานการณ์การรอคอยคิวแท็กซี่ที่นานอย่างสุดขั้ว แถมมีพวกเหลือบสังคม คอยตัดหน้าวิ่งมาแย่งแท็กซี่จากคนที่ยืนต่อคิวตรงป้ายจุดจอดแท็กซี่ จนอารมณ์เริ่มที่จะเดือดปุดๆ ยิ่งเจอหน้ายัยป้าคนหนึ่งที่ตัดหน้าแย่งขึ้นแท็กซี่ จากคนที่ยืนต่อคิวกันเป็น 20 คน คนขับเขาเชิญลงจากรถ ก็ไม่ยอมลง เลยตบะแตก ยกมือชี้หน้า พลางสบถออกมาว่า “ไปตายซะ” แม้จะทำได้แค่นั้น แต่ก็ยังดีที่ทำให้ยัยป้าเห็นแก่ตัวคนนั้น ผงะไปได้ ต้องขอบคุณพี่คนขับมากๆ ที่ได้เคลื่อนรถช้าๆ ประจานยัยป้าคนนี้ให้คนที่ยืนต่อคิวเขามองด้วยความน่ารังเกียจอย่างทั่วถึงกัน


    “เฮ้อ! ช่างไม่สุขสมชื่อวันซะจริง ทำไมวันนี้เจอแต่เรื่องว่ะ น่าเบื่อ อีเจ้านาย มรึงนี่เหียกเกินทนแล้วนะ โอย แถวนี้มีกระสอบทรายไหมฟะ อยากเตะให้หนำใจโคตรๆ เฮ้อ! เมื่อไหร่จะได้ขึ้นแท็กซี่เนี่ย ฝนก็ตก รอคิวมานานแล้วนะโว้ย อีกตั้ง 12 คน กว่าจะถึงคิว เบื่อชะมัด” นี่คือความคิดที่วนไปเวียนมาอยู่ในหัวผม ณ ขณะนั้น


    15 นาที ผ่านไป --> ผมก็ยังยืนอยู่ที่เดิม
    25 นาที ผ่านไป --> ผมขยับเข้าไปใกล้คิวของตัวเองมากขึ้นอีก จากคิวที่ 12 เป็น คิวที่ 10 พลางนึกในใจว่า “ทำไมกรูถึงอดทน ยืนรอได้ขนาดนี้เนี่ย ทำไมไม่ขึ้นรถเมล์ล่ะวะ ยืนรอมันเข้าไป มรึงจะได้กลับบ้านไหม” แล้วก็ยืนรอต่อไปตามระเบียบ
    35 นาที ผ่านไป --> รมณ์เสียว้อยยย! หุบร่มวิ่งออกจากการต่อแถว ขึ้นรถเมล์สายประจำอย่างเหนื่อยอ่อน และล้ามากๆ แต่ก็ต้องทนต่อไป แม้จะต้องยืนต่อบนรถเมล์ก็ตาม


    “ทำไมถึงได้ยืนรอขึ้นแท็กซี่ได้นานขนาดนั้น” คำถามก็ยังเกิดขึ้นในใจ ซึ่งผมเองไม่สามารถหาคำตอบได้ ขณะเดินขึ้นรถเมล์ และพยายามที่แทรกตัวผ่านคนที่ยืนออกันตรงประตูรถ ไปยังตรงกลางๆ รถที่คนไม่ค่อยไปยืนกัน แต่ทันใดนั้น ผมได้เจอกับ


    “คุณ”

    “คุณ” คนที่ผมเคยเจอบน BTS มาแล้ว 2 ครั้ง และผมแอบมองคุณอย่างเงียบๆ และอมยิ้มเบาๆ ครั้นพอเวลาคุณหันมาทางผม ผมก็จะปรับสีหน้าเป็นไม่สนใจใคร ดูหยิ่งๆ ทั้งที่จริงๆ น่ะ ผมอ๊าย อายสุดๆ เลย กลัวโดนจับได้

    “คุณ” คนที่ผมเคยเดินสวนทางบนทางยกระดับแห่งหนึ่ง และเราทั้ง 2 คนสบตากัน เพียงแต่ผมก็ยังทำหน้าเฉยๆ หยิ่งๆ ตามสเต็ป แต่พอสวนกันแป๊ปนึง ผมรีบหันกลับไปมองคุณ พร้อมยิ้มออกมาอย่างดีใจมากที่สุด และมองคุณเดินลับสายตาผมไป

    และ “คุณ” คนที่ผมได้เจอเป็นครั้งที่ 4 บนรถเมล์คันนี้ ซึ่งกำลังมองมาที่ผมพอดี รู้ไหมครับ ผมช็อคไป 3 วินาที พอได้สติกลับมา ผมก็ก้มหน้างุดๆ กลั้นรอยยิ้มที่จะออกมา ทำทีเป็นหาหูฟังมาเสียบรูหู แต่ผมก็พยายามที่จะแอบมองคุณเสมอ ไม่อยากให้คุณหายไปจากสายตาผมเลยจริงๆ


    “ทำไมผมถึงได้ยืนรอแท็กซี่ได้นานขนาดนั้น” ตอนนี้ ผมได้คำตอบแล้วครับ ว่าทำไม

    หนังสือ “2 เงาในเกาหลี” ของคุณทรงกลด บางยี่ขัน เคยบอกว่า “โลกนี้ไม่มีความบังเอิญ” เดิมที่ผมไม่เชื่อนักหรอก แต่ตอนนี้ผมชักจะเชื่อแล้วล่ะครับ ว่า “โลกนี้ไม่มีความบังเอิญ” มันคงมีสิ่งใดสิ่งหนึ่งกำหนดมาแล้ว เพียงแต่ผมเองแค่ไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นเท่านั้นเอง

    ห้วงเวลาของคนแต่ละคนต่างกัน แต่มันซ้อนทับกันได้ เหมือนตอนนี้ที่เวลาของผมซ้อนทับอยู่กับเวลาของคุณ ทำให้ผมได้ยืนเยื้องๆ กับคุณ และทำหน้าเปื้อนยิ้ม อ้าปากพะงาบๆ ร้องเพลงแบบไร้เสียงกลบเกลื่อนความดีใจและความสุขล้นที่ได้เห็นคุณอีกครั้ง ผมอยากให้ห้วงเวลาของเรา 2 คน นี้ซ้อนทับกันให้นานที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้จังเลยครับ

    ผมไม่รู้ว่าคุณจะจำผมได้หรือเปล่า เพราะบางครั้งที่ผมแอบหันไปมองคุณ แสร้งว่าดูขบวนรถติดยาวเหยียดที่อยู่ด้านหลัง ผมก็เห็นคุณมองมาที่ผมด้วยเช่นกัน รู้ไหมครับ บางอย่างมันเต็มตื้นในใจไปหมด ตาพร่าไปเลย มันดีใจ ดีใจที่สุดจริงๆ ครับ


    และโลกนี้ก็ไม่มีความบังเอิญอีกครั้ง เพราะเพลงใน iPod ของผม ดันดังขึ้นมาปะทะรูหูผม เป็นเพลง “รู้ตัวหรือเปล่า ของ 2 Become 1” ซึ่งมาพร้อมกับเสียงหวานๆ ของคริสติน รอยยิ้มที่พยายามกลั้นไว้ ก็กลั้นไม่อยู่อย่างที่สุด ผมไม่หาคำตอบอะไรอีกแล้วครับ เพราะทุกสิ่งทุกอย่างกระจ่างชัดจริงๆ พร้อมกับการแอบมองคุณอีกครั้งเป็นรอบที่ 28

    เวลาแห่งความสุขมักผ่านไปเร็วเสมอ ห้วงวลาของคุณได้เวลาโคจรออกไปจากห้วงเวลาผม ยามเมื่อคุณกดออด พร้อมจะลงเมื่อรถเมล์จอด ผมเสียดาย ใจหาย และเปล่าเปลี่ยวอย่างที่สุดจริงๆ เวลาที่คุณเดินลงจากรถเมล์ไปตามตามห้วงเวลาของตัวคุณเอง โลกนี้ดันไม่มีความบังเอิญอีกครั้ง เพราะเพลงที่กำลังขับกล่อมรูหูผม คือ “You Don’t Know My Name ขอ Alicia Keys” พอดิบพอดี ไม่ทราบว่าไอ้ iPod ครับ จะทำร้ายจิตใจผมไปถึงไหนเนี่ย


    ผมไม่รู้ว่าจะเจอคุณอีกเมื่อไหร่ และผมจะไม่ขอกับสิ่งใดเลยว่า “ขอเจอคุณอีกครั้ง” เพราะผมกลัวว่าจะได้เจอแค่อีกครั้งจริงๆ แล้วไม่เจออีกเลย แต่สิ่งที่ผมอยากจะบอกมากที่สุด คือ

    ขอบคุณมากครับ ที่ทำให้วันศุกร์นี้ เป็นวันสุขของผม

    ขอบคุณมากครับ ที่ยืนเคียงข้างกันในช่วงเวลาหนึ่ง แม้จะเยื้องกันไปหน่อยก็ตาม แต่ผมเห็นหน้าคุณชัดมากเลยครับ

    และขอบคุณมากจริงๆ ที่มองมาที่ผม ผมรู้สึกดีอย่างที่สุดจริงๆ ที่ผมได้อยู่ในสายตาของคุณ

    สัจธรรมของมนุษย์ คือ “พบเจอเพื่อจากลา และจากลาเพื่อพบเจอกันใหม่” ผมไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่นัก แต่ตอนนี้ ผมอยากให้สัจธรรมนี้เป็นจริงโดยเฉพาะประโยคท้าย ผมหวังครับ หวังอย่างยิ่งว่า ผมจะได้เจอคุณอีกในห้วงเวลาที่ซ้อนทับกันแบบนี้ และขอให้เป็นช่วงเวลาที่ยาวนานมากขึ้นทุกครั้งไปที่ได้พบเจอกับคุณ

    คงไม่เป็นการละลาบละล้วง ถ้าผมจะขอเก็บคุณไว้ในใจ และจะไม่ขอรบกวนคุณมากครับ เพียงแค่จะขอนึกถึงคุณ เพื่อสร้างความสุขให้ตัวตัวผม ในทุกๆ วันที่มีความเลวร้ายเกิดขึ้น ผมคงไม่รบกวนคุณมากไปใช่ไหมครับ


    สุดท้าย เฮ้อ!


    ผมอยากเจอคุณอีกจังเลยครับ

    แก้ไขเมื่อ 22 ส.ค. 51 12:41:22

    จากคุณ : เข็มขัดสั้น - [ 22 ส.ค. 51 12:35:56 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom