ณ เมืองเมืองหนึ่งที่กำลังประสบปัญหา ความยากจนข้นแค้นระบาดไปทั่วทั้งเมือง
ผู้คนทำมาหากินเท่าไหร่ก็ ไม่พอกิน ชาวเมืองพยายามหาหนทางแก้ไข
แต่ไม่รู้จะแก้ไขอย่างไร ชาวเมืองปักใจเชื่อกันว่า
สาเหตุมาจากครอบครัวเศรษฐีครอบครัวหนึ่ง
ชาวเมืองที่ไม่มีความสามารถอะไรพอจะทำอะไรได้
ก็ได้พยายามขวนขวายมองหาผู้ที่มีความสามารถที่จะทำอะไรได้
และมีชายแปลกหน้าคนหนึ่งเดินทางผ่านมายังเมืองนี้
ชายแปลกหน้านั้นได้รับทราบปัญหาของชาวเมืองและ
ขันอาสาจะจัดการให้ ชายผู้นั้นกล่าวอ้างว่าตนเองสามารถจะ
ทำตามคำขอของชาวเมืองได้ แลกกับค่าว่าจ้างจำนวนมหาศาลเป็นการตอบแทน
แล้วชายแปลกหน้าก็ หยิบซอขึ้นมาและบรรเลงเพลงซอขึ้น
เพลงซอที่สุดแสนจะไพเราะ ผู้ใดฟังก็ต้องหลงไหลไม่อาจจะขัดขืนบทเพลงนี้ได้
แล้วชายสีซอก็ได้บรรเลงเพลงกล่อมให้เศรษฐีเดินตามตนเอง
ชายสีซอก็เดินทางนำพาเอาเศรษฐีไปยังเมืองที่ไกลออกไป ไม่อาจจะกลับมาได้
เมื่อทำตามสัญญาแล้ว ชายสีซอก็ได้ทวงถามถึงค่าว่าจ้างกับชาวเมือง
แต่ชาวเมืองกลับบอกว่า การที่เศรษฐีจากไปมันยังไม่ทำให้ปัญหาจบลงได้
เพราะมันยังมีภรรยาเศรษฐีอีก
ชาสีซอก็ทำตามคำร้องขออีกหนึ่งครั้ง ด้วยการสีซอขับกล่อมภรรบาเศรษฐี
ให้ไปยังเมืองเดียวกับเศรษฐี
เมื่อทำตามสัญญาอีกครั้ง ชายสีซอก็ได้ทวงถามถึงค่าว่าจ้างกับชาวเมืองอีกครั้ง
แต่ชาวเมืองกลับบอกว่า การที่ภรรยาเศรษฐีจากไปมันยังไม่ทำให้ปัญหาจบลงได้
เพราะมัน ยังมีครอบครัวเศรษฐีอีก
ชายสีซอก็ทำตามคำร้องขออีกหนึ่งครั้ง ด้วยการสีซอขับกล่อมครอบครัวเศรษฐี
ที่เหลืออยู่ให้ไปยังเมืองเดียวกับเศรษฐีและภรรยา
เมื่อทำตามสัญญาอีกครั้ง ชายสีซอก็ได้ทวงถามถึงค่าว่าจ้างกับชาวเมืองอีกครั้ง
แต่ชาวเมืองกลับบอกว่า การที่ครอบครัวเศรษฐีจากไปมันยังไม่ทำให้ปัญหาจบลงได้
เพราะมัน ยังมีญาติเศรษฐีอีก
ชายสีซอก็ทำตามคำร้องขออีกหนึ่งครั้ง ด้วยการสีซอขับกล่อมญาติเศรษฐี
ที่เหลืออยู่ให้ไปยังเมืองเดียวกับเศรษฐี ภรรยา และครอบครัว
เมื่อทำตามสัญญาอีกครั้ง ชายสีซอก็ได้ทวงถามถึงค่าว่าจ้างกับชาวเมืองอีกครั้ง
แต่ชาวเมืองกลับบอกว่า การที่ญาติเศรษฐีจากไปมันยังไม่ทำให้ปัญหาจบลงได้
เพราะมัน ยังมีเพื่อนๆเศรษฐีอีก
ชายสีซอก็ทำตามคำร้องขออีกหนึ่งครั้ง ด้วยการสีซอขับกล่อมเพื่อนๆเศรษฐี
ที่เหลืออยู่ให้ไป ยังเมืองเดียวกับเศรษฐี ภรรยา ครอบครัว และญาติ
เมื่อทำตามสัญญาอีกครั้ง ชายสีซอก็ได้ทวงถามถึงค่าว่าจ้างกับชาวเมืองอีกครั้ง
แต่ชาวเมืองกลับบอกว่า การที่เพื่อนๆเศรษฐีจากไปมันยังไม่ทำให้ปัญหาจบลงได้
เพราะมัน ยังมีคนรู้จักเศรษฐีอีก
เมื่อจบคำร้องขอครั้งนี้ ชายสีซอก็ทำการบรรเลงซอขึ้น
แต่บทเพลงนี้ไม่ใช่แบบเดิม เมื่อบทเพลงดำเนินไป
ทำให้เหล่าฝูงควายที่อาศัยเป็นจำนวนมากในเมืองได้ เริ่มเดินออกมารวมกลุ่ม
บทเพลงยังคงดำเนินไปทำให้ฝูงควายเริ่มแสดงท่าทีที่ไม่สงบมากขึ้นเรื่อยๆ
แสดงความก้าวร้าวออกมา
ฝูงควายเริ่มพุ่งพล่านและบ้าคลั่ง วิ่งเข้าทำลายบ้านเมือง
ตึกรามบ้านช่อง อาคารต่างๆ ได้ถูกฝูงควายไล่ขวิดทำลายราบเป็นหน้ากลอง
จนในไม่ช้าสิ่งก่อสร้างทั้งหมดก็พังทลายลง
ชายสีซอก็เริ่มออกเดินอีกครั้ง พร้อมบรรเลงบทเพลงซอที่ใช้กล่อมในแบบเดิมที่เคยใช้
ฝูงควายเริ่มสงบลงและเดินตามชายสีซอไปอย่างเป็นระเบียบ
ชายสีซอและฝูงควายก็ เริ่มเดินออกไกลจากสายตาของชาวเมือง จนลับตาไป
ชาวเมืองทั้งหมดได้แต่ยืนดูซากปรักหักพังของบ้านเมือง
และก็คิดว่ายังดีที่เราไม่จ่ายค่าว่าจ้างจำนวนมาก
เพราะเงินส่วนนี้เราเอามาซ่อมแซมบ้านเมืองที่เสียหายได้
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า...........................
จากคุณ :
KongMing
- [
6 ต.ค. 51 14:31:23
]