Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    ดาบนั้นคืนสนอง (ตอนจบ)

    หมายเหตุ : บุคคล สถานที่ และเหตุการณ์ในเรื่องเป็นบุคคลและเรื่องราวที่สมมติขึ้นเพื่อความบันเทิง หากมีส่วนใดส่วนหนึ่งของเรื่องมีความสอดคล้องหรือเกี่ยวพันกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริง ผู้เขียนต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย

    ตอนที่ 1 : http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W6919407/W6919407.html
    ตอนที่ 2 : http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W6957962/W6957962.html
    ตอนที่ 3 : http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W6986372/W6986372.html
    ตอนที่ 4 :  http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W7040649/W7040649.html

    ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    ตอนจบ


    “ผู้หมวดต้องการเท่าไหร่”

    คำถามที่ทหารยศนายพันโพล่งถามออกมาทำให้ชายหนุ่มตรงหน้าเขาเลิกคิ้วนิดหนึ่ง แสดงความพิศวงออกมาอย่างไม่ปิดบัง

    “ตำรวจอย่างคุณมันถนัดเรื่องพวกนี้อยู่แล้วนี่ ที่นี่มีเราแค่สองคน อย่ามาทำไขสือให้มากเรื่องเลย ไม่ต้องกลัวว่าใครจะได้ยินหรอก” ผู้สูงวัยกว่าเหยียดยิ้ม “อยากได้เท่าไหร่ก็ว่ามา แต่อย่าให้มันมากไปนักล่ะ”

    “เสธ. หมายความว่าไงครับ”

    พันโทสุกิจมองหน้าเจ้าของดาบที่ตนถืออยู่ในมือซึ่งมองตอบกลับมาราวกับไม่เข้าใจความหมายของเขาเลยแม้แต่น้อยอย่างขบขันเต็มที

    “ขอโทษเถอะนะ นี่คุณไม่เข้าใจความหมายของผมจริง ๆ หรือแกล้งโง่กันแน่... ที่คุณเกลี้ยกล่อมผมให้มาโรงพยาบาล จัดการเรื่องเงินทองให้ไอ้ตัวยุ่งสองคนนั่น แล้วยังมาถามคำถามบ้า ๆ กับผม ทำเหมือนผมเป็นผู้ต้องสงสัยของคุณ นี่ไม่ใช่เพื่อมาเจรจาต่อรองผลประโยชน์เพื่อแลกกับการยัดข้อหาพยายามฆ่าใส่มือผมหรือไง”

    เขาแค่นเสียงเฮอะเมื่อเห็นอีกฝ่ายชะงักไปชั่วขณะ  “คงจะนึกไม่ถึงสินะว่าผมจะดูออก คนที่เห็นโลกมาก่อนคุณหลายสิบปีอย่างผมเคยเห็นคนที่ใช้มุขนี้แบล็กเมล์คนอื่นมาจนรู้เช่นเห็นชาติกันหมดแล้ว”

    “แบล็กเมล์งั้นหรือครับ” ประณตทวนคำพร้อมยิ้มเย็น “ถ้าเข้าใจไม่ผิด คำคำนี้ควรใช้กับคนที่กระทำความผิดหรือมีเรื่องบางอย่างต้องปิดบัง... ถ้าไม่ได้ทำความผิดหรือมีความลับอะไร ทำไมผมจะต้องเอาเรื่องนั้นมาข่มขู่เพื่อแลกกับผลประโยชน์อย่างเงินทองด้วย”  

    “หรือที่พูดอยู่นี่ไม่ใช่...” ผู้จัดการทีมฟันดาบสากลย้อน “จำได้หรือเปล่าว่าพูดอะไรไปบ้าง ก่อนหน้านี้ก็พูดว่าผมคงไม่ปล่อยให้นิกษ์กับต่อต้องออกค่าใช้จ่ายในการรักษากันเองหรอกใช่ไหม ทำอย่างกับผมมีส่วนเกี่ยวข้องกับการอมเงินนักกีฬาที่พวกเขาคิดจะเอามาปรึกษาคุณอย่างไรอย่างนั้น ถ้าผมไม่มาด้วย คุณคงจะบอกสินะว่า ผมเป็นตัวการเรื่องยักยอกเงินอัดฉีดรวมถึงเงินบริจาคตามที่พวกเขาพยายามทำให้คุณเชื่อ”

    “แล้วไหนจะเป็นตะกี้นี้ที่คุณถามผมว่า อยากทราบผลการชันสูตรบาดแผลของนิกษ์ไหม และยังตั้งข้อสังเกตว่า คนที่ทำไม่น่าจะเป็นคนที่มีความรู้เรื่องดาบอีก... มันไม่ได้บอกนัยว่า คุณกำลังยัดเยียดฐานะผู้ร้ายที่พยายามฆ่าคนตายให้ผมหรือเลยไง”

    ไม่มีคำถามหรือข้อโต้เถียงใดเกิดขึ้นหลังสิ้นเสียงเข้มกร้าวเพราะอุณหภูมิความรู้สึกที่ไต่ระดับสูงขึ้น ดังกล่าว... นายตำรวจหนุ่มซึ่งยืนฟังอยู่ในอาการสงบยังคงมองคนพูดด้วยสีหน้าปราศจากความรู้สึกอยู่ชั่วอึดใจ

    “เรื่องพวกนั้นไม่เคยมีอยู่ในความคิดผม...” เขากล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ทั้งเรื่องยัดเยียดข้อหา แล้วก็เรื่องแบล็กเมล์เพื่อเอาผลประโยชน์เข้าตัว”

    “ผมยอมรับว่า ผมพูดกับเสธ. เรื่องค่ารักษาพยาบาลของคุณนิกษ์กับต่อจริง...” เขาชี้แจง “แต่ผมพูดออกไปด้วยความโกรธ ผมไม่ได้คิดอะไรมากไปกว่านั้น ไม่ได้พูดเพื่อหวังจะเรียกร้องความสนใจ และไม่เคยคาดหวังว่า เสธ. จะต้องไปดูแลเขา จ่ายเงินค่ารักษาพยาบาลให้เขาเลยแม้แต่นิดเดียว เป็นความผิดของผมเองที่ใจร้อนเกินไป ผมต้องเป็นฝ่ายขอบคุณเสธ. ด้วยซ้ำ ที่ไม่ถือโทษผม แล้วใส่ใจในสิ่งที่ผมพูด ตามมาจัดการธุระของคุณนิกษ์กับต่อที่โรงพยาบาลอีก”

    “ส่วนเรื่องที่ถามว่า เสธ. อยากทราบผลการชันสูตรไหม ผมเพียงแต่คิดว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ และเป็นเรื่องที่ผู้จัดการทีม ซึ่งมีหน้าที่ต้องดูแลสวัสดิภาพ ความเป็นอยู่ของนักกีฬาน่าจะอยากทราบเท่านั้นเองครับ”

    ประณตเว้นจังหวะเพื่อพักหายใจครู่หนึ่ง ก่อนเอ่ยต่อ “ผมไม่ใช่ตำรวจท้องที่ ไม่ใช่พนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบคดี ผมเป็นแค่พยานคนหนึ่ง ไม่มีอำนาจในการให้คุณให้โทษใครในคดีนี้ ไม่มีเหตุอะไรที่ผมจะนำข้อสงสัยของผมมาข่มขู่เสธ. เพื่อแลกกับเงินหรือผลประโยชน์อย่างอื่นที่ผมไม่สมควรได้ และผมก็ไม่เข้าใจเลยว่า เพราะอะไรเสธ. ถึงคิดว่าผมจะทำอย่างนั้น”

    “แล้วที่คุณสันนิษฐานว่า คดีนี้เป็นฝีมือของคนที่ไม่มีความรู้เกี่ยวกับอุปกรณ์กีฬาฟันดาบ และส่งดาบมาให้ผมถือโดยไม่บอกอะไรเลย มันไม่ได้แปลว่า คุณกำลังบอกว่า ผมเป็นคนทำหรอกเหรอ”

    มีรอยยิ้มปรากฏขึ้นที่มุมปากของคนถูกถามแวบหนึ่ง “คนร้ายอาจเป็นคนที่ไม่มีความรู้เกี่ยวกับดาบที่ใช้ในกีฬาฟันดาบคือข้อสันนิษฐานแรกของผมก็จริง แต่ยังมีความเป็นไปได้อีกข้อหนึ่งเลยว่า ถ้าไม่ใช่คนที่รู้จักอุปกรณ์เลย ก็ควรจะเป็นคนที่รู้จักอุปกรณ์เป็นอย่างดี แต่ตั้งใจที่จะจัดฉากเพื่อโยนความผิดให้คนที่ไม่รู้อะไรเลย”

    “เพราะอะไร” แม้คำถามข้อนี้จะล่วงพ้นปากของนายทหารออกมาได้ทีละคำ หากความรู้สึกที่ถูกส่งผ่านออกมาเต็มไปด้วยความยินดีราวกับได้ชัยชนะในการแข่งขันครั้งสำคัญ

    “เสธ. ลองดูที่ด้ามจับ และพลิกดูด้านในของโกร่งดาบสิครับ”

    เมื่อทำตามคำบอกของนายตำรวจหนุ่ม พันโทสุกิจก็ถึงกับอึ้งไปเมื่อเห็นสิ่งที่อีกฝ่ายชี้... ด้ามจับของดาบเอเป้ที่ประณตส่งให้เขาถือทำมาจากพลาสติกคุณภาพสูง ส่วนด้านในของโกร่งดาบมีแผ่นผ้าซึ่งมีคุณสมบัติเป็นฉนวนไฟฟ้าอย่างดีรองอยู่อีกชั้นหนึ่ง มือของผู้ถือจึงไม่ได้สัมผัสกับตัวดาบที่เป็นโลหะเลยแม้แต่น้อย

    “เพราะด้ามจับกับโกร่งเป็นฉนวนไฟฟ้าอย่างดี ถึงจะถือด้ามดาบแล้วเอาปลายดาบที่เป็นโลหะแหย่เข้าไปในปลั๊กไฟ กระแสไฟฟ้าก็จะไม่สามารถผ่านเข้ามาถึงร่างกายของคนถือได้ เว้นแต่เขาจับที่ใบดาบโดยตรง กรณีหลังนี้ กระแสไฟฟ้าถึงจะทำอันตรายเขาได้” อดีตนักกีฬาฟันดาบระดับมหาวิทยาลัยอธิบาย

    “ด้วยเหตุนี้ ทำให้มีความเป็นไปได้ที่คนที่รู้อยู่แล้วว่า เขาไม่มีทางได้รับอันตรายจากกระแสไฟฟ้าจากการกระทำแบบนี้อย่างแน่นอนจะอำพรางคดีว่า ตัวเองก็เป็นเหยื่ออีกคนหนึ่งที่ถูกคนร้ายซึ่งไม่มีความรู้เรื่องดาบจัดฉากโดยเอาดาบยัดใส่มือให้ดูเหมือนว่า เขาทำร้ายคุณนิกษ์ แล้วพยายามฆ่าตัวตาย”

    “คนที่ไม่ทราบว่าดาบมีฉนวนไฟฟ้าอยู่ก็ควรจะกลัวอันตรายจากไฟฟ้าที่จะไหลเข้าสู้ร่างตัวเองระหว่างที่จัดฉากที่เกิดเหตุ ทำนองเดียวกับที่เขาห้ามไม่ให้เราเอามือไปจับตัวคนที่ถูกไฟช็อตนั่นแหละครับ เพราะตัวเราอาจถูกไฟช็อตไปด้วย... ก็มีความเป็นไปได้ว่า เขาคงไม่กล้าเอาตัวเองเข้าไปเสี่ยง”

    มือที่ถือดาบเอเป้เอาไว้ของผู้จัดการกำด้ามจับของดาบแน่นขึ้น ใบหน้าคล้ำแดดซีดเผือด “นี่ผู้หมวดหมายความว่า ต่อเป็นคนทำร้ายนิกษ์จริง ๆ แล้วจัดฉากเพื่อใส่ร้ายผมอย่างงั้นใช่ไหม”

    ประณตยิ้มน้อย ๆ “มีความเป็นไปได้ที่จะเป็นอย่างนั้นครับ...  ถ้าเพียงแต่...”

    พูดได้เพียงเท่านั้น ประโยคดังกล่าวก็ถูกตัดด้วยคำถามที่แทรกขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “แต่อะไร”

    “มีความเป็นไปได้ที่ต่อจะเป็นคนร้าย ถ้าหมอไม่ได้ให้ความเห็นว่า เขาน่าจะสลบไปเพราะศีรษะได้รับความกระทบกระเทือน โดยอาจถูกตีเข้าทางด้านหลังศีรษะ หรือล้มศีรษะฟาดพื้น”


    (มีต่อนะคะ)

    จากคุณ : ปิยะรักษ์ - [ วันเกิด PANTIP.COM 02:41:14 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom