ตอนที่1
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W6969606/W6969606.html
ฟิคจำเลยรักภาคพิสดาร ตอนที่2 แต่งเล่นเย็นๆใจ
****กราบขออภัย ผู้เขียนนิยายเรื่องจำเลยรัก คุณชูวงศ์ ฉายะจินดาด้วยนะคะ ที่อิชั้นนึกสนุกเช่นนี้ สาบานค่ะว่าจะเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้ายที่นำเอาตัวละครพร้อมพล๊อตเรื่องบางส่วนมาล้อเล่นคลายเครียดอย่างนี้(เนื่องเพราะนิยายเรื่องนี้เขียนถึง อ.สิชล ซึ่งเป็นบ้านเกิดของอิชั้นเอง และตอนนี้อิชั้นก็อยู่ที่สิชลค่ะ เอิ๊กส์****
หลังจากจบขบวนการการทำความรู้จักชนิดที่ว่ายิ่งโศรยาบอกว่าตัวเองไม่ใช่ศันสนีย์มากแค่ไหนหฤษณ์ก็ปักใจเชื่ออย่างจริงจังว่าโศรยาคือศันสนีย์มากเท่านั้น โดยไม่ยอมรับฟังคำของเธอแม้แต่น้อย โศรยาต้องแอบถอนหายใจหลายเฮือก
ไม่กล้าหือให้เจ็บตัวฟรี เพราะความคิดที่ว่าต้องการรักษาเนื้อรักษาตัวให้ปลอดภัยจากมือของหฤษณ์ เพื่อที่จะเป็นหัวใจของหฤษณ์ในอนาคต จึ๋ย
หฤษณ์แนะนำให้รู้จักกับคนรับใช้ หรือถ้าจะเรียกให้ถูกก็คือคนคุมตัวเธอในระหว่างที่อยู่บนเขานั่นเอง
นี่ นายใบ้ เป็นคนของผมเขาจะช่วยดูแลคุณ ถ้าคุณอยากได้อะไรก็จดใส่กระดาษให้นายใบ้เอาไปให้ผมข้างล่าง เย็นๆผมจะขึ้นมาอีกที หวังว่าคงจะอยู่ที่นี่ด้วยความทรมานนะคุณศันสนีย์เสียงเยาะเย้ยนั้นทำให้โศรยาทำหน้าเมื่อย เออ ศันสนีย์ก็ศันสนีย์วะ เฮ้อ
หฤษณ์พูดจบก็เดินลงเขา โดยมีสายตาละห้อยหาของโศรยาที่มองตามไป
เธอหันมามองนายใบ้อย่างไม่ค่อยไว้ใจนัก เรื่องของเรื่องคือหน้าตานายใบ้ใช้ไม่ได้เลย จมูกบานๆไหนจะปากหนาๆตัวดำๆนั่นอีก
เห็นแล้วแทบอยากจะเกาะเอวหฤษณ์กลับลงข้างล่างไปด้วย หวังว่าคงแค่ใบ้นะคงไม่บ้าทำมิดีมิร้ายกับเธอ สายตาระแวดระวังดุดันเหมือนจะปรามนายใบ้ในทีนั่นยิ่งทำให้นายใบ้ค้อมตัวทำท่าหงอเกรงอกเกรงใจ
ได้ยินใช่ไหม ว่านายเธอเขาสั่งอะไร
แบะ แบะ บู้ นายใบ้ตอบด้วยท่าทีที่เกรงอกเกรงใจ ...จะรู้เรื่องกันไหมวะเนี่ย..โศรยาเกาศีรษะด้วยความปวดกบาลก่อนจะชะเง้อมองเข้าไปในกระท่อม
เฮ้อ..ไหนดูสิในบ้าน..ไม่สิกระท่อมนี่มีของอะไรบ้าง โศรยาเดินขึ้นไปพร้อมกับสำรวจดู ห้องนอนเตียงเดี่ยว..อ๊ะ เตียงเดี่ยวววว ร่างบางหน้าบานทิ้งตัวนอนคว่ำหน้ากลิ้งไปมาสูดดม ...เวรได้กลิ่นไอแดดกับผงซักฟอก เซ็งเลย วัยรุ่นเซ็ง
โศรยาตีสีหน้าผิดหวังก่อนจะเดินออกไปด้านนอก ซึ่งแบ่งเป็นครัวเล็กเพียงคนเดินสวนกันได้ ข้างเตาอั้งโล่ที่มีถึงสองเตานั้น วางไว้ด้วยตู้กับข้าวทำด้วยไม้ดูเก่าแก่จนอาจจะนับได้ว่าเป็นของโบราณ(ประชด)
อีกฟากเป็นเป็นคลังถ่านที่มีถ่านล้นอยู่ในลังไม้ใหญ่ ข้างๆมีขี้ไต้แบบขดวางไว้ตั้งใหญ่กับไม้ขีดไฟตราพญานาค เขียง ครก หม้อ ชาม จานช้อน ครบครันดูเป็นของเก่าที่ได้รับการดูแลเป็นอย่างดี ท่าทางกระท่อมนี้จะเป็นที่โปรดปรานของหฤษณ์ หรือไม่ก็ต้องขนมาจากบ้านข้างล่าง
โศรยาออกมายืนชะเง้อตรงส่วนที่ทำเป็นระเบียงหน้าห้องนอน บ้านข้างล่าง..สักวันหนึ่งเธอจะต้องไปดูให้ได้ว่าบ้านข้างล่างของหฤษณ์เป็นอย่างไร ปลงใจได้ว่าตอนนี้คงไม่มีสิทธิ์ที่จะลงไปก็หันกลับมาตั้งต้นด้วยการคว้าเอาหม้อหุงข้าวแบบน้องโบฯ ซึ่งเป็นหม้อดินเผารุ่นพระเจ้าเหานุ่งกุงเกงหูรูดมากรอกข้าวสารใส่
ตรงบันไดมีโอ่งใหญ่ ใหญ่ขนาดทวดโอ่งวางอยู่น้ำที่มีอยู่เต็มทำให้ไม่ต้องเดินลงมาข้างล่างสามารถตักจ้วงใช้หุงข้าวทำกับข้าวได้เลย ภาชนะที่ตักจ้วงทำด้วยใบตาลดูกิ๊บเก๋ยูเรก้าเสียจนโศรยาอดหัวเราะไม่ได้
เริ่ดค่า แค่หมาตักน้ำนี่ก็ไม่เหมือนใครแล้ว...โศรยาบ่นพึมพำพลางถอนหายใจยาว นี่ถ้าพ่อยอดขมองอิ่มของน้องจะมายืนป้วนเปี้ยนหรือว่านั่งให้กำลังใจก็คงจะดีไม่น้อย
หุงข้าวผัดผักต้มจืด ได้เพียงครู่ก็มานั่งรับประทานห้อยขาอยู่ด้านหน้า ก่อนจะพยักพเยิดให้นายใบ้ไปตักมากินตามอัถยาศัย ส่วนตนนั้นล้างจานเสร็จก็จดของที่ต้องการวางไว้ให้นายใบ แล้วจึงเดินออกสำรวจรอบกระท่อมอย่างละเอียดอีกครั้ง
ชะรอยจะสำรวจลึกเกินไปพอหันกลับมาอีกทีกระท่อมหายไปจากสายตาแล้ว ต๊ายแล่วววววว ตายแล้ววว จะกลับกระท่อมถูกไหมนี่ จะอ้าปากเรียกหานายใบก็กลัวเสียฟอร์ม
เวรกรรมหรือไรแต่ปางไหนนั่น สุขเพียงชั่ววันแต่ช้ำทวีคูณ รองเท้าที่ใส่มาทำท่าจะเกเรส้นเตี้ยๆหลุดออกจนเท้าถลอกปอกเปิก ชีวิตคนสวยหนออะไรจะรันทดปานนี้
ใบหน้าหวานล้ำชะเง้อมองรอบกาย เวลาผ่านไปเนิ่นนานจากเช้าเป็นเที่ยงจากเที่ยงเป็นบ่าย ดูเหมือนว่าป่าที่มีเสียงหริ่งหรีดเรไรจะเงียบไปจนผิดปกติ ความสุขไม่มาซ้ำความซวยไม่มาแค่หนเดียว หิวข้าวววว
อะไรสักอย่างผิวมันปลาบเกล็ดระยิบเลื้อยเชื่องช้าบ่อวดเดโช ทว่ากลับแผ่แม่เบี้ย..แม่เบี้ย ฮือๆๆไม่มีกระต่ายขูดมะพร้าว ไม่มีผ้าแถบ เล่นจริงและอาจจะตายจริงเพราะไม่มีสแตนอิน พ่อแก้วแม่แก้วซ่อยข้อยแหน่
อย่าขยับกรี๊ดดดดดดดดดดดพระเอกมาแล้ว โอ้วววววพระเอกของหนู อยากขยับอยู่หรอกค่าแต่ขยับไม่ได้ ขาแข้งมันแข็งไปหมดเลยค่า..
เสียงปืนดังลั่นป่า นกกาแตกฮือ งูเจ้ากรรมตัวนั้นม้วนตัวเอียงอาย..เอ่อ.. ม้วนตัวตายตรงหน้าโศรยาถึงกับเข่าอ่อนจนทรุดอยู่กับพื้น
มือแข็งแรงหิ้วปีกเธอขึ้นมาพร้อมกับทำเสียงดุพอๆกับใบหน้าที่แดงก่ำเส้นเลือดปูดตรงขมับน่าลูบไล้
ผมนึกแล้วว่าคุณต้องหนี อ้าว เฮ้ย...ใครหนี?
อย่าคิดเลยว่าจะหนีพ้นบนเขานี้น่ะ มีแต่งูเห่า งูบองหลา เจองูเห่าอาจจะพอรอดจนคนเจอได้ แต่ถ้าเจอบองหลาเข้าไปได้เป็นผีเฝ้าป่าแน่ๆ มือที่ลากถูลู่ถูกังก็ยังคงลากไปปากก็ขู่เสียงเข้มพาลให้โศรยาอ่อนระทวยหายใจรวยระรินพะงาบๆจนมาถึงกระท่อม
เบาๆหน่อยสิคุณ ฉันไม่ได้จะหนีสักหน่อย
อ้อ คุณจะบอกว่าคุณหลงป่ากลับกระท่อมไม่ถูกงั้นสิ ผมไม่โง่พอที่จะเชื่อคุณหรอก
เอาเข้าไป เชื่อ ฉันเชื่อว่าคุณไม่โง่พอที่จะเชื่อฉัน แต่คุณโง่ยิ่งกว่าที่ไม่เชื่อฉัน ปล่อยมือฉันนะเจ็บนะ
ต่อให้คุณรอดพวกสัตว์ป่าไปได้ ข้างล่างก็มีผู้ชายกลัดมันเยอะแยะที่คงไม่เคยเจอผู้หญิงสวยอย่างคุณ โศรยาชะงักการขัดขืนก่อนจะลอบยิ้ม เขาชมช้านนนนน
ต่อไปนี้ ผมจะสั่งนายใบ้ไว้ว่าถ้าคุณออกนอกเขตเมื่อไหร่มันจะทำอะไรกับคุณก็ได้ เอ่อ...ขอคิดดูก่อนได้ไหมเจ้าคะ
ไปทำกับข้าวได้แล้ว ไอ้ใบ้มันคงได้กินกับข้าวฝีมือคุณไปแล้ว และเย็นนี้ผมจะกินข้าวบนนี้ หืม..โศรยาเบิกตาโต
ไปสิ เสียงดุดันทำให้โศรยาต้องรีบไปทำอย่างที่หฤษณ์สั่ง ทั้งที่ยังเจ็บเท้าอยู่มากอยากจะร้องขอยามาทาก็พูดไม่ออกเกิดพ่อคุณตะคอกกลับมาอีกว่าไม่มีให้เธอจะเสียหน้าเปล่าๆ ดุได้ดุไปนะเจ้าคะ อย่าเผลอมาหลงเสน่ห์อันล้ำลึกของอิฉันก็แล้วกัน แม่จะเล่นตัวเสียให้เข็ด
เสียงดุๆ หน้าเข้มๆ หุ่นแมนๆ เฮ้อ...โศรยาคิดพลางเหยาะน้ำปลาลงหม้อไปพลาง วันนี้เธอทำข้าวต้มปลาหมึก รับรองว่าจะต้องอร่อยจนหฤษณ์ติดใจ และแน่นอนว่าจะต้องอยากขึ้นมาบนนี้บ่อยๆ ทุกวัน ทุกมื้อ แค่คิดก็...ซร๊วบ
แก้ไขเมื่อ 09 ก.ย. 51 16:25:35
จากคุณ :
จอมนาง
- [
9 ก.ย. 51 16:21:21
]