ก่อนอื่นก็ขอขอบคุณทุกท่านที่สละเวลาอันมีค่า มาอ่านเรื่องราวความรักของผมครับ (ยังไม่เห็นมีความรักตรงไหนเลยแหะ)
ช่วงผมอยู่ปี 2 ผมได้รู้จักผู้หญิงคนนึง เป็นรุ่นน้องผม ที่กลับบ้านด้วยรถเมล์สาย 52 เหมือนกัน และเธอคนนี้ก็เป็นจุดเริ่มต้นในชีวิตความรักที่พลิกผันมากมายของผม เธอน่ารักมาก ผมชอบเธอมาก เด็กอ่ะนะครับจะทำอะไรล่ะเวลาจีบสาว ถือหนังสือให้เวลาเดิน โทรหาบ่อยๆ
ผมจีบเธออยู่พักใหญ่ เขาก็คุยกับผมดีตลอดนะครับ แต่เขาคงไม่ได้คิดอะไรกับผมหรอกมั้ง ผมว่าผมคงคิดไปเองแหละ พี่สาวเขาสองคนผมก็ตีสนิทเรียบร้อย พี่สาวเขาก็รุ่นเดียวกับผมนี่แหละ ก็เลยคุยกันได้ เขาก็ไม่ได้เชียร์และก็ไม่ได้ขัดขวางหรอกครับ ผมก็เลยคิดว่าคงจะผ่านฉลุยแน่ๆ
แต่ก็เหมือนฟ้าผ่าลงมาตรงกลางใจ เมื่อถึงวันปิดเทอมของปีนั้น ผมแทบไม่ได้ติดต่อกับเธอคนนั้นเลย และเมื่อเปิดเทอมมาถึงได้รับรู้เรื่องราวจากเพื่อนๆผมว่า เธอคนนี้ได้ไปคบหากับมันคนนั้นซึ่งเป็นเพื่อนผมในกลุ่ม ซึ่งมันรู้สึกเจ็บแปลบขึ้นมาทันที ทำไมเพื่อนต้องมาหักกันอย่างนี้ ผมพูดไม่ออก
ไปนั่งกินเหล้ากับพวกรุ่นน้องที่ปากเกร็ดผมทนไม่ได้ถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ ตอนนั้นผมไม่รู้สึกอายใครแล้ว ผมเสียใจมาก และกว่าจะผ่านช่วงนั้นมาได้ มันทรมาณเหลือเกิน ผมก็เลยพยายามลืมเรื่องที่เกิดขึ้น โดยการหันหน้าเข้าไปหาเพื่อนมากขึ้น
และในช่วงนั้นเป็นการเรียน ปวช.ปีที่ 3 ผมเริ่มรู้จักคนมากขึ้น เรื่องตีรันฟันแทงก็ยังมีเข้ามาเป็นเรื่องปกติ แต่มีจุดหักเหในชีวิตผมในช่วงนั้นอยู่อย่างนึง ผมได้ไปรู้จักเพื่อนกลุ่มนึง และเพื่อนกลุ่มนี้ได้ทำให้ผมได้ลองยาเสพติดชนิดนึงซึ่งเรียกว่าแป๊ะ หรือที่รู้จักกันในชื่อของผงขาว หรือเฮโลอีน ผมติดมันอยู่พักใหญ่ และผมก็รู้จักคนในวงการนี้มากขึ้น
ในขณะที่ผมยังหลงระเลิงอยู่กับการเล่นแป๊ะอยู่นั้น ผมก็ได้รู้จักกับผู้หญิงอีกคนที่เข้ามาในชีวิตผม เธอเรียนอยู่โรงเรียนมัธยมแถวเกษตร แต่เธอชอบมาที่เซ็นทรัล พ่อแม่เธอเป็นคนค่อนข้างมีฐานะ แต่ผมไม่ได้สนใจหรอกว่าเขาจะมีหรือจะไม่มี ผมสนิทกับเธอจนเหมือนว่าเราจะชอบกัน แต่เราสองคนก็ไม่เคยมีใครบอกว่าชอบกันเลย อาจจะเป็นเพราะว่าในตอนนั้นผมติดยาด้วย เลยไม่ได้ให้ความสำคัญในคำพูดที่จะต้องบอกกับเขา
แต่เกือบทุกวันผมจะต้องเจอกับเขา มีรายงานอันไหนทำไม่ได้เธอก็จะคอยทำให้ผม เราก็เหมือนกับคู่รักในวัยเรียนคนอื่นๆ เพียงแต่เราไม่เคยบอกรักกันก็แค่นั้น แต่ผมก็ไม่เคยให้เธอได้รู้นะว่าผมติดยา ใครจะไปบอกล่ะเนอะ
พอเขียนเรื่องความรักแล้วก็ตลกไม่ค่อยออกแล้วผม
ช่วงกลางของเทอม ผมเริ่มพลักดันตัวเองอัพเลเวลเลื่อนตำแหน่งตัวเอง จากผู้เสพ เป็นผู้ค้า ช่วงนั้นผมเป็นผู้ค้ายาเสพติดเต็มตัว จนทำให้ชื่อผมไปขึ้นอยู่ที่ สน.ลาดพร้าว อย่างไม่รู้ตัว ผมมีลูกน้อง
และการขายยาของผม ผมจะไม่นำพวกยาเสพติดไว้ที่ตัวผมเลย เพื่อป้องกันการถูกตรวจค้นโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งผมจะโดนค้นตัวค่อนข้างบ่อย แต่ไม่สามารถหาหลักฐานจากผมได้ ผมทั้งเรียนทั้งเล่นยา มันก็เลยทำให้ผมไม่ค่อยมีเวลาให้กับการเรียนมากนัก
ส่งผลให้ตอนปี 3 เมื่อถึงวันจบการศึกษา เกรดผมไม่ถึง 2.00 ทำให้ไม่สามารถจบการศึกษาได้ ผมจึงต้องเรียนต่ออีก 1 ปี เป็นนักศึกษาปวช.ปีที่ 4 แต่ด้วยความช่วยเหลือของท่านอาจารย์ใหญ่ ผมจึงได้เรียน ปวส. ควบคู่ไปด้วย จะได้ไม่เสียเวลาในการเรียน คงเป็นเพราะแม่ผมก็ทำงานในโรงเรียนแห่งนี้ด้วยล่ะมั้ง ผมก็เลยดูสนิทกับอาจารย์ใหญ่กว่าคนอื่น
แล้ววันนึงผมขับรถมอเตอร์ไซค์เพื่อนไปที่โต๊ะสนุ๊กดรากอน ซึ่งเป็นโต๊ะสนุ๊กที่รวบรวมเด็กโรงเรียนนี้ทุกระดับไว้ที่นั่น แม้แต่ต๋องศิษย์ฉ่อยก็เติบโตมาจากโต๊ะสนุ๊กแห่งนี้นะ จะบอกให้ วันนั้นทันทีที่ผมจอดรถ ท่านเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จอดรถประกบติดผมเลย และค้นตัวผมและค้นรถผมอย่างระเอียด แต่ก็ไม่พบสิ่งผิดกฎหมายใดๆ
ซึ่งผมก็ต้องขอขอบคุณท่านเจ้าหน้าที่ทั้ง 2 คนวันนั้นด้วยนะครับ ที่ยังเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ที่ดี ไม่ยัดยาให้ผม แต่วันนั้นเขาก็เอาตัวผมกลับมาที่โรงเรียน ซึ่งที่โรงเรียน ก็มีท่านอาจารย์ใหญ่นั่งรออยู่ในห้องอยู่แล้ว ผมเห็นแล้วแทบสะอึกเลย
วันนั้นทั้งตำรวจ อาจารย์ฝ่ายปกครอง อาจารย์ใหญ่ เค้นให้ผมสารภาพเรื่องขายยาให้ได้ แต่ผมก็ฉลาดเป็นกรดเหมือนกัน ในหัวผมคิดแค่ว่า ถ้ามืงไม่มีหลักฐานมามัดกู ก็อย่าหวังว่าจะจับกูได้ และตั้งแต่วันนั้นมันทำให้ผมต้องใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังมากขึ้นกว่าเดิม
ผมเป็นคนที่เล่นเฮโลอีนโดยไม่ใช้สลิงค์นะครับ คือไม่ใช้เข็มฉีดยาหน่ะครับ เป็นเพราะผมกลัวเข็มด้วยมั้ง และก็มีหลายคนที่ช็อคตายด้วยเข็ม ผมก็เลยไม่เล่นด้วย แค่นี้มันก็ทำให้ผมติดงอมแงมแล้วครับ
ในชีวิตรักของผมในช่วงนั้นก็ถือว่าราบรื่นดี เคยมีเรื่องตีกันกับโรงเรียนอื่นหน้าห้างเซ็นทรัล ผมไล่ให้เธอกลับบ้าน เขาก็ไม่ยอมกลับ บอกเป็นห่วงผมไม่อยากให้ไปมีเรื่อง แล้วอย่างนี้จะไม่ให้ผมคิดว่าเรารักกันได้ยังไงล่ะครับ ผมผิดเองแหละที่ไม่ยอมบอกเธอ ว่าผมรักเขา จนวันนึงผมโทรหาเธอแต่ไม่ติด ตอนนั้นเธอมีโทรศัพท์มือถือด้วยนะครับ ซึ่งมันใหม่และหรูไปสำหรับคนชั้นกลางอย่างผม
และวันนั้นผมเดินไปเจอเขาในเซ็นทรัลจูงมืออยู่กับผู้ชายคนนึง ซึ่งผมเข้าใจมาโดยตลอดว่าเขาเป็นเพื่อนเธอ ทันทีที่เธอเห็นผม เธอปล่อยมือจากเขา แต่ผมก็ไม่ได้เดินหนี ผมเดินสวนกับเขาสองคน สายตาของผมมองสบตากับปุ้ยตอนที่เดินสวนกัน ผมอยากจะถามเธอเหลือเกินในขณะนั้นว่า ทำไม ทำไม ทำไม
แต่ผมก็ฉุกคิดได้ว่า ใช่ เราไม่เคยบอกกันนี่ว่าเราคบกันในแบบไหน เพราะฉะนั้นเขาก็ไม่ผิดที่จะมีใครซักคน ถ้าคนๆนั้นสามารถพูดกับเธอได้เต็มปากว่า รัก
ผมเจ็บไปทั้งใจ แต่ผมเจ็บกับความรักได้ไม่นาน ไม่กี่วันต่อมา ขณะที่ผมนั่งๆนอนๆอยู่ในร้านดังกิ้นโดนัท ชั้นใต้ดินห้างเซ็นทรัลลาดพร้าว ผมก็เห็นพ่อผมเดินเข้ามา ในใจผมคิดว่า เอ๊ะ พ่อมาทำอะไรที่นี่เนี่ย ตอนนี้ พอพ่อเดินมาถึง เขาไม่พูดอะไรมาก พ่อบอกให้ผมกลับบ้านเดี๋ยวนี้
ผมตกใจมาก ทำไมอยู่ๆถึงจะให้ผมรีบกลับบ้าน ระหว่างทางในรถบนถนนสายรัชดาภิเษก พ่อผมก็เฉลยให้ผมได้รู้ในวินาทีนั้นเอง ว่าทำไมผมถึงต้องรีบกลับบ้าน
พ่อผมเล่าว่า แม่ผมที่ทำงานอยู่ที่สหกรณ์โรงเรียน ถูกอาจารย์ใหญ่ของผมเรียกเข้าไปพบ แล้วอธิบายให้แม่เข้าใจว่า ณ ขณะนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ กำลังตามออกไปจับผมที่ห้างเซ็นทรัลลาดพร้าวแล้ว เรื่องขายยาเสพติด และตำรวจได้พยานบุคคลที่จะชี้ตัวผมแล้ว ซึ่งก็เป็นลูกน้องผมเองนั่นแหละ
แต่เรื่องที่อาจารย์ใหญ่มาบอกกับแม่ผม ทางตำรวจไม่ได้รู้เรื่องด้วยนะครับ
เมื่อแม่รู้อย่างนั้นก็เลยรีบโทรศัพท์ไปบอกพ่อผม ให้ไปรับตัวผมออกมาจากห้างก่อนที่ตำรวจจะเจอตัว และอาจจะด้วยบุญเก่าที่สั่งสมมา พ่อผมมาเจอผมก่อนที่ท่านเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเจอตัวผม ระหว่างทางพ่อก็เค้นเรื่องทั้งหมดจากผม ผมก็ได้สารภาพทุกอย่างกับพ่อในเวลานั้นนั่นเอง
เมื่อถึงบ้านพ่อพาผมขึ้นไปที่ห้องพระ พาผมนั่งสวดมนต์และพูดนำ ให้ผมสาบานต่อหน้าพระพุทธรูปทุกองค์ตรงนั่นว่าให้ผมเลิกยาเสพติดไม่อย่างนั้นขอให้ผมมีอันเป็นไป ตอนนั้นเองผมถึงรู้ว่า ผมได้ทำสิ่งที่เลวร้ายที่สุดในชีวิตผม ผมเห็นน้ำตาพ่อผมไหลออกมาในขณะที่พูดว่าขอให้ผมมีอันเป็นไป
ในชีวิตผม ผมไม่เคยได้รับรู้ซักเท่าไหร่หรอก ว่าพ่อแม่ รักผมมากแค่ไหน อาจจะเป็นเพราะเราอยู่ในสังคมเมืองที่ต้องทำทุกอย่างแข่งกับเวลา ความสนิทสนมในครอบครัวของผมเลยไม่มากเท่าที่ควร แต่วันนี้ผมรู้แล้วว่าพ่อแม่ทุกคน รักลูกขนาดไหน
วันนั้นผมพูดตามพ่อแล้วผมก็ร้องไห้ ผมเสียใจมากที่ต้องทำให้พ่อผมต้องร้องไห้ และพ่อก็ให้ผมเก็บของที่จำเป็นทุกอย่าง และในคืนนั้น ผมก็ถูกส่งไปอยู่กับลุงผมที่อยุธยา มีแวบนึงผมคิดถึงเธอขึ้นมา ผมเสียใจที่ไม่มีแม้แต่จะได้บอกลาเธอ ผมคิดถึงเธอ ผมอยากเจอเธอ...........................
จากคุณ :
February78
- [
26 ก.ย. 51 16:05:55
A:125.25.21.157 X:
]