Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    ............................จันทร์..........................

    “จันทร์เอ๋ยจันทร์เจ้า   ขอข้าวขอแกง  ขอแหวนทองแดง  ผูกมือหลานข้า…”   ฉันกำลังนอนหนุนตักยาย มองพระจันทร์อยู่เพลินๆ     ก็พอดีได้ยินเสียงช้าๆเนิบๆ ของแกดังขึ้นแข่งกับเสียงจักจั่นเรไรที่กำลังร้องดังระงมได้ที่ในยามหัวค่ำกลางฤดูร้อนแบบนี้  
    “ ยายจ๋า..  ” ฉันพูดแทรกขึ้นมาทันทีที่หาจังหวะได้ตอนที่ยายกำลังบ้วนน้ำหมากลงในกระโถนข้างกาย  มือก็กำลังร้อยมาลัยไปด้วย
    “ พระจันทร์อยู่ตั้งไกลขนาดนั้นจะได้ยินเราด้วยเหรอจ๊ะ ”
    ยายเอามือลูบหัวฉันอย่างนุ่มนวล  แล้วหัวเราะเบาๆ  จนฉันแอบนึกสงสัยในใจว่าฉันพูดอะไรผิดไปรึเปล่านะ
    “ พระจันทร์ท่านมีหูทิพย์น่ะ หนูแก้ว   ”  ยายพูดเสียงงึมงำๆเนื่องจากกำลังเคี้ยวหมากไปด้วย
    “ ท่านจะดลบันดาลพรให้กับคนที่ทำความดีเสมอ  ”
    “พระจันทร์นี่ใจดีจังเลยนะคะ”  ฉันว่าพลางแอบหยิบดอกมะลิดอกหนึ่งขึ้นมาดม ตอนยายเผลอ  
    (  ยายมักจะบ่นฉันเสมอ ว่ามะลิสำหรับร้อยพวงมาลัยไหว้พระ ห้ามเอามาดม)
    “ จ้า  หนูแก้ว  ….หนูเองก็ต้องเป็นเด็กดีนะ  พระจันทร์ท่านจะได้เอ็นดู ”
    “ จ้ะ ยาย ”  ฉันตอบ พลางแอบชำเลืองมองรอยย่นที่แก้มยาย  ที่มักจะปรากฏให้เห็นตอนยายยิ้มอย่างตอนนี้  
    และมันก็ยิ่งทำให้ยายดูใจดีขึ้นอีกเป็นกอง

    “ หนูแก้ว… ”   ยายว่า ขณะจะเงยหน้าขึ้นมองพระจันทร์     “ หนูเคยเห็นตากับยาย ตำข้าวอยู่บนดวงจันทร์มั้ยลูก ”
    “...ไม่เคยจ้ะยาย ”   ฉันตอบขึ้นทันใด พลางลุกมาจ้องยายด้วยความฉงนอยู่ในที  “ มีตากับยายอยู่บนนั้นด้วยเหรอจ๊ะ ”
    ...........ยายหัวเราะเบาๆอีกครั้ง  พลางชี้มือไปที่พระจันทร์  “ หนูดูดีๆ....... ”  
    ….ฉันหลิ่วตามองตามนิ้วยายไป    
    “ เห็นรอยนั่นมั้ย   ....  ลองมองดูดีๆจะเห็นตากับยายตำข้าวอยู่บนนั้น   ”  ยายว่า

    ฉันเพ่งดูอยู่ซักพักหนึ่ง  จึงเห็นเป็นอย่างที่ยายว่า
    “ โอ้โหยาย ....หนูเห็นแล้วล่ะ   กำลังช่วยกันตำกันอย่างขะมักขเม้นเลย ”

    ยายยิ้มส่งหวานให้ฉันอีกครั้ง   ก่อนจะค่อยๆยันตัวลุกขึ้นยืน
    “ เอ้าดึกแล้วลูก    เข้านอนได้แล้วล่ะหนูแก้ว  ”
    แล้วฉันก็เดินตามยายไปอย่างว่าง่าย
    .........................
    จากวันนั้น  ทุกครั้งที่ฉันเฝ้าดูดวงจันทร์   ...ฉันจะอธิษฐานขอพรจากตากับยายที่อยู่บนนั้น
    บางคืนฉันเผลอนั่งคุยกับดวงจันทร์อยู่ตั้งนาน  จนยายต้องมาตามไปนอน
    ....
    หลายเดือนผ่านไป  เมื่อฉันขึ้นชั้นป.3    
    ในคาบวิทยาศาสตร์.....คุณครูได้สอนพวกเราเกี่ยวกับเรื่องระบบสุริยะจักรวาล
    ....ครูบอกว่า  บนพระจันทร์ไม่มีอากาศ  ไม่มีแรงโน้มถ่วง  
    ...จึงไม่มีกระต่าย หรือ ตายายอยู่บนนั้น  
    รอยที่พวกเราเห็นนั้น  แท้จริงเป็นเพียงแค่หลุมบนดวงจันทร์เท่านั้นเอง

    วันนั้นฉันกลับบ้านด้วยความหดหู่ผสมผเสกับอารมณ์โมโหยายที่มาหลอกกันได้
    .....พอถึงบ้าน  ฉันเดินขึ้นบันไดบ้านด้วยเสียงปึงปัง  เห็นยายกำลังนั่งเจียนใบตองอยู่
    จึงบอกยายด้วยอารมณ์กำลังเดือดปุดๆไปว่า  
    “ วันนี้ครูวิทยาศาสตร์ที่โรงเรียนหนูบอกว่า  พระจันทร์ไม่มีตากับยายอยู่บนนั้นซะหน่อย
    ยายโกหกหนูเหรอ”  
    .......ยายหัวเราะเบาๆ …ยังคงนั่งเจียนใบตองอย่างใจเย็น  ไม่พูดไม่จาอะไร  
    ........จนฉันกำลังจะโวยวายต่อนั่นแหละ  ยายถึงได้พูดขึ้นมาราวกับจะรู้ทัน  ด้วยเสียงช้าๆเนิบๆว่า

    “  วิทยาศาสตร์น่ะ….   บางทีมันก็อธิบายทุกสิ่งไม่ได้หรอกนะ หนูแก้วเอ๋ย ”
    …..
     ฉันจำไม่ได้ว่าพูดอะไรกับยายต่อ    แต่ยังพอจำได้ว่า  ...ณ ตอนนั้น ฉันไม่ค่อยเข้าใจประโยคนั้นของยายเท่าไหร่นักหรอก  
    ……………
    ………………….

    “ แม่จ๋า....  แม่ ”   เสียงของยัยปาน ทำเอาฉันตื่นจากภวังค์    “ แม่ยังไม่ตอบคำถามหนูเลย ”
    “  อ๊ะ... อ๋อ จ้ะลูกปาน”  ฉันยังงงๆอยู่  อารมณ์ประมาณเพิ่งตื่นนอนใหม่ๆ   ยัยปานยืนอยู่ข้างๆกำลังแหงนมองไปยังพระจันทร์เบื้องบน

    ฉันเหม่อมองลอดหน้าต่างห้อง  ทอดสายตาลงไปเบื้องล่าง   ......จากชั้นที่พวกเราอยู่นี้ สามารถมองเห็นทัศนียภาพของกรุงเทพในมุมมองที่กว้างไกล  ตึกรามบ้านช่องเบียดเสียดที่กันอย่างแออัด ..แซมไปด้วยตึกสูงจำนวนมาก  จนราวกับว่าจะแข่งกันพุ่งทะยานขึ้นสู้ฟ้า...เพื่อแย่งชิงอากาศบริสุทธิ์เบื้องบน      

    ..... นึกแล้วก็รู้สึกใจหาย   มหานครแห่งนี้แตกต่างไปจากเมื่อยี่สิบปีก่อนโดยสิ้นเชิง    บ้านสวนหลังเก่าของยาย ป่านนี้คงถูกแทนที่ด้วยตึกคอนโดมิเนียมไปเรียบร้อยแล้ว   เสียงจักจั่นเรไรก็คงถูกแทนที่ด้วยเสียงแตรรถบนถนนไปจนหมด  

     ...ฉันทอดอาลัยกับตัวเอง......วิทยาศาสตร์ และ เทคโนโลยีได้นำพาความศิวิไลซ์ให้คืบคลานเข้ามาเร็วเหลือเกิน    

    “ เมื่อกี๊ลูกถามว่าอะไรนะ ? ”  ฉันถามยัยปานกลับไป    

    “ อ๋อ...หนูถามแม่ว่า   บนดวงจันทร์มีกระต่ายอยู่บนนั้นจริงมั้ยจ๊ะแม่ ”  ยัยปานถามขึ้นด้วยน้ำเสียงช่างสงสัย
    นัยน์ตาแป๋วแหววคู่นั้นก็ยังคงจับจ้องพระจันทร์อยู่อย่างนั้น  
    ....ฉันมองตามไปบ้าง   พระจันทร์เต็มดวงคืนนี้ช่างสุกสว่างงดงามเสียจริงๆ  แม้จะอยู่ในเมืองแบบนี้ก็ยังคงเห็นได้ชัดเจน    
    แอบนึกขอบคุณรอบข้างที่ไม่สูงชะลูดขึ้นมาบดบังพระจันทร์จนหมด    อย่างน้อยก็ยังให้ยัยปานได้เห็นพระจันทร์บ้าง

    “ มีสิจ๊ะ ”  ฉันตอบลูกไป    “ ......แล้วยังมีตากับยายตำข้าวอยู่บนนั้นด้วยนะ ”  

    ยัยปานยังคงไม่ละสายตาไปจากพระจันทร์   ฉันแอบเห็นรอยยิ้มเล็กๆปรากฏขึ้นที่มุมปากของยัยปาน   ... ดวงตาของเธอก็มีประกายซุกซน เหมือนเช่นทุกครั้งที่ฉันเล่านิทานก่อนนอนให้ฟัง
    ............ฉันนึกสงสัยว่า ป่านนี้จินตนาการของเธอจะบินออกจากเมืองอันวุ่นวาย  ...ล่องลอยไปไกลถึงไหนกันนะ  .............


    ‘วิทยาศาสตร์น่ะ….   บางทีมันก็อธิบายทุกสิ่งไม่ได้หรอกนะ หนูแก้วเอ๋ย ’  
    ฉันหวนนึกถึงคำพูดที่ทิ้งไว้เป็นปริศนาของยาย

    ….
    ‘ยายจ๋า   ตอนนี้หนูเข้าใจที่ยายพูดแล้วล่ะ’

    จากคุณ : ซงย้ง - [ 25 ส.ค. 51 13:15:00 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom