Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    ความทรงจำ...ชายแดนกัมพูชา

    pinkroseวันนี้เอางานเขียนสั้น ๆ ที่เขียนเมื่อหลายวันก่อนมาให้อ่านกันค่ะ
    เรื่องราวเหล่านี้เขียนจากประสบการณ์และความทรงจำค่ะ
    จึงอยากเอามาแบ่งปันกันอ่านค่ะ pinkrose





    ค่ำคืนนี้ฉันนั่งอ่านข่าวการเมืองไปเรื่อย ๆ และก็มาสะดุดตรงข่าวเกี่ยวกับการปะทะกันระหว่างทหารไทยและทหารกัมพูชาเป็นอย่างมาก ซึ่งเรื่องที่พิพาทกันก็ไม่ใช่เรื่องอะไร นอกจากเรื่องเขาพระวิหารแล้ว ก็มีเรื่องการแบ่งเส้นเขตแดนที่ไม่ตรงกัน โดยทั้งไทยและกัมพูชาต่างก็ยึดแผนที่คนละอัน ปัญหาเหล่านี้ถกเถียงกันมานานหลายปีแล้ว ซึ่งก็ไม่มีทีท่าว่าจะจบลงสักที ปัญหาทุกอย่างที่เกิดขึ้นต่างก็ส่งผลกระทบให้ผู้คนที่อาศัยอยู่แถวบริเวณนั้นเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะญาติพี่น้องเพื่อนฝูงอันเป็นที่รักของฉัน

    เมื่อหลายปีก่อนฉันและคนรักมีโอกาสได้กลับไปเที่ยวเมืองไทย และก็ได้พาญาติพี่น้องรวมทั้งพระที่วัดในหมู่บ้านไปเที่ยวเขาพระวิหารด้วย พวกเราทุกคนได้สัมผัสความสุขและภาพประทับใจหลายอย่าง ต่างคนต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ภูมิใจที่บรรพบุรุษสร้างสิ่งสวยงามเหล่านี้ไว้ให้เราได้เชยชม แม้ว่าวันนี้ทุกอย่างจะเปลี่ยนไป แต่ภาพเหล่านั้นก็ยังอยู่ในความทรงจำดี ๆ ของฉันและทุก ๆ คนตลอด

    ยิ่งอ่านข่าวเกี่ยวกับการปะทะกันระหว่างทหารไทยและทหารกัมพูชามากขึ้นเท่าไร ก็ยิ่งสะท้อนใจของฉันทุกที ทำให้ฉันอดที่จะนึกถึงภาพอดีตเก่า ๆ ในวัยเด็กไม่ได้ เพราะภาพเหล่านั้นมันติดตรึงอยู่ในความทรงจำของฉันตลอด ไม่ว่าจะผ่านมาสักกี่ปีแล้ว ความทรงจำของฉันก็ไม่สามารถลบภาพเหล่านี้ไปได้เลย

    ในปีนั้นฉันยังเด็กมาก เพิ่งจะไปเรียนหนังสือครั้งแรก ซึ่งวันนั้นฉันกับหลาน ๆ และลูกพี่ลูกน้องเดินไปโรงเรียนด้วยกัน พวกเราทุกคนอายุไล่เลี่ยกัน และก็อยู่ในวัยเรียนรู้ซุกซนกันตามประสา หลายเดือนแล้วที่พ่อของฉันบอกเล่าให้ฟังว่า ที่ประเทศกัมพูชากำลังสู้รบกัน ตอนนั้นฉันไม่รู้หรอกว่าคนกัมพูชารบกันทำไม เพื่ออะไร และก็ไม่เข้าใจทำไมคนต้องฆ่ากันด้วย

    พ่อบอกฉันว่าเขมรแดงเป็นตัวการที่ทำให้เกิดสงครามภายในประเทศกัมพูชา ตอนเด็ก ๆ ฉันคิดว่าเขมรแดงจะต้องมีผิวสีแดง และมีลูกตาแดง ๆ ซึ่งก็คงจะน่ากลัวน่าดู ยิ่งพ่อเล่าให้ฉันฟังว่าพวกเขมรแดงฆ่าคนได้โดยไม่รู้จักละอายกับคำว่าบาป ฉันก็ยิ่งกลัวยิ่งนักและก็คิดว่าคนเหล่านี้คงจะโหดร้ายหาที่เปรียบไม่ได้

    สมัยเด็ก ๆ ฉันชอบเข้าป่าไปหาเก็บลูกไม้ป่ากับเพื่อน ๆ เป็นประจำ แม้พ่อจะห้ามเตือนหลายครั้งไม่ให้เข้าไปในป่า เพราะเกรงจะถูกพวกเขมรแดงจับไป แต่ฉันก็แอบไปหาลูกไม้ป่ากับเพื่อนอยู่เรื่อย และทุกครั้งที่กลับมาบ้านก็มักจะถูกพ่อดุตลอด ซึ่งฉันก็ฟังพ่ออยู่บ้าง แต่พอพ่อเผลอทีไรเป็นต้องออกเที่ยวไปในป่ากับเพื่อน ๆ อีกครั้ง

    ปีนี้ฉันอายุหกขวบแล้ว เพิ่งจะเข้าเรียนชั้น ป. เด็กเล็ก โรงเรียนของฉันไม่ได้มีชั้นอนุบาลเหมือนโรงเรียนคนในเมือง แต่พวกเรามี ป. เตรียมเด็กเล็กเท่านั้น และรุ่นฉันก็เป็นรุ่นแรกที่ได้เรียนชั้นเด็กเล็กด้วย ซึ่งก็เป็นอะไรที่ตื่นเต้นอยู่มาก ฉันมีเพื่อน ๆ ที่เรียนด้วยกันประมาณยี่สิบกว่าคน เพื่อน ๆ ของฉันพูดภาษาที่แตกต่างกัน บางคนพูดภาษาลาว (อีสาน) บางคนพูดภาษาไทย บ้างก็พูดภาษาส่วย แต่ภาษาที่เพื่อนพูดกันมากที่สุดก็คือภาษาเขมร และฉันก็พูดภาษาเขมรเหมือนกัน พร้อมทั้งเรียนรู้พูดภาษาอื่น ๆ กับเพื่อน ๆ ด้วย

    ระยะทางจากบ้านไปโรงเรียนประมาณหนึ่งกิโลเมตรได้ ฉันกับเพื่อน ๆ เดินชมนกชมวิวไปตามประสา พวกเราแต่ละคนพกหนังสติ๊กติดตัวไปโรงเรียนตลอด ซึ่งก็เป็นอาวุธที่พวกเราใช้ยิงนกตกปลาตามประสาชีวิต บางครั้งก็พากันแวะเก็บต้นไทรด้านหน้าวัดกินก่อนไปโรงเรียน ส่วนวันไหนที่ขยันหน่อยก็พากันเดินไปเก็บลูกหว้าที่ท้องทุ่งนากินกัน

    วันนี้ไม่เหมือนวันวานที่ผ่านมา ผู้คนในหมู่บ้านดูตื่นตระหนกกันมากขึ้น หลายครอบครัวไม่ค่อยออกไปไหนมาไหน เพราะเกรงกลัวพวกเขมรแดงอยู่ตลอด บางครอบครัวก็เก็บสัมพาระใส่กระเป๋าเตรียมไว้ในยามฉุกเฉิน ฉันไม่รู้หรอกว่าบ้านเขมรแดงกับบ้านของฉันอยู่ไกลกันแค่ไหน และก็ไม่เข้าใจทำไมพวกผู้ใหญ่ต้องกลัวกันด้วย

    ช่วงระหว่างทางที่เดินไปโรงเรียนนั้น ก็มีรถถังสามคันและตามด้วยรถทหารหลายคันวิ่งผ่านไปบนท้องถนน ซึ่งก็มีทหารนั่งอยู่บนรถเต็มไปหมด ฉันกับเพื่อน ๆ ต่างก็ตื่นเต้นดีใจเป็นอย่างมาก เพราะเกิดมายังไม่เคยเห็นรถถังมาก่อน ได้แต่พากันยืนดูด้วยความสนใจ

    พี่ ๆ ทหารที่อยู่บนรถต่างก็พากันส่งยิ้มและโบกมือให้ฉันกับเพื่อน ๆ พวกเราทุกคนได้แต่ยิ้มและโบกมือรับอย่างสนุกสนาน ฉันกับเพื่อน ๆ หันมาพูดคุยกันไปต่าง ๆ นา ๆ กับภาพที่เห็น เพื่อนหลายคนบอกฉันว่า พวกเขมรแดงจะทิ้งระเบิดลงมา ทำให้คนของรัฐส่งทหารมาปกป้องดูแลหมู่บ้านของฉัน

    พอเดินผ่านมาถึงลานหญ้าด้านหน้าซึ่งตรงกันข้ามกับวัด รถถังและรถทหารทั้งหลายคันก็จอดพักกันที่นั่น ซึ่งก็มีผู้ใหญ่บ้านและกำนันพร้อมทั้งลูกบ้านหลายคนมาต้อนรับให้กำลังใจ ฉันกับเพื่อนปลีกตัวเข้าไปดู แต่ก็ถูกผู้หลักผู้ใหญ่ไล่ให้ไปโรงเรียนเสียก่อน พวกฉันทุกคนจึงได้แต่ทำหน้าละห้อยเดินคอตกอย่างเสียดายออกมา

     
     

    จากคุณ : roslita - [ 18 ต.ค. 51 22:58:12 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom