วันอาทิตย์ที่แล้วต้องนั่งหง่าวนอนหง่าวอยู่บ้านคนเดียวไม่ได้ออกไปไหนทั้งวัน
หลังตื่นจากเฝ้าพระอินทร์ตอนสิบเอ็ดโมงเช้า
ก็ลุกไปอาบน้ำสระผมด้วยแชมพูเปลือกมังคุด
ซึ่งใครบางคนซื้อมาให้จากบ้านอภัยภูเบศร์
หอมๆดีเหมือนกัน...แต่ชอบคลินิก (สูตรเย็น) มากกว่านะจ้ะ
// มันเย็นหัวดี
ช่วงที่ถูตรงง่ามขาใกล้ๆรูตูดตะลึง
อารมณ์ประมาณไอ้ฟักแอบดูสมทรงอาบน้ำผุดพรายง่านหงี่ขึ้นมา
ต้องตักน้ำเย็นราดหัวสามขันและท่องพุทโธๆอีกสามสิบรอบ
ภาพสมทรงนมโตจึงออกจากไปจากหัวเสียได้
อาบน้ำเสร็จเช็ดตัวแห้ง:-)หิวขึ้นมาซะงั้น
ก็นึกๆๆ...
เออ..
วันนี้กินอะไรดีวะ
ยังไม่ทันจะได้นุ่งกางเกงในให้เรียบร้อยก็เดินไปเปิดตู้เย็น
ไอเย็นจากตู้ผ่านกระทบชายน้อยเย็นยะเยียบสงบเงียบเชียว
ในตู้...มีแต่หมึกแห้งที่ซื้อมาจากเขาตะเกียบคราวที่ไปเที่ยวปราณบุรีครั้งก่อน
ชั้นบนมีไข่ไก่อยู่หกฟอง
ชั้นล่างสุดมีผักกาดกระป๋องตรานกพิราบขาวหกเจ็ดกระป๋อง
มีฝรั่งสดอยู่สามลูกผลมั่วอื่นๆอีกสองสามชนิด
(ผลมั่วหมายถึงผลไม้หลายๆอย่างกองสุมอยู่ในจานเดียวกัน)
ชั้นกลางมีหมูซื้อมาหมักไว้เกือบเดือนแล้วประมาณหนึ่งกิโล (ไม่ได้ทอดซะที)
ช่วงนี้เบื่อหมูเลยไม่อยากทอดกิน
มีปลาทูในช่องฟรีชสี่ตัวแข็งเป๊กขว้างหมาร้องเอ๋งแน่ๆ
ก็เลยกวาดลงถังขยะไปพร้อมๆกับผักบุ้งผักกาดเน่าๆสามสี่กำใหญ่ๆ
เฮ้อ...ไม่มีอะไรจะแดกได้
ก็เลยตัดสินใจ
หยิบกางเกงในมานุ่งแต่งตัวออกไปหาซื้ออะไรที่บิ๊กซีดีกว่า
ไปบิ๊กซีพระประแดงเนื่องจากใกล้บ้าน
เดินวนเวียนอยู่ตรงซุ้มขายขนมหวาน
สาเหตุเพราะคอยแอบมองนมน้องคนขาย
บิ๊กมิลด์คู่นั้นกะประมาณการด้วยสายตาน่าจะเกินสามสิบแปด
วนเวียนดูขนมและนมข้นหวานอยู่สามสี่รอบ
ต้องตัดใจไปเลือกซื้อของที่แผนกอาหารแล้ว
ได้ปลากะพงมา ๑ ตัว (แพงเอาเรื่องนะไอ้ปลากะพงเนี่ย)
ซื้อนู่นซื้อนี่ผสมๆกันเพราะยังไม่รู้ว่าจะทำอะไรดี
พอกลับถึงบ้านก็ได้เมนูในใจแล้วว่า
//จะทำปลากะพงทอดน้ำปลาดีกว่า
ว่าแล้วก็ล้างทำความสะอาดปลา
เสร็จแล้วก็อุ่นข้าวหอมมะลิที่ซื้อมา
แล้วกินไม่หมดตั้งแต่เมื่อเย็นวาน
เอาน้ำปลาทิพพรสกระแทกใส่บิ๊กโบว์ (ชามขนาดใหญ่)
เอาบิ๊กกะพงลงชุบในน้ำปลา
ตั้งกะทะไฟฟ้า
เทน้ำมันลงกะทะ
เร่งไฟไปที่ความร้อน 55 องศา ฯ
ถ้าทอดหมูให้เร่งไปที่ 40 พอ
บางคนคิดว่าทอดนี่:-)ต้องไฟแรงๆ
ขอบอกว่า:-)ผิด ต้องไฟอ่อนๆมันจึงจะเหลืองดี
น้ำมันเดือดปุดๆได้ที่
เอากะพงลงน้ำมัน
ไม่ปิดฝากะทะ
เพื่อคอยสังเกตว่าเนื้อปลาจะเหลืองดีหรือยัง
ตอนนี้ก็ทำน้ำจิ้มไปด้วยรอไปด้วย
น้ำจิ้มก็เอาน้ำปลาผสมกับน้ำตาลปิ๊บ
ใช้ช้อนยีบี้จนเข้ากันอย่างดี
หั่นพริกชี้ฟ้าเกือบละเอียดโรยผสม
หั่นรากผักชีโรยใส่
เพื่อเพิ่มความหอม
และสมัยเด็กๆเคยเห็นแม่เอามะม่วงเปรี้ยวกำลังห่ามๆ
ปอกเปลือกและซอยผสมลงไปด้วย
ก็ลองตามอย่างดู..
:-)เอ้ยยย...
:-)อย่างยอด
เสร็จแล้วลองชิม.....
อูยยยยยยยยยยยยยยยยยย
เยี่ยมๆๆๆอร่อยเหาะดีแท้
จากนั้นก็กลับกะพงหนึ่งรอบเพื่อให้มันสุกทั่วตัว
หลังจากรอปลากะพงเหลืองได้ที่แล้ว
ก็ยกขึ้นพักน้ำมันจนสะเด็ดดี
นำไปใส่จานขนาดใหญ่
นั่งมองดูหน้ากะพงเหลือง
นึกในใจว่าทำไมไม่ตัดหัวมันวะ
แต่คิดอีกที..ดูท่าหัวคงจะกรอบดี
จากนั้นก็ยกไปวางที่หน้าโทรทัศน์
กลับมาตักข้าวที่อุ่นไว้แล้วยกไปวางเคียงกัน
และก่อนจะเก็บกระทะก็เจียวไข่อีกสามฟอง
เผื่อกะพงจะไม่พอจะแดก
ครั้นลงมือจ้วงเนื้อกะพงที่กรอบนุ่มและกรุ่นกลิ่นโชยหอม
จิ้มน้ำจิ้มที่เปรี้ยวมะม่วงจี้ดและเผ็ดพริกปะแล่มๆ
ตามด้วยหอมรากผักชีและหวานน้ำตาลปึกนิดๆ
คำแรกที่เข้าปาก
อูยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
รวดเดียวหมดเกลี้ยงเลยครับขอบอก
ผลก็คือ
ข้าวสวยหมดไปสามจาน
กะพงทอดน้ำปลา ๑ ตัว
ไข่เจียว ๓ ฟอง
ค่าเสียหายประมาณการทุกสิ่ง
รวม ๑๒๐ บาท
ต่อมื้อขนาดใหญ่
ไม่แพงเลยสักนิด
กินเสร็จแล้วก็กลับไปหลับต่ออย่างเดิม.....
คนกำลังกินกำลังนอนว่ะ
จากคุณ :
ใส่ชื่อตรงนี้เหรอวะ
- [
28 ส.ค. 51 10:40:05
A:203.146.196.18 X:
]