แทบทุกครั้งที่ผมเดินทางไปต่างจังหวัด ผมต้องเจอกับชายคนนั้น และผมเชื่อว่าทุกคนต้องเคยเจอเช่นกัน
นั่นคือ ชายร่างผอม ผิวเกรียมแดด ผมยาวพลิ้ว เสื้อผ้าที่ห่อหุ้มกายขาดวิ่นไม่สมควรเป็นแม้แต่ผ้าขี้ริ้ว
ที่มือหอบหิ้วของพะรุงพะรัง เรามักจะเห็นเขาเดินกรำเเดดอยู่ริมทางเสมอ
ทุกครั้งที่ผมเห็นเขา นอกจากนึกขำแล้ว ผมมีหลายความสงสัยที่เกี่ยวกับเขา
ส่วนที่สงสัยมากที่สุดเห็นจะเป็น "เขาจะหอบขยะไปทำไม" ผมเชื่อว่าขยะนั่นต้องมีความหมายสำหรับเขามากที่เดียว
ผมไม่ปล่อยให้ความสงสัยนี้อยู่นาน ครั้งนี้ผมตัดสินใจตามเขาไป
ผมต้องรู้ให้ได้ว่า เขาจะไปที่ใด ขยะนั่นสำคัญกับเขายังไง
เมื่อตามไปได้ระยะหนึ่ง ผมแกล้งถามเขาว่าจะไปไหน ให้ผมไปส่งไหม
เขาไม่เพียงไม่ตอบเท่านั้น แต่ยังเร่งฝีเท้าเพิ่มขึ้นอีก
ผมยังไม่ลดละ "ขยะนั่นเอาไปขายเหรอ"
เขาหันมามองหน้าผมแววตาของเขาเรียบเฉยแต่แฝงไปด้วยความมุ่งมั่นบางอย่าง
ผมเริ่มได้ใจจากปฏิกิริยาสอบสนองเมื่อสักครู่ "เดินมาไกลแล้ว เหนื่อยไหม หิวหรือยังผมจะซื้ออะไรอร่อยๆให้กิน"
ไม่มีอาการใดเกิดขึ้น ผมเริ่มสงสัยว่า เขาเข้าใจผมหรือไม่
ผมวกกลับมาถามเรื่องขยะอีกครั้ง "ขยะแบบนั้นผมมีมากนะ เอาไหม"
เขายกไม้ยกมือปั่นป่วน แสดงอาการอยากได้ คราวนี้ผมเริ่มรู้เเล้วว่า ขยะต้องสำคัญกับเขามากจริงๆ
ผมตัดสินใจพาเขาไปกองขยะมโหฬาร เขาตบมือไม่หยุด ยิ้มเผยให้เห็นฟันขาว ดูเหมือนเขาจะพอใจมาก
แต่เเล้วผมก็ต้องแปลกใจ เขาทำท่าเหมือนกลัวอะไรบางอย่าง เขาวิ่งหนีจากกองขยะ กลับไปที่ริมถนนเช่นเดิม และเดินต่อไป
...ในเมื่อขยะมีความสำคัญกับเขามากเหตุใดเขาจึงทำท่าขยาดมันอย่างนั้น?
เขาเดินมาไกลมากแล้ว ไกลจนผมเหนื่อยที่จะตามเขา ความสงสัยของผมคงไม่ได้รับคำตอบเสียแล้ว
เขาทำเพื่ออะไร คงยังเป็นความอยากรู้ของผมต่อไป ผมเลี้ยวรถกลับมุ่งหน้าเพื่อที่จะกลับบ้าน
ผมเชื่อว่าเส้นทางสายนี้ยังคงจะมีคนแบบเขาให้พบเจออยู่ตลอด ผมชำเลืองมองที่กระจกหลัง
เงาของเขาในกระจกรถของผมค่อยเล็กลงๆ
ผมบังคับให้รถเคลื่อนไปช้าๆ ผมอยากจะถึงบ้านให้ช้าที่สุด ขณะที่ผมปล่อยความคิดพลุ่งพล่านไปนั้น
ลุงคนนั้นทำให้ผมต้องสะดุด การแต่งกาย สีผิว มือที่ถือถุงขยะ พฤติกรรมของลุงไม่ต่างกับชายคนนั้น
แต่อะไรล่ะที่ทำให้ผมแยกแยะออกว่า นั่นคืออาชีพของลุงซึ่งต่างจากชายคนนั้น
ผมไม่คิดที่จะถามคำถามใดๆกับลุง หรือถ้าผมถามคำตอบก็คงไม่
ไกลจากกรอบที่ผมจะคาดถึง รถของผมเเล่นผ่านลุงคนนั้นไปอย่างช้าๆ ชายคนนั้นกับลุงทำให้ผมได้คิดอะไรบางอย่าง
...
10ปีต่อมา ผมลาออกจากงานราชการ รายได้จากการขาย เศษขยะเหล่านี้ มากพอที่จะเลี้ยงชีวิตของผมได้อย่างสบาย
แน่นอนที่สุดผมกลายเป็นเถ้าแก่รับซื้อ-ขายของเก่า ที่รวยที่สุดในประเทศ
วันนี้ สื่อหลายๆสื่อต้องการคำสัมภาษณ์ของผมทั้งนั้น
พวกเขามักถามถึงเเรงบันดาลใจที่ทำให้ผมเลือกที่จะผันตัวจากข้าราชชั้นผู้น้อยเป็นนักค้าเศษขยะ
ผมมักจะเล่าเรื่องที่ผมได้เจอชายคนนั้นกับลุง ให้พวกเขาฟัง ผมบอกพวกเขาว่าผมเป็น...คนบ้า ที่ขายขยะเป็นอาชีพ
แก้ไขเมื่อ 14 ก.ย. 51 19:50:26
แก้ไขเมื่อ 13 ก.ย. 51 23:06:43
จากคุณ :
ป.ปิยวุโฒ
- [
13 ก.ย. 51 21:55:33
]