Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    "ความฝัน"

    นานแล้วที่ฉันไม่ได้กลับบ้าน มาครั้งนี้เลยตั้งใจจะแวะหาซื้ออะไรติดมือไปฝากยายซะหน่อย แต่อากาศก็ช่างอบอ้าวเหลือเกินแดดร้อนจนแสบผิวไปหมด ฉันเดินเข้าไปในตลาดในใจคิดว่าคงไม่เดินนานนักซื้อแค่ผลไม้ก็แล้วกัน
    แต่ก็อดแปลกใจไม่ได้ว่าทำไมวันนี้ผู้คนในตลาดเค้าหายไปไหนกันหมดนะตลาดดูเงียบจังเลย....
    ...เดินวนไปมาในตลาดได้สักพัก ฉันก็ได้ยินเสียงอะไรแว่วๆ มา ......
    เหมือนเสียงอะไรนะฉันพยายามจะนึกว่าเสียงนี้คือเสียงอะไร ฟังดูมันเหมือนคนกำลังบ่นเป็นทำนองฟังแปลกๆ
    แล้วฉันก็เดินตามเสียงนั่นไปเหมือนโดนมนต์สะกดยิ่งเดินตามเสียงไปเรื่อยๆ เสียงนั่นก็ยิ่งดังขึ้นๆ เรื่อยๆ กว่าจะรู้สึกตัวอีกทีปรากฏว่าตัวเองกำลังยืนพื้นที่กลางแจ้ง มองตรงไปเห็นเป็นตึกอยู่ตึกหนึ่ง
    ที่นั่นคงเป็นอาคารอะไรสักอย่าง.........ฉันคิดในใจ
    ยิ่งเดินใกล้เข้าไปจึงรู้ว่า เหมือนเคยเห็นศาลานี้จากที่ไหนสักแห่ง.... ฉันพยายามคิดทบทวนความจำของตัวเอง..
    แล้วฉันก็เดินเข้าไปในศาลา ภายในศาลาด้านซ้ายมือของฉันมีโต๊ะหมู่บูชา ฉันก็เลยเดินไปนั่งจุดธูปไหว้พระ
    พอกราบพระเสร็จเงยหน้าขึ้นมาตกใจสะดุ้ง .. เพราะเจอกับพระรูปหนึ่งยืนอยู่ข้างโต๊ะหมู่บูชา...
    “อาตมากำลังรอ .. โยมอยู่เชียว .. เพราะมีคนๆ หนึ่งกำลังรอพบโยม..”
    “ที่นี่.. ที่ไหนกันเหรอค่ะหลวงพ่อ.. แล้วหลวงพ่อรู้ได้ยังงัยว่า หนูจะมา”
    “เอาเถอะ... ไปที่ห้องเก็บของด้านหลังศาลานี้นะ เค้ารออยู่ที่นั่น”
    ฉันก้มลงกราบหลวงพ่อ กำลังจะลุกขึ้นยืน .. “อ้าว ... หลวงพ่อหายไปไหนแล้วเนี้ยไวจัง” ....

    ฉันเดินออกจากศาลามองไปทางด้านหลังของศาลา เห็นโรงเก็บของมี 2 ชั้น ชั้นบนเป็นไม้ส่วนชั้นล่างเป็นปูนมีฝาผนังเป็นไม้ระแนง ฉันลังเลใจว่าจะเดินเข้าไปที่ใต้ถุนของศาลาดีหรือว่าจะเดินขึ้นไปชั้นบนดี แล้วก้มมองลอดช่องของผนังเข้าไปเห็นแสงลอดออกมาจากประตู แล้วก็ตัดสินใจเดินไปเปิดประตูเหล็กที่อยู่ด้านหน้า...แล้วเดินเข้าไปข้างใน และสิ่งที่ยิ่งทำให้ฉันประหลาดใจมากขึ้นอีกเพราะพอฉันเข้าไปในโรงเก็บชั้นล่างนี้ เหมือนกับว่าฉันยืนอยู่หน้าระเบียงห้องเช่าซะมากกว่า และมีประตูแง้มอยู่บานหนึ่งที่ฉันเห็นแสงสว่างลอดออก ฉันจึงเดินตรงไปที่ประตูห้องนั่น กะว่าจะลองเปิดประตูดูว่ามีอะไรอยู่ในนั่นแล้วค่อยๆ เอื้อมมือไปเปิดประตูแบบกล้าๆ กลัวๆ
    “..โกะ..” เสียงผู้ชายคนหนึ่งเรียกชื่อฉันอย่างอ่อนโยนและเป็นห่วง นั่นทำให้ชะงักมือทันทีพร้อมกับสะดุ้งสุดตัวแล้วความรู้สึกที่เรียกว่าเย็นวาบไปทั้งตัวก็เกิดขึ้น จู่ๆ น้ำตามันก็ค่อยเออล้นขอบตาโดยไม่รู้ตัว
    “โกะ..ใช่ไหม”
    ชายคนนั้นไม่เพียงแต่เรียกชื่อฉันเท่านั่นไวเท่าความคิด เขาก็เดินมาปะชิดตัวด้านหลังของฉันแล้วพร้อมกับกอดฉันจากด้านหลัง
    “มุ่ยมารอโกะที่นี่อยู่ตั้งนาน.. นึกว่าวันนี้จะไม่ได้พบโกะซะแล้ว” ..
    “รู้ไหม.. มุ่ยคิดถึงโกะมากนะ.. คิดถึงทุกวันเลย”
    ฉันรีบปาดน้ำตาแล้วค่อยๆ ผลักเค้าออกไป “มุ่ยมาอยู่ที่นี่ยังงัย แล้วที่นี่มันที่ไหนกันเหรอมุ่ย”
    “โกะ.. มุ่ยอยากจะคุยกับโกะตั้งหลายเรื่องนะ แล้วก็มีอะไรจะให้โกะดูด้วย” เขาทำเหมือนกับว่าไม่ได้ยินคำถามของฉัน เขาไม่ได้ตอบคำถามฉันเลย
    “แต่เราไม่มีอะไรจะคุยกับเธอแล้ว ว่าแต่มุ่ยมาทำอะไรที่นี่”
    “เอาเหอะน่า... มาทางนี้ดีกว่ามุ่ยจะพาไปดูอะไร”
    มุ่ยชายหนุ่มร่างสูงใหญ่กำยำผิวสีเข้ม ในความคิดของฉันเขามักจะเป็นอย่างงี้อยู่เสมอ เขาชอบตอบไม่ค่อยตรงคำถามของฉันอยู่เรื่อยๆ แล้วก็หาว่า ฉันนะคิดมาก แต่ฉันบอกว่า ฉันไม่ใช่คนคิดมาแต่ เป็นคนคิดละเอียดต่างหาก แล้วเราก็จะเถียงกันอยู่เรื่อยๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้ สุดท้ายก็จะเป็นเขาที่เฉไฉไปเรื่องอื่น

    มุ่ยจูงมือฉันออกมาจากห้องเก็บของแล้วเดินไปที่ลานกลางแจ้ง ที่นั่นมีต้นพิกุลส่งกลิ่นหอมไปทั่วทั้งลาน แล้วเค้าก็เดินตรงไปที่รถเบนซ์ รุ่น 230 E สีครีมที่จอดอยู่ใต้ต้นพิกุล ถึงแม้ว่าจะเป็นรุ่นโบราณไปหน่อยแต่ดูจากสภาพของรถแล้วเหมือนกับได้รับการดูแลเป็นอย่างดี ฉันเห็นแล้วก็ตื่นเต้นไปด้วยเพราะรถรุ่นนี้เป็นรุ่นที่มุ่ยเคยบอกว่าอยากได้มากที่สุด
    “รถของใครกันนะมุ่ย..”
    “อย่าบอกนะว่า ... เป็นของเธอนะ” ฉันตั้งคำถาม
    มุ่ยอมยิ้มไม่ตอบแต่พยักหน้า
    “จริงเหรอ... แล้วมอเตอร์ไซด์เจ้าแก่เธอละ เธอขายแล้วเหรอ”
    “มันขายได้ราคาด้วยเหรอมุ่ย..”ฉันทำเสียงตื่นเต้นหยอกล้อเค้าโดยไม่รู้ตัว
    “เราว่ามันปลูกสะระแหน่ยังไม่ได้เลยนะ”
    “แล้วไอ้คันนี้.. เวลาขับไปไหนมันจะไปไหวเหรอเธอ”ฉันพูดจาหยอกล้อ กับเขาด้วยความที่เราคุ้นเคยกัน
    “ลองนั่งดูเปล่า เดี๋ยวมุ่ยพาไปเที่ยว”
    “เดี๋ยวก่อน.. เราเพิ่งนึกขึ้นได้”
    “เธอมารอเราอยู่ที่นี่ได้ยังงัย”
    “โกะ .. มุ่ยอยากให้โกะไปอยู่กับมุ่ย”
    “ไปไหน .. เธอจะพาเราไปไหน”
    “ไปอยู่ด้วยกัน 2 คนไงจ๊ะ เราจะไปเริ่มต้นกันใหม่ไงโกะ”
    “เธอจะแน่ใจได้ยังไง... ว่าเราจะไปได้... แล้วเกดหล่ะ”
    “ไม่ต้องไปสนใจเค้าหรอก..”
    พอฉันกับมุ่ยคุยกันมาถึงตอนนี้ ฉันก็ได้ยินเสียงคนกำลังบ่นเป็นทำนองนั่นอีกแล้วเสียงนั่นดังมาจากทางไหนกันแน่ แต่ท่าทางและสีหน้าของมุ่ยกลับดูร้อนรนขึ้นมากและมีอาการกระสับกระส่าย
    “พรุ่งนี้นะโกะ.... ไปรอมุ่ยที่ท่าเรือข้ามฟากปากคลองสานตอน 11 โมงนะ”
    “เรา..เอ้อ ..” ฉันเห็นท่าทางของมุ่ยแล้วก็ทำให้ยิ่งประหลาดใจ เพราะยิ่งเค้าได้ยินเสียงนั่นดังมากขึ้นเท่าไรดูเหมือนเค้ายิ่งร้อนรนมากขึ้นด้วย
    “เราไม่แน่ใจนะมุ่ยว่าจะไปที่นั่นหรือเปล่านะ” ฉันพยายามที่จะดึงมุ่ยไว้เพื่อจะคุยกันให้รู้เรื่อง
    แต่เสียงนั่นกลับดังขึ้นจนปวดหู “โกะ..มุ่ยต้องไปแล้วนะ” มุ่ยพูดแล้วบีบมือฉันแน่นจนฉันรู้สึกเจ็บ
    “สัญญานะโกะว่าจะไปรอที่ท่าเรือข้ามฟากพรุ่งนี้ 11 โมง”
    ว่าแล้วมุ่ยก็ปล่อยมือฉันแล้วเดินถอยหลังค่อยๆ ห่างออกไป
    “เธอจะไปไหนเหรอมุ่ย... จะรีบไปไหน เดี๋ยวก่อนสิ รอฉันด้วยมุ่ย .. มุ่ยเดี๋ยว!!!”
    ฉันวิ่งตามมุ่ยไปแต่ดูเหมือนจะไร้ผล เพราะยิ่งวิ่งเท่าไรก็เหมือนกับมีอะไรมาฉุดเท้าฉันไว้ให้วิ่งไม่ออกจนฉันรู้สึกเหนื่อย ฉันตามมุ่ยไม่ทันแล้ว มุ่ยหายตัวไปแล้ว น้ำตาไหลออกมาแบบหยั้งไม่หยุด
    “พรุ่งนี้ ท่าเรือข้ามฟากปากคลองสาน 11 โมง” ฉันนึกอยู่ในใจ

    จากคุณ : a.anda - [ 23 ก.ย. 51 00:12:45 A:118.174.130.146 X: TicketID:188059 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom