ผมชื่อ ปภัส ผมทำงานข้าราชการมีตำเเหน่งใหญ่ในองค์กรหนึ่งของรัฐ (ขออภัยที่ผมบอกคุณไม่ได้) ผมเป็นคนกว้างขวาง ผู้หลักผู้ใหญ่รู้จักผมทั้งนั้น
เพราะตั้งแต่ผมสอบบรรจุเข้าทำงานที่นี่ ผมมีความมุ่งมั่นทำงานด้วยความขยันขันแข็งมาตลอด ทำงานด้วยความซื่อสัตย์ ซื่อตรง จนคนที่ทำงาน
ด้วยกันชักจะเขม่น หาว่าผมทำงานเกินหน้าที่บ้าง "มืงจะรอปิดไฟ เหรอวะ ไอ้พัด" ทำเกินหน้าเกินตาเขาบ้าง "แหม พ่อข้าราชการตงฉิน"
และคำเหน็บแนมอื่นๆ แต่ผมก็ไม่ถือสามากไปกว่างานที่อยู่ตรงหน้าของผมหรอก ผมเพียงสงสัยว่า ผมทำผิดตรงไหน หรือพวกเขาอยากให้ผมทำงานแบบ
เช้าชามเย็นชาม ผักชีโรยหน้า คอยแต่ประจบสอพลอเจ้านายเเบบนั้นผมทำไม่ได้หรอก ผมเชื่อมาตลอดว่า "คนดีจะอยู่ที่ไหนก็ต้องดี "มีด้วยเหรอเป็นคนดี
แบบเลือกเวลา สถานที่ แต่เพื่อนร่วมงานของผมก็เป็นกันอย่างนี้แหละ เลือกขยันเฉพาะตอนที่เจ้านายเข้ามาตรวจงาน มันทำให้ผมหมดกำลังใจที่จะทำงานต่อไป
(ด้วยความขยันและมุ่งมั่น)
แล้วความดีก็ประสบผล ผมได้เลื่อนขั้น เจัานายท่านบอกว่า "ผมรู้ว่าคุณตั้งใจทำงานจริงๆ ไม่ได้ทำงานแบบขอไปทีเหมือนคนอื่น
คุณทำให้ผมนึกถึงตัวเองครั้งที่เริ่มทำงานที่นี่ คุณคงเห็นแล้วสินะนี่คือ ผลของการเป็นคนดี รักษาไว้นะ" ตั้งแต่วันนั้นมาผมยิ่งมั่นใจที่จะทำความดี
ตั้งใจทำงาน ไม่สนใจคำนินทาใดๆทั้นสิ้น จนกระทั่งผมได้เลื่อนขึ้นเป็นเจ้านาย อย่างที่เจ้านายผมเคยเป็น
ใช่ผมกลายเป็นคนกว้างขวาง รู้จักกับผู้หลักผู้ใหญ่ของบ้านเมือง เคยมีบางพรรคการเมืองเข้ามาทาบทามผมให้ลงสมัครเป็น สส. ในสังกัด แต่ผมบอกปัดไปว่า
ผมจะขอรับใช้ประชาชนของผมที่นี่ อันที่จริงคือ ผมได้ยินมาว่า วงการการเมืองมีแต่เรื่องทุจริตคอรัปชั่น ผมคงไม่เหมาะกับที่นั่นเป็นแน่
จนถึงตอนนี้ผมมั่นใจในความเชื่อของผม"คนดีจะอยู่ที่ไหนก็ต้องดี"
แต่คุณคงไม่รู้ ผมมีพี่น้องอยู่ด้วยกัน ห้าคน ผมเป็นคนที่สอง วันหนึ่งพี่สาวคนโตของผมเดินทางจากต่างจังหวัดขอนัดเจอผมที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง
"เป็นไงพี่ สบายดีไหม" ผมทักทายเป็นกันเอง แน่นอนผมสนิทกับพี่สาวคนนี้ที่สุด
"อือ ก็สบายดี "แววตาของเธอช่างขัดแย้งกับคำว่า สบายดีนั้น
"อย่าบอกนะ ว่าไอ้อาร์มลูกชายพี่มันหาเรื่องมาให้อีกแล้ว"
"อือ นี่พี่ก็เพิ่งบากหน้าไปขอทางมหาลัยช่วย ถ้าอย่างนั้นมันก็เรียนไม่จบแน่" คำว่าขอของเธอหมายถึงใช้เงินซื้อ ผมไม่อยากรับรู้ไอ้เรื่องพวกนี้เลยจริงๆ
"แล้วไง"
"ก็ฉันอยากให้แกช่วยน่ะนะ ฉันก็อยากให้มันทำงานราชการจะได้มีอาชีพมั่นคงเป็นหลักเป็นฐานกับเขา แต่แกก็รู้ว่า คนอย่างไอ้อาร์มมันจะสอบแข่งขันกับใครได้
แต่ถ้าแกช่วยๆ มันน่ะนะ อืม..." สำหรับผมมันเป็นประโยคขอร้องที่แสนจะ ทรมานใจ
"แต่..." ผมจะพูดว่าอย่างไรดี ผมจะยอมฝากหลานตัวเองเข้าทำงานหรือปฏิเสธพี่สาวตัวเองเพื่อความถูกต้องอย่างที่ปฏิเสธเงินหลายแสนบาทจากกรณีคล้ายๆกัน
พี่สาวของผมเริ่มแสดงบทบาทของแม่ที่รักลูก เธอยกเหตุผลต่างๆนานาที่เธอคิดว่าผมจะใจอ่อน ยกแม้กระทั่งเรื่องที่เคยล้างขี้ล้างเยี่ยวของผมสมัยเด็ก (แต่ผมจำไม่ได้จริงๆ)
จนผมเบื่อที่จะฟัง "เเต่...พี่ให้มันปรับปรุงตัวหน่อยแล้วกัน ทำงานอย่าให้เขาว่ามาถึงผมได้" นี่ ผมตอบรับไปได้อย่างไร อะไรทำให้ผมยอมทำเรื่องอย่างนั้น
ตั้งแต่วันนั้นมา ผมไม่ใช่คนดีงามผุดผ่องอีกแล้ว เฮ้อ หลานคนแรกได้ หลานคนต่อมาก็มาอีก มาอีก ลูกเพื่อน ญาติเพื่อน น้องเมีย ญาติเมีย มันมากันหมด
ผมจะทำอย่างไรดี ผมปฏิเสธเงินเป็นล้านได้ แต่ผมปฏิเสธพวกเขาไม่ได้...จริงๆ
คุณเห็นใจผมไหม ?
จากคุณ :
piyawooto
- [
8 ต.ค. 51 14:43:05
A:118.174.110.134 X:
]