Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    Story love in my heart #2

    อะดีนารีนไหลพล่าน ความรู้สึกเหมือนตอนกำลังจะขึ้นไปรับเหรียญทองเหยียบลูกโป่งสมัยประถม

    “เอาว่ะ คนอื่นยังต่อยกันได้ ทำไมกูจะเจ็บไม่ได้ว่ะ”

    แล้วก็เหมือนสวรรค์มาโปรด เหมือนบุญเก่ามาส่ง สมัยเอาปลาไหลไปปล่อยหน้าวัด มีเพื่อนคนนึงวิ่งมาบอกว่า พอ พอ ยกเลิก ไม่ต้องต่อยกันเองแล้ว แหม อยากจะหัวเราะให้ลั่นเลยผม เกือบโดนไอ้โย่งคู่ชกผมคนนั้นเหยียบซะแล้ว ถ้าต้องไปต่อยกับมัน ไอ้เพื่อนผมที่วิ่งมา มันตะโกนอีก บอกว่า

    “มีเด็กศิลปะรวมตัวกันจะมาตีกับโรงเรียนเราที่หน้าเซ็นทรัล ไปเอามีดเอาไม้ไปเจอกันที่หน้าเซ็นทรัล”

    โอ้โห เวรล่ะกู ไม่ต้องต่อย แต่ต้องไปตีกับโรงเรียนอื่นเนี่ยนะ จะไม่ไปเดี๋ยวพวกก็จะหาว่าปอดอีก กลัวอีก กรรม ยังไงก็ต้องไป สงสัยไอ้ปลาไหลที่ปล่อยวันนั้นคงจะโดยสวายหน้าวัดกินแน่ๆเลย ถึงต้องมาซวยซ้อนอย่างนี้ ต่อยกันเองก็แค่เจ็บ แต่ไปตีกับชาวบ้านนี่บางทีถึงนอนโรงพยาบาลนะครับ จะบอกให้

    ไอ้โรงเรียนผมกับเด็กศิลปะ ก็ไม่รู้เป็นอะไรกัน เจอหน้ากันไม่ได้ ต้องวิ่งใส่กันทุกที สงสัยชาติก่อนจะเกิดเป็นปาท่องโก๋ ชาตินี้เลยแยกกันไม่ได้ มีบางคนบอกว่า ที่เราตีกับเด็กศิลป์บ่อยๆ เป็นเพราะโรงเรียนเราใส่กางเกงผ้า โรงเรียนมันใส่กางเกงยีนส์ นั่น ดูมันคิด อิจฉามันล่ะซิมืง

    แต่ในเมื่อเราเข้ามาอยู่ในสังคมนี้แล้ว ก็ต้องตามน้ำไป จะทวนน้ำ ไม่สนใจ ก็ไม่ได้ เดี๋ยวจะเจ็บตัวแบบไม่ได้ตั้งตัว ในเมื่อการเรียนก็ไม่ได้เด่น หน้าตาก็ไม่ได้ดี ก็เด่นมันเอาเรื่องนี้เลยล่ะกันว่ะ ประมาณนั้นเลยความคิด ตั้งแต่นั้นมา ชีวิตผมก็มีสีสันเพิ่มมากขึ้น เพราะต้องใช้ชีวิตเหมือนทหารตามชายแดน ห่วงหน้าพะวงหลังตลอด ไม่รู้มันจะมาเมื่อไหร่

    ช่วงนั้นผมจะกลับบ้านทางป้ายรถเมล์ ข้างสวนจตุจักร ซึ่งเดี๋ยวนี้จะรู้จักกันในชื่อ ป้าย 52 เพราะอะไรมันถึงชื่อป้าย 52 หน่ะเหรอครับ มันมีที่มา เรื่องมันมีอยู่ว่า จะมีนักเรียนอยู่กลุ่มหนึ่ง (ซึ่งไอ้กลุ่มนี้ก็มีไอ้กระผมคนนี้อยู่ด้วย) จะขึ้นรถเมล์สาย 52 กลับบ้าน รถเมล์สายนี้จะวิ่งไปสุดสาย ที่ปากเกร็ด พรรคพวกที่ขึ้นรถเมล์สายนี้ก็จะมีลงตามทางไปเรื่อยๆ แต่บางที ซึ่งเป็นบางใหญ่ๆเลยหละ ที่พวกเราจะนั่งรถไปลงที่ปากเกร็ดกันก่อนทั้งหมด แล้วค่อยว่ากันอีกทีว่าจะแยกย้าย หรือ ไปบ้านใครต่อ

    ซึ่งที่ปากเกร็ดมีบ้านเพื่อนอยู่หลายคนเหมือนกัน ทั้งพุทธทั้งอิสลามเสียดายไม่มีคริสต์ ทั้งๆที่เรียนโรงเรียนคริสต์นะเนี่ย มีทั้งนักเรียนดีเด่นจนถึงอันธพาลครองเมือง มันจึงทำให้พวกผมไปถึงปากเกร็ดแล้ว ไม่เคยกลัวใคร เพราะพวกเยอะ ซึ่งในความเป็นจริงผมว่า ถ้ามีเรื่องกันจริงๆ กว่าจะหาพวกในปากเกร็ดให้เจอ ก็คงนอนกองอยู่ที่ไหนซักแห่งแล้วล่ะมั้ง ในปากเกร็ดไม่ได้มีแต่พวกผมกลุ่มเดียวซะที่ไหน มันมีหลายกลุ่มหลายพวก และก็มีตีกันบ่อยๆด้วยในนั้น แต่พวกผมก็ไม่เคยกลัวใคร หรือกลัวแต่ไม่บอกใครก็ไม่รู้

    ไอ้ผมบ้านก็อยู่แค่ประชาชื่น จะกลับบ้านก็แค่นั่งวินมอเตอร์ไซค์ที่ป้าย 52 แล้วเดินไปใต้ทางด่วนก็ถึงบ้านแล้ว แต่ก็บ้าพลัง นั่งรถเมล์ไปลงปากเกร็ด แล้วต่อรถไปวงศ์สว่าง เพื่อที่จะนั่งวินต่อไปบ้าน ไม่รู้ว่าจะนั่งอ้อมโลกไปหาส้นตรีนอะไร แต่ก็อย่างว่าแหละครับ วัยรุ่น ไอ้พวกผมนี่ก็สุดๆเหมือนกัน ตีกับชาวบ้านเขาไปเรื่อย ตั้งแต่ เด็กศิลปะ ช่างกลต่างๆ เทคนิค เทคโน สารพัด

    ไอ้พวกเด็ก 52 นี้ไม่ใช่แค่นั่งรถเมล์กลับบ้านตามทางกันปกติเฉยๆนะครับ วันเสาร์ สวนจตุจักรเปิดนี่ พวกผมก็จะนั่งรถอ้อมสวน (เป็นการที่รถเมล์สาย 52 จะวิ่งมาที่ป้าย 52 แล้ววิ่งวนไปหน้าสวนจตุจักรก่อน เพื่อที่จะรับคนที่หน้าสวนจตุจักรแล้วจะวิ่งกลับมาที่ป้าย 52 อีกที แล้วค่อยวิ่งไปปากเกร็ด รถจะว่างครับตอนก่อนไปหน้าสวน) ทำไมพวกผมต้องนั่งรถไปหน้าสวน อยากรู้ไหมครับ ก็เพื่อให้ชีวิตมีเรื่องตื่นเต้นมากขึ้น ทั้งๆที่มันก็มีให้ตื่นเต้นทุกวันอยู่แล้ว

    ที่สวนจตุจักรวันเสาร์ จะเป็นแหล่งรวมของนักเรียนศิลปะ เกือบทุกสถาบัน แค่นึกก็อยากเข้าไปให้มันฟันให้หน้าแหก แล้วไปนอนโรงพยาบาลซัก 2-3 คืน ให้พวกมันหัวเราะเล่นแล้ว มีครั้งนึงผมนั่งรถอ้อมสวนไปกับเพื่อนๆและก็รุ่นน้องกลุ่มนึง พอไปถึงหน้าสวนพรรคพวกก็ชวนลงเดิน หาตีนว่างั้น มีคนชวนก็ลงซิครับ

    เหมือนสวรรค์มีตา มีนักเรียนช่างกลกลุ่มใหญ่อยู่ที่ป้ายรถเมล์ เพื่อนผมเดินผ่านเฉยๆไม่ได้ ต้องดูว่าไอ้พวกนั้นมีสิวไหม มีขนตากี่เส้น ตัดขนจมูกหรือยัง เมื่อมองหน้ากันอย่างนั้นก็เป็นเรื่องซิครับท่าน แถวนั้นมันหน้าโรงเรียนมันด้วย ซักแปบ ขวดกระทิงแดงก็ลอยมาทั้งๆที่ไม่อยากได้สารกระตุ้นอะไรตอนนี้เลย มันลอยลงตรงกลางระหว่างใจ ไม่ใช่ซิระหว่างขาของใครบางคน เมื่อเสียงขวดกระแทกกับพื้น และโมเลกุลความหนาแน่นของแก้วไม่สามารถยึดติดกันได้อีก ทำให้ต้องแยกแตกออกจากกัน เสียงนั้นเปรียบเสมือนเสียงนกหวีดในสนามกรีฑา ที่สั่งให้นักกีฬาสต๊าด

    พวกผมเริ่มออกวิ่งทันที และพวกคู่อริผมหน่ะเหรอ มันไม่ปล่อยให้โอกาสหลุดลอยหรอก ไม่รู้ว่าวันนั้นลูกเห็บตกเป็นขวดหรือยังไงก็ไม่รู้ ลอยละร่องเต็มไปหมด และมีดเอยไม้เอย มันเอามาจากไหนกัน เหมือนแบบว่า กูรู้ว่าวันนี้มืงต้องมา เตรียมไว้แล้วเรียบร้อย พวกผมไม่ต้องคิดอะไรให้มากเรื่อง คิดอย่างเดียว กูต้องรอด กูต้องรอด ขณะวิ่งผมถามไอ้คนชวนลง ถามมันว่า มืงมีของอะไรไหม ชวนกูลงเนี่ย มันบอกว่า กูก็นึกว่ามืงมี เวรเลย ไม่เตี๊ยมกันก่อนนะมืง

    สรุปผลวันนั้น มีเพื่อนสนิทผมคนนึงต้องไปอยู่โรงพยาบาลวิภาวดี หลังจากที่ผมรวมคนหลังเหตุการณ์แล้วไม่เจอตัวมัน ตามหากันพักนึงถึงได้รู้จากที่ได้โทรไปถามพี่ชายมัน มันโดนฟันที่แขน หลายเข็มเหมือนกัน แต่จำไม่ได้ว่ากี่เข็ม นอนโรงพยาบาล 3 คืน ผมนอนเฝ้ามันทุกคืนเลย หาเรื่องไม่กลับบ้านไปงั้นแหละ

    จากคุณ : February78 - [ 23 ก.ย. 51 08:51:44 A:125.25.28.152 X: ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom