Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    เพื่อนข้างบ้าน...

    เพื่อนข้างบ้าน (ฉบับรีไรท์)


    เธออายุยี่สิบสอง เธอเป็นเพื่อนกับผมตั้งแต่ตอนที่เรายังเล็ก เราเล่นด้วยกันบ้างเป็นบางครั้งเพราะบ้านของเธออยู่ตรงข้ามกับบ้านผม ที่ผมใช้คำว่าบางครั้งเพราะเธอชอบเล่นอะไรแบบผู้หญิงๆ เช่นกระโดดหนังยาง บ้านตุ๊กตา ส่วนผมชอบเล่นแบบผู้ชายเช่นเป่ากบ เขี่ยไพ่ แต่ผมก็ยังหาเวลาไปเล่นกับเธอจนได้ เธอเป็นคนน่ารัก เป็นที่รักของเพื่อนๆ ผมยังจำหน้าตาเธอตอนเด็กๆ ได้อย่างแม่นยำ ตาโต จมูกโด่ง ยิ้มเก่ง ร่าเริง แต่พอโตขึ้นเราเริ่มห่างเหิ่นกันไป อาจจะเป็นเพราะว่าผมใช้ชีวิตในมหาลัยมากกว่าบ้านก็ได้ จะมีก็ช่วงนี้แหละที่ผมเห็นเธอบ่อยขึ้น

    เธอยืนสูบบุหรี่อยู่ชานระเบียง ควันบุหรีถูกอากาศลอยคว้างในอากาศตีเป็นวงเหมือนคลื่นทะเลซัดฝั่งก่อนจะหายไป -- นัยน์ตาเธอมองบนท้องฟ้า เหมือนเธอกำลังคิดอะไรบางอย่าง สีหน้าของเธอบ่งบอกว่าคงเป็นเรื่องไม่ดีนัก เธอถอนหายใจยาว ควันบุหรี่ออกจากจมูก ในตอนนั้นเองที่ผมคิดว่าเธอไม่ใช่เด็กไร้เดียงสาที่ผมเคยเล่นด้วยในวัยเยาวอีกต่อไป

    โดยส่วนตัวผมคิดว่าเธอจะเป็นคนค่อนข้างเก็บกด ไม่บอกเรื่องราวใครง่ายๆ ถ้าไม่รู้จักกันจริงๆ แต่ค่ำคืนนี้ เธอจะเล่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับเธอให้ผมได้ฟัง

              “ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ” เธอทักขึ้นมาก่อน
              ผมพยักหน้า แล้วทักตอบไปว่า “เป็นไงบ้าง หายหน้าหายตาไปเลยนะ สบายดีไหม?”
               “ก็เรื่อยๆ -- เรื่อยๆ ตามประสานั้นแหละ” เธอยิ้ม ก่อนจะอัดบุหรี่เข้าไปอีกรอบ
               “นายสูบบุหรี่ไหม?” เธอถาม
              ผมส่ายหน้าบอกไม่สูบ
              เธอบอกว่า “เด็กน้อย” แล้วยิ้มนิดหนึงตรงมุมปาก

    ดูจากโครงร่าง รูปร่างหน้าตา วิธีการแต่งตัว วิธีการสูบบุหรี่ เธอดูเป็นผู้ใหญ่กว่าผมเช่นที่เธอพูด แต่ผมเองยังคงเห็นเธอเป็นเหมือนเก่าอยู่วันยังค่ำแม้ว่าบางครั้งจะลืมตัวคิดว่าเธอเป็นคนละคน เพียงแต่ตอนนี้เธอตัดสินใจในชีวิตผิดไปนิดหนึ่งแค่นั้นเอง -- ถ้าคุณถามว่าผมว่าเธอผิดไหมที่ทำตัวแบบนี้ ผมไม่คิดว่าผิดหรอก เพราะผู้หญิงเยอะแยะที่สูบบุหรี่ แต่ที่ผมได้ยินข่าว ที่ชาวบ้านเขาลือกันมันหนักกว่าเรื่องสูบบุหรี่ตั้งเยอะ -- หลายๆ คนบอกว่าเธอขายตัวเอย ดูดยาม้ายาบ้าเอย แต่ผมไม่สนใจเรื่องพวกนั้นหรอก เพราะผมอยากฟังจากปากหรือเห็นกับตาของตัวเองมากกว่า -- แต่ก็นั้นแหละ มันคือชีวิตของเธอ เธอเลือกเอง

               “นายคิดอะไรอยู่เหรอ?” เธอถาม บุหรื่ที่เธอสูบหมดมวนแล้ว เธอจึงบี้มันกับพื้นคอนกรีตที่เธอนั่งอยู่
               “เยอะแยะ“ ผมตอบ
               “เกี่ยวกับตัวฉันหรือเปล่า?”  เธอถาม
               “เปล่า” ผมปด
               “โกหก นายคิดเรื่องฉันอยู่แน่ๆ” เธอยิ้ม
               ผมมองหน้าเธอแล้วบอกว่า “มีอะไรไม่สบายใจก็บอกได้นะ”
               เธอมองหน้าผมสักพักแล้วพูดว่า “ถ้าบอกแล้วฉันจะสบายใจขึ้นหรือเปล่า”
               “อย่างน้อยก็ได้ระบาย ดีกว่าเก็บมันไว้กับตัว ปรึกษาตัวเอง คำตอบที่ได้ก็วนอยู่ซ้ำๆ อยู่อย่างนั้นแหละจริงไหม” ผมตอบ
               “ก็จริงอย่าที่เธอว่า” เธอเห็นด้วย

    เธอเล่าว่าเธอคบกับแฟนคนหนึ่งมาได้ครึ่งปี แฟนเธอดีทุกอย่าง เอาใจใส่ พาเธอไปดูหนัง ไปเลี้ยงข้าว เขาทำทุกอย่างได้เพื่อให้เธอมีความสุข เธอเลยพาแฟนมาแนะนำที่บ้าน ตอนแรกๆ พ่อแม่ของเธอก็ไม่ชอบ แต่เธอก็รั้นจะคบเขาให้ได้ เพราะเธอรู้สึกว่าเธอเจอคนที่ใช่สำหรับเธอ -- เขารักเธอ และเธอก็รักเขาเช่นกัน

    บางทีคุณอาจจะคิดว่าเรื่องที่เธอเล่าช่างเป็นความรักที่สมบูรณ์แบบ แต่ผมฟังแล้วผู้ชายคนนั้นคงเป็นคนที่ ‘เคย’ ดีกับเธอมาก่อน ไม่อย่างนั้นเธอคงจะไม่เป็นเช่นนี้ ผมคาดเดาไปก่อนว่าผู้ชายคนที่ ‘เคย’ ดีกับเธอ คงจะทิ้งเธอไปมีผู้หญิงใหม่ แต่เหตุการณ์ที่เธอเล่าขึ้นมันยิ่งกว่านั้น เธอเล่าว่า, วันหนึ่ง เธอพลาดท่าไปมีอะไรกับเขา เวลาล่วงเลยมาสองเดือนเธอถึงรู้ว่าเธอท้องกับเขา แต่เขาเองก็ดันบอกว่าเขารับผิดชอบไม่ได้ เพราะตอนนี้เขามีเมียมีลูกแล้ว เขาไม่อยากจะให้เธอเป็นตัวทำลายครอบครัว แต่เขาตกลงจะส่งเงินให้ทุกๆ เดือนเดือนละห้าพันบาทเป็นการรับผิดชอบ แต่เธอไม่อยากได้เงินของไอ้ผู้ชายเลวๆ นั้น -- เธอเลยขอยืมเงินก้อนหนึ่งของเพื่อนมา หวังว่าจะไปทำแท้ง แต่ก็ไม่กล้า เพราะสงสารเด็ก แต่ถ้าไม่เอาออกก็สงสารพ่อแม่ เพราะเธอคงเลี้ยงเด็กคนนี้ไม่ได้แน่นอน เธอยังไม่ได้ทำงาน และเธอก็ยังไม่พร้อมที่จะแบกความรับผิดชอบนี้ไว้

    ผมได้ฟังดังนั้นก็ไม่รู้จะบอกยังไง เพราะคำตอบที่ออกมา อย่างแรก คือให้เธอไปเอาออก อย่างที่สองคือเก็บลูกเธอเอาไว้ -- ให้ตายเหอะ ผมรู้สึกผิดขึ้นมากระทันหันเพราะว่าผมหวังจะช่วยเธอแก้ปัญหาแต่กลับทำไม่ได้อย่างที่พูด เพราะปัญหาของเธอไม่ใช่ปัญหาที่รอการแก้ไข แต่เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นแล้วต่างหาก สิ่งที่เธอต้องทำคือสู้กับมัน นั่นคือสิ่งที่ผมคิด

                “แล้วคิดหรือยังว่าจะทำยังไงต่อไป” ผมถาม
                เธอตอบว่า “เราคงคิดว่าจะเก็บเอาไว้” เธอพูดแล้วหยิบบุหรี่ออกมาสูบอีกมวน
               “อย่าสูบเลย มันจะไม่ดีกับลูกนะ”
               “นี่เธอเชื่อที่ฉันพูดเหรอ”
               ผมอึ้ง “อะไรนะ”
               “ฉันไม่ได้มีท้อง ไม่ได้มีแฟนอย่างที่พูดหรอก ฉันล้อเธอเล่น” เธอหัวเราะ
               “แล้วทำไมถึงล้อเล่นแรงแบบนั้นล่ะ”
               เธอถอนหายใจพร้อมควันบุหรี่ “นี่ คนอย่างฉันน่ะ พูดเรื่องดีๆ ไม่ค่อยมีใครเชื่อหรอก ทีพูดเรื่องร้ายๆ เรื่องไม่ดีๆ นี่นะ ไม่เห็นมีใครถามเลยว่าฉันล้อเล่นหรือเปล่า เพราะว่าอะไร เพราะว่าพวกเขาเชื่อไปก่อนหน้านี้แล้วว่าฉันเป็นคนไม่ดี” -- คำพูดนั้นทำให้ผมรู้สึกผิดขึ้นมาทันที เพราะคำว่า ‘พวกเขา’ ที่เธอบอก หนึ่งในนั้นก็คือผมนั้นเอง

               “นายเรียนอะไรอยู่” เธอเปลี่ยนเรื่อง
               “ศิลปกรรม”
               เธอพูดขึ้นมาว่า “นายคงจะชอบกับสิ่งที่นายเรียนอยู่สินะ ฉันเห็นนายชอบขีดๆ เขียนๆ มาตั้งแต่เด็กๆแล้ว โตขึ้นไปนายคงทำมันได้ดี ว่าแต่นายมีแฟนหรือยัง?”
               “ยังไม่มีหรอก” ผมรีบปฏิเสธ
               “ทำไมไม่หาสักคนล่ะ?” เธอถาม
               “ไม่หรอก” ผมตอบ
               “ทำไมล่ะ” เธอซักต่อ
               “ก็…เราไม่ค่อยมีเวลาเท่าไหร่น่ะ อีกอย่างเราก็ไม่ใช่คนที่จะรักใครง่ายๆ ด้วย”
               “นายนิไม่เคยเปลี่ยนเลยนะ เวลาไม่ทำให้นายเปลี่ยนไปเลย”
               “เธอเองก็เหมือนกัน” ผมพูด

    ตอนนั้นเป็นเวลาห้าทุ่ม ต้นไม้พัดปลิวตามสายลม บรรยากาศรอบข้างมืดมิด บ้านรอบข้างเริ่มปิดไฟเข้านอน มีแต่เธอที่ยังคุยกับผม -- ถึงแม้ว่าไม่ใช่การคุยแบบสนิทใจเท่าไหร่ แต่ก็เป็นการสนทนาที่ทำให้ผมเข้าใจเธอมากขึ้น

    คำพูดของเธออ่อนแอพอๆ กับร่างกายที่อ่อนล้า ใบหน้าของเธอซีดยังกับกระดาษ ความเครียดที่อยู่บนใบหน้าของเธอปิดบังผมไม่มิด ผมไม่ใช่คนฉลาดแต่ก็ไม่ใช่คนโง่ที่จะมองคนไม่ทะลุ ผมเชื่อว่าเธอมีอะไรในใจอย่างแน่นอน แต่เธอไม่อยากจะพูดออกมา ไม่ใช่เพราะเธอไม่ไว้ใจผม แต่เป็นเพราะเธอไม่อยากเอาปัญหาของเธอมาให้ผมแก้มากกว่า

    ผมเชื่อว่าเรื่องที่เธอเล่ามาทั้งหมดคือเรื่องจริง ผมเคยได้ยินมาว่าถ้ามีคนเล่าอะไรให้ฟังแล้วมาบอกทีหลังว่าล้อเล่น แปดสิบเปอร์เซ็นต์มักจะเป็นเรื่องจริง

               “ฉันจำได้ว่าตอนเด็กๆ เธอชอบมาเล่นกับฉัน”
               “ใช่” ผมพูด
               “แล้วอยู่ดีๆ เธอก็หายไป ฉันคิดว่าเธอคงไม่ชอบเล่นกับฉัน เธอลืมฉันไปแล้วซะอีก” เธอยิ้มนิดๆ กลบเกลื่อนคำพูดที่แฝงความน้อยใจ
               “ไม่หรอก” ผมตอบ คงเป็นเพราะว่าผมไปเจอเพื่อนใหม่ จนไม่ได้มีเวลากลับมาคุยกับเธอเหมือนก่อน
               “จากนี้ไปเราจะได้พบกันอีกไหม” เธอถาม
               “คงไม่บ่อยหรอก เพราะตอนนี้เราเช่าหออยู่กับเพื่อนที่มหาลัย จะมีวันเสาร์บางสัปดาห์ที่เรากลับมาเยี่ยมบ้าน แต่ยังไงเราก็คงได้เจอกัน”
               “อืม” เธอพยักหน้าแล้วเงยหน้ามองท้องฟ้า เหมือนผมจะรู้ว่าเธอคิดอะไรอยู่ บางครั้งผมคิดว่าผมรู้จักเธอดีกว่าใครๆ แต่บางครั้งผมก็คิดว่าผมไม่รู้จักเธอเลย -- คืนนั้นเราคุยกันอีกสักพักก่อนที่พวกเราจะแยกย้ายเข้าบ้าน

    เช้าวันต่อมา ผมได้ข่าวว่าเธอฆ่าตัวตายในห้องน้ำ มีชาวบ้านบอกว่าเธอใช้ผ้าเช็ดตัวพันมือแล้วชกกระจก แล้วใช้เศษกระจกกรีดข้อมือ นอนในน้ำให้เลือดไหลออกจนช็อคตาย ในเวลาเดียวกันลูกของเธอที่อยู่ในท้องก็ตายตามไป

    ผมไม่แปลกใจว่าเธอฆ่าตัวตาย เพราะผมคิดว่าเมื่อคืนนี้ที่ผมเห็นเธอออกมาสูบบุหรี่เธอกำลังตัดสินใจจะฆ่าตัวตาย เธอเองก็รู้ว่าผมรู้ แล้วเธอก็ตัดสินใจไปแล้ว เธอจึงไม่อยากให้ผมโน้มน้าวเธอให้เปลี่ยนใจ เธอเลยเก็บอารมณ์ พยายามไม่แสดงความอ่อนแอออกมาให้ผมเห็น ผมเองก็รู้สึกผิดที่ไม่ได้ทำหน้าที่ของผมได้อย่างสมบูรณ์แบบ เมื่อคิดได้อีกทีก็สายไปเสียแล้ว

    ก่อนที่เราจะจากกันเมื่อคืน เธอยื่นซองจดหมายให้ผมหนึ่งฉบับ เขียนด้วยลายมือของเธอหน้าซองว่า, ฉันจำได้ว่าวันนี้วันเกิดเธอ ฉันขอให้เธอใช้ชีวิตแทนฉันให้อย่างคุ้มค่าและขอให้มีความสุขตลอดไป จาก เพื่อนเก่า

    ซองจดหมายที่ถูกเปิดถูกวางในลิ้นชัก ข้อความในนั้นที่เธอเล่นเอาผมแทบกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ -- ไม่ว่าวันนี้ วันพรุ่งนี้ จะผ่านไปกี่เดือนหรืออีกกี่ปี เธอจะยังเป็นเพื่อนเก่าของผมอยู่เสมอ และจากนี้ผมคงทำได้เพียงปล่อยให้กาลเวลาทำหน้าที่ของมันเท่านั้นเอง

    แก้ไขเมื่อ 06 ก.ย. 51 02:14:44

    แก้ไขเมื่อ 06 ก.ย. 51 02:06:32

    แก้ไขเมื่อ 06 ก.ย. 51 02:02:20

    แก้ไขเมื่อ 04 ก.ย. 51 17:10:31

    แก้ไขเมื่อ 04 ก.ย. 51 17:07:18

    จากคุณ : ด.ช.บ่าง - [ 4 ก.ย. 51 16:56:05 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom