Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    หนุ่มไทย ไปจีน 5 (ไม่ฮาเท่าไหร่)

    ก็มันไม่ค่อยฮาอะครับ

    อิอิ จะเอาฮาไปถึงไหนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน


    ------------------------
    แก้ไขครับ  มันต้องเป็น ตอนที่ 6 สิครับ  อิอิ รีบไปหน่ิอย

    -----------------------
    ต่อเลยนะครับ
    ---------------

    เดือนกว่าๆแล้วครับ  ที่ผมมาอยู่ที่เมืองจีน

    อะไรหลายๆอย่างเริ่มดีขึ้น ทั้งการปรับตัว

    ทั้งเรื่องของภาษา ที่ตอนนี้ ไปไหนมาไหนได้โดยไม่ต้องกลัวใคร(จะเล่นงิ้ว
    ใส่ผม)อีก เพราะสื่อสารได้บ้างแล้ว

    อยู่ที่จีนสนุกจังเลยครับ

    เวลาเรียนไม่ต้องใส่เครื่องแบบนักศึกษาไปเรียนเหมือนเมืองไทย

    เรียนตั้งแต่ 8 โมงเช้า ถึง เที่ยง หลังจากนั้นก็พัก 2 ชั่วโมงก่อนที่จะกลับมา

    เรียนต่อในตอนบ่าย

    พักเที่ยงหลังจากเริ่มเรียนอย่างเป็นทางการวันแรก

    เดินออกมานอกห้อง  ฝูงคนมากกว่าพันคนเบียดเสียดกันเดินไปที่โรงอาหาร

    ผมกับพี่ชินเดินออกมาที่ม้านั่งหน้ามหาวิทยาลัย

    มานั่งดูบรรดาอาตี๋อาหมวยทั้งหลายเดินแข่งกันยังกะมีมหกรรมเดินทน

    เพราะบรรดาเจ๊กตื่นไฟทั้งหลาย จ้ำอ้าวแบบว่ากูไม่รอใคร ต่างคนต่างเดิน

    ไม่เดินตัวเปล่านะครับ มือนึงถือกระโถนข้าว

    (เป็นกระโถนจริงๆครับ ใหญ่มากๆ)

    อีกมือนึงตักข้าวใส่ปาก

    อืมมมม  สงสัย เป็นริดสีดวงทวารกันทั้งมหาลัย

    เพราะที่นั่งเยอะแยะ กลับไม่มีใครนั่ง

    กลับเดินไปกินไป

    มารู้ทีหลังว่า

    คุณริดสีดวงทั้งหลายนั้น ที่ไม่นั่งกินข้าว เพราะจะรีบกลับไปนอน

    เนื่องจากมีเวลาพักตั้ง 2 ชั่วโมง เลยไม่อยากให้เสียเวลาไปเปล่า

    อีกอย่าง เขาบอกเคล็ดลับว่า เดินกินไป ดูโน่นดูนี่ไป ทำให้รสชาติอร่อยขึ้น

    เพราะแม่ครัวที่นี่ ทำกับข้าวอร่อยจัด จนต้องพึ่งพาทิวทัศน์ช่วย

    พี่ชินพอรู้อย่างนั้น เอามั่งครับ

    เห็นคนอื่นเดินกิน กูอยากกินมั่ง

    ไปซื้อข้าวในโรงอาหาร แล้วเดินกินไปด้วย

    ไม่ทันพ้นเขตโรงอาหารครับท่าน

    โครม!!!!!!!

    เสียงดังปึ้กเหมือนอะไรสักอย่างฟาดพื้นพร้อมกับเสียง

    กระโถนข้าวหล่นพื้นก้องกังวานไปทั่วโรงอาหาร

    เศษหมี่ฟ้าน(ข้าว)กระจายไปทั่วพื้น

    พริบตานั้น สรรพเสียงสำเนียงที่ดังจอแจอย่างกับตลาดแตก ภายในโรง

    อาหารเงียบลงทันที

    สายตาทุกคู่และทุกข้าง(พูดเผื่อไว้ เผื่อมีใครตาบอดข้างนึง) พากันจับจ้อง

    มาที่ต้นเสียงนั้น

    พี่ชินครับพี่น้อง

    สะดุดขาเก้าอี้

    อยู่ดีไม่ว่าดี ไปเล่นตีลังกาหกสูงให้พวกอาตี๋อาหมวยดู

    ผมรีบเดินหนีมาจากพี่ชินเลยครับท่าน แบบว่ากูไม่รู้จักเมิง เมิงเป็นใครไม่รู้

    มายืนสังเกตการณ์อยู่ห่างๆ  

    พี่ชินงงไปอึดใจ

    ก่อนที่จะลุกขึ้นมาอย่างมาดมั่น แล้วเดินเชิดหน้าออกมาจากที่ตรงนั้น

    ประมาณว่าไม่ใช่กู กูไม่ได้เป็นคนล้ม  เอากะพ่อสิเอ้า

    กระโถนข้าวอะไรก็ไม่สนใจแล้ว สนใจหน้าตัวเองมากกว่า

    เดือดร้อนแม่บ้านโรงอาหารต้องมาเก็บกวาดให้

    เอ่อ ......พี่น้องครับ ช่วยบอกหน่อยครับว่า

    ผมคิดผิดหรือเปล่าครับ ที่เลือกชิงทุนมาปีเดียวกับพี่ชิน

    .........................................................................................................................

    หลังจากนั้นเหตุการณ์ก็เป็นไปอย่างปกติครับ

    เดือนกว่ามาแล้วที่มาอยู่ที่นี่

    ไม่มีโรคโฮมซิค (คิดถึงบ้าน)เหมือนเพื่อนหลายๆคนที่มาอยู่ที่นี่ (เพราะไม่มี
    บ้าน 555)

    อีกไม่กี่วัน ต้องกลับเมืองไทยแล้วครับ

    เพราะต้องกลับไปส่งรายงานด้วยตัวเอง

    หลังจากนั้นต้องกลับมาอยู่ยาวเลย 6 เดือน

    วันนี้เป็นวันเปิดชมรม ไทยหวินหนาน

    เป็นวันแรก เป็นชมรมที่เกี่ยวกับเมืองไทยครับ

    รวบรวมทุกๆอย่างที่เกี่ยวกับเมืองไทย

    ตั้งแต่ไม้จิ้มฟันยันเรือดำน้ำ

    สถานที่ต่างๆในไทย ที่นักเรียนของที่นี่สนใจ ตั้งแต่เชียงรายยันสุไหงโกลก

    อุบลราชธานียันด่านเจดีย์สามองค์

    รวบรวมมาหมดเลยครับ

    เหมือนเป็นศูนย์การเรียนรู้เมืองไทยในหวินหนานต้าเสียเลยทีเดียว

    วันแรกนี้ มีคนไทยที่เรียนที่นี่เข้ามาเยี่ยมชมมากมายเลยครับ

    รู้สึกไม่ดีอย่างนึงคือ

    มีนักเรียนไทยคนนึง

    เธอมากับเพื่อนที่เป็นคนจีนครับ

    มาถึงก็แนะนำอะไรหลายๆอย่างที่เกี่ยวกับเมืองไทย

    ซึ่งก็เป็นเรื่องดีครับ

    แต่พอเพื่อนคนจีนคนนั้นเห็นขลุ่ย ที่พี่ชินใช้เป่าเมื่อวันต้อนรับเรา

    ก็เลยถามนักเรียนไทยคนนั้นครับว่า มันคืออะไร

    เธอทำหน้าเหยีดหยาม เบะปาก แล้วก็บอกว่า

    "เครื่องดนตรีโบราณ เก่าแก่มาก ตั้งแต่พ่อแม่ยังไม่เกิด

    สมัยนี้ไม่มีใครเล่นกันหรอก มันล้าสมัย"

    พูดเสร็จก็เดินเบะปากจากไป

    ผมงี้เดือดเลยครับพี่น้อง

    อยากจะเอาขลุ่ยยัดปากยัยนี่จริงๆเลย

    สงสัยว่าพ่อแม่เธอคงโดนฟ้าผ่าหรือไม่ก็โดนตะกวดกัดตายจนไม่มีโอกาส

    สั่งสอนเธอกระมัง ว่า

    ให้ภูมิใจในความเป็นไทย ของเราเอง

    คิดในใจว่าอย่าให้เจอยัยนี่อีกเลย

    เดี๋ยวอดใจตะบันหน้ามันไม่ได้

    เซ็งครับ วันนี้

    ขอจบก่อนแล้วกันครับ  เดี๋ยวมาเล่าใหม่

    แก้ไขเมื่อ 28 ส.ค. 51 15:09:12

    จากคุณ : เจิ้นเสี่ยวฟง - [ 28 ส.ค. 51 15:00:01 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom