Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    ต้มยำ

    โดยนิสัยส่วนตัวแล้วผมชอบกินข้าวขาหมูมากๆ
    กินจนน้ำหนักซึ่งคงที่มาสามสี่ปีประมาณ ๖๕ - ๗๐ กิโล
    (สูง๑๗๕ หุ่นดีนะฮะ)
    เกิดพุ่งพรวดขึ้นมาแตะขีดที่ ๘๑ กิโล

    หลังชั่งน้ำหนักไปหลายอาทิตย์ก่อนจึงได้สติ..
    เลยจำใจต้องลดข้าวขาหมูจานโปรดลง
    จนปัจจุบันต้องถือศีลอดข้าวขาหมูกันเลยทีเดียว

    ก็ดีอยู่อย่างที่อดข้าวขาหมู
    เพราะได้เคาะสนิมในการทำอาหารกินเองอีกครั้ง
    หลังจากห่างเหินการทำอาหารกินเองไปนาน


    ความจริงผมเองเป็นผู้ชายประเภทอยู่ยากกินยากอยู่พอสมควร
    คือถ้าอาหารไม่ถูกใจก็ไม่กินเลยทีเดียวเชียว

    สังเกตกันไหมครับอาหารตามสั่งที่เราสั่งตามร้านต่างๆ
    ทั้งข้างถนนหรือบนห้างแม่ครัวมักใช้เวลาน้อยมากในการปรุง
    ทั้งๆที่อาหารบางชนิดต้องการเวลาในการปรุงอย่างยิ่ง

    การปรุงแบบลวกๆเพื่อทำเวลา
    จึงนับว่าเป็นการทำลายรสชาดอาหารอย่างแท้จริง

    สำหรับผมการกินอาหารไร้รสชาด

    ก็เหมือนการให้คนอื่นว่าวให้นั่นแหละครับ
    เพราะการให้คนอื่นว่าวให้..บางครั้งที่ควรจะเร่ง
    มันกลับช้า..ตรงที่ควรจะช้ากลับเร่ง

    สมมตินะครับ
    หากผมจะสั่งต้มกระดูกหมูใส่ผักกาดกระป๋องตรานกพิราบมากินสักชามหนึ่ง
    ที่ร้านอาหารตามสั่ง
    มันก็คงต้มแป้บเดียว
    การจะรอเวลาเคี่ยวกระดูกหมูให้นานๆสักครึ่งชั่วโมง
    สำหรับร้านแบบนั้นเป็นเรื่องที่ทำได้ยากจริงๆ

    แต่ถ้าเราทำเองปรุงเองจะได้รสชาดตรงนี้
    เพราะเราสามารถเคี่ยวกระดูกหมูจนเปื่อยยุ่ยได้
    เคี่ยวจนถึงขนาดน้ำต้มกระดูกออกรสหวานหอมชนิดที่ไม่ต้องเติมน้ำตาลเลย

    มีคนเคยพูดกับผมว่า "กินๆไปเถอะแค่กินเพื่ออยู่อย่าอะไรๆให้มันมากนักเลย"

    ผมว่าคนๆนี้ไร้รสนิยมในหารกินอาหารเป็นอย่างแน่แท้

    ผมเคยอ่านเจอคำโบราณท่านกล่าวไว้ว่า "ความเพลิดเพลินในโลกนี้นั้น
    จะมีสิ่งใดที่น่าเพลิดเพลินใจมากไปกว่าการได้ชิมอาหารเลิศรสนั้นไม่มีอีกแล้ว"

    เนื่องจากต้องคุมอาหารผมจึงต้องทำอาหารชนิดไร้ไขมันกินเป็นประจำอย่างเช่นเย็นวันนี้ (๒๓ ก.ย.๕๑)ผมว่าจะทำต้มยำเห็ดน้ำใสกินสักชามใหญ่ๆ เฮ้อ..มาลองดูกันว่าต้มยำน้ำใสเห็ดมื้อนี้จะอร่อยประมาณไหน

    ผมรื้อค้นเครื่องปรุงในตู้เย็น
    ก็พบว่าทุกอย่างมีครบหมด
    จึงนำของที่จะใช้ปรุงออกมาวางเรียงกันไว้
    อันดับแรกเริ่มจากซอยตะไคร้สามต้นใส่จาน
    ซอยหอมแดงอีกสามสี่หัววางเคียง
    เอาสากทุบพริกขี้หนูอ่อนอีกประมาณยี่สิบเม็ด
    ซอยข่าวางเคียงไว้อีกประมาณครึ่งกำมือ
    ฉีกใบมะกรูดประมาณเจ็ดแปดใบกองรวมกันไว้
    จากนั้นก็ผ่ามะนาวอีกประมาณห้าลูก
    บีบคั้นน้ำแยกใส่ถ้วยตวงไว้ต่างหาก
    กระแทกน้ำปลาใส่ถ้วยตวงไว้อีกครึ่งถ้วย

    พอได้เครื่องปรุงทุกอย่างแล้ว
    ก็ยกกะทะไฟฟ้าเข้าที่..ติดสายเสียบปลั๊กแล้วตวงน้ำใส่กระทะประมาณห้าถ้วยตวง

    (ถ้วยตวงเป็นถ้วยเล็กๆขนาดจุประมาณน้ำหนึ่งแก้วขนาดกลาง)

    ขณะรอน้ำเดือดก็เอาเห็ดมาหั่นตามชอบใจ
    นิสัยเราชอบกินชิ้นใหญ่ๆเลยแค่ผ่าครึ่งเท่านั้น
    เห็ดเออรินจิแพ็คขนาดกลาง (ประมาณ ๔๙ บาท)
    รวมกับเห็ดฟางอีกหนึ่งแพ็คถูกหั่นลงไปนอนแอ้งแม้ง
    อยู่ในถ้วยขนาดใหญ่อวดความอวบขาวน่าฟัดซะจริง

    จากนั้นก็เอาแพ็คกุ้งมาแกะเลือกแค่หกตัว
    อีกยี่สิบกว่าตัวในแพ็คเอาไว้ทำกุ้งทอดกระเทียมพริกไทย

    ล้างกุ้งเด็ดหนวดแล้วพักไว้ก่อน

    ครั้นน้ำเดือนปุดๆเหมือนโกรธใครมาตั้งห้าร้อยชาติ
    ก็เอาเกลือป่นลงประมาณ ๑ ช้อนชา
    ตามด้วยน้ำตาลทรายขาวอีก ๑ ช้อนชา
    จากนั้นก็เอาหอมตะไคร้ข่าพริกขี้หนูใบมะกรูดลงทันที

    พอเครื่องปรุงลงไป
    น้ำจะลดความโกรธลงจนเกือบนิ่งสนิท
    ก็ให้รอจนกว่ามันจะโกรธจนถึงที่สุดอีก
    จากนั้นก็เอาน้ำปลาครึ่งถ้วยตวงลงไปปรุงดูก่อนแล้วชิมดู

    ทดในใจไว้นะว่าเค็มประมาณนี้ (ห้ามนึกถึงเปรี้ยวเด็ดขาด)

    เข้ากับเครื่องปรุงได้ดีรึยัง

    โอเคเมื่อชิมแล้วเค็มได้ที่และเครื่องปรุงก็หอมได้ที่แล้ว
    จึงเอากุ้งลง ขณะเอากุ้งลงอย่างเสือกเอาทัพพีไปคนล่ะเดี๋ยวคาวตายห่ะ กุ้งมันชอบใจจะนอนแช่น้ำร้อนตรงไหนก็ปล่อยมันไป ส่วนเราก็ร้องเพลงโปรดเถิดดวงใจของทูลทองใจรอไปก่อนก็ได้ ครั้นสังเกตเห็นว่าสีแดงๆไหลออกจากตัวกุ้งกระจายไปทั่วกะทะแล้ว ให้เอาเห็ดลงไปสวีวี่วีกับกุ้งได้เลยในตอนนี้

    จากนั้นก็เอาทัพพีกดเห็ดเบาๆให้จมน้ำร้อน

    อย่าทะลึ่งเอาทัพพีคว้านคนจนทั่วล่ะ
    เดี๋ยวเครื่องเทศแตกกระจุยกระจายหมดความสวยงาม

    ประมาณสักหนึ่งนาทีก็ลองตักน้ำชิมดู

    ถ้าความเค็มลดลงไปหน่อย
    ก็เติมน้ำปลาให้เค็มได้ที่ดังเดิมจากที่ชิมไว้ตอนแรก

    จากนั้นก็เอามะเขือเทศมาซอยผ่าครึ่ง
    แล้วเอาลงในกะทะจัดตำแหน่งให้ดีๆ
    เอาทัพพีกดๆ
    แล้วลองตักเห็ดขึ้นมาชิมดู
    ถ้ากรุบๆดีก็โอเค
    เตรียมถ้วยมะนาว
    เบาไฟลงจนพอประมาณ
    เทน้ำมะนาวลงไป
    เอาทัพพีคนเบาๆอย่างระวังมือ
    เบาเสมือนสาวใหญ่ทาครีมบางๆที่หน้าตอนเช้าๆ

    จากนั้นก็ชิมรสและปรุงรสตามชอบใจ

    จำไว้ว่า
    ต้มยำน้ำใสต้องเค็มและเปรี้ยวเท่านั้น






    ดูดิกินคนเดียวอีกแล้วอีกวันนี้

    จากคุณ : ใส่ชื่อตรงนี้เหรอวะ - [ 25 ก.ย. 51 13:20:10 A:203.146.196.18 X: ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom