Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    .............จอน(จัด)...............

    ผมเดินทอดน่องไปตามฟุตบาทริมถนนเล็กๆในซอยกับอีกสองเกลอเพื่อนร่วมก๊วน(อันที่จริงต้องเรียกว่าลูกกระจ๊อกถึงจะถูก) อย่างสบายอารมณ์ ...จุดมุ่งหมายคือที่นั่น..ที่ประจำของพวกเรา

    เสียงจอแจจากรถบนถนน สลับกับเสียงกระดิ่งกรุ๊งกริ๊งๆจากรถไอติม ฟังดูคุ้นเคยในบรรยากาศยามเย็นของซอยแห่งนี้ ...อีกซักพักก็คงจะมีเสียงกริ๊งจากตึกใหญ่ๆตรงฟากนั้น แล้วเด็กๆใส่ชุดสีเหมือนๆกันก็จะวิ่งกรูกันออกมาจากประตูนั่น ....แล้วทีนี้ร้านขายขนมถัดไปตรงนั้นก็จะกลับมาคราคร่ำไปด้วยเด็กๆมากมาย .....และเจ้าลูกหมาสวมปลอกคอนั่นก็กำลังจะ....

    ด๊ะ....เดี๋ยวๆๆ
    …………เจ้าลูกหมานั่น..........

    เจ้าลูกหมานั่น...มันมาจากไหนฟะ แล้วทำไมมันถึงต้องมาดอมๆดมๆเสาไฟฟ้าของช้านน!!!
    “ นี่ เจ้าหมาแปลกหน้า มาป้วนเปี้ยนอะไรแถวนี้ฟะ ” เจ้าสำลี มือขวาของผมผู้มีชื่อตรงข้ามกับสีผิว เห่าตะโกนข้ามฟากไปก่อน

    “ ไม่รู้เหรอไงฟะ ว่าแถวนี้ ครายยหย่ายยย ” ตามมาด้วยเสียงเห่าแบบทุ้มๆของเจ้าโบ้ คู่หูสีน้ำตาลขนเกรียนของมัน

    ยังไม่ต้องให้ถึงมือลูกพี่อย่างผม เจ้าหมาขาวสวมปลอกคอนั่นก็ดูจะกลัวลนลาน จนเจ้าของของมันต้องจูงมันเดินหนีไปทางอื่น

    "ฮะโธ่ ...... ไอ้ลูกหมาหน้าใหม่ ให้มันรู้ซะมั่งแถวนี้ถิ่นใคร" ผมเห่าไล่หลังมันไปอย่างกร่างๆ

    หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจสำคัญของลูกผู้ชาย ผมก็เดินนำลูกน้องสองตัวไปอย่างผึ่งผาย
    ...แต่ในใจก็ยังคิดสงสารเจ้าหมานั่นอยู่นิดหน่อย เฮ่อ ยังเด็กอยู่แท้ๆกลับต้องถูกจำกัดอิสรภาพอยู่แต่ในบ้าน ออกมาเดินข้างนอกก็ต้องมีสายจูงรั้งคอเอาไว้ (แถมยังต้องโดนหมาเจ้าถิ่นอย่างพวกผมไล่ตะเพิดไปอีก) ......สู้พวกผมก็ไม่ได้อยากเดินไปไหนก็ไป อยากนอนไหนก็นอน อิสระจริงจริ๊ง

    จุดหมายของพวกเราอยู่ข้างหน้า ... ถังสมบัติใบใหญ่วางโดดเด่นเป็นสง่าอยู่ข้างกำแพง บรรยากาศที่ยังคงสงบเงียบนั่นบอกให้เรารู้ว่า เรายังมาทันเวลา

    ผมกับพวกจึงนอนหมอบคอยอยู่แถวนั้นซักพัก .......
    และแล้ว...เขาก็เดินออกมา พร้อมกับถุงสมบัติสีดำที่บรรจุด้วย “สมบัติล้ำค่า” มากมายเต็มถุง เขาโยนถุงสีดำนั่นลงไปในถังสมบัติ กลิ่นหอมรัญจวนของมันลอยมาเตะจมูกจนผมแทบจะอดใจไม่ไหว ...แต่กระนั้นก็ต้องกลั้นใจรอซักพัก ให้เขาเดินจากไปก่อน มิฉะนั้นอาจโดนไม้กวาดอาญาสิทธิ์ขับไล่ตะเพิดไปได้

    ทันทีที่เห็นเขาเดินลับมุมตึกไป พวกเราก็กรูเข้าไปที่ถังสมบัตินั่น ใช้กรงเล็บฉีกถุงออกอย่างง่ายดาย และช่วยกันขุดคุ้ยหาสมบัติล้ำค่ากันอย่างขะมักเขม้น .... ไม่นานนักผมก็เจอกระดูกหมูติดเนื้อชิ้นเบ้อเริ่ม จึงรีบงับเอาไว้ก่อน แล้วก็ตั้งหน้าตั้งตาคุ้ยหาสมบัติให้เจ้าลูกสมุนทั้งสองของผมต่อไป

    เราหากันอยู่พักใหญ่ จนได้สมบัติติดปากกันมาคนละชิ้น จึงยุติการล่าสมบัติไว้เพียงเท่านี้.....
    แต่พอเราละสายตาออกจากถังสมบัติเท่านั้นแหละ ก็พบว่าตัวเองตกอยู่ในวงล้อมของเจ้าหมาอันธพาลแก๊งใหญ่

    ............ซวยล่ะสิ งานนี้ ..........

    “ นี่พวกแกมาแหยมอะไรถิ่นข้าฟะ!!!” เจ้าหมาตัวโตที่สุดในกลุ่มที่ดูเหมือนจะเป็นหัวโจก คำรามอวดเบ่งรัศมี
    “ ที่นี่มันเป็นแหล่งหาอาหารของพวกข้านะเฟ่ย ”

    เนื่องจากแถวนี้เป็นพื้นที่คาบเกี่ยวระหว่างพื้นที่ดูแลของพวกผมกับเจ้ายักษ์นี่ จึงไม่มีผู้ใดสามารถอ้างสิทธิ์ได้โดยชอบธรรม .....มีก็แต่ใช้กฎ(หมา)หมู่อย่างที่มันกำลังใช้อยู่นี่แหละ

    ......ผมมองซ้ายมองขวา พยายามหาทางหนีทีไล่ … ไอ้พวกหมาหมู่ลูกสมุนของเจ้ายักษ์ก็แยกเขี้ยวยิงฟันคำรามขู่แฮ่ๆ พร้อมกับตีวงล้อมเข้ามา
    แต่ด้วยเกียรติของลูกผู้ชายชาตหมา*จรจัดอย่างผม ......มีรึจะยอมให้ข่มเหงกันง่ายๆ
    (* จริงๆมันก็ฟังดูเท่ห์นะ แต่ไม่รู้ทำไมกลายเป็นคำด่าในภาษามนุษย์ไปซะได้ )

    ว่าแล้วด้วยประสบการณ์อันโชกโชนของหมาลูกพี่อย่างผม ... จึงตัดสินใจให้สัญญาณเจ้าโบ้ กับเจ้าสำลี .

    ..............เผ่นโลด !!!!!

    ผมใส่เกียร์หมาวิ่งหน้าตั้งไปอย่างไม่คิดชีวิต แอบแวบเข้าหลังปั๊มน้ำมันเพื่อหาที่ซ่อน ....แต่ยังคงได้ยินเสียงเห่าขรมของพวกหมาหมู่ไล่กวดตามหลังมาติดๆ หันมองข้างๆก็ไม่เจอเจ้าโบ้เจ้าสำลีแล้ว คงจะพลัดหลงกันตอนเลี้ยวเข้าปั๊มสินะ

    ผมวิ่งลัดเลาะหลบรถในปั๊มเพื่อจะไปออกตรงทางเข้าปั๊มด้านหน้า .......... เสียงเห่าเริ่มดังใกล้เข้ามามากขึ้นทุกทีๆ
    ทันใดนั้นเอง รถที่จอดเติมน้ำมันข้างหน้าผมก็บีบแตรปี๊น ทำเอาผมสะดุ้งตกใจ โผกระโจนออกไปทางด้านข้าง

    .และ.......................... เอี๊ยยยยดดด โครม!!!!!!!!!

    .................................................

    ผมค่อยๆเผยอเปิดเปลือกตาอันหนักอึ้งขึ้นมาอย่างยากเย็น ..... พยายามจะขยับตัวลุกขึ้น ... แต่ก็พลันรู้สึกปวดแปล๊บแถวๆสะโพกและขาหลังของผมจนต้องครางเอ๋ง...

    “ นอนไปก่อนเถอะเจ้าหมา อย่าฝืนลุกขึ้นยืนเลย ” เสียงมนุษย์ผู้หญิงดังขึ้นตรงหน้า ผมมองเธอตาขวางพลางขู่แฮ่ๆในลำคออย่างระแวดระวัง .... ผู้หญิงคนนั้นทำท่าจะยื่นมือมาจับตัวผมแต่ผมแยกเขี้ยวพร้อมกับเห่าเสียงดัง จนเธอต้องรีบหดมือกลับไป

    “ แม่เค้าไม่ทำอะไรแกหรอกน่า ” คราวนี้เด็กมนุษย์ตัวน้อยที่นั่งยองๆอยู่ข้างๆพูดขึ้นมาบ้าง
    “ เค้ามาช่วยรักษาพยาบาลแกต่างหาก ”

    ถึงอย่างนั้น.... ผมก็ยังคงไม่ไว้ใจอยู่ดี ยังคงขู่แฮ่ๆในลำคอแม้ลำคอจะแหบแห้งอยู่ก็ตาม

    “ ฟังเสียงแกดูแหบๆ สงสัยคงจะหิวน้ำล่ะสิท่า ” มนุษย์ผู้หญิงว่า พลางหันไปพูดกับเด็ก
    “ น้องหลิว ไปหาน้ำมาให้เจ้าหมานี่กินหน่อยสิจ๊ะ ...อ้อ เอาข้าวที่แม่คลุกเอาไว้แล้ว มาให้มันมาด้วยนะ ”
    ....ผมยังอยู่ในสภาพครึ่งหลับครึ่งตื่น รู้สึกตัวอีกทีก็มีขันใส่น้ำมาจ่อใกล้ๆหัวผม
    “ เอ้ากินซะนะเจ้าหมา ” เด็กนั่นพูด .....พลางเลื่อนถาดเข้ามาใกล้ ผมเหลือบตาขึ้นมองอย่างลังเล แต่แล้วความกระหายก็เข้าครอบงำ ผมจึงตัดสินใจเลียน้ำในขันนั่น .......ซึ่งมันก็เย็นชื่นใจซะจริงๆ

    ผมเลียน้ำอยู่พักใหญ่จนหายอยาก พลันก็เห็นมือน้อยๆเลื่อนจานข้าวเข้ามาใกล้ กลิ่นอาหารในจานมันช่างหอมเตะจมูกซะจริงๆ แต่ด้วยศักดิ์ศรีลูกผู้ชายชาตหมาจรจัด ผมต้องแสดงความหยิ่งพอเป็นพิธี ....ผมเหลือบตาให้อีกแวบหนึ่ง เห็นเจ้าของมือน้อยๆนั่นยิ้มอย่างเป็นมิตร จึงยอมตัดสินใจ

    .....เอ้า กินก็ได้วะ

    รสชาติของอาหารมื้อนั้น ยังคงติดตรึงใจจวบจนถึงทุกวันนี้ มันช่างเป็นอะไรที่เอร็ดอร่อยสุดยอดเหนือสุดยอด ....เท่าที่ชีวิตสุนัขจรจัดอย่างผมจะได้พึงลิ้มลอง .......ตับไก่ที่นุ่มไปด้วยเนื้อเต็มคำคลุกเคล้ากับข้าวสวยร้อนๆ ทำเอาผมลืมเนื้อติดกระดูกในถังสมบัติไปโดยปริยาย

    ผมจัดการกับอาหารมื้อนั้นภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งนาที ........ รู้สึกสบายท้องอย่างบอกไม่ถูก

    .....มือของผู้หญิงคนนั้นทำท่าจะเลื่อนมาแตะตัวผมอีกครั้ง แต่คราวนี้แฝงด้วยความระแวงอยู่ในที
    ผมก็เลยแกล้งทำเป็นนอนแนบกับพื้น ทำเป็นมองไม่เห็น...
    ......เอ้าไหนๆก็ให้อะไรผมกินและ จะให้แต๊ะอั๋งตอบแทนซักนิดๆหน่อยๆจะเป็นไรไป

    ....นี่เป็นครั้งแรกที่ผมยอมให้มนุษย์มาลูบหัวผมแบบนี้

    แล้วผมก็ได้รับรู้ได้ถึงสัมผัสจากมือเธอ ที่แทรกเข้ามาตามขนสากๆบนหัวของผม
    ...รู้สึกถึงไออุ่นบางอย่างที่ถูกถ่ายทอดจากมือนุ่มๆเข้ามาสู่ผิวหนังผม ....แม้จะไม่มีคำพูดใดๆที่สื่อสารระหว่างเรา แต่ผมกลับรู้สึกได้เองว่าเธอกำลังจะบอกกับผมว่า “ เรามาเป็นเพื่อนกันเถอะนะ”
    ........................................

    จากคุณ : ซงย้ง - [ 2 ก.ย. 51 19:30:45 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom