เรื่องย่อของละคร ...
กฤตกรณ์ เศรษฐีใหญ่วัย 60 ปี ผู้ที่เป็นเจ้าของธุรกิจสื่อสารครบวงจรรายใหญ่สุดของประเทศไทย ปัจจุบันนี้เขากำลังป่วยเป็นโรคอัลไซเมอร์ ซึ่งทำให้เขามีอาการความจำเสื่อมในบางชั่วขณะมานานกว่า 15 ปีแล้ว ตอนนี้เขากำลังต้องการจะหาผู้ที่เป็นทายาทมารับมรดกจำนวน 76,000 ล้านบาทของเขา โดยมีวังเวงจันทร์ที่เป็นลูกสาวคนโตสุดที่เกิดเมียคนแรกของเขา เป็นผู้ที่ทำหน้าที่คอยปรนนิบัติรับใช้และคอยดูแลคุณพ่อมาตลอดระยะเวลา 30 ปี ตั้งแต่คุณแม่เสียไป
นอกจากนั้นกฤตกรณ์ยังมีวิชาญที่เป็นคนรับใช้คนสนิท ที่ทำหน้าที่เหมือนเลขาส่วนตัวและขับรถพาเขาไปไหนมาไหนโดยตลอด และมีแม่ลำใยที่เป็นแม่บ้านประจำตระกูลมานานกว่า 30 ปี ที่คอยดูแลเขาเคียงข้างวังเวงจันทร์มาโดยตลอด แต่ในคฤหาสน์หลังเดียวกันนี้ยังมีโสภาวดีที่เป็นเมียคนที่ 8 และลูกสาวพักอาศัยอยู่ร่วมชายคาเดียวกันด้วย
โสภาวดีมีความคิดว่าวิกาญจน์ดา(นางเอก)ลูกสาวเพียงคนเดียวของเธอ ที่เกิดกับกฤตกรณ์น่าจะเป็นทายาทตัวจริงผู้รับสืบทอดมรดกจากกฤตกรณ์ผู้เป็นพ่อ แต่ว่าวิกาญจน์ดาเป็นเด็กที่มีความบกพร่องทางด้านสมองมาตั้งแต่เกิด โดยวิกาญจน์ดามักจะออกอาการเอ๋อ ๆ อยู่เป็นประจำ จึงทำให้วังเวงจันทร์และลูกสมุนซึ่งก็คือวิชาญและแม่ลำใยแสดงอาการขัดขวางมาโดยตลอด โสภาวดีจึงได้ทำการว่าจ้างจักรรินทร์ ที่เป็นเด็กวัยรุ่นขี่รถมอเตอร์ไซต์รับจ้างอยู่ที่หน้าปากซอย มาร่วมมือคอยกำจัดพวกของวังเวงจันทร์ โดยจักรรินทร์ได้แกล้งขับรถมอเตอร์ไซต์ชนแม่ลำใยที่เป็นแม่บ้านของครอบครัวตาย
ศุภวิทย์(พระเอก)คุณหมอหนุ่มนักเรียนนอกรูปหล่อ ที่เพิ่งสำเร็จการศึกษากลับมาจากประเทศอังกฤษไม่นาน ศุภวิทย์ได้เข้ามาทำหน้าที่เป็นคุณหมอประจำตัวของวิกาญจน์ดา โดยคอยทำการรักษาอาการผิดปกติทางสมองของเธอ จึงทำให้ศุภวิทย์หลงรักวิกาญจน์ดาตั้งแต่ครั้งแรกที่เขาและเธอได้เจอกัน โดยศุภวิทย์เป็นชายหนุ่มที่รักจริงหวังแต่ง แต่ตัวเขาไม่ได้หวังในมรดก 76,000 ล้านบาทแต่อย่างใด ศุภวิทย์จึงพยายามหาทางจีบวิกาญจน์ดาทุกวิธีทางเพื่อให้เธอหลงรัก ซึ่งจริง ๆ แล้วในใจลึก ๆ ของวิกาญจน์ดาเธอเองก็แอบรักและชอบศุภวิทย์อยู่เหมือนกัน แต่ว่าตัวเธอไม่ยอมที่จะแสดงออก ซึ่งเธอได้แต่ทำเป็นเล่นตัวแบบอ่อย ๆ ในทุกครั้งที่ศุภวิทย์พยายามจีบเธอ
ในคืนงานสวดอภิธรรมศพของแม่ลำใยคืนสุดท้าย ทุกคนมาอยู่ที่งานศพกันพร้อมหน้า วิชาญคนรับใช้คนสนิทของกฤตกรณ์ได้ออกมาประกาศแก่ทุกคนว่า ตัวเขาเองคือทายาทตัวจริงผู้ที่สมควรจะได้รับมรดกทั้งหมดของกฤตกรณ์ เพราะว่าจริง ๆ แล้วตัวเขาเป็นลูกชายที่เกิดจากเมียคนที่ 2 ของกฤตกรณ์ ซึ่งเป็นเมียที่ตอมใจตายไปเมื่อ 35 ปีที่แล้ว โดยตัวเขาได้ปลอมตัวมาทำหน้าที่เป็นคนรับใช้คนสนิทของกฤตกรณ์มานานกว่า 17 ปีแล้ว โดยที่ไม่มีใครได้ล่วงรู้มาก่อน
แต่แล้วเหตุการณ์ที่ทุกคนไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น แม่ลำใยฟื้นขึ้นมาจากโลงศพทำให้ทุกคนที่มาร่วมงานแตกตื่นตกใจ ก่อนที่ศุภวิทย์จะเข้าไปดูอาการของแม่ลำใยอีกครั้ง แล้วศุภวิทย์ก็บอกกับทุกคนว่าแม่ลำใยยังไม่ตาย จริง ๆ แล้วแม่ลำใยแค่ช็อคหมดสติ จากการที่ถูกรถมอเตอร์ไซต์ชนจนหัวกระแทกพื้น แม่ลำใยเลยเกิดอาการ สลีบโฟบีเดีย ไปเป็นเวลา 7 วัน ศุภวิทย์จึงทำการรักษาแม่ลำใยที่เพิ่งฟื้นมาจากโลงศพจนอาการเริ่มดีขึ้น
หลังจากนั้นแม่ลำใยจึงลุกขึ้นมาบอกความลับแก่ทุกคนว่า จริง ๆ แล้วตัวเธอคือเมียคนที่ 3 ของกฤตกรณ์ และจักรรินทร์ก็คือลูกชายเพียงคนเดียวของเธอที่เกิดกับกฤตกรณ์ ซึ่งตัวเธอได้แอบนำทารกจักรรินทร์ไปทิ้งไว้ที่ถังขยะหน้าปากซอยเมื่อ 23 ปีที่แล้ว โดยไม่ให้ใครรวมทั้งตัวของกฤตกรณ์ได้รู้
ในขณะนั้นเอง อัณชลีใจ , พิมพ์พิมล , จรินทร์ธารและสราญทรวง ก็มาปรากฎตัวขึ้นในงานศพ แล้วพวกเธอก็บอกกับทุกคนว่าตัวเธอคือลูกของเมียคนที่ 4 , 5 , 6 และ 7 ตามลำดับ โดยพวกเธอทั้ง 4 คนได้ไปจดทะเบียนตั้งชมรมลูกเมียน้อยมาแล้ว ดังนั้นพวกเธอทั้ง 4 คนจึงมาขอเข้าร่วมแบ่งมรดกของกฤตกรณ์ด้วย แต่วังเวงจันทร์ออกมาแสดงความไม่พอใจและขัดขวางพวกลูกเมียน้อยทั้ง 4 คนนี้ เนื่องจากตัวเธอเป็นลูกสาวคนโตที่เกิดจากเมียหลวง เธอน่าจะเป็นทายาทผู้รับมรดกทั้งหมดเพียงคนเดียว
โสภาวดีเลยออกมาเผยความลับบ้างว่า จริง ๆ แล้ววิกาญจน์ดาไม่ใช่ลูกของกฤตกรณ์ แต่ว่าวิกาญจน์ดาเป็นลูกของเธอที่เกิดกับวิชาญซึ่งเป็นคนขับรถเมื่อ 18 ปีที่แล้ว โสภาวดีเลยจะยกวิกาญจน์ดาลูกสาวของเธอให้เป็นเมียคนล่าสุดที่เป็นคนที่ 9 ของกฤตกรณ์ เพื่อเป็นการตัดปัญหาคาใจเรื่องทายาทมรดกทั้งหมดของกฤตกรณ์ ซึ่งตัวของกฤตกรณ์เองก็ยินยอมแต่โดยดี โดยกฤตกรณ์ตั้งใจที่จะแต่งงานกับวิกาญจน์ดาในสัปดาห์ต่อไป
ศุภวิทย์ที่หลงรักวิกาญจน์ดา มาโดยตลอดก็ทำใจไม่ได้ ที่สาวคนรักของเขาจะต้องตกไปเป็นเมียของคนอื่น ศุภวิทย์จึงได้ทำการประชดวิกาญจน์ดาด้วยการเดินไปคุกเข่าเพื่อขอแม่ลำใยแต่งงานด้วย ซึ่งแม่ลำใยก็เอ่ยปากยินยอมแต่งงานกับศุภวิทย์ในทันที ก่อนที่แม่ลำใยจะดีใจจนเป็นลมล้มลงไปนอนหมดสติในโลงอีกครั้ง
จักรรินทร์แอบโผล่ตัวเข้ามาในงานศพในขณะที่ทุกคนไม่ได้สนใจ จักรรินทร์จึงเอาปืนพกที่เตรียมมาเล็งไปที่กฤตกรณ์เพื่อจะยิงกฤตกรณ์ให้ตาย แต่ว่าตำรวจที่เฝ้าสะกดรอยตามจับจักรรินทร์ได้วิ่งเข้ามาขัดขวางไว้ได้ทัน แล้วตำรวจจึงนำตัวจักรรินทร์ไปที่โรงพัก
เหตุการณ์ทั้งหมดกำลังจะคลี่คลายไปในทางที่ดี แต่แล้วกฤตกรณ์ก็ออกมาเผยความลับให้แก่ทุกคนได้รู้บ้าง โดยกฤตกรณ์ได้บอกกับทุกคนว่า จริง ๆ แล้วเขาจำไม่ได้ว่าตัวเองมีมรดกอยู่ 76,000 ล้านบาทจริงหรือไม่ แล้วตัวเขาเองก็จำไม่ได้ด้วยว่า เขาเอาทรัพย์สินทั้งหมดไปเก็บไว้ที่ไหน เพราะว่าล่าสุดก่อนที่เขาจะออกจากบ้านเขาเปิดเพิ่งจะเปิดเซฟที่บ้าน แล้วก็เขาเจอสมุดบัญชีเงินฝากธนาคารของเขา มีเงินสดคงเหลืออยู่ในบัญชีแค่ 76 บาทเอง
หลังจากที่กฤตกรณ์ที่เผยความลับอันน่าทึ่งนี้ออกมา ทุกคนต่างก็แยกย้ายกันกลับบ้าน โดยที่ใครมาทางไหนก็กลับไปทางนั้นในทันที
จบบริบูรณ์
อิอิ
@@@@@@@@@@@@@@@
คุยกันท้ายเรื่อง
วันนี้ผมขออนุญาตมาแบบแปลก ๆ สักวันนะครับ ผมตั้งใจว่าจะลองเขียนละครดูสักเรื่องหนึ่งครับ สาเหตุก็เพราะว่าเดี๋ยวนี้สาว ๆ เขาก็ติดละครหลังข่าวกันทุกคน บางคนติดละครมากจนกระทั่งเอามาพร่ำเพ้อคล้ายกับว่า ละครเรื่องนั้นคือชีวิตจริงของเธอ ที่ผู้แต่งละครแอบมานำเอาไปเขียนเป็นเรื่องโดยไม่ยอมให้ค่าลิขสิทธิ์แก่เธอ บางคนติดละครมากจนกระทั่งเป็นไข้เลือดออกเลยก็มี แล้วละครหลังข่าวทุกวันนี้ก็น้ำเน่าได้ใจมาก ๆ เลยครับ
ผมเลยตั้งใจว่าจะลองเขียนละครน้ำเน่าดูบ้างครับ เผื่อว่าจะมีผู้สร้างละครท่านใดสนใจมาขอซื้อเรื่องที่ผมแต่งไปสร้างเป็นละครจริง ๆ ครับ ผมเลยลองเขียนเรื่องย่อของละครเรื่องที่ผมตั้งใจจะแต่งมาให้เพื่อน ได้ลองอ่านกันดูก่อนครับ โดยผมขอยืนยันว่า เนี่ยเป็นเพียงเรื่องย่อของละครครับ เรื่องย่อจริง ๆ ครับ ถ้าจะเอาเรื่องเต็ม ๆ เนื้อเรื่องน่าจะยาวประมาณ 2 กิโลเมตรครับ เพื่อที่จะให้ทุกคนติดตามและน้ำเน่าได้ครบทุกครอบครัวและทั่วทั้งหมู่บ้านไงครับ
แต่ว่าละครเรื่องนี้ผมยังไม่ได้ตั้งชื่อเรื่องเลยครับ เพื่อน ๆ ที่ลองได้อ่านจบแล้วช่วยผมตั้งชื่อเรื่องหน่อยนะครับ ผมอยากจะรู้ว่าละครเรื่องนี้น่าจะตั้งชื่อเรื่องว่าอะไรดีครับ?
อิอิ
จากคุณ :
อาคุงกล่อง
- [
11 ก.ย. 51 10:50:55
]