ความคิดเห็นที่ 1 สวัสดีพ่อแม่พี่น้องนะเจ้าค่ะ เนื่องจากอาศรมเดิม สองหมื่นโคลง ครบรอบเจ็ดปีผ่านไป วันนี้สีน้ำน้อยเลย แอบมาตั้งกระทู้อาศรมใหม่ซะเลย แรกดรุณ คือว่าอาศรมกำลังจะโตเป็นหนุ่มเป็นสาว วัยแรกดรุณของอาศรมจะเป็นยังไงน้อ ให้โอกาส ปู่น้าอาพี่น้อง ในอาศรมได้หวนรำลึกถึงวัยแรกดรุณของแต่ละท่าน มีบางท่านอาจจะเพิ่งสิบหกสิบเจ็ด ก็มิว่ากันเจ้าค่ะ จากคุณ : สีน้ำน้อย (sugarhut) - [ 27 ก.ย. 51 23:09:55 ]

ความคิดเห็นที่ 2 รักเร่เร่ร้างรัก..........แรมรา เรื่อยรักจนยากหา....จริงได้ ใครใครต่างระอา.....กันหมด  นาพ่อ รักห่างหรือยากไร้.....พ่อนั้นทำตัว จากคุณ : กรวี - [ 28 ก.ย. 51 22:48:35 ]

ความคิดเห็นที่ 3 รักเร่เล่ห์รักร้าย...ลายลวง คอยค่อนขอดแค่นควง...คู่ข้าง ท้อแท้ถูกโถมทวง...ทีท่า เบือนบิดบ่บอกบ้าง...เบ่งบ้าบอกเบลอ สวัสดีเจ้าพี่ไหม สงสัยแอมมีเขี้ยว อิอิ คนกลัวถูกกัดกันมั้งเนี่ย หายไปหมดเลย อาศรมร้างแล้ว ฮาฮา จากคุณ : สีน้ำน้อย (sugarhut) - [ 29 ก.ย. 51 09:08:43 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เจ็ดปีกระวีกระวาดแกล้ง        เกลาคำ ห้าหกยกมายำ                    ยั่วแย้ม สามปีถี่ห่างจำ                    ใจจาก ยากเอย                       ปีหนึ่งถึงแรกแต้ม                แต่งไว้ให้ดรุณฯ จากคุณ : ศาลายา - [ 29 ก.ย. 51 11:16:00 ]

ความคิดเห็นที่ 5 18.50 น. ๏ อุบลงาม ยามแรกแย้ม       รับอรุณ แรกรุ่นดรุณวัยละมุน             ละม่อมเจ้า หมู่ภมรร่อนลมหมุน              เหมือนยั่ว ผึ้งภู่ แมลงรุมเร้า                  พึ่งผู้ใดสงวน ๏ รักนวล รวนนักน้ำ              ใจฝืน ผึ้งภู่ ผู้พึ่งขืน                        ข่มไว้ ดุนละ ดรุณยืน                     ดุลอะ-ไรแล กลัวบาป กราบบัวไหว้            พระเฝ้าอาศรม ๚ะ๛               19.15 น.   คารวะสวัสดี...ขวัญกวีสีน้ำน้อย นกผี ---> กวีคำผวน*กวนวะคำผี*กวนหวีคำพระ <--- หนีผก จากคุณ : นกโก๊ก - [ 29 ก.ย. 51 19:19:44 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ศาลายา สวัสดีเจ้าค่ะ ยกมือสาธุผู้หลักผู้ใหญ่อย่างงดงาม โคลงเคลงจารแต่งให้...ดรุณใด ดรุณียอดดวงใจ...ใช่น้อง แอบหยอกหยิกแซวไป...สนุกจิต หากพี่เกิดขัดข้อง...กล่าวแจ้งหนูที นกโก๊ก บัวสวยสีชดช้อย...ชวนชม จิตชื่นปานฝนพรม...ที่แล้ง กังวลวุ่นวายตรม...อกเปล่า อรุณรุ่งนภาแจ้ง...ส่งยิ้มเถิดเรา จากคุณ : สีน้ำน้อย (sugarhut) - [ 29 ก.ย. 51 21:37:59 ]

ความคิดเห็นที่ 7 แรก.....แรกคงแรกรู้.........เรียนรับ ด.........สระอีดีครับ..........คิดคล้อง รุ.........ไบยาตเคยจับ.......จับจิต ณ........ถิ่นพำนักพร้อง.......นึกพร้อมเนาพรหมฯ แหะ แหะ สวัสดี เพื่อนพ้องน้องพี่ชาวอาศรมฯ ข้าพเจ้า มาแบบโคลงเคลง ฉะนี้แล ปล. จอมยุทธลงพุง สุราเต็มท้อง แต่ไม่คลอดสักที ฝากมาขยายข่าวถามไถ่ประมาณว่า "วังเวียง" ณ เมืองลาว บรรยากาศงามนัก ชาวอาศรมฯ จะสนใจ รวมพล ไปป้วนเปี้ยนวังเวียง ไหมหว่า แหะ แหะ คือมีข่าวแจ้งมาว่า ถ้ารวมพลได้ ๑๐ หน่อขึ้นไป ในวันเวลาที่ตรงกันได้ ก็สามารถจัดทริปแบบไม่ต้องควักเนื้อมากนักได้แล ฝากไว้พิจารณาโดยพลัน จากนั้น ก็ไปแล แบบว่า งานมันรุม จากคุณ : นายทิวา - [ 30 ก.ย. 51 19:25:14 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เมื่อคืนไฟดับ นั่งถองสุรา  "เหมาไถ"  ที่พรรคพวกหิ้วมาฝากจากจีน ถกเถียงคำกวีกับ  "หลี่ไป๋"   หมดไปซักครึ่งขวดก็เข้านอน น้องสีน้ำมัน ถ้าได้มาทางเหนืออย่าลืมบอกผมนะครับ เหมาไถยังคอยอยู่ อิอิ จากคุณ : ปะหล่อง - [ 1 ต.ค. 51 10:03:38 ]

ความคิดเห็นที่ 9 พี่นายทิวา ไปดูภาพจากในเว็บแล้วอยากไป ยังไม่เคยไปลาวเหนือ แต่คงไม่มีวาสนา เพราะว่ากระตังค์ไม่มี นอกเสียจากว่า พี่ป๋าหล่อง จะเอารถข้ามฟากเจียงของ พี่ป๋าหล่อง อิอิ พี่ป๋าหล่องสนใจโครงการพี่ยุทธไหมเจ้า ถ้าสนใจ หนูจะขอเกาะล้อไปด้วย อิอิ ได้ข่าวว่าเพิ่งไปมานิเจ้า จากคุณ : สีน้ำมัน (sugarhut) - [ 1 ต.ค. 51 11:23:04 ]

ความคิดเห็นที่ 10 สนใจน่ะสนใจครับ อยากจะไปตำจอกกะจอมยุทธแทบจะแย้  เอ้ย  แย่อยู่แล้ว อิอิ จากคุณ : ปะหล่อง - [ 1 ต.ค. 51 13:17:55 ]

ความคิดเห็นที่ 11 โคลงเคลงแต่งบ่ได้.............ความใด แต่กลั่นออกจากใจ...............ใฮ่น้อง สาวหยอกใช่สาวใหน..........ฝากรัก แต่ชื่นใจบ่ข้อง...................จิตซึ้งคนึงหาฯ จากคุณ : ศาลายา - [ 1 ต.ค. 51 22:05:59 ]

ความคิดเห็นที่ 12 อยากไปครับพี่ทิวา แต่ผมมิมีพาสปอร์ต(จน) ทำทันไหมนี่.... ปิดเทอมพอดีเลย..... ฮือๆ ๏ แรกดรุณอุ่นอกเอื้อ........ไอถนอม ผึ้งภู่กรูกันตอม..................ตรลบรื้น อยากจะเด็ดมาดอม............หอมหน่อย กลัวชอกช้ำปาดปื้น.............แปดเปื้อนแปมปน๚ (แซว) ๏ ผมน่ะดรุณแรกแย้ม.........ไม่นาน คารวะบุปผชาติบาน.............ก่อนหน้า อาศรมดุจสวนสนาน............ผกาอัก -ษรนอ บานค่อยบานช้าช้า..............ชื่นฟุ้งจรุงเสมอ๚ จากคุณ : โกฏิดารา (เทราสเฟียร์) - [ 1 ต.ค. 51 22:23:35 ]

ความคิดเห็นที่ 13 แร      รูปหลากลักษณ์ล้ำ                 เลิศเลอ กด     ร่างดังพบเจอ                        รอบด้าน รุ       ผงฝุ่นงามเสมอ                      ปรากฏ ณ      โขดหินดินกร้าน                     โอ่ฟ้าอวดดิน ฯ เผยงามยามแต่งแต้ม                       ตามใจ เขียนรูปร่างฤาใคร                           บ่งชี้ เป็นความลับเลศนัย                         แฝงเรื่อง  ราวแฮ ผันผ่านกาลเยี่ยงนี้                          กว่าพ้นกัปป์กัลป์ ฯ หมายเหตุ.  รูปประกอบกับโคลง " ผาแต้ม "  ครับ จากคุณ : นกมีหูหนูมีปีก (the darkknight) - [ 1 ต.ค. 51 22:43:15 ]

ความคิดเห็นที่ 14 พี่ป๋าหล่อง ดีเลยสนใจ แล้วพาหนูไปด้วย อิอิ ขออาศัยเกาะล้อไป เกาะล้อกลับ เดี๋ยวหนูขัดล้อให้ขึ้นเงาเลย พี่ศาลายา วาจาชายออดอ้อน...โปรยคำ กลัวแต่ใจถลาถลำ...ใฝ่คว้า แม้นลวงจิตจดจำ...ฝังแน่น เพียรวาดฝันจนล้า...ดั่งน้ำเหือดหาย อิอิ ง่วงจังเลยวันนี้ จากคุณ : สีน้ำน้อย (sugarhut) - [ 2 ต.ค. 51 00:06:21 ]

ความคิดเห็นที่ 15 โกฏิดารา (เทราสเฟียร์) ใครไหนกันแก่ล้ำ...วัยดรุณ ชายโกฏิโปรดทำบุญ...บอกข้า บอกเพียงชื่อนามสกุล...นั้นไม่ ต้องนา ผองมิตรอยากรู้หว้า...พู่นั้นนามใด อิอิ เจ้าหนูโกฏิรูปงาม จะกล้าเอ่ยชื่อไหมใครพ้นวัยแรกดรุณ แก้ไขเมื่อ 02 ต.ค. 51 00:11:17 จากคุณ : sugarhut - [ 2 ต.ค. 51 00:10:45 ]

ความคิดเห็นที่ 16 นกมีหูหนูมีปีก (the darkknight) เพลินพิศภาพผ่องฟ้า...แวววัน แสงส่องภูผาพลัน...พร่างแพร้ว ความลับซ่อนในขวัญ...ยุคเก่า ความเชื่อเป็นดวงแก้ว...สื่อให้จารฝัง จากคุณ : sugarhut - [ 2 ต.ค. 51 00:17:11 ]

ความคิดเห็นที่ 17 และแล้วก็สลบเหมือด ถ้าโคลงพลาดถูกผิดประการใดขอโทษด้วยค่ะ กำลังจะน็อคคาคอมพ์แล้ว ไม่รู้เกิดอะไรขึ้น จากคุณ : sugarhut - [ 2 ต.ค. 51 00:18:05 ]

ความคิดเห็นที่ 18 #15 หากพ้นมิใช่ชั้น..................แน่นอน ออกสดสวยอรชร...............ปานฉะนี้ ไฟรักคุมิคลอน...................คลายออก  นาแม่ แรกรุ่นเมื่อตะกี้...................แตกเปรี้ยเนื้อสาว กร๊ากๆๆๆๆๆๆ จากคุณ : กรวี - [ 2 ต.ค. 51 00:47:58 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ก้าวพ้นวัยเด็กด้วย..........หย่านม วัยรุ่นยามรื่นรมย์............แต่งเหล้า วัยดึกท่องอาศรม...........ฟุ้งซ่าน ฤาแก่เพราะกินข้าว.........เฒ่าด้วยอยู่นาน จากคุณ : คนไกล (giant1964) - [ 2 ต.ค. 51 23:34:36 ]

ความคิดเห็นที่ 20 สวัสดีครับ  sugarhut   และทุกท่าน สองหมื่นโคลง ในอาศรมชาวโคลง จากการเรียนรู้ร่วมกัน ทุกบทโคลงเป็นบทเรียนให้เราได้ศึกษาอย่างไม่จบสิ้น ผมชอบอ่านโคลงของทุกท่านเพื่อเอามาฝึกฝนตนเอง หัดเขียน หัดวิจารณ์  โดยมีครูที่เรายกขึ้นหิ้งกันไว้ สองท่าน ครูหนอนสุรา  และ  พี่เล็ก ในฐานะศิษย์เรียนโคลง  เราจึงไม่กดดันตัวเอง เขียนได้เรื่อย ๆ จนวันนี้  หันหลังไปมองจุดเริ่มอาศรมชาวโคลง ผมกลายเป็นป๋า เป็นปู่  ฯลฯ  ทั้ง ๆ ที่ยังอยู่ในวัยแรกดรุณ.... วันนี้ขออนุญาตครูหนอนสุรา  ยกโคลงบทที่ครูเขียน และผมชอบมาก มาชวนกันอ่านกับชาวโคลงแรกดรุณ รุ่นปัจจุบัน   ศึกษาตัวอย่าง การใช้ภาษาเรียบง่าย ความหมายลึกซึ้ง ใจความสมบูรณ์ ......"เพ่งย้อนเห็นตน" ..... ภาพประกอบ โดยศิษย์โค่ง คัมภีร์โบราณ   ถ่ายที่พิพิธภัณฑ์บัว มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ปทุมธานี จากคุณ : คัมภีร์โบราณ - [ 4 ต.ค. 51 02:57:33 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ... จากคุณ : คัมภีร์โบราณ - [ 4 ต.ค. 51 02:58:24 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ๒ จากคุณ : คัมภีร์โบราณ - [ 4 ต.ค. 51 03:06:04 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ๓ จากคุณ : คัมภีร์โบราณ - [ 4 ต.ค. 51 03:06:42 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ๔ จากคุณ : คัมภีร์โบราณ - [ 4 ต.ค. 51 03:07:19 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ๕ จากคุณ : คัมภีร์โบราณ - [ 4 ต.ค. 51 03:08:03 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ๖ จากคุณ : คัมภีร์โบราณ - [ 4 ต.ค. 51 03:08:47 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ๗ แก้ไขเมื่อ 05 ต.ค. 51 04:40:26 จากคุณ : คัมภีร์โบราณ - [ 4 ต.ค. 51 03:09:26 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ๘ แก้ไขเมื่อ 05 ต.ค. 51 04:39:37 จากคุณ : คัมภีร์โบราณ - [ 4 ต.ค. 51 03:10:10 ]

ความคิดเห็นที่ 29 มาแล้ว ฝากโคลงยั่วเย้าหนึ่งบทนะ ๏  บางกอกวิกฤตเข้า           กุมเมือง มารเฒ่า ธ ประเทือง            ประเทศนี้ วิศาลแค่คางเหลือง             แลพ่อ ชูวิทย์ฟันศอกบี้                  บดเข้ากระโดงคาง ๚ะ๛ แก้ไขเมื่อ 04 ต.ค. 51 03:57:54 จากคุณ : คัมภีร์โบราณ - [ 4 ต.ค. 51 03:18:58 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ตีสี่แล้ว  ตาลาย  แก้ไขบทที่ ๗ จากคุณ : คัมภีร์โบราณ - [ 4 ต.ค. 51 03:59:33 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ทำใหม่ ฝากให้ หมี อาพี โมโน  ฯลฯ จากคุณ : คัมภีร์โบราณ - [ 4 ต.ค. 51 04:07:25 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ความคิดเห็นที่ 18 เสียงเปาะแปะดีดก้อง...กังวาล เสียงส่งจากวันวาร...อะเคื้อ เสียงลือเล่าเยาวมาลย์...งามยิ่ง หากแต่แม่แตกเนื้อ...เพื่อแจ้ง สาวเหลือ น้อยเฮย อิอิ แซวแซว ////////////////////////// ความคิดเห็นที่ 19 อาศรมยังอ่อนถ้อย...รอยจำ เจ็ดขวบดูงามขำ...อร่ามท้วย ข้าวปลาบ่เคยกำ...ใส่ปาก พ่อเฮย หากแต่เติบโตด้วย...ยอดข้าวชูโรง อิอิ อันนี้เรื่องจริงบ้างไม่จริงบ้างเจ้าค่ะ มีคนแซวว่าทำไม อาศรมสองร้อยหนึ่งมีแต่เรื่องสุรา สงสัยว่าคนเปิดทู้ เป็นคอสุรา เสียกระมังนั่น /////////////////////////////// ความคิดเห็นที่ 20 - 31 สวัสดีเจ้าค่ะเฮียคำ ขอบพระคุณที่เอาโคลงดีๆ มาฝาก พร้อมภาพงามๆ ฝูงชนชิงช่วงเข้า...เนาสถาน บางกอกเมืองวิมาน...เทพไท้ หวังใจจักได้ทาน...รสดิลก ลาภแฮ จริงเท็จเสกลวงไซร้...บ่รู้รสจริง จากคุณ : สีน้ำน้อย (sugarhut) - [ 4 ต.ค. 51 13:09:33 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ป๋าขรา... จิ๊กรูป  คคห  27  ไปใช้หน่อยน่ะค่ะ จากคุณ : กรวี - [ 4 ต.ค. 51 14:04:56 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ป๋าขรา รูปจาก คคห  27  ที่กรวีจะเอาไปใช้มันมีผิดอยู่นิดนึงค่ะ ป๋าแก้ให้ด้วยน่ะค่ะ  เน้นเอารูปเล็กๆนะค่ะแบบให้เห็นบทโคลงเด่นชัด คือกรวีจะเน้นโคลงบทนี้เจ้าค่ะ  กรวีทำเองไม่เป็นค่ะ แล้วจะมาจิ๊กอีกที  จุ๊บๆๆๆคร่า แก้ไขเมื่อ 04 ต.ค. 51 14:37:30 จากคุณ : กรวี - [ 4 ต.ค. 51 14:27:08 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ๏ ลมฝนพัดผ่านแล้ว.............เหน็บหนาว เย็นเฉียบดังอกคราว..............หม่นไหม้ ลึกลึกเจ็บจิตราว...................เพิ่งผ่าน  โศกเฮย ห่มอุ่นด้วยผ้าไว้....................สร่างเเล้วสร่างซา ๚ จากคุณ : กรวี - [ 4 ต.ค. 51 15:51:44 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ๏  สร่างโศกในจิตนี้.............สร่างซา ลบออกความเย็นชา............ชั่วร้าย หวั่นหวั่นจิตระอา.................ความโศก   แท้แค่เพียงวุ่นคล้าย............วาบแล้วสร่างหาย  ๚ ปล.หน้ามืดตามัว  เขียนผิด  ตลกฝืด  (ฮา) แก้ไขเมื่อ 04 ต.ค. 51 16:12:09 จากคุณ : กรวี - [ 4 ต.ค. 51 16:08:31 ]

ความคิดเห็นที่ 37 แรกดรุณ แรกดรุณเราด่ำรู้                              ดื่มเรียน เช้าค่ำขยันหมั่นเพียร                        บ่ท้อ สนานวิชสนุกเขียน                           แสนปลาบ ปลื้มแล ลิงโลดละเลงล้อ                              คลื่นถ้อยโคลงเคลง ฯ สว้สดี แม่นางซูการ แม่นางกรวี ท่านคัมภีร์ และทุกท่าน ขอรับ จากคุณ : พิราบเงิน - [ 4 ต.ค. 51 23:07:38 ]

ความคิดเห็นที่ 38 บัวบานบ่งหน่อใต้............โคลนตม น้อยแต่น้ำเต้าจม...........จ่อมบ้าง กระเบื้องเฟื่องฟูลม........ลอยฟ่อง ดำย่อมย้อมขาวอ้าง.......โอ่โอ้กาขาว สวัสดีครับ โคลงไม่เกี่ยวกับแรกดรุณเลยสักนิดเดียว จากคุณ : ethanoic (ethanoic) - [ 4 ต.ค. 51 23:41:05 ]

ความคิดเห็นที่ 39 จะแก้ไขภาพ  ง่วง  ลบผิด   ๘ จากคุณ : คัมภีร์โบราณ - [ 5 ต.ค. 51 04:45:45 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ทำให้หนูกรวี (34) จากคุณ : คัมภีร์โบราณ - [ 5 ต.ค. 51 05:09:18 ]

ความคิดเห็นที่ 41 อีกแบบ จากคุณ : คัมภีร์โบราณ - [ 5 ต.ค. 51 05:22:13 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ๏  กรุงเทพฯถมถ่อยเปื้อน        รูปเปรต   เปรอะเวย ผุดโผล่รูปทุเรศ                      รกป้าย ความสะอาดใช่ทุกเขต             ควรแข่ง  ขันฤๅ ผู้ว่าฯใช่ผู้ร้าย                         ล่มล้างนครา  ๚ จากคุณ : คัมภีร์โบราณ - [ 5 ต.ค. 51 05:32:26 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ๏  กรุงเทพฯควรถากถ้อย       ถมโทษ  โกรธฤๅ ผืนแผ่นดินมิโฉด                  ชั่วช้า มนุษย์สิเหิมโหด                   มิเหือด  หายเวย :-)ถ่มกระทั่งฟ้า                    ฟากคุ้มคลุมหัว  ๚ จากคุณ : คัมภีร์โบราณ - [ 5 ต.ค. 51 05:35:56 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ๏  กรุงเทพฯทิพถิ่นไท้          เทียมพิมาน  แมนเอย รัตนโกสินทร์ศานติ์               เศิกไร้ ทศพิธราชธรรมดาล              ดินร่ม  เย็นแล พุทธศาสน์อวยสุขได้             ทั่วด้าวแดนสยาม     ๚ จากคุณ : คัมภีร์โบราณ - [ 5 ต.ค. 51 05:38:55 ]

ความคิดเห็นที่ 45 มอบให้ทุกท่าน จากคุณ : คัมภีร์โบราณ - [ 5 ต.ค. 51 05:48:26 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ขอบคุณค่ะป๋าขรา... เอ.ทำไมของกรวีเป็นบัวแรกแย้มอ่ะค่ะ  หรือจะสื่อถึงวัยของกรวี  (ฮา) แถมสีชมพูอีก (ถูกใจจริงเจียว)  ก้อน่ะกรวีมัน"รุ่นแรกดรุณ"  นี่นา  (ฮา) จุ๊บป๋ากลับ  จุ๊บๆ  แทนคำขอบคุณเจ้าค่ะ ๏  คำครูสอนสั่งแล้ว.............จงจำ  ใส่ใจ ตรองตรึกแลคิดคำ...............รำลึกไว้ มืดมนช่วยชี้นำ.....................ทางออก  เสมอเฮย มัวหม่นหมองมัวได้...............กระจ่างขึ้นในใจ  ๚๛ ปล.มาแก้คำผิด  มึนแต่หัววันเลยเนี่ย... ปล2.  ขำตัวเองมากแก้ผิดระนาวเลย555 แก้ไขเมื่อ 05 ต.ค. 51 17:36:37 แก้ไขเมื่อ 05 ต.ค. 51 14:01:29 แก้ไขเมื่อ 05 ต.ค. 51 13:58:29 แก้ไขเมื่อ 05 ต.ค. 51 13:57:00 แก้ไขเมื่อ 05 ต.ค. 51 13:55:33 แก้ไขเมื่อ 05 ต.ค. 51 13:52:53 จากคุณ : กรวี - [ 5 ต.ค. 51 13:51:25 ]

ความคิดเห็นที่ 47 แวะมาทักทายมิตรสหายอาศรมชาวโคลงทุกท่านเหมือนเคย พร้อมกับขออภัยกระทู้สองหมื่นโคลงที่แล้ว ที่ตั้งกระทู้แล้วลับหาย เหตุเพราะศาลาไทยติดงานถล่มทลาย และแอบเดินสายลงใต้มา ต้องแอบกระซิบเบา ๆ เกรงจะโดนพี่ไหม-กรวีเขกกะโหลก เพราะกลับใต้คราวนี้ไม่ได้แวะไปเยี่ยมเยียนกินขนมจีนด้วย เอิ้ก ๆ ๏ เดือนสิบคนปักษ์ใต้      ชิงเปรต อุทิศส่วนกุศลตามเหตุ      แต่เบื้อง บรรพบุรุษทุกประเทศ       ระลึกท่าน จัดหมฺรับแห่ย้ายเยื้อง       ครบพร้อมพองลา ๚ ***บุญสารทเดือนสิบของนครศรีธรรมราช เป็นประเพณีทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้แก่บรรพบุรุษประจำปี เรียกว่า การชิงเปรต มีการแห่สำรับเรียก "หมฺรับ" จัดด้วยขนมพอง ขนมลา ขนมบ้า ขนมดีซำ ขนมไข่ปลา             . สวัสดีงาม ๆ ค่ะ เฮียคัมฯ เห็นเฮียคัมฯ ถ่ายรูปดอกบัวมายั่วกิเลส แต่ใจนึกขอบคุณ ทำให้พวกบัวใต้น้ำแบบศาลาไทยเตือนตนให้เพ่งย้อนเห็นตน ฮิ ๆ เอารูปพระธาตุเมืองคอนมาฝากก็แล้วกันนะคะ   แก้ไขเมื่อ 05 ต.ค. 51 16:40:20 จากคุณ : ศาลาไทย (salathai) - [ 5 ต.ค. 51 16:39:23 ]

ความคิดเห็นที่ 48 แถมให้อีกรูป ไม่ค่อยชัดเท่าไหร่ ถ่ายจากมือถือ เห็นแล้วคิดถึงเพลงนางนวล ของพี่จุ้ย ศุ บุญเลี้ยง ...เกาะสมุยนั้นไม่ทันสมัย พอเธอจากไปหัวใจก็ลืมเลือน เห็นว่าบ้านเมืองเถื่อน ลืมพี่ลืมเพื่อนเจ้าลืมเลือนทะเล.. จากคุณ : ศาลาไทย (salathai) - [ 5 ต.ค. 51 16:45:29 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ยัยหนู  เห็นรูปเจดีย์พระธาตุแล้ว  ยอมรับเลยไม่ได้ไปเห็นมาเกลือบปีแระ ตั้งแต่ผ่าตัดครั้งสุดท้ายเลยมั้ง เข้าเมืองทีก้อไปทำธุระฯ  ซึ่งไม่ค่อยได้ผ่าน   กรวีนี่เด็ก  ร.ร.วัดน่ะเนี่ย  ร.ร.วัดพระมหาธาตุ  คือบ้านอยู้นอกเมืองอ่ะ   ต้องเข้าเมืองราว  13   กม  ต่อไปวัดพระธาตุอีกที่ไม่แน่น่ะกี่โล ครั้งสุดท้ายไปจบแค่  ร.ร.กัลลยาณีอ่ะ  ไปสอบ... เด็ก  ร.ร.วัด ...เรียนเข้าไปลูกถึงลูกจะเรียนโรงเรียนวัด   พ่อไม่มีเงินยัดให้ลูกเรียน  ร.ร.  ดีดี  เรียนเข้าไปลูกเรียนเข้าไปให้มันได้ เสีย  ถึงไม่มีแป๊ะเจี้ยพ่อไม่เสียใจหรอก...เพลงคาราบาว  (ฮา) เจดีย์วัดพระมหาธาตุอ่ะเอียงมานานแล้ว  ไม่ได้เอียงตามข่าวที่ว่ามีรถ บรรทุกเข้าไปปลุกเสกจตุคามหรอก  เค้าจะสร้างเอียงป่าวไม่รู้น่ะ  แต่จำได้ตอนเรียนชั้นประถม  เห็นหนังสือนิทานตำนานพระบรมธาตุเอียง  ก้อเลยลองมองยอดเจดีย์ตั้งแต่นั้นแล  (คือเป็นพี่ที่ดีไง  พอพักเที่ยงก้อแว๊บไปอ่านนิทานให้น้องฟัง)  และก้อเห็นว่ามันเอียงจริงๆ... แก้ไขเมื่อ 05 ต.ค. 51 19:45:20 จากคุณ : กรวี - [ 5 ต.ค. 51 19:39:47 ]

ความคิดเห็นที่ 50 ตั้งใจมาปั่นกระทู้โดยเฉพาะ พร้อมภาพที่วัดพระมหาธาตุ (ถ่ายเก็บไว้เยอะ) มีโคลงมาให้ทายชื่อผู้เขียน (ที่แน่ ๆ คัมภีร์มิได้เขียน) ใครเขียนครับ ? ๑. ทำ...ถ่อมตัวห่อนกล้า        อวดตน มะ...กอกสามตะกร้าจน      หลบได้ ทำ...ตามแบบแยบยล        เกินจับ  ผิดนอ โม...หะจริตจริงแท้ไซร้       ย่อมรู้อยู่เอง จากคุณ : คัมภีร์โบราณ - [ 5 ต.ค. 51 23:24:18 ]

ความคิดเห็นที่ 51 ใครเขียนบทนี้ ๒. เปลือยใจให้แนบห้วง        ใจจำ คำรักเธอจดจำ                กี่ถ้อย ความรักไม่อาจคำ            สื่อสู่    คำนา ทุกรักมีรักคล้อย              แนบเนื้อหาฝัน. จากคุณ : คัมภีร์โบราณ - [ 5 ต.ค. 51 23:27:31 ]

ความคิดเห็นที่ 52 ใครเขียน ๓. คืนแรมดาวเกลื่อนฟ้า           เวหน เปรียบมิตรลวงหลากคน        มากแท้ คืนเพ็ญกระจ่างสว่างจน         ดาวดับ มากเพื่อนกินย่อมแพ้            หนึ่งผู้รู้ใจ ๚ จากคุณ : คัมภีร์โบราณ - [ 5 ต.ค. 51 23:29:18 ]

ความคิดเห็นที่ 53 ใครเขียน ๔. ๐ งอ หัตถ์ไม่หัดใช้         ง่อยกิน งอ ปีกไม่หัดบิน              กะปลกกะเปลี้ย งอ ตีนไม่แตะดิน             น่าเตะ จริงเวย งอ ถ่อมตนต่ำเตี้ย            ช่วยชี้เกียรติสูง ๚ จากคุณ : คัมภีร์โบราณ - [ 5 ต.ค. 51 23:31:22 ]

ความคิดเห็นที่ 54 ใครเขียน ๕. บัวสายสายแล้วแม่            สายบัว มัวแต่ตกแต่งตัว                แต่งสร้อย คอยบัวหนุ่มใจมัว              เมาแม่ แต่จวบบ่ายเย็นคล้อย         หนุ่มนั้นบ่มา ฯ (ภาพมณฑปพระพุทธบาท วัดพระมหาธาตุ) จากคุณ : คัมภีร์โบราณ - [ 5 ต.ค. 51 23:34:26 ]

ความคิดเห็นที่ 55 บทนี้ไม่ต้องทาย คัมภีร์เขียนเองนานแล้ว ลองทายกันเล่น ๆ ใครทายถูกหมด ยกให้ว่าเก่ง ถ้าจำไม่ได้จะมาเฉลยให้อีกครั้งครับ จากคุณ : คัมภีร์โบราณ - [ 5 ต.ค. 51 23:46:37 ]

ความคิดเห็นที่ 56 ตอนประถมหลังเลิกเรียนกรวีมักจะไปรอรถ(ของ ม.มารับ)ในวัดอ่ะใกล้ๆกะตรงนี้นี้แหละ  คือในวัดคือที่นัดรวมพล  แต่กรวีมักไม่อยู่นิ่งพอเลิกเรียนแล้วจะกินข้าว  ,  ก๋วยเตี๋ยว ,ขนมจีน  ที่ขายกันในวัด  สมัยนั่นจานละบาท อิ่มอร่อยสงสัยกรวีลิ้นตะเข้มั้ง ... พอหาไรกินเสร็จก้อไปเลย  เดินเที่ยวในวัด  (ฮา)  แม่ชีใช้ให้ไปซื้อของให้ประจำ  เค้าเรียกว่าเด็กทรามใช้(น่าใช้)  บางวันเดินเล่นในวัดเพลินจนตกรถ  (ฮา)  คือรถออกไปแล้วเห็นไวๆเลยวิ่งตามรถ  สนุกมากช่วงนั้นแก่นเชี้ยว  ลูกน้องผู้ชายทั้งนั้นปราบหมดแหละ  รับรองใครไม่กล้าแหยมหรอกช่วงนั้น  (ฮา)...อ้าวเล่าความหลังแล้ว  (ฮา)  มันต้องคนแก่ดิเล่า  กรวียังมะแก่จั๊กหน่อย... แก้ไขเมื่อ 06 ต.ค. 51 14:04:48 แก้ไขเมื่อ 06 ต.ค. 51 13:55:22 จากคุณ : กรวี - [ 6 ต.ค. 51 13:40:58 ]

ความคิดเห็นที่ 57 ป๋าขราโคลงบทนี้ป๋าแต่งว่ากรวีป่าวเจ้าค่ะ หากใช่แต่งใหม่เต๊อะ  เพราะธรรมดากรวีมะแต่งหน้า   (ฮา) แต่กรวีทำไรช้าไปหมดอ่ะเลยช้า  เพราะเน้นความสะอาด  (ฮา) และกรวีก้อตรงต่อเวลา  แบบรู้ตัวว่าตัวเองทำไรช้า นัดไว้หรือกำหนดไว้กี่โมงจะเผื่อเวลาไว้ล่วงหน้าอ่าค่ะ ว่าแต่ป๋ามานครฯเมื่อไหร่อ่าค่ะ  ...  แต่จำได้กระทู้ก่อนโน้นนนนป๋าเคยแปะในอาศรมฯว่ามานครฯ  ...  ปล.ป๋ามาปลุกเสกจตุคามป่าวอ่ะค่ะ แก้ไขเมื่อ 06 ต.ค. 51 13:53:28 แก้ไขเมื่อ 06 ต.ค. 51 13:51:25 จากคุณ : กรวี - [ 6 ต.ค. 51 13:50:28 ]

ความคิดเห็นที่ 58 แต่ที่กรวีแปลกใจ  ทำไมทำไม๊อาจารย์สมัยเรียนประถม  ทั้งแม่ชีที่เคยใช้กรวีไปซื้อน้ำ  จำกรวีได้อ่าส์ถึงแบบคลับคล้ายคลับคลาก้อเถอ่ะ ไม่ได้เจอกัน  20  กว่าปี  แถมกรวีไม่ใช่คนเด่นคนดัง   คือทั้งหมดเนี่ยไม่ได้เจอกันที่  ร.ร  ประถม  หรือในวัด แต่ไปเจอกันที่อื่นอ่ะค่ะ  ....  แบบไปทำธุระต่างที่แล้วบังเอิญมาเจอกันไรเงี๊ย.. จากคุณ : กรวี - [ 6 ต.ค. 51 14:02:01 ]

ความคิดเห็นที่ 59 #58 แหมพี่ไหมจะชมว่าตัวเองน่าเด็กอะจิ ใครๆ เลยจำได้ สวัสดีหนูศอเจ้าค่ะ กลับมาแล้วมีไรมาฝากกันบ้างค่ะนอกจากที่วางไว้ข้างบน เฮียคัม เจ้าค่ะ สีน้ำน้อยมาไม่ทันได้รู้จักเจ้าของโคลงข้างบนอะค่ะ งุงุงุ ไม่รู้ใครเป็นใคร สงสัยงานนี้ต้องยกให้พี่ไหมค่ะ จากคุณ : sugarhut - [ 6 ต.ค. 51 20:52:03 ]

ความคิดเห็นที่ 60 มาโป้ยให้ง่ายๆได้ไงอ่ะแม่นางซู  เค้าก้อเดาเอาอะแหละที่พอทำได้  555 บทที่  1  คุ้นๆ  พี่เล็กป่าวเจ้าค่ะ ๏ โหวงเหวงวายวุ่นว้า.................หงอยเหงา ร้าวรวดที่ใจเรา........................เก็บไว้ ยิ้มสู้หากทั้งเงา........................เขาอยู่ ระรื่นชื่นจิตไซร้.......................หากแม้เหงาเหงา ๚ เค้า  "แรกดรุณ"  ไงอ่ะแม่นางซู.. แก้ไขเมื่อ 06 ต.ค. 51 22:22:29 แก้ไขเมื่อ 06 ต.ค. 51 22:21:14 แก้ไขเมื่อ 06 ต.ค. 51 22:19:07 จากคุณ : กรวี - [ 6 ต.ค. 51 22:17:52 ]

ความคิดเห็นที่ 61 กวีชรา -------------------------------- สวัสดีกวีชรา ได้อาบน้ำอาบท่าบ้างหรือเปล่า ไปประท้วงประทานงานไม่เบา ถูกชาวบ้านด่าเอาก็หลายคำ ขึ้นไปร่ายบทกลอนต้อนพวกนั้น เสียงแหบแสบสันเช้ายันค่ำ มวลชนซึ้งตรึงจิตจนติดจำ วรรคทองร้องร่ำตามกันไป โดยมีเสียงรับรู้เรื่องกู้ชาติ เสียสละได้ขนาดถึงชาติไหน ชาตินี้ชาติหน้าว่ากันไกล จนบ้านเมืองเหมือนไฟเผาตัวเอง เสียงรักชาติ วันนี้มีช่วงเน่อ เพี้ยนๆ เพ้อๆ เจอแล้วเพ่ง เพ่งแล้วพบ พบแล้วเศร้าเราลงเซ็ง ลงแดงบรรเลงละลายใจ คิดถึงใครต่อใครได้แต่นิ่ง เซ็งเศร้าเรายิ่งไปกันใหญ่ เพื่อนโทรมาปลอบดี "ไม่มีอะไร" เมื่อเหนื่อยหนัก ควายที่ไหนจะเดินตาม. *คิดถึงอาศรมเสมอ วนๆ เวียนๆ เพ้อไม่มีฝั่ง สุขเศร้าราวเราจะผุพัง พ่ายแพ้ แย่หยั่งวิมุตติปลอม. จากคุณ : Ar@p - [ วันเกิด PANTIP.COM 13:15:41 ]

ความคิดเห็นที่ 62 .          บางระทดทนประทับไว้      อกดู     อกกระอักรติตรู                    ร่วงช้า     ช้าชโลมชะฤดู                      เดือนโศก     โศกระบัดโศกสร้อยข้า           ซ่อนค้นคาใจ          ใจขาคะที่เนื้อ                 นุชเกรียม     เกรียมก่ำร้อนรักเทียม           แท่นร้อน     รอนรอนนาฏนุชเจียม            ใจอยู่     อยู่หากเป็นเร้นซ้อน              จะรั้งอย่างไร          ดรุณสมานสมาสพลั้ง       กามา     เยาวมอบตอบกรุณา             สะเทิ้น     ยามแรกสิเสน่หา                 ตูมตื่น     อยู่สะทกโอ้เอิ้น                  อิ่มเอื้อนออกคำ          พฤษภาทมิฬเนื้อ            หนุ่มดรุณ     คมตุลาคำคุณ                     ครูชี้     อ่านกลอนธีรยุทธบุญ           มีโศก     ยังจดจารเร้นลี้                    ลงเนื้อสมุดเรียน          ตัวตุลาคมเนื้อ               โศกเดือน  นี้เวย     เต็มพร่องหมองหน้าเตือน      แต่เช้า     รี้พลไพร่ฟ้าเลือน                เจียมสิทธิ์     ศรีดรุณหนุ่มเหน้า                เอน็จอ้างอำนาจใด                                                                            . จากคุณ : สุปศกาล - [ วันเกิด PANTIP.COM 15:35:33 ]

ความคิดเห็นที่ 63 ความคิดเห็นที่ 61 มะโนกวีต่างเต้น...ตูมตาม เพียงแต่ต่างรสความ...คิดขึ้ง ถูกผิดใคร่ควรถาม...ผองเพื่อน นาพี่ จิตใตร่ตรองลึกซึ้ง...จึ่งรู้ใจคนฯ ใจคนย่อมติดด้วยอัตตาตน ทุกข์ร้อนรนรานผลาญจิตใจ เดือดฟองปุดผุดโชติเชื้อฟอนไฟ ล้วนติดในกิเลสเหตุทั้งมวล สวัสดีเจ้าค่ะอาร์พี บางทีหนูก็อยากถามใครต่อใครเหมือนกัน แต่สุดท้ายแล้วก็คิดว่า คนเรายังวนเวียนอยู่ในกิเลส มันก็เป็นเช่นนี้แหละกระมังเจ้าค่ะ หมุนวนเวียนไปเรื่อยๆ สันติอโศก ร่วม พธม. ธรรมกาย ร่วม นปก. ต่างอ้างเพื่อความถูก นี่หรือธรรม ผู้เจริญด้วยธรรม? จากคุณ : สีน้ำน้อย (sugarhut) - [ วันเกิด PANTIP.COM 17:02:31 ]

ความคิดเห็นที่ 64 ความคิดเห็นที่ 62 ในยามแรกเริ่มเจ้า...ผลิบาน มอบร่างจมห้วงกาล...เสน่ห์คว้าง เติบโตเร่งจดจาร...สติผ่อง หมายไล่ตามโลกกว้าง...ไขว่คว้าเสรี เสรีหรือที่เอื้อม...กอบกำ หรือแค่เพียงถลาถลำ...จึ่งจ้วง อำนาจนั่นชอบธรรม...ฤาพี่ ถูกผิดคิดประท้วง...เท็จแท้จริงหรือ? สวัสดีเจ้าค่ะ สุปศกาล จนกระทั่งวันนี้สีน้ำน้อยก็มองไม่ออกว่าสีใดดำสีใดขาว บางทีคนเราน่าจะหัดมองโลกให้เป็นสีเทากันบ้างเนอะเจ้าค่ะ จะได้ไม่มีการเถียงกันว่านั่นดำหรือนี่ขาว จากคุณ : sugarhut - [ วันเกิด PANTIP.COM 17:38:11 ]

ความคิดเห็นที่ 65 สงสัยไม่ค่อยมีใครเข้าอาศรม  หาคนตอบไม่ได้ หรือว่ากลัวตอบผิด  หรือปัญหาอัตนัย ตอบยาก งั้นคงต้องให้ตัวเลือก เอาไปจับคู่ดู หมีเซอะ    โมโน  ศาลาไทย   Ar@p    ตั่วกอ (โอวทิฮวย)   ตอบให้ถูกนะ  หนู ๆ  ทั้งหลาย  ตอบถูก รับรางวัลจากผู้เฝ้ากระทู้ แก้ไขเมื่อ 08 ต.ค. 51 05:45:21 จากคุณ : คัมภีร์โบราณ - [ 8 ต.ค. 51 05:44:24 ]

ความคิดเห็นที่ 66 ชูชันยามช่วงเช้า         ชมเขษม อวดกลีบงามจนเอม-    อิ่มแท้ รอจนหมู่ภมรเปรม-      ปรีดิ์ชื่น-  หทัยเฮย รีบอวดโฉมงามแล้      อร่ามล้ำเพริศพิไล ฯ ดอกตูมอูมอวบโอ้       อรชร คราวหวั่นไหวเคียงคลอน  ครบครั้น- ยามลมพัดพุ่งผงร        งามเด่น จึงเบ่งบานจนกระชั้น    เชิดสล้างคราอรุณ ฯ เห็นดอกบัว  ใน  65  โดยคุณ  คัมภีร์โบราณ เลยขอชมบ้าง  อย่างน้อยก็ทำให้ชื่นใจได้ในสถานการณ์ที่ร้อน  และ  แรง  จริง ๆ ในตอนนี้ครับ สวัสดีครับทุกท่าน แก้ไขเมื่อ 08 ต.ค. 51 21:32:53 จากคุณ : นกมีหูหนูมีปีก (the darkknight) - [ 8 ต.ค. 51 17:33:39 ]

ความคิดเห็นที่ 67 ความคิดเห็นที่ 65 สงสัยเพราะไม่มีคนเข้าอาศรมมากกว่าเจ้าค่ะ เขากลัวคนเฝ้ากระทู้และของรางวัล ว่าแต่จะมีใครตอบไหมน้อ เดี๋ยวสงสัยต้องไปหารางวัลมาล่อใจ สวัสดีค่ะพี่น้อง...อาศรม เชิญเถิดมารื่นรมย์...ร่วมเหล้น เกมส์จับคู่คำคม...ผองเพื่อน ทายถูกชวนมาเต้น...โยกย้ายสุขสนาน อิอิ เอ้าใครทายถูก มาเต้นรำกับคนเฝ้ากระทู้ มีให้เลือกสามคน ได้แก่ ๑. เฮียคัม ๒. พี่ไหม (กรวี) ๓. หนูเอง (ใครจะกล้าหว่า) ------------------------------------------------------------------- ความคิดเห็นที่ 66 เริงรมย์ในแผ่นพื้น...ปฐพี จิตชื่นรื่นฤดี...สุขล้น เริงนรกตกอเวจี...ทุกข์เปี่ยม อกนา เพียรก่อกุศลพ้น...บ่วงสร้อยเวรกรรม ฮาฮา เขามาแบบ อีโรติค สีน้ำน้อยดันไพล่ไป เฮลลิชสิก (hellishic) จากคุณ : สีน้ำน้อย (sugarhut) - [ 9 ต.ค. 51 10:15:09 ]

ความคิดเห็นที่ 68 เผยผิวผองนิ่มเนื้อ               นวลลออ เนียนนุ่มจนวอนขอ              จับต้อง ดอกตูมเต่งงามพอ               สมรูป-  ลักษณ์เฮย เผยกลิ่นหอมดังฟ้อง            ว่าพร้อมพรพรรณ ฯ อรุณสวัสดิ์ครับ จากคุณ : จิ้วขอกเวหา สกุณาแยกเขี้ยว (the darkknight) - [ 9 ต.ค. 51 11:01:00 ]

ความคิดเห็นที่ 69 ความคิดเห็นที่ 68 กลีบบัวบางชุ่มชื้น...นวลลออ เผยช่อดอกชูคอ...เต่งเต้า เริงลมรับแดดทอ...แสงอ่อน ยวนยั่วแลรุมเร้า...ภู่ผึ้งปองสม สวัสดียามบ่ายคล้อยค่ะ ทำไมผู้คนหายหมดนะ อาถรรพ์คนเปิดกระทู้แหงๆ จากคุณ : สีน้ำน้อย (sugarhut) - [ 9 ต.ค. 51 14:19:28 ]

ความคิดเห็นที่ 70 ๏  วันคืนเลยล่วงแล้ว.....เลือนฝัน ฝากผ่านรักจำนรร..........ผ่านฟ้า ขอแค่แสงนวลจันทร์......ส่องจิต ส่องสว่างทางข้างหน้า.....มิก้าวเดินหลง  ๚ จากคุณ : กรวี - [ 9 ต.ค. 51 20:00:30 ]

ความคิดเห็นที่ 71 พี่ไหม อิอิ มะเช้าแต่งโคลงแล้วกำลังจะโพสต์ส่ง มีงานเข้ามา ทำให้ไม่ได้โพสต์ ทำหายไปไหนไม่รู้แล้ว จากคุณ : สีน้ำน้อย (sugarhut) - [ 10 ต.ค. 51 14:54:22 ]

ความคิดเห็นที่ 72 ๏ หนาวเหน็บแล้ว......ตุลาฯ หัวใจชา..................ชืดไห้ ภาพมายา...............ยลบิด ติดไข้ไคล้..............ปลักโคลนฯ สวัสดี ขอรับ บ่นอะไรกันนักหนู อิอิ จากคุณ : นายทิวา - [ 10 ต.ค. 51 17:21:01 ]

ความคิดเห็นที่ 73 ๏ หมากรุกปลายกระดานผ่านตาอับ ใครขยับเสียเปรียบเหยียบทีถอย แลกทั้งเบี้ยทั้งโคนโยนเม็ดลอย นับตัวหมากเหลือน้อยค่อยค่อยเดิน เปิดหมากเด็ดเคล็ดขุนรุนเข้าล่อ เบี้ยเดินต่อผูกไว้ไม่ขัดเขิน ม้าจะรุกบุกหนักหลุมดักเพลิน ทำเป็นเมินแลกเบี้ยเสียก็คุ้ม จะหยิบโคนโยนเข้าเร้าบีบช่อง แล้วยิ้มย่องจองแบ่งตำแหน่งทุ่ม พลิกเบี้ยหงายรุกไล่เข้าในมุม รอม้าหนุ่มรุกจนพลกระดาน กระดานหมากตุลาทาสีเลือด ไม่เคยดับความเดือดดุดันผลาญ นับขุนพลกลยุทธ์สุดสามานย์ กี่ครั้งผ่านวารวัน - มันย้อนรอย เซียนต่อเซียนเดิมพันกระดานหมาก ชื่อเศษซากบ้านเมืองเป็นเนืองบ่อย ขุนทองคำอำนาจอาจรอคอย ตัวเบี้ยน้อยคอยหาย - ตายทั้งปี๚๛ จากคุณ : โกฏิดารา (เทราสเฟียร์) - [ 10 ต.ค. 51 18:50:04 ]

ความคิดเห็นที่ 74 เอาโคลงเก่า ๆ ที่เขียนโดยคนเก่งสมัยแรกเริ่มเขียนโคลง มาให้ลองเดากันดู ๕ บท  ท่าทางจะไม่มีใครทายแล้ว กลัวผิด หรือ ขี้เกียจ  ก็ไม่รู้ เฉลยปัญหาดีกว่า  ไม่รู้จะว่างเข้ามาเมื่อไร จากคุณ : คัมภีร์โบราณ - [ 11 ต.ค. 51 05:37:22 ]

ความคิดเห็นที่ 75 อีก ๒ บท  ของคนเก่งสมัยเริ่มเขียนโคลง จากคุณ : คัมภีร์โบราณ - [ 11 ต.ค. 51 05:39:38 ]

ความคิดเห็นที่ 76 ป๋าขราจะเข้ามาบอกว่า กรวีเดาผิดหมดเลย  อิอิอิ จากคุณ : กรวี - [ 11 ต.ค. 51 19:51:17 ]

ความคิดเห็นที่ 77 [ปู่เย็น...ผู้เป็นแรงบันดาลใจของใครต่อใคร...เสียชีวิตแล้ว] --------------------------------------------------------- "ดูแต่หอยซิ  ไม่มีมือไม่มีตีนมันยังหากินเองได้  ประสา อะไรกับคนมีมือมีเท้า  หากินเองไม่ได้ก็อายหอย”                            ถ้อยความสั้นๆ  จากหนังสือ  ฅ  คน  แสดงความ เป็นตัวตนอย่างชัดเจนของ  “ปู่เย็น”  เฒ่าทระนงวัย  106  ปี ที่นอกจากจะเป็นขวัญใจมหาชนแล้ว  ปู่เย็นยังเป็นกำลังใจ ในการสู้ชีวิตให้แก่หลายๆ  คน  ท่ามกลางสังคมที่ผุกร่อน                          มาวันนี้ปู่เย็นมีบทบาทใหม่เพิ่มเติมมานั่นก็คือ   การได้รับเกียรติให้เป็น  “พรีเซ็นเตอร์ท่องเที่ยว”  ของ จังหวัดเพชรบุรี  ที่แม้กระทั่งปู่เย็นเองก็ยังไม่รู้ว่า  “พรีเซ็น เตอร์ท่องเที่ยว”  คืออะไร???               [ดังกว่าดารา ]                      หลังรายการ  “คนค้นฅน”  นำเสนอเรื่องราวของ   “ปู่เย็น”  เฒ่าทระนง  ไปในคืนวันอังคารที่  22  กุมภาพันธ์   2548  และอีก  2  ตอนต่อมา                          ชื่อของผู้เฒ่าแห่งลุ่มน้ำเพชรได้กลายเป็นที่รู้จัก ทันทีด้วยวิถีปฏิบัติที่เรียบง่าย  พอเพียง  และทระนง  จาก ชายชราที่รอวันสังขารร่วงโรย  ปู่กลายเป็นที่สนใจของคน มากมายจะเป็นด้วยกระแสหรือความเมตตาก็สุดจะหยั่ง  มี คนมากมายจากทั่วสารทิศมาเยี่ยมชนิดที่หัวกระไดสะพาน ลำไยที่ปู่อยู่ไม่เคยแห้ง                            ปู่เย็นกลายเป็นขวัญใจมหาชนคนใหม่  จนทาง รายการคนค้นฅนต้องนำเรื่องราวของปู่เย็นมานำเสนออีก ครั้งตามคำเรียกร้องของผู้ชม                            ทั้งนี้  ตามประวัติของปู่เย็นที่ผ่านการนำเสนอ จากรายการคนค้นฅนและหนังสือ  ฅ  คน  ฉบับปฐมฤกษ์   ระบุไว้ว่า  ปู่เย็นเป็นชาวเพชรบุรีโดยกำเนิด  มีชื่อจริงคือ   “นายเย็น  แก้วมะณี”  มีที่อยู่อาศัยตามทะเบียนราษฎรคือ   274/4  ถ.มาตยาวงศ์  ต.ท่าราบ  อ.เมืองเพชรบุรี  อดีตมี อาชีพรับจ้างเลี้ยงวัว  ปัจจุบันปู่เย็นมีอายุ  106  ปี  (ตามที่ ระบุผ่านสื่อต่างๆ)  อาศัยอยู่ในเรือลำน้อยใต้สะพานลำไย แห่งลำน้ำเพชร                            ปู่เป็นชาวมุสลิม  แต่มีภรรยาเป็นไทยพุทธ  ชื่อ“ ย่าเอิบ”  ที่อยู่ด้วยกันโดยไม่มีใครเปลี่ยนศาสนา  แต่ว่าก็ใช้ ชีวิตเคียงคู่กันไปตลอดชีวิต                            ปู่เย็นไม่มีลูกเพราะปู่เป็นหมัน  จะมีก็แต่ลูกสาว บุญธรรม  2  คนเท่านั้น  ซึ่งเมื่อเติบใหญ่ก็แยกย้ายไปมี ครอบครัวของตน  ชีวิตบั้นปลายของชายชราอย่างปู่คงจะมี ความสุขในบ้านเช่าหลังเล็กๆ  ทว่าเมื่อวันที่  16  มีนาคม   2536  ย่าเอิบก็มาด่วนหนีโลกเบี้ยวๆไปเสียก่อน  ตอนอายุ   94  ปี  ปู่ร้องไห้ต่อการจากไปของย่ากว่า  3  เดือน                            เมื่อไม่มีย่าปู่ก็ไม่รู้จะเสียเงินค่าน้ำ  ค่าไฟ  ค่าเช่า บ้านอีกทำไมเดือนละแปดร้อยบาท  ปู่จึงขนทรัพย์สมบัติที่มี อยู่ไม่กี่ชิ้นในชีวิตมาอยู่บ้านหลังใหม่  ไม่มีเสา  ไม่มีหลังคา   บ้านของปู่เป็นเพียงเรือลำเล็กๆ  ลอยอยู่ในลำน้ำเพชร  จาก วันนั้นถึงวันนี้  ปู่ใช้ชีวิตอยู่บนเรือนับ  10  ปี  เลี้ยงชีวิต ด้วยการดักอวนหาปลา  เหลือกินก็ขายถูกๆ  ไม่ต้องมีตาชั่ง   20-30  บาทปู่ก็ขายแลกเงินประทังชีพ  แต่ถ้าใครเอาเงิน ให้ฟรีๆ  ปู่จะโกรธไม่รับเงิน                            “กินฟรีได้  แต่ไม่อยากกิน  เกรงใจ  ไม่เอา  อาย   ของซื้อของขาย  ไหนต้องตักไหนต้องล้าง”  ปู่เย็นว่าไว้ อย่างนั้น  (จากหนังสือ  ฅ  คน)                          เมื่อละครชีวิตของปู่เย็นถ่ายทอดสู่สายตา ประชาชนจากรายการคนค้นฅน  ก็ดูเหมือนว่าโลกที่เคยลืม เลือนปู่เย็นไป  กลับพลิกผันจดจำปู่ได้ในทันที  จากที่เคย โดดเดี่ยว  ปู่เย็นกลายเป็นคนดังที่ชีวิตไม่เงียบเหงาอีกต่อไป เพราะในยุคนั้นที่ผู้นำไร้จริยธรรม  สังคมไทยผุกร่อน  เน้น วัตถุและเม็ดเงินเป็นใหญ่                            เมื่อมีคนอย่างปู่เย็นปรากฏต่อสายตาสาธารณะชน   ด้วยภาพของชายชราตัวงองุ้ม  ศีรษะโพกผ้าสะระบั่นเพื่อ ยืนยันความเป็นมุสลิม  ชอบนั่งหัวเราะอ้าปากหวอ  กระดูก ไม่ดี  เดินได้นิดเดียวก็เหนื่อยหอบ  ผิวหนังเหี่ยวย่น  ใช้ เหงือกแทนฟันในการบดข้าว  แต่ว่าก็มีความเด็ดเดี่ยวและ ทระนงอยู่ในตัวตน  หลายๆ  คนจึงเทใจยกให้ปู่เย็น  เฒ่า ทระนง  เป็นฮีโร่ไปโดยปริยาย. จากคุณ : Ar@p - [ 12 ต.ค. 51 11:38:11 ]

ความคิดเห็นที่ 78 [บทบาทใหม่]                            วันที่  23  มีนาคม  2548  ปู่เย็นได้เข้ารับเรือ พระราชทานต่อเบื้องพระบรมฉายาลักษณ์ของสมเด็จพระ นางเจ้าสิริกิติ์  พระบรมราชินีนาถ  ที่จัดขึ้นบริเวณท่าน้ำ หลังจวนผู้ว่าราชการจังหวัด  เพื่อรับพระราชทานเรือพระ ราชทานที่เป็นฝีมือการออกแบบของวิทยาลัยการต่อเรือ พระนครศรีอยุธยา  เป็นเรือกว้าง  1  เมตร  ยาว  6  เมตร   มีประทุนหลังคากันแดดกันฝน  ด้านครึ่งเรือตอนท้ายจะมี ผ้ามุ้งสำหรับกันยุง  สำหรับตัวเรือจะเป็นเนื้อไฟเบอร์กลา สตลอดทั้งลำ  มีน้ำหนักเบาสามารถลอยตัวอยู่ในน้ำตื้นได้   สร้างความตื้นตันใจแก่ปู่คณานับ                            นอกจากนี้ทางจังหวัดเพชรบุรีได้คัดเลือกให้ปู่ เป็นผู้สูงอายุดีเด่นประจำปี  48  รวมถึงได้มอบบทบาทใหม่ อย่างเป็นทางการให้ปู่เย็นเมื่อวันอาทิตย์ที่  10  ธันวาคม   2549  นั่นก็คือ  การเป็น  “พรีเซ็นเตอร์ท่องเที่ยวของ จังหวัดเพชรบุรี”  ที่หากใครผ่านไปเพชรบุรีก็จะเห็นป้าย โฆษณาขนาดใหญ่ที่มีทั้งรูปสถานที่ท่องเที่ยวอันโด่งดังของ จังหวัดอย่าง  “เขาวัง”  ที่เยื้องมาทางมุมซ้ายมีรูปผู้ว่า ราชการจังหวัดกำลังปีนต้นตาล  และที่มุมซ้ายสุดมีรูปปู่เย็น หัวเราะอ้าปากหวอ  ก็ไม่ต้องแปลกใจไป  เพราะนั่นคือ บทบาทใหม่ของปู่เย็นที่ทางจังหวัดเพชรบุรีมอบให้                            “การนำปู่เย็นมาเป็นพรีเซ็นเตอร์นั้นเพราะเรา มองว่าในด้านของการตลาดว่า  ควรจะหาบุคคลที่มีต้นทุน ทางสังคมสูงซึ่งตรงกับลักษณะของปู่เย็นพอดี  ปู่เป็นคน เพชรบุรีโดยกำเนิด  หลังจากรายการคนค้นฅน  นำเสนอ เรื่องราวชีวิตของปู่ก็เป็นที่น่าสนใจและควรเอาเป็นเยี่ยง อย่างต่อคนทั่วไป  จึงเหมาะต่อการเป็นภาพลักษณ์ของเมือง เพชร”  สยุมพร  ลิ่มไทย  ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี   แสดงความเห็นต่อการคัดเลือกปู่เย็นเป็นพรีเซ็นเตอร์ทาง การท่องเที่ยวเพื่อสร้างภาพลักษณ์ของจังหวัด                            นอกจากนี้  พ่อเมืองเพชรบุรียังให้เหตุผลถึงการ เลือกพรีเซ็นเตอร์ครั้งนี้ว่า  ปู่เย็นเป็นบุคคลที่มีต้นทุนทาง สังคมสูง  และก่อนที่จะเจาะจงคัดเลือกปู่นั้นทางจังหวัดมี การสอบถามถึงความสมัครใจให้ปู่ทราบแล้วว่าปู่ยินดีหรือไม่   ซึ่งปู่ก็เข้าใจและยินดีที่จะช่วยเหลือทางจังหวัด  เมื่อทาง จังหวัดมีกิจกรรมอะไรก็จะเชิญปู่เย็นมาเพื่อร่วมประชา สัมพันธ์ออกงานกับทางจังหวัด  หรือเมื่อใครมาเที่ยวแล้ว ต้องการไปเยี่ยมปู่ที่เรือก็สามารถทำได้                            เป็นอันว่าการเป็นพรีเซ็นเตอร์ครั้งนี้ปู่รับด้วย ความสมัครใจ  แม้ว่าปู่จะไม่รู้ว่าพรีเซ็นเตอร์ท่องเที่ยวคือ อะไรก็ตาม                            ในขณะที่ใครหลายๆ  คนก็ออกจะหวั่นใจกับ บทบาทใหม่ของปู่เย็นอยู่ไม่ได้  เพราะด้วยความเป็นห่วงปู่   เกรงว่าปู่จะเหนื่อยต่อการวิ่งรอกออกงานโน้นงานนี้  ซึ่ง   เกียรติศักดิ์  กล่อมสกุล  ที่นอกจากจะคอยดูแลปู่เย็นแล้ว   ยังรับหน้าที่เป็นสารถีส่วนตัวคอยรับส่งปู่เย็นไปตามที่ต่างๆ   กล่าวว่า                            “จริงๆ  แล้วปู่เย็นก็ใช้ชีวิตประจำวันไปตาม ปกติของปู่นั่นแหละ  สมมติว่ามีงานแถลงข่าวที่อยู่ในละแวก เมืองเพชรไม่ต้องเดินทางไกล  ผมก็มารับปู่ไปเอง  และจะ บอกแกว่า  “มารับปู่ไปเที่ยว”  ซึ่งแกก็ชอบ  เพราะถือเป็น การไปเปิดหูเปิดตา  ส่วนการที่มีคนมาขอถ่ายรูปมานั่งคุย ด้วย  ผมมองว่ามันไม่ได้เข้ามาเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตแกเท่า ไหร่หรอก  เพราะที่ผ่านมา  (หลังออกรายการคนค้นฅน)   ก็มีคนมาหาแกเป็นประจำอยู่แล้ว                            “สำหรับนักท่องเที่ยวถือว่าปู่เย็นไปสร้างสีสันให้ กับงาน  แต่สำหรับปู่แล้วถือว่าเป็นการสร้างสีสันให้กับแก   เพราะปู่เป็นคนชอบไปโน่นไปนี่  แต่เดี๋ยวนี้แกจะไปไหน คนเดียวก็ไม่ไหวแล้ว  ขี่จักรยานก็ไม่ไหว  จะพายเรือน้ำ เพชรมันก็น้อย  ไปไหนได้ไม่ไกล  นอกจากหาปลาได้ แถวสะพานลำไย”  เกียรติศักดิ์กล่าวในฐานะคนคุ้นเคยกับปู่ เย็นเป็นอย่างดี                            ในขณะที่  สุทธิพงษ์  ธรรมวุฒิ  ผู้ดำเนินรายการ   คนค้นฅน  คนคุ้นเคยกับปู่เย็นอีกคนหนึ่ง  อดที่จะแสดง ความห่วงใยต่อปู่เย็นไม่ได้  เพราะวันนี้สังขารของปู่เย็น ร่วงโรยไปมากแล้ว                            “วิถีชีวิตของปู่เย็นเราอย่าไปมองว่ามันต้องเป็น อย่างนั้นอยู่ตลอดเวลา  เพราะว่าในความเป็นจริงมันก็มี เหตุผลความจำเป็นบางอย่างที่ทำให้ปู่ต้องอยู่แบบนั้น   สมมติว่ามันมีตัวแปรอื่นที่ทำให้ปู่ต้องมีโอกาสในชีวิต มากกว่าที่เคยเป็นแล้วไม่ได้มาบังคับแก  แต่เป็นกิจกรรมที่ แกร่วมด้วยความสมัครใจก็เป็นการดี  แต่มันมีสิ่งที่ต้อง ระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง  นั่นก็คือ  ปู่อายุเยอะแล้ว  สุขภาพ ของปู่ล่าสุดทรุดโทรมลงอย่างเห็นได้ชัด  แล้วปู่เป็นคนที่คง เส้นคงวาในเรื่องของการสูบบุหรี่มาก  การที่นำปู่มาเป็นพรี เซ็นเตอร์ย่อมที่จะมีผลกระทบบ้าง  แต่เท่าที่รู้จักปู่เย็นถ้า สมมติว่าห้วงเวลาที่เหลือปู่ได้มีกิจกรรมที่ปู่ร่วมแล้วสนุก ด้วยแกก็คงอยากไป  ถ้าแกไม่เต็มใจไปก็คงไม่ไป”                            “สำหรับการที่นำปู่มาเป็นพรีเซ็นเตอร์เพื่อ ประชาสัมพันธ์จังหวัดนั้นผมมองว่ามันก็เท่านั้นแหละ   เพราะว่าปู่แกจะไม่รู้อะไรเกี่ยวกับการท่องเที่ยว  ปู่มีชีวิตอยู่ โดยไม่รู้ว่าโลกนี้มันมีการทำมาหากินเอาเงินเข้าประเทศ จากธุรกิจท่องเที่ยว  ปู่ไม่รู้เรื่องตรงนั้นเลย  แต่ว่าสิ่งที่มัน พอจะหยิบชูขึ้นมาให้คนเห็นก็เพียงแค่ให้คนไปเที่ยวเห็นว่า ไปเที่ยวเพชรบุรีเพราะเพชรบุรีมีปู่เย็น  ไปดูเหมือนไปดู ของแปลกหรือไปดูความประทับใจก็แล้วแต่  ไม่มีใคร สามารถเอาปู่ไปทำอะไรได้มากกว่าเอาปู่ไปโฆษณา”                            สุทธิพงษ์  แสดงความคิดเห็น  พร้อมกล่าวเพิ่ม เติมว่า                            “คนที่พาปู่ไปต้องใส่ใจในรายละเอียด  ต้องดูแล ได้  ถ้าดูแลไม่ดีปู่ทุกข์ทรมานแล้วไม่มีใครคอยใส่ใจจาก ความคิดสร้างสรรค์จะกลายเป็นบาปทั้งขึ้นทั้งล่องเสียเปล่าๆ   ถ้าชีวิตของคนคนหนึ่งทำประโยชน์ไม่ว่าจะในแง่ไหนให้แก ผืนแผ่นดินที่ตัวเองอยู่บ้างก็เป็นเรื่องที่น่ายินดี  แต่การที่คิด จะเอาปู่ไปใช้ในเรื่องของผลประโยชน์ก็คงต้องมีบ้าง  แต่ ต้องระวังรัดกุมให้มากๆ”                            [ผู้เฒ่าที่ใครๆ  ก็รัก]                            หลังโด่งดังจากรายการคนค้นฅน  ปู่เย็นก็มีคน ห่วงใยมากมายจากทั่วประเทศ  โดยเฉพาะกลุ่มที่เรียกขาน ตัวเองว่า  “แก๊งค์คนรักปู่เย็น”  ที่มีทั้งใกล้และไกล  ซึ่งถ้ามี โอกาสผ่านไปทางเมืองเพชรบุคคลเหล่านี้ก็จะแวะเวียน เยี่ยมเยียนปู่ของพวกเขาอยู่เป็นประจำ                            “เกรงใจมาทำไมไกลๆ”  ปู่เย็นมักจะบอกอย่างนี้ เป็นประจำกับคนเดินทางไปเยี่ยมเยียน                          นี่ถือเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้จังหวัดเพชรบุรีเลือกปู่ เย็นเป็นพรีเซ็นเตอร์ท่องเที่ยวของจังหวัด  ซึ่งเกียรติศักดิ์ กล่าวว่า  การเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับทางจังหวัดครั้งนี้ก็เป็น เพราะกระแสคนรักปู่เย็น  ไปไหนใครๆก็ถามถึงว่าปู่ยัง สบายดีไหม  อยากมาหาปู่  ทางจังหวัดคงเห็นความสำคัญ ตรงนี้  เท่าที่ทราบมาก็เห็นว่าทางจังหวัดเขาจะมีเงินเดือน ให้แต่จะให้ยังไงก็ยังไม่ทราบแน่ชัดเพราะไม่ได้คิดจริงจัง ตรงจุดนี้  และตนก็ไม่คิดว่าสำหรับปู่เรื่องเงินจะเป็นเรื่อง ใหญ่  ช่วงที่ออกคนค้นฅนใหม่ๆ  ปู่เคยลองใช้เงินซื้อรถ กระบะ  ซื้อจักรยานไฟฟ้า  แต่สุดท้ายก็กลับมาอยู่ในเรือ เหมือนเดิม  ฉะนั้นปู่จะได้รับเงินเดือนหรือไม่ไม่ใช่สิ่งสำคัญ                            ส่วนปู่เย็นเองก็กล่าวไปในทำนองเดียวกันว่า  ไม่ ได้คิดอะไร  ตอนนี้ปู่ดีใจที่ได้เป็นพรีเซ็นเตอร์ช่วยเมือง เพชรที่ปู่เกิด  ปู่เป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดเพชรบุรีแล้ว  แต่ หากใครไปถามปู่เย็นว่า  ทางจังหวัดเพชรบุรีได้ให้เงิน เดือนปู่เย็นหรือเปล่า  ก็จะได้รับคำตอบว่า                            “ไม่เอาง่ะ  เกรงใจมัน”                            สั้นๆ  ง่ายๆ  แต่เด็ดเดี่ยวและแสดงความเป็นตัว ตนในปู่เย็นมาอย่างชัดเจน  ซึ่งความเป็นตัวตนของปู่เย็นนั้น   สุทธิพงษ์ได้เล่าเพิ่มเติมว่า  ปู่เย็นเคยป่วยเป็นฝีที่มือ  ซึ่ง ใครมาพาไปผ่าก็ไม่ยอมไป  ขนาดผู้ว่าฯมาพาไปปู่ก็ไม่ยอม   ปู่เย็นป่วยจนกระทั่งทนไม่ไหว  จนทางโรงพยาบาลต้องมา อุ้มไปผ่าฝีออกถึงค่อยยัง***ขึ้น                            “ปู่ให้เหตุผลในการไม่ยอมไปผ่าฝีชนิดที่ใครได้ ยินได้ฟังเป็นต้องหัวร่องอหายโกรธแกไม่ลงว่า  “มีคนมา ขโมยดูดเลือดแกไปขาย”ซึ่งคงจะหมายถึงการที่หมอหรือ พยาบาลเจาะเลือดปู่ไปตรวจนั่นเอง  เราจะเห็นว่าบางอย่างปู่ เย็นก็ยังเป็นปู่เย็นที่มักจะคิดอะไรไปเอง  ใครจะพูดอะไร แกก็ไม่เชื่อ  บนความปรารถนาดีของคนโน้นคนนี้  ปู่อายุ มากแล้วคนอายุประมาณนั้นย่อมจะคิดไม่เหมือนกับคนอายุ เท่าๆ  เรา                            สุทธิพงษ์กล่าวเพิ่มเติมว่า  ปู่เย็นไม่ชอบให้ใคร สงสารปู่  แต่ปู่ชอบสงสารคนอื่น  แต่ขณะนี้ปู่ก็ปฏิเสธน้ำใจ ที่ไหลมาพร้อมชื่อเสียงไม่ได้  ซึ่ง  ณ  วันนี้ไม่ว่าปู่จะขยับ ไปไหนไม่ต้องเกรงว่าปู่จะโดดเดี่ยว  ปู่จะไม่มีใคร  เพราะ ว่ามันมีมามาก  และหากแกเป็นอะไรไปแล้วไม่มีใครเข้าไป ดูแลก็อาจจะโดนสังคมต่อว่าต่อขาน  มันมีมิติของความเป็น จริงอยู่  เรื่องนี้แทบจะไม่ต้องเป็นห่วงแล้ว                            นอกจากนี้  สุทธิพงษ์ยังอยากให้สังคมมองชีวิตปู่ เย็นในทางมรณานุสติ  เพราะมันเป็นความจริงของชีวิต  ซึ่ง การที่ปู่เย็นเดินทางมาถึงจุดนี้ได้เพราะปู่เย็นเป็นคนหนึ่งที่ เข้าใจชีวิต  และใช้ชีวิตอย่างนิ่ง  รออย่างสงบ  คงจะเหมือน ดังปรัชญาชีวิตง่ายๆของปู่เย็นที่ว่า                            “ชีวิตคนเหมือนสะพาน  มีขึ้น  มีลง  มีสูง  มีต่ำ   พอสุดท้าย  ก็ตาย”                            ********************** ข้อความจาก PCTV ผู้โพสต์ : ตื่นเถิดชาวไทย   วันที่ : 01 - ก.พ. - 50 จากคุณ : Ar@p - [ 12 ต.ค. 51 11:40:06 ]

ความคิดเห็นที่ 79 โรยแรงตามสภาพพ้น          วารวัย ยังมั่นคงจิตใจ                   แกร่งกร้าว ขาแขนอาจระริกไหว           ปวดเมื่อย  เสมอแฮ ความคิดกลับฮึกห้าว           ไม่สะท้านตามกระแส ฯ แด่ปู่เย็น  ราษฎรอาวุโส ( ตัวจริง ) จากคุณ : นกมีหูหนูมีปีก (the darkknight) - [ 12 ต.ค. 51 17:16:00 ]

ความคิดเห็นที่ 80 เพ็ญเพียงภาพเด่นด้วย...จันทร์ฉาย เงาพาดทอประกาย...ก่อรุ้ง ทรงกลดอร่ามงามพราย...แสงสว่าง ทับทาบธารตรงคุ้ง...ขอบโค้งโขงสวย ใกล้วันออกพรรษาแล้ว อยากไปเยวแถวริมแม่น้ำโขงจังฮู้ จากคุณ : สีน้ำน้อย (sugarhut) - [ 12 ต.ค. 51 22:31:37 ]

ความคิดเห็นที่ 81 ...                      ... หนาวลมเดือนตุลา (๒) ...                ๏ ลมตุลาฯเลื่อนไล้          ฤดูลม                  ไห้ร่ำคร่ำครวญสม            สื่อไห้                   วิโยคแห่งยุคนิยม            ยุควิโยค                   สารส่งหนาวลมไล้           ไล่ร้อนย้อนสาร ๚                   ๏ ตำนานกาลผ่านถ้วน       ทิ่มตำ                   รู้รับจริงเท็จถลำ                รับรู้                   ผิดถูกต่างกระทำ              ถูกผิด                   เบือนบิดกระบวนสู้            ซ่อนแสร้งบิดเบือน ๚                   ๏ กาลเตือนเพียงตอกย้ำ     จำกาล                   ร้าวลึกยิ่งแหลกลาญ           รับร้าว                   ประวัติศาสตร์ตำนาน           นัยประวัติ                   อำนาจเพียงโน้มน้าว           นึกน้าววรรณอำ ๚                   ๏ จำจารเมื่อผ่านพ้น            พ่ายจำ                   เนื้อเลือดกี่ร่างงำ                เงียบเนื้อ                   ศพทับศพเวี่ยนำ                 นามศพ                   เรียงศพเรียงอะเคื้อ             อะคร้าวศพเรียง ๚                    ๏ มายาเพียงผ่านสะท้อน     ที่มา                    รู้โทษทัณฑ์วิญญาณ์          โทษรู้                    ทุกข์เพราะเท็จขื่อคา           คงทุกข์                    จริงไม่จริงไม่สู้                  ไม่สู้ความจริง ๚                    ๏ ลมตุลาฯยิ่งร้อน              ไล่ลม                    แท้เท็จแท้จริงผสม              สลดแท้                    ประวัติศาสตร์ชาติจม           จำประวัติ                    หนาวตุลาฯพ่ายแพ้              พ่ายแพ้ตุลาฯหนาว ๚                        ......................................................                  หมายเหตุ : ขอบคุณภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต   ... จากคุณ : นายทิวา - [ 13 ต.ค. 51 16:51:25 ]

ความคิดเห็นที่ 82 ๏  คนตุลา ๏  ประชาชนคนตุลาเจ้าข้าเอ๋ย ขอชมเชยสิ่งที่เคยแสวงหา ประชาธิปไตยแลกด้วยม้วยชีวา เพื่อประชาชาวไทยได้ชื่นเชย มาวันนี้คนตุลาทำหน้าที่ แลกชีวีเพื่อประชาอีกคราเหวย ขอประสบสิ่งหวังดั่งครั้งเคย ให้ชนเชยชมชื่นรื่นอีกครา  ๚๛ กรวี 13  ตุลาคม 2551 ภาพจาก  http://school.net.th/library/create-web/10000/history/10000-213/header-pic.jpeg จากคุณ : กรวี - [ 13 ต.ค. 51 19:44:00 ]

ความคิดเห็นที่ 83 เปลวเทียนพวยพุ่งไหม้...ตัวตน แสงส่องพาฝูงชน...สู่แจ้ง เผาตัวเพื่อนำคน...เยือนสว่าง หากแต่ไยจึงแล้ง...ซึ่งถ้อยขอบคุณ มีบุญคุณก่อเกื้อ...ปัญญา เคียงคู่กับโลกมา...เนิ่นไซร้ เปลวเทียนร่วงโรยรา...หมองหม่น คนต่างหมางเมินไร้...จิตเอื้อการุณ เป็นซากเศษเรียกน้ำ...ตาเทียน สูญค่าประชาเอียน...เปลี่ยนทิ้ง หรือเป็นหนึ่งบทเรียน...วัฏจักร พี่เอย กาลเคลื่อนกงเกวียนกลิ้ง...วิ่งพ้นยุคสมัย สวัสดีวันออกพรรษาค่ะ แก้ไขเมื่อ 14 ต.ค. 51 11:59:17 จากคุณ : สีน้ำน้อย (sugarhut) - [ วันออกพรรษา 11:58:22 ]

ความคิดเห็นที่ 84 สวัสดีสีน้ำน้อย และทุกๆท่านครับ ขออภัยที่ไม่ได้เข้ามาตั้งนาน มาแจ้งปิดเว็บอาศรมชั่วคราว รออัพเดทใหม่แล้วจะเข้ามาแจ้งครับ เซฟอาศรมที่ผ่านมาไว้ครบถ้วนครับ แต่ไม่ปิดกระทู้อาศรมนะเง้อ '7 พี่ทิวา วางแผนไปลาวใต้ไว้แล้วว่าจะไปกันสิ้นปี สงสัยไม่ได้ไปทริปนี้แล้วล่ะครับ ภาพในอาศรม ประทับรอยรอยหนึ่งให้      หวนจำ ยามหลับนำมาฝัน             ใฝ่ซึ้ง ยามเหงานำมาชม             คงชื่น ประทับไว้ใต้บึ้ง                ไม่ลืม ไม่ลืม ------------------------------------------------- ไม่ได้แต่งนานชักฝืดครับ แต่งได้เอาเลยไม่ได้เกลาเป็นสี่สุภาพ ขออภัยครับ หะหะ จากคุณ : xers - [ วันออกพรรษา 18:51:51 ]

ความคิดเห็นที่ 85 ภาพใดใครเพ่งล้วน            คือหลอน ภาพที่เห็นฤาสอน              ระลึกรู้ ภาพปรากฏยามนอน          เกินคาด-  หมายแฮ เราทุกตนคนผู้                  ตื่นแล้วเห็นจริง ฯ จากคุณ : นกมีหูหนูมีปีก (the darkknight) - [ 15 ต.ค. 51 21:25:37 ]

ความคิดเห็นที่ 86 ความคิดเห็นที่ 84 พี่หนึ่งคิดถึ๊งคิดถึง ก็มาปิดกระทู้ซะหน่อยจิ ไม่รู้เพราะแอมตั้งหรือเปล่า ผู้คนไม่ส่งเมนท์เลย ฮาฮา อาถรรพ์ มิลืมเลือนเรื่องร้อย...พันราว จำจดทุกคืนคราว...ค่ำร้อน แสงไฟแข่งแสงดาว...พราวพร่าง กระจ่างยิ้มสะท้อน...ออดอ้อนมิลืม --------------------------------- อิอิ แซวพี่หนึ่ง เด้อ ค่ะ อย่าคิดมาก จากคุณ : สีน้ำน้อย (sugarhut) - [ 16 ต.ค. 51 20:01:15 ]

ความคิดเห็นที่ 87 สวัสดีคะ ....นู๋ช่อแวะมาทักทายพี่ๆ ทุกคนคะ ^________^ จากคุณ : การเวกในช่อการะเกด - [ 17 ต.ค. 51 11:09:34 ]

ความคิดเห็นที่ 88 สวัสดีค่ะหนูช่อ ว่างๆ ก็สวัสดีเป็นคำโคลงก็ได้นะค่ะ จะได้ช่วยกันปั๊มกระทู้ อิอิ จากคุณ : sugarhut - [ 17 ต.ค. 51 21:38:27 ]

ความคิดเห็นที่ 89 หยิบคำมาปั่นเคล้า          คลุกระคน เป็นบทโคลงเจือปน         อรรถอ้าง หวานเค็มเผ็ดมัน จน        หลากรส-  ชาติแฮ ผิดถูกทุกข์สนุกบ้าง        ยิ่งเย้ายวนใจ ฯ จากคุณ : นกมีหูหนูมีปีก (the darkknight) - [ 17 ต.ค. 51 21:48:30 ]

ความคิดเห็นที่ 90 ความคิดเห็นที่ 89 ดึงคอมาปลุกคั้น...คลึงคลำ โลมลูบน้ำมันระกำ...เร่าร้อน แสบสันซ่านซาบทำ...ใจสั่น นวดผิดจริตค้อน...เข่นข้อคอแหงน หิหิหิ มะรุมะชี้ จากคุณ : สีน้ำมัน (sugarhut) - [ 18 ต.ค. 51 00:25:57 ]

ความคิดเห็นที่ 91 ๏  ถามไทย ๏  ถามไทยชนเลือดเนื้อ................แดนสยาม ใครรุกรานทุกยาม........................สู้ไว้ ไทยฆ่าไทยด้วยความ....................เห็นผิด  ชอบเฮย สำนึกตรึกตรองได้......................แลกเนื้อเลือดมา๚ ๏  ไทยเป็นไทเนิ่นครั้ง..................นานปี ด้วยเดชพระบารมี........................ปกเกล้า ใยไทยคิดล้างดี..........................ชั่วอยู่ ขอเถิดใครปลุกเร้า.......................สิ่งแท้เทียมถวิล๚ ๏  บรรพบุรุษพลีเลือดเนื้อ................แลกไท เพียงเพื่อชนชาติใด......................ย่อมรู้ ตระหนักและรักใน........................ไทเถิด  พ่อเฮย ใยคิดมาเข่นสู้............................พี่น้องเลือดไทย ๚๛                                                                                                                                   กรวี                                                    13.02  19/01/51 ขอขอบคุณภาพประกอบจาก  http://www.weekendhobby.com แก้ไขเมื่อ 19 ต.ค. 51 14:38:12 แก้ไขเมื่อ 19 ต.ค. 51 13:42:11 แก้ไขเมื่อ 19 ต.ค. 51 13:39:25 จากคุณ : กรวี - [ 19 ต.ค. 51 13:34:56 ]

ความคิดเห็นที่ 92 ความคิดเห็นที่ 91 หากสยามยังอยู่ยั้ง...ยืนยง ไทยก็เหมือนอยู่คง...ชีพด้วย หากสยามพินาศลง...ไทยอยู่ ได้ฤา เราก็เหมือนมอดม้วย...หมดสิ้นสกุลไทย ใครรานใครรุกด้าว...แดนไทย ไทยรบจนสุดใจ....ขาดดิ้น เสียเนื้อเลือดหลั่งไหล...ยอมสละ สิ้นแล เสียชีพไป่เสียสิ้น...ชื่อก้องเกียรติงาม เป็นโคลงสี่สุภาพอันแรกที่หนูรู้จักแต่ไม่รู้ว่ามันเป็นโคลง จนกระทั่งมาเรียนเขียนโคลงเมื่อสองปีก่อนจึงเอะใจ เอ๊ะ เพลงนี้มันเหมือนที่เราเขียนเลยแฮะ ฮาฮาฮา งี่เง่ามายี่สิบหกปีเชียวนะนั่น แต่เป็นโคลงที่ความหมายดีจนำให้หนูมองข้ามรูปแบบมันไป (เย้ย เข้าข้างตัวเอง ความจริงคือไม่รู้แหละว่ามันเป็นโคลง) จากคุณ : สีน้ำน้อย (sugarhut) - [ 19 ต.ค. 51 19:18:26 ]

ความคิดเห็นที่ 93 ขอขอบคุณรูปประกอบจาก  http://www.bloggang.com/data/nui-photos/picture/1187862259.jpg   ปล.  แม่นางซูไหงทู้มันเหมือนมีแต่สาวแรกรุ่นอย่างเราๆอ่าส์... แก้ไขเมื่อ 21 ต.ค. 51 15:53:27 แก้ไขเมื่อ 21 ต.ค. 51 14:01:58 แก้ไขเมื่อ 21 ต.ค. 51 14:00:14 จากคุณ : กรวี - [ 21 ต.ค. 51 13:57:05 ]

ความคิดเห็นที่ 94 เออ จริงด้วยแฮะ พี่ไหม สงสัยว่าเราจะแรกดรุณอยู่แค่สองคน ช่วยกันปั่นทู้ ๆๆๆๆ อิอิ แต่ว่าแม้ชาวอาศรมจะหายหน้า แต่โคลงไม่หายไปจากใจเรานิ สองคนก็แต่งได้ วัยดรุณแรกแย้ม...เยาว์วัย ยิ้มหยดหยาดหวานใส...จิตยิ้ม ย่างชราแก่ตัวไป...ยามย่าง ยากนา เหลือแปะอยู่คู่ซิ้ม...อะหม้วยมิเหลือ ฮาฮา บรรทัดสุดท้ายเริ่มมั่วแระฮิ จากคุณ : สีน้ำน้อย (sugarhut) - [ 21 ต.ค. 51 23:01:54 ]

ความคิดเห็นที่ 95 ๏ รอนรอนสองชู้แชล่ม           โฉมยง เรื่อยเรื่อยอยู่โยงคง                จะคลั่งแล้ว รอนรอนแม่ปลิดปลง               ใจพี่ แล้วแม่ เรื่อยเรื่อยหนึ่งคืนแคล้ว           คลาดคล้ายขวบปี ๚ จากคุณ : ลิ้มบ่อเมี้ย (ลิ้มบ่อเมี้ย) - [ 22 ต.ค. 51 09:44:43 ]

ความคิดเห็นที่ 96 ๏ รอรอรักจากผี้.........นานวัน กาลล่วงผ่านวสันต์......ใหม่แล้ว ใจน้องเนิ่นนานกัลป์.....แห้งผาก รินหยาดน้ำจากแก้ว.....แห่งห้วงความหวัง ๚ จากคุณ : กรวี - [ 22 ต.ค. 51 15:44:21 ]

ความคิดเห็นที่ 97 ๏ รานรานในจิตนี้......มานาน แม้ผ่านเลยล่วงกาล...ไม่เว้น ร้าวรานดุจดั่งวาน.......วันผ่าน  มาเฮย ขอพี่เพียงอย่าเร้น......เนิ่นร้างห่างหาย ๚ จากคุณ : กรวี - [ 22 ต.ค. 51 15:50:17 ]

ความคิดเห็นที่ 98 ๏  รอวันเพียงพี่นี้..............กลับมา เริงรื่นดั่งฝูงปลา.................ฉ่ำน้ำ รานรานเมื่อรักลา...............กาลก่อน  มาเฮย จิตนี้คอยตอกย้ำ................สุขนั้นเคยสนอง  ๚ ปล.ไปแระไปเก็บซองดีก่า... แก้ไขเมื่อ 22 ต.ค. 51 15:59:25 แก้ไขเมื่อ 22 ต.ค. 51 15:58:35 จากคุณ : กรวี - [ 22 ต.ค. 51 15:56:28 ]

ความคิดเห็นที่ 99 โอ...  Y_Y ๏ จอมขวัญบรรเจิดจ้า           เสมอจันทร์ เพียงรุ่งรพิพรรณ                  ผ่องด้าว เพรงบาปพรากเราผัน            พลัดคู่ แรมรักอกเรียมร้าว                 ซิ่นไร้วาสนา ๚ะ จากคุณ : ลิ้มบ่อเมี้ย (ลิ้มบ่อเมี้ย) - [ 22 ต.ค. 51 19:31:53 ]

ความคิดเห็นที่ 100 ๏  เคียงคล้องรักอย่าได้.........แรมรา หมองหม่นใจนักหนา................พี่ไร้ วันคืนผ่านนานมา.....................จิตยิ่ง  ร้าวเฮย คืนรักกลับสู่ไซร้.....................จักร้างราไฉน  ๚ ปล.ดึกแระเริ่มมึนๆๆๆๆ แก้ไขเมื่อ 23 ต.ค. 51 00:22:27 แก้ไขเมื่อ 23 ต.ค. 51 00:14:46 จากคุณ : กรวี - [ วันปิยมหาราช 00:06:33 ]

ความคิดเห็นที่ 101 ๏  รอคอยไม่คิดคล้อย...ห่างหาย เพียงพี่หยุดตะกาย.........สู่ฟ้า หวลมาอีกครั้งกราย..........ก่อนจาก  ไปเฮย ดวงจิตคงไม่คว้า.............จับได้เพียงลม  ๚ จากคุณ : กรวี - [ วันปิยมหาราช 00:13:13 ]

ความคิดเห็นที่ 102 รานรอนเรียมหวั่นร้าว...รานฤทัย รุมอกหวิววูบไหว...วุ่นว้า ลนลานดั่งพิษไฟ...เผาร่าง เรียมนา เพียงพี่พิศใบหน้า...อกข้าหวามหวาว อิอิ สวัสดีเจ้าค่ะ พี่ลิ้มบ่อเมี้ย มีคนแอบไปแซวลับหลังกับหนูว่า ลิ้ม บ่ มี เนี้ยะ อิอิ มีคนสงสัยว่าพี่ลิ้มบ่เมี้ย ต้องโสดแหงแก๋ จริงเท็จเช่นไร กระจายข่าวด้วย อิอิ ส่วนใครแอบสงสัยใครแอบนินทา อย่าถามนะ เดี๋ยวหนูเปิดเผยโม๊ด (เก็บความลับไม่เป็น) แก้ไขเมื่อ 23 ต.ค. 51 11:30:00 จากคุณ : สีน้ำน้อย (sugarhut) - [ วันปิยมหาราช 11:28:54 ]

ความคิดเห็นที่ 103 O_o" ไม่ผิดครับ เป็นดังเช่นที่สงสัย แต่คงไม่ต้องถึงกับกระจายข่าวกระมัง  ^ ^      ใครแอบนินทา          อย่าลาหลีกหนี มาตอบวาที                 อย่าลาลับหน้า จากคุณ : ลิ้มบ่อเมี้ย (ลิ้มบ่อเมี้ย) - [ วันปิยมหาราช 16:55:11 ]

ความคิดเห็นที่ 104 ๏ เปลี่ยวเปล่าหนาวอกโอ้     อาวรณ์ อกเอย ร่อนเร่พเนจร                      จากเหย้า ไร้คู่ร่วมเคียงคอน                คืนค่ำ จะนอนไหนขมิ้นเจ้า             ค่ำแล้วนกเอย ๚ จากคุณ : ลิ้มบ่อเมี้ย (ลิ้มบ่อเมี้ย) - [ 24 ต.ค. 51 20:48:56 ]

ความคิดเห็นที่ 105 พเนจรนอนป่าไร้...รังพิง หวังคู่เคียงเอนอิง...อุ่นข้าง กอดเดือนห่มดาวผิง...จันทร์แจ่ม ฝันท่ามผืนไพรกว้าง...ร่างเจ้าเคียงสม ป.ล. คนนินทาไม่ให้บอก เดี่ยวอดขนม ไม่ประกาศ ออกโทรโข่งก็ได้ แต่ต้องหับปากหนูด้วยพุดดิ้งสองถ้วย จากคุณ : สีน้ำน้อย (sugarhut) - [ 25 ต.ค. 51 00:05:58 ]

ความคิดเห็นที่ 106 เอ้ากระทู้ร้างจริงๆแล้วละอาศรม อย่านะอย่าทำแบบนี้หนูใจไม่ดี มะมีคนเปิดใหม่ มะมีความเคลื่อนไหว หนูกลัวผีหลอกนะ ออกมาคุยกันหน่อย จากคุณ : sugarhut - [ 28 ต.ค. 51 23:56:08 ]

ความคิดเห็นที่ 107 ๏ ฝากใจผ่านฟ้าพร่าง          พรมพร เติมแต่งตัวอักษร                 สลักแล้ว แทนสื่อจิตอาทร                 จากเพื่อน สรรส่งสู่น้องแก้ว                 กรุ่นสาว ๏ เด็ดดาวมาร่ำร้อย              เรียงดวง เดือนเด่นกลางแดนสรวง       สอดสร้อย ดอกรักถักกลางพวง             ผจงจัด มอบแม่ขวัญน้องน้อย           นงพาล ๏ สุขสำราญอร่ามเรื้อง         รมณีย์ สบสิ่งสรรพ์สวัสดิ์ศรี            พิสุทธิ์หล้า ชระเอมชื่นชนม์ทวี              ธนวัฒน์ ใจอุ่นรักแกล้วกล้า               กล่อมทรวง ๚ะ       (ป.ล. บท ๑ บท ๒ คลับคล้ายคลับคลาเหมือนเคยผ่านตาจากที่ไหน ติดอยู่ในหัวนานแล้ว     จึงนำมาแต่งใหม่เพิ่มเติม ขออนุญาตเจ้าของมา ณ ที่นี้) จากคุณ : ลิ้มบ่อเมี้ย (ลิ้มบ่อเมี้ย) - [ 29 ต.ค. 51 10:05:27 ]

ความคิดเห็นที่ 108 เก็บดาวทอร่วมรุ้ง...สานใย ประดับเดือนรำไร...แอร่มหล้า ปลูกรักเร่งเติมไฟ...ไออุ่น มอบแด่ชายผู้กล้า...กำชัย นงพาลในชั่วครั้ง...บางคราว หาใช่พาลนานยาว...ชีพสิ้น เพ็ญจันทร์เด่นดวงพราว...พยศเหือด เพียงพี่มิปล้อนปลิ้น...หลอกลวง โลมฤทัยห่มล้อม...รักหวาน ตาต่อตาประสาน...ส่งถ้อย เสาะทางย่างตามธาร...ไหลเชี่ยว นิ้วเกี่ยวปลายนิ้วก้อย...ดังฝัน สวัสดีเจ้าค่ะ คุณลิ้มบ่มีเนี๊ยะ หัดแต่งบ้าง เขาเรียกโคลงอะไรค่ะ แต่มันห้วนๆ จัง ไม่หวานเลย ไม่เหมาะกับคนหวานๆ ตามประสา น้ำตาลไหม้ แบบหนูเลย ฮาฮา จากคุณ : สีน้ำน้อย (sugarhut) - [ 29 ต.ค. 51 14:48:48 ]

ความคิดเห็นที่ 109 แม่นางซู  หวานจะใดหนอ? จากคุณ : กรวี - [ 29 ต.ค. 51 22:13:26 ]

ความคิดเห็นที่ 110 โห่ พี่ไหม หวานสิ หวานจนขมไง อิอิ มะเชื่อลองเคี่ยวน้ำตาลจนไหม้ดูอิอิ จากคุณ : sugarhut - [ 29 ต.ค. 51 23:36:33 ]

ความคิดเห็นที่ 111 sugarhot  แม่นางน้ำตาลไหม้ sugathut  แม่นางซู จากคุณ : กรวี - [ 31 ต.ค. 51 13:20:54 ]

ความคิดเห็นที่ 112 หวัดดีจ้ะ มาตอนแย้มฝาหีบ ฮา ฮา... ฝนตกเยอะ จนน้ำหูน้ำตาท่วมบ่าท่วมไหล่ กำลังกายก็ถอยถด กำลังใจก็หดหู่ กินข้าวก็บ่ลำ กินน้ำก็บ่ลง ใครยังไม่แต่งก็แต่งซะ น้ำจะท่วมโลกแล้ว เดี๋ยวเจ้าบ่าวจะลอยตามน้ำ เกี่ยวไม่ติด ฮี่ๆๆๆ จากคุณ : แม่เจ้าทุย - [ 2 พ.ย. 51 18:20:55 A:61.7.174.156 X: TicketID:011762 ]

ความคิดเห็นที่ 113 ความคิดเห็นที่ 111 sugar glider อิอิ หนูจะเป็นตัวนี้ น่ารักน่าชัง แต่จะตั้งล็อคอิน แบบนั้นกลัวถูกเขาว่า ฮาฮา เพราะหนูไม่ได้กะล่อน เลยมิใช่กระรอก เป็นได้แค่น้ำตาลหวาน อิอิ ความคิดเห็นที่ 112 สวัสดีเจ้าปี้สาว เจียงใหม่ก็อาการแย่ วันก่อนน้ำหลาก แถวบ้านเกือบท่วม หนูอยากให้มันท่วมเยอะๆ ไม่กลัวเจ้าบ่าวลอยหายไปตามน้ำหรอก เพราะหวังว่าจะมีคนหนีน้ำมาอยู่ม่อน ม่อนคานทองนิเวศน์ ของหนูจะได้มีเพื่อน ว่าแต่อาศรมทำไมโหลงเหลงจังเลย จากคุณ : สีน้ำน้อย (sugarhut) - [ 3 พ.ย. 51 15:53:56 ]

ความคิดเห็นที่ 114 ผิด ที่ ไว้ ใจ หากผิดพลาดอย่าแค้น............เคืองใคร อย่าโทษผิดสิ่งใด.................โปรดรู้ เมื่อเราคาดผิดไป..................บ๊อยบ่อย ขอโปรดจงยิ้มสู้....................ผิดนี้ลืมลง คงเราที่พลาดพลั้ง..................ตรึกตรอง จึงผิดที่ทดลอง......................ชั่วร้าย คำมั่นที่เพียงมอง....................ว่าถูก แท้เฮย ท้ายสุดเจ็บจนคล้าย................มีดพร้าที่แทง จำไว้อย่าคิดคล้อย...............คมความ สมองของคนทราม.................จดไว้ หมายมั่นไว้อย่าตาม...............คำบอก จารจดไว้ให้ได้....................อย่าคล้ายลืมหลง ใจมั่นจงมุ่งแล้ว...............จดจำ ใจอย่าเพียงหลงคำ.............อีกครั้ง อีกใจอย่าได้นำ...............เก็บสู่ จิตเฮย ระลึกอยู่คู่ใจพลั้ง...........ต่อนี้ตรึกตรอง ปล.แต่งไว้เล่นสดๆ..เอิกส์ๆๆๆ จากคุณ : กรวี - [ 3 พ.ย. 51 19:35:39 ]

ความคิดเห็นที่ 115 ประดิษฐ์ประดอยแต่งแต้ม        แซมกระทง ให้เพริศพิศเป็นวง                   แจ่มเสี้ยว รอวันปล่อยกระทงลง               น้ำนั่น ดังปล่อยทุกข์เลาะเลี้ยว            คดเคี้ยวตามคลอง จากคุณ : รอวันเพ็ญเดือนสิบสอง (Little Red) - [ 5 พ.ย. 51 08:08:59 ]

ความคิดเห็นที่ 116 อาจจะหายห่างหน้า . . . . . บ่นึก ขาดรา อาจละเลยฝันฝึก . . . . . . . อยู่บ้าง ความจริงครอบสำนึก . . . . ฝันเจิด เพริศฤๅ วิเวกหลีกอ้างว้าง . . . . . . พร่ำพ้อมนุษย์หนอ "ใดไดฯในโลกล้วน . . . . . อนิจจัง ไดสตาร์ทฉันผุพัง . . . . . . . ลุกไหม้" โคลงเก่าผุดในภวังค์ . . . . เมื่อแรก เขียนแล สารภาพบอกเพื่อนไว้ . . . . ห่วยได้ใจดี "ตัวกะปอมอาจเขวี้ยงด้วย  . หินถึง" โคลงสดมุขฮาตึง . . . . . . โลกกระนี้ "ทำเนียบถมืงทึง . . . . . . . หน้าน่า ฟาดเวย" พึมบ่นแกล้งแถลงชี้ . . . . . ว่าเข้าไม่ถึง โลกกลิ้งฤๅกลิ้งโลก . . . . ปราชญุโคลง ชี้ที ออกมดลูกสู่โลง . . . . . . ส่งท้าย กรรมก่อทุกยามโมง . . . . . เนืองแน่น ทะนานนา ทำแก่บ่นเรื่องร้าย . . . . . เหล้าเข้าก็หาย แวะเยี่ยมชนเผ่าเลี้ยง . . . . ด้วยสุรา เจริญจริง ของฝากอย่าถือสา . . . . . ว่าน้อย เขียนลบลบเขียนระอา . . . ตัวอยู่ ยิ่งเอย โคลงแต่งแสลงใดถ้อย . . . โปรดให้อภัยเทอญ (โคลงฝาก) นวม . . น้อยต่อยสู้ยิบ . . . . ตาตาย ทอง . . หล่อหัวใจกาย . . . . แกร่งกล้า ไพร . . เมืองชีพพลีถวาย . . เทิดหลัก การนอ วัลยะ . .สานใจท้า . . . . . . .ศึกสู้เผด็จการ ฯ . . . . . แก้ครั้งสุดท้ายจ้า แก้ไขเมื่อ 15 พ.ย. 51 09:55:57 แก้ไขเมื่อ 06 พ.ย. 51 11:16:06 แก้ไขเมื่อ 06 พ.ย. 51 11:14:34 แก้ไขเมื่อ 06 พ.ย. 51 11:10:42 จากคุณ : นิรนาม ณ ถนนฯ - [ 6 พ.ย. 51 11:09:53 ]

ความคิดเห็นที่ 117 หนีไปป่วยมาร่วมเดือน ฟื้นมาก็เจองานแทบจะถล่มทับตัว แต่วันนี้ตะหงิดๆ ว่าต้องเข้าอาศรมฯ ศาลาไทยก็นึกแล้วว่ามันต้องมีอะไรสินะ สวัสดีงาม ๆ เจ้าค่ะ พี่แดงน้อย และสวัสดีงาม ๆ เจ้าค่ะ พี่นิรนาม ว่าง ๆ หาวันไปยกจอกสุราสาระกันดีกว่า สวัสดีมิตรสหายท่านอื่น ๆ และสองสาวเฝ้ากระทู้ด้วยเจ้าค่ะ อ้อ แม่เจ้าทุยอีกคน (ฝากไว้ก่อนเถอะบ่อปลา ) จากคุณ : ศาลาไทย (salathai) - [ 8 พ.ย. 51 22:21:21 ]

ความคิดเห็นที่ 118 สวัสดี เพื่อนพ้องน้องพี่ชาวอาศรมฯ กระทู้ผ่านร้อย ไปต่อกระทู้ใหม่ ที่นี่เน้อ ขอรับ ๏๏๏ อาศรมชาวโคลง ๒๐๒ หนาวลม-ลมหนาว ๏๏๏ http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W7197594/W7197594.html แหะ แหะ ขอรับ สวัสดี ขอรับ จากคุณ : นายทิวา - [ 11 พ.ย. 51 21:34:59 ]