ปลายฝัน
ภาพความโกลาหลของเหล่าชายหญิงในชุดขาวที่ช่วยกันเข็นเตียงซึ่งมีเขานอนหมดสติอยู่บนนั้นพร้อมด้วยสายระโยงระยางเต็มไปหมด
เสียงอื้ออึงฟังไม่ได้ศัพท์ดังมาจากทุกทิศทุกทาง ความสับสนวุ่นวายรอบกายที่ไม่อาจแยกแยะรายละเอียดใดๆ ได้
และเมื่อผ่านพ้นประตูบานนั้นไป ทุกสิ่งทุกอย่างก็ดูเหมือนดับวูบลงราวกับคนละโลกกับเมื่อสักครู่ เหลือเพียงความเงียบเชียบอันน่าหวั่นวิตกที่อยู่เคียงข้างหญิงสาวอีกฝั่งฟากของประตู
ไม่รู้นานเท่าไหร่ แต่เธอรู้สึกเหมือนนั่นคือชั่วกัปชั่วกัลป์ แล้วในที่สุดหนึ่งในชายชุดขาวก็เดินออกมาจากห้องที่ปิดมิดชิดนั้น
พวกเราได้พยายามกันเต็มที่แล้ว เสียใจด้วยนะครับ
คำพูดเพียงไม่กี่คำที่หลุดออกมาจากปากของชายชุดขาว ดึงวิญญาณของหญิงสาวให้หลุดออกจากร่างอย่างง่ายดาย
เขากำของสิ่งนี้ไว้แน่น และผมคิดว่ามันน่าจะเป็นของคุณ
ชายชุดขาววางสิ่งๆ หนึ่งบนฝ่ามือของหญิงสาว เมื่อเธอก้มลงดูน้ำตาก็ไหลออกมาอย่างไม่รู้ตัว สะอื้นไห้ราวใจจะขาด มันเป็นแหวนสีทองเรืองรองที่เป็นสัญลักษณ์ของความรักความผูกพันที่เขาตั้งใจจะให้กับเธอในวันนี้
...เพราะมัน...เพราะคนขาดจิตสำนึกเพียงคนเดียว ทำให้ชีวิตของฉันเปลี่ยนแปลงไปทั้งชีวิต...
ความคิดเคียดแค้นแสดงออกมาอย่างไม่ปิดบังผ่านทางสีหน้าและแววตา หากแต่หลังจากนั้นมันก็เปลี่ยนเป็นความเศร้าสร้อยในทันที
...ไม่...ไม่ใช่...เพราะฉันต่างหาก...
...ใช่แล้ว...เพราะฉันเอง...ถ้าฉันมาตามนัดเร็วกว่านี้...เรื่องทุกอย่างก็คงไม่เกิดขึ้น...และเขา...ก็คงไม่ต้องจากไปตลอดกาล...
รอบกายหญิงสาวหยุดนิ่งในทันที ภาพตรงหน้าค่อยๆ บิดเบี้ยวเป็นเกลียวก่อนจะค่อยๆ เลื่อนไหลเข้าหาตัวเธอ ความเร็วที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นราวพายุที่บ้าคลั่ง เธอต้องหลับตาเพราะไม่อาจจับจ้องภาพเหล่านั้นได้
...และเมื่อเธอลืมตาขึ้น บรรยากาศตรงหน้าของเธอก็แปรเปลี่ยนไป...
เธอยืนอยู่ในกลุ่มคนบนบาทวิถีด้านหนึ่งของถนน และอีกฝั่งฟากหนึ่งของถนนนั้น เขากำลังยืนรอเธออยู่
หญิงสาวยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดู หกโมงห้าสิบแปด เลยเวลานัดมาแล้วเกือบหนึ่งชั่วโมง และต่อจากนี้ไปอีกสองนาทีเมื่อเวลาหนึ่งทุ่มตรง สีหน้าตกใจแสดงออกมาอย่างไม่ปิดบังเธอพยายามเบียดแทรกฝูงคนที่กำลังรอข้ามไปยังฝั่งตรงข้าม
อะไรบางอย่างขนาดใหญ่กำลังเคลื่อนที่มาด้วยความเร็วสูงที่หางตาด้านซ้ายของเธอ และเมื่อเธอหันไปมอง...
...มันนั่นเอง...มันเคลื่อนที่ราวอสูรกายบ้าคลั่งที่พร้อมจะบดขยี้ทุกสิ่งที่ขวางทางมัน...
ใกล้เข้ามา ใกล้เข้ามาแล้ว หญิงสาวดิ้นรนอย่างสุดกำลังเพื่อผ่ากำแพงผู้คน ก่อนจะกรีดร้องออกมาเมื่อรู้ตัวว่าทุกอย่างสายเกินไป อสูรกายตนนั้นกำลังเสียการทรงตัวและพุ่งเข้าหาบาทวิถีฝั่งตรงข้าม ชายหนุ่มหันไปมองอย่างตกตะลึง
ระวังงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง
เอี๊ยดดดดดด..........ดดดดดดดด โครมมมม...........มมมมมม
หัวใจสลายในทันที มือเท้าเย็นเฉียบ หญิงสาวได้แต่เหม่อลอยกับภาพตรงหน้า
...ไม่...มันต้องไม่เป็นอย่างนี้...ถ้ามาเร็วยิ่งกว่านี้...ต้องเร็วกว่านี้...
รอบกายเริ่มไหลย้อนกลับอีกครั้ง และเมื่อทุกสิ่งกลับเข้าสู่ภาวะปกติ หญิงสาวยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดู
...บ่ายโมงห้านาที...
หญิงสาวนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานในสำนักงาน เธอยิ้มออกมาเมื่อเห็นเวลาที่นาฬิกาข้อมือเวลา...ถ้าเป็นเวลานี้ทันแน่ แล้วมันก็จะไม่เกิดขึ้น ทุกอย่างจะดำเนินไปอย่างที่มันควรจะเป็น...
โอ้ยยยย...ยยย
เสียงเอะอะดังขึ้นดึงหญิงสาวออกจากภวังค์ เธอหันกลับไปมองและพบว่าเพื่อนร่วมงานของเธอซึ่งขณะนี้ตั้งท้องได้เพียงเจ็ดเดือนกว่าเกิดอาการเจ็บท้องขึ้นมาอย่างกระทันหัน
ความสับสนวุ่นวายเกิดขึ้นหลังจากนั้น เพื่อนสาวถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเป็นการด่วน และสิ่งที่เหลืออยู่ตรงหน้าเธอในขณะนี้คืองานสำคัญชิ้นโตที่สามารถตัดสินอนาคตของเพื่อนร่วมงานและความอยู่รอดของบริษัท
คุณก็รู้ว่างานชิ้นนี้สำคัญกับเรามากขนาดไหน ตอนนี้เหลือเก็บรายละเอียดอีกนิดหน่อย คุณช่วยทำต่อให้เสร็จด้วยนะ
แต่ว่า...หัวหน้าคะ... หญิงสาวตั้งใจจะปฏิเสธ
ถือว่าผมขอร้องก็แล้วกันนะ เพื่อความอยู่รอดของพวกเรา ใบหน้าขึงขังจริงใจนั้นทำให้หญิงสาวไม่อาจปฏิเสธได้ ไม่ใช่เพียงเธอ มันหมายถึงความอยู่รอด มันหมายถึงปากท้องของทุกคนที่นี่
หญิงสาวยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดู...ไม่เป็นไร รีบทำตอนนี้ น่าจะยังทันถมเถไป...
เวลาล่วงเลยไปอย่างน่าใจหาย หญิงสาวรีบจัดการงานที่อยู่ตรงหน้าอย่างเร่งรีบจนกลายเป็นร้อนรน จนในที่สุดเมื่อเธอเงยหน้าขึ้นจากกองงานที่ถูกจัดการอย่างเรียบร้อย เธอก็พบว่าท้องฟ้าภายนอกเริ่มทอแสงสีส้มอันหม่นหมองออกมาอย่างเงียบเชียบแล้ว
...ไม่เป็นไร ไปตอนนี้ยังทันแน่นอน...หญิงสาวคิดพร้อมทั้งรีบสาวเท้ายาวๆ ออกจากที่ทำงาน
บนท้องถนนติดขัดอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน หญิงสาวชะเง้อดูการจราจรที่ต้นสายอย่างร้อนรน ก่อนที่เธอจะตัดสินใจลงจากรถและออกวิ่งในที่สุด
...หกโมงห้าสิบห้านาที...บนถนนเส้นเดิม...บนบาทวิถีเดิม...
หญิงสาวเบียดแทรกฝูงชนที่กำลังรอข้ามถนนขึ้นมาจนอยู่แถวหน้าสุดอย่างไม่สนใจสายตาคนรอบข้าง เธอรอจังหวะที่จะข้ามไปฝั่งตรงข้ามและดึงชายคนรักออกมา แต่จนแล้วจนรอดรถราบนท้องถนนก็ไม่เป็นใจให้เธอทำอย่างนั้นได้แม้แต่น้อย
หญิงสาวโบกมือพร้อมป้องปากตะโกนเพื่อให้ชายหนุ่มรับรู้ว่าเธอรออยู่อีกฟากของถนน แต่กว่าที่เขาจะรู้ตัวและกำลังเดินออกมาจากที่เกิดเหตุ เจ้าอสูรกายตนนั้นก็ยิ่งอย่างคดเคี้ยวเข้ามาหาเขาอีกครั้ง
ระวังงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง
เอี๊ยดดดดดด..........ดดดดดดดด โครมมมม...........มมมมมม
...อีกแล้ว...อีกครั้งแล้วหรือนี่...ต้องเร็วกว่านี้...ฉันต้องเร็วกว่านี้...
หญิงสาวหลับตา รู้สึกเหมือนกระแสลมพัดผ่านผิวหน้าไป และเมื่อเธอลืมตาขึ้นและมองดูนาฬิกา รอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง
จากคุณ :
KTHc
- [
22 ส.ค. 51 19:28:31
]