...(1)
เช้ากว่าเมื่อวานของวันอาทิตย์ที่ 14 กันยายน พ.ศ.2551 ชั้นลุกจากที่นอนนุ่มนุ่มอย่างเสียมิได้ ฟ้ายังไม่ตื่นเลยนี่นา แล้วจะให้ชั้นตื่นก่อนฟ้าเหรอ ไม่เอาอ่ะ ไม่เอาอ่ะ...เกรงใจ! แต่ในที่สุดชั้นก็แพ้เสียงแม่ที่เร่งจังหวะขึ้นเรื่อยเรื่อย แฮ่แฮ่! อาบน้ำล้างหน้าล้างตาไล่ความง่วงไปจากตัวเสร็จแล้ว ชั้นก็รีบกระโดดขึ้นกระบะคันเก่งของจ้น ชักช้าไม่ได้ เดี๋ยวถูกทิ้งนะ จ้นพาชั้น แม่ และน้าไก่ มุ่งหน้าสู่ตลาดเช้าที่โคกกลอย อยู่พังงานั่นแน่ะ ใกล้กว่าเข้าไปในตัวภูเก็ตอีกนะเนี่ย จ้นมักเข้าไปหาซื้อของที่นั่นอยู่เนืองเนืองทุกเดือน ที่ไม่ได้ไปบ่อยเพราะส่วนมากจะมีรถขายของสดที่รู้จักกันเอาของมาส่งถึงร้านเป็นประจำทุกวันอยู่แล้ว เห็นที เช้านี้คงเป็นวันพิเศษมั้ง จ้นเลยไปซื้อเองถึงที่
โคกกลอยก็คล้ายคล้ายตลาดนัดทั่วไป ตั้งอยู่หลัง บขส.โคกกลอยเก่า ชาวบ้านมักเอาของสารพัดสารเพตั้งแต่ไม่จิ้มฟันยันเรือรบ ทั้งเครื่องอุปโภคบริโภค ของกินของใช้ มากมายหลายหลากมาตั้งวางเรียงใต้ผ้าร่มผ้าเต้นท์ที่ทำเป็นเพิงพักชั่วคราว นับเป็นตลาดที่ใหญ่เอาการทีเดียว ตลาดนัดแบบนี้หละที่ชั้นแสนโปรด ชั้นน่ะ เจ้าแม่ตลาดนัดตัวจริงเลยนะ ฮ่ะฮ่า! ขอบอก ขอบอก นอกจากสินค้าที่วางเรียงรายละลานตาแล้ว ทั้งคนทั้งรถยังมากมายจนแทบไม่มีที่จอดที่จรด้วยหละ แต่จ้นก็หาที่จอดรถจนได้ ชั้นไม่รอช้าที่จะลากแม่เดินเป็นพระยาน้อยชมตลาด ชั้นตื่นเต้นกับทุกร้านขายของกินที่เดินผ่าน ต้องแวะถามแวะซื้อติดมือมาอย่างละนิดละหน่อย จะได้ไม่น้อยใจกันไง เดี๋ยวจะหาว่าชั้นลำเอียง ดูสิ นี่ขนมหัวล้าน ขนมต้มแบบไม่เหมือนที่กรุงเทพ ขนมสามเหลี่ยม ข้าวเหนียวจิ้มน้ำตาล แล้วก็อีกหลายอย่างแต่ชั้นจำชื่อเรียกไม่ได้อ่ะ เพราะส่วนมากจะเป็นภาษาท้องถิ่น แหะแหะ ซึ่งชั้นเรียกไม่ค่อยถูก รู้แต่ว่าเห็นแล้วคุ้นเพราะเคยกินเมื่อครั้งก่อนก่อนโน่น แต่นี่นะ ขนมที่ไม่พูดถึงคงไม่ได้แล้วเพราะชอบม๊ากมาก มันคือ ขนมดอกกระโดน เรียกถูกมั้ยหว่า! อธิบายไงดี เห็นเค้าตอกไข่ใส่ผสมกับแป้ง คนให้เข้ากันแล้วเทลงในพิมพ์ทรงกลมมีลายนูนคล้ายดอกไม้เป็นช่วงช่วง พอสุกก็ตักออก ใส่ไส้มะพร้าวคลุกเกลือกะน้ำตาลไว้ข้างใน เสร็จแระ พร้อมกินทันที อันละ 10 บาทเอง ว่าแล้วก็น้ำลายสอ ง่ะ อยากกินอ่ะ!
ชั้นเพลิดเพลินกับขนมและของกินอย่างสนุกสนาน ส่วนแม่ก็เอ็นจอยกับบรรดาผัก ผลไม้และกับข้าวแสนอร่อย แม่บอกว่าอยากซื้อกับข้าวแล้วก็ผลไม้เพื่อไปถวายสังฆทานที่วัด อยากทำบุญให้แม่เฒ่าที่อยู่บนฟ้า เอ๊ ตอนอยู่บนเครื่องบินนี่ ชั้นเฉียดผ่านบ้านใหม่ของแม่เฒ่าบ้างมั้ยน๊า... กุ้งคิดถึงแม่เฒ่านะจ้ะ
จับจ่ายซื้อหาข้าวของกันจนอิ่มหนำ จ้นพาพวกเราแวะเข้าไปที่ร้านขายเครื่องสังฆภัณฑ์ตามคำขอของแม่ ที่นั่น แม่เลือกซื้อชุดถังสังฆทาน พระพุทธรูปองค์เล็ก 3 องค์ ธูป เทียน และกำยานอีกหลายกล่อง เพื่อเอาไปถวายพระที่วัด ยกเว้นกำยานนะ อันนั้นชั้นรีเควสเอง ทำไงได้ ที่กรุงเทพไม่ถูกและไม่หอมเท่านี้นี่นา
จ้นควบกระบะคันเก่งมาถึงบ้าน ตอนนี้ฟ้าสว่างมากแล้ว ทุกคนตื่นกันหมด รวมทั้งเจ้าโอมตัวยุ่งด้วย อืมม แต่โอมก็ทำให้บ้านดูมีสีสันขึ้นแยะเชียว พวกเราช่วยกันจัดเตรียมอาหารสำหรับถวายเพล พอได้เวลาจ้นก็พาชั้นกับแม่ไปที่วัดไม้ขาว พอไปถึง ชั้นก็พบว่ามีชาวบ้านมากมายมารอทำบุญร่วมชาติกันเป็นจำนวนมาก แน่นขนัดเต็มศาลา หรืออาจเพราะวันนี้เป็นวันพระด้วยมั้ง คนเลยมากจนล้นอย่างนี้ ไม่นาน อี๊เหมียกับโจ๊กก็ตามมาสมทบ พวกเราถวายเพล ชุดสังฆทาน แล้วก็ฟังพระเทศน์ พระสวดท่องมนต์คาถา อิ่มใจจัง ส่วนแม่เฒ่าก็คงอิ่มมากมากเหมือนกันสินะ
หลังเสร็จพิธีดีดีทางศาสนา พวกเราก็โยกย้ายกันกลับมาที่ร้านฟางแก้ว ได้เวลากินแล้วนี่นา ไม่ต้องเสียเวลารอ เพราะน้าไก่ตระเตรียมของกินไว้คอยท่าอยู่แล้ว ชั้นยังอิ่มขนมที่กินไปเมื่อเช้าอยู่เลยนะ แต่เพื่อไม่ให้เป็นการเสียน้ำใจ ชั้นเลย...กิน ด้วยความเต็มใจ อิอิ ระหว่างนั้นเจ้าโจ๊กหุ่นอาเสี่ยกับอี๊เหมียก็พยายามหว่านล้อมตะล่อมกล่อมเกลี้ยให้ชั้นกับแม่ไปเที่ยวเกาะด้วยกัน ไปฟรีด้วยนะ คือ โจ๊กมันทำงานเป็นไกด์พาคนไปเที่ยวเกาะน่ะ เห็นบอกจะพาไปแถวอ่าวปอ เป็นอ่าวใน คลื่นลมสงบ บรรยากาศดี วิวสวย สารพัดคำโฆษณาที่มันสรรหามาโน้มน้าวใจ ก็ขอบใจอ่ะนะ แต่ชั้นก็ปฏิเสธไป ไม่รู้สิ ก็คนไม่อยากไปนี่นา อย่าเอาช้างมาฉุดเลย
โครงการของโจ๊กจึงเป็นอันต้องพับเก็บไป ด้วยความใจดี จ้นเลยพาชั้น แม่ แล้วก็เจ้าฟอร์ด ไปเที่ยวท่าเรือ เพื่อไหว้แม่ย่า แล้วก็แวะเที่ยวพิพิธภัณฑ์แห่งชาติ อันนี้ชั้นขอเองหละ ง่ะ มีแต่คนถามว่าจะไปทำไม ไปดูอะไร น่านสิ ก็เพราะไม่รู้ไง ชั้นเลยอยากไปดูให้เห็นกะตา 555 อี๊เหมียกะโจ๊กตามมาด้วยหละเพราะเป็นทางผ่านก่อนกลับบ้านอยู่แล้ว
พิพิธภัณฑ์หาไม่ยากเลย อยู่เลยวงเวียนแม่ย่าไปนิดเดียวเอง ข้างในเงียบหงอยจนชั้นคิดว่าปิดทำการซะอีก เหอเหอ ความเงียบคงเป็นเพื่อนสนิทของพิพิธภัณฑ์ในประเทศไทยหละมั้ง! ไปพิพิธภัณฑ์ไหน ชั้นก็มักเห็นเจ้านี่อยู่โยงเฝ้าหน้าบ้านอยู่ร่ำไป เฮ้อ! ที่ลานด้านหน้า เห็นเค้าจัดแสดงเกี่ยวกับวิถีชีวิตชาวเล ประมาณนี้หละ มีบ้านใกล้โทรม กะเรือลำโตตั้งเรียงเป็นกลุ่ม โดยมีป้ายซีดซีดทำหน้าที่เป็นประชาสัมพันธ์คอยเล่าเรื่องราวสั้นสั้น อีกฝากเป็นเหมือนที่เก็บของมากกว่าที่จัดแสดง เพราะเห็นมีทุกอย่างตั้งแต่ของใช้ในบ้านที่ดูมีอายุ คอมพิวเตอร์ และตู้เซฟใบใหญ่ ชั้นเริ่มรู้สึกผิดนิดนิดแล้วสิที่ดื้อรั้นจะมาที่นี่ แหะแหะ! เข้าไปด้านใน พี่คนสวยถามชั้นว่า มาเป็นครอบครัวใช่มั้ย ชั้นรับว่า ใช่ พี่เค้าเลยบอกว่า วันนี้เป็นวันอาทิตย์ วันของครอบครัว เข้าฟรีค่ะ อืมม อ้าวเหรอ ก็ดีนะ ทุกทีไปคนเดียว จ่ายตังตลอด เหอเหอ ข้างในเป็นอาคารจัดแสดงชั้นเดียว แบบให้เดินเวียนเป็นวงกลม คล้ายที่เชียงแสน การจัดแสดงส่วนมากจะเน้นเรื่องราวสมัยประวัติศาสตร์ เน้นวิถีชีวิตของผู้คนในช่วงประวัติศาสตร์ใกล้ ก็ดีนะ เพราะทำให้เห็นภาพผู้คนร่วมสมัยได้ชัดเจนขึ้น คนทั่วไปจะได้ไม่ต้องมานั่งปวดหัวเพื่อทำความเข้าใจว่าเรามาจากไหน??? คนที่นี่มาจากไหน??? ว่าแต่ แล้วมันไม่สำคัญหรือไงฟระ! ชั้นว่า ราก เป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรถูกหลงลืมหรือสงวนไว้เฉพาะในหลืบมุมอันอับเร้นเท่านั้นนะ เปิดเผยและเล่าขยายให้ผู้คนร่วมรับรู้อย่างเข้าใจสิ จะได้ไม่ลืม ราก ของตัวเองไง
อี๊เหมียกับโจ๊ก แยกกลับบ้านไปก่อน จ้นเลยพาชั้น แม่ กะเจ้าฟอร์ดกลับออกมาตามทางที่ไป จ้นยังใจดีแวะเที่ยวที่ วัดม่วงโกมารภัจจ์ ด้วยหละ ที่นี่มี พระพุทธมณีศรีถลาง เป็นพระพุทธรูปประธานองค์ใหญ่ที่ตั้งเด่นสง่ากลางลานกว้าง ใกล้กันมีศาลาประดิษฐาน หลวงปู่ทอง ซึ่งเป็นเศียรพระพุทธรูปปูนปั้น และศาลาแม่ย่า ก็ ท้าวเทพกระษัตรี กับ ท้าวศรีสุนทร สิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวภูเก็ตเค้าหละ พวกเราแวะเที่ยวที่นี่กันพักใหญ่ ชั้นเองยังถ่ายรูปซะเพลินไปเลย ก่อนถึงร้าน จ้นแวะร้านแม่จู้เพื่อซื้อ โอวต้าว หนึ่งในของกินที่ชั้นตั้งตารอ ชั้นขนซื้อมาซะหลายถุงเชียว อยากกินนี่นา แล้วก็ซื้อเผื่อคนอื่นอื่นด้วยไง...จริงจริงน๊า
หนังท้องตึง หนังตาเริ่มหย่อนลงทีละน้อย ละน้อย แต่ก่อนที่เปลือกตาจะพับปิดลงมา จ้นเรียกชั้นกับแม่ขึ้นรถเพื่อไปซื้อของใช้ของพ่อเฒ่าในตลาดโคกกลอย หนนี้ เจ้าฟอร์ดไม่ได้ตามมาด้วย โดนจ้นสกัดดาวรุ่งให้อยู่โยงเฝ้าร้านกะน้าไก่ หนูฟาง และน้องโอม พอถึงโคกกลอยพวกเราก็แวะซื้อของกิน ของใช้ที่จำเป็นสำหรับพ่อเฒ่า ช่วยกันขนซื้อมาซะมากมายเลย แต่ถึงกระนั้น ชั้นก็ยังไม่ลืมหิ้วขนมเล็กเล็กน้อยน้อยกลับมาฝากทุ๊กคนเหมือนเคย 555
โผล่พ้นสะพานสารสิน สะพานสาบานรักที่ใครหลายคนรู้จัก ไม่ไกลกว่ากันเท่าไร ไข่ทรงรีสีขาวขนาดมหึมาตั้งเรียงต่อกันเป็นวงกว้างอยู่กลางแดดเปรี้ยงเปรี้ยงก็ปรากฎให้เห็น สะดุดตาชะมัด ไอ้พวกนี้น่ะ มันไม่ใช่ไข่ไดโนเสาร์อย่างที่บางคนคิดนะ มันเป็นไข่เต่า อืมม ใช่ ไข่เต่า ส่วนสถานที่ตรงนี้ ชั้นไม่แน่ใจหรอกว่ามันสร้างขึ้นตั้งแต่เมื่อไร มาคราวก่อนยังไม่เห็นเลย รู้สึกเค้าจะเรียกกันว่า Phuket Gateway นะ ดูเงียบเงียบยังไงก็ไม่รู้ รึชั้นคงมาไม่ถูกช่วงหละมั้ง ยังไงก็เหอะ พวกเราก็สนุกสนานกับการวิ่งเลาะถ่ายรูปกลางกลุ่มไข่เต่ากันมากมาก จ้นกับแม่กระโดดเข้าไปในกระดองเต่าสีสนิมอันใหญ่ที่ตั้งอยู่กลางลาน แล้วผลัดกันโผล่หัวออกมาให้ชั้นถ่ายรูป เหมือนกำลังวิ่งไล่จับเด็กเด็กเลยนะเนี่ย เฮ้อออ เก็บความสนุกใจได้หลายกระบุงเชียวหละ
พวกเราพากันกลับไปที่ร้านจ้นอีกครั้ง ตอนนี้แดดร่มลมดีเหมาะแก่การเดินเล่นริมชายหาด จะรอช้าทำไม ชั้นลากคุณอุบลวสีลงไปถ่ายรูปเก็บภาพสวยสวยริมชายหาด แชะแชะกันได้สักพัก เจ้าฟอร์ดก็เดินตามมา ส่วนจ้นก็อุ้มเจ้าโอมตามลงมานั่น ดูสิ เจ้าโอมหน้าตาเริงร่าปาจิงโกะมาก จะวิ่งลงทะเลท่าเดียว ต้องตามจับกันให้วุ่นวาย ง่ะ เกือบเหนื่อยแน่ะ รู้มั้ยตอนเกิดสึนามิเมื่อหลายปีก่อนน่ะ น้ำทะเลหลังร้านจ้นท่วมไปไกลถึงถนนนู่นแน่ะ ดีนะที่ไม่มีใครเป็นอะไร แต่ข้าวของก็หมดไปกับเหตุการณ์ครั้งนั้นมากเหมือนกัน จ้นเล่าว่า เจ้าของร้านบางคนเพิ่งเบิกสดมาเก็บไว้ที่ร้านเพื่อนำไปซื้อของ แต่ดันเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นซะก่อน เงินที่มีทั้งหมดต้องติดอยู่ในร้านที่มิดท่วมด้วยทะเล เจ้าของต้องยอมนั่งเฝ้าร้านตัวเองอยู่กลางถนนนานหลายวัน กว่าจะสามารถนำเงินเหล่านั้นออกมาได้ น่าสงสารเนอะ คนทำมาหากินทั้งนั้น อะไรยังไม่ร้ายเท่า หลังจากน้ำลด ทุกอย่างเข้าสู่สภาวะปกติ ทางการกลับมารุกไล่ร้านค้าทั้งหมดริมหาดทรายแก้วให้ย้ายออกไป ได้ยินว่ามีงบปรับปรุงภูมิทัศน์แถบนี้เป็นหลักหลายล้าน คนบริสุทธิ์ที่ทำมาหากินอย่างสุจริตเลยต้องโดนข้อหาบุกรุก ต้องขึ้นโรงขึ้นศาล มีคดีความติดตัวกันเป็นหางว่าว จ้นเองยังต้องไปอยู่ในมุ้งสายบัวกะเค้าด้วยเลย ดีที่ไม่นานมาก จนปัจจุบันนี้เรื่องราวทั้งหมดยังไม่ยุติเลยหละ เฮ้ออ! เซ็งเป็ด!!!
อืมม ถ้าพูดถึงทะเลนะ ชั้นก็เป็นอีกคนนึงที่ชอบทะเล แค่ได้นั่งดู นั่งสูดดมลมทะเลก็อิ่มใจแล้ว ลองทำดูสิ มันช่วยให้ลืมเรื่องแย่แย่ที่พัดผ่านเข้ามาได้ชะงัดนักแล!
...
จากคุณ :
เพลิดพริ้งแพรวพราวพรรณราย
- [
วันออกพรรษา 11:46:19
A:202.149.25.225 X:
]