27 ตุลาคม 2551 เวลา 13.30 น.
ถึงมุราคามิซัง
ฉันติดตามอ่านงานเขียนของคุณมาหลายปีอยู่ บางครั้งบทความของคุณก็ทำให้ฉันยิ้ม บางประโยคก็ทำให้เศร้า บางเรื่องสั้นบนกระดาษไม่กี่แผ่น ก็ทำให้ฉันเหงาไปเป็นอาทิตย์ หลายครั้ง ที่อ่านเรื่องแต่งของคุณจบแล้ว ไม่เข้าใจอะไร นอกจาก อยากจะไปเปิดกระป๋องเบียร์ดื่มบ้าง (ทั้งที่ปกติฉันไม่ชอบดื่มเบียร์ แสดงให้เห็นว่างานของคุณทำให้เกิด'drive'อะไรบางอย่างกับผู้อ่าน ซึ่งเป็นจุดประสงค์ที่คุณต้องการ) และเรื่องล่าสุดที่คุณเขียนเกี่ยวกับการวิ่ง ก็ทำให้ฉันออกวิ่งเป็นหนูถีบจักรเมื่อเช้านี้ และในขณะที่วิ่งนั้นเอง ฉันก็รู้สึกว่า ถึงเวลาแล้ว ที่ฉันอยากจะเขียนอะไรถึงคุณบ้าง คงอารมณ์ประมาณเดียวกับที่ จู่ๆขณะที่กำลังนั่งดูเบสบอล คุณก็นึกขึ้นมาได้ว่าคุณเขียนหนังสือได้
1. เรื่องแปลกอันดับแรกคือ ถึงเราสองคนจะอายุห่างกันเป็นหลักสิบอยู่ แต่เรากลับมีรสนิยมที่คล้ายกันในหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการฟังเพลง เช่น หนึ่งในเพลงโปรดของฉันคือ girl from ipanema เป็นหนึ่งในชื่อเรื่องสั้นของคุณ หรือ รสนิยมการอ่านและเขียนหนังสือ แต่ก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกเท่าไร เพราะคนที่ชอบงานเขียนของคุณ มีไม่ใช่น้อย และอีกเรื่องที่สำคัญมากสำหรับฉัน คือ เราชอบวิ่งเหมือนกัน ฉันอ่านเรื่องที่คุณเขียนเกี่ยวกับการวิ่งมาเกือบครึ่งเล่มแล้ว สรุปใจความได้ว่า คุณชอบวิ่ง โดยที่อธิบายเป็นรูปธรรมไม่ได้เหมือนกันว่าเพราะอะไร ใช่แล้ว ฉันก็ชอบวิ่ง แต่บอกไม่ได้เหมือนกันว่าทำไม อย่างไรก็ตาม เราสองคนเป็นนักวิ่งคนละสังเวียน เพราะฉันวิ่งได้เพียง 3-4 ไมล์ต่อวันเท่านั้น หากจะวิ่งให้ได้ 6-10 ไมล์อย่างคุณ คงจบท้ายด้วยการนอนพังพาบ ไม่ต้องไปทำงาน
2. เรื่องแปลกอันดับสองคือ ฉันเคยเป็นคนไทยพลัดถิ่นอยู่แถวบอสตันอยู่ช่วงเวลาหนึ่ง คุณก็เคยเป็นญี่ปุ่นหลงทางอยู่แถวๆนั้นเช่นกัน ถึงคุณจะไม่เคยเขียนว่าคุณชอบบอสตัน แต่ฉันเดาว่า อย่างน้อยที่สุด คุณก็ต้องหลงเสน่ห์ชาลส์ริเวอร์เช่นกัน ไม่มากก็น้อยน่า ชาลส์ริเวอร์เป็นแม่น้ำที่มีมนต์ขลัง ไม่ได้สวยมาก ไม่ได้ใหญ่มาก ดูแล้วก็กลางๆ แต่ก็มีคนชอบที่จะมาดู มาเยี่ยมเยียน มาวิ่งเล่น มาพายเรือ อยู่ไม่ขาดสาย คงคล้ายๆกับตัวละครพระเอกขาประจำของคุณ ไม่หล่อมาก เรียนไม่เก่งมาก แต่ก็มีผู้หญิงเข้ามาหาอยู่เป็นระยะๆ ว่าแต่ว่า คุณชอบตัวละครแนวนี้จริงๆนะ
3. เรื่องลำดับสาม ที่อยากจะบอกคุณคือ เรื่องสั้นของคุณเรื่องหนึ่ง ที่เขียนถึงเรื่องราวในเมืองไทย โดยมีคนขับรถที่เป็นไกด์ชาวไทยเป็นตัวเอก เป็นเรื่องที่ฉันขอสารภาพว่า ไม่ค่อยชอบเท่าไร เพราะโทนของเรื่องดูฮิป เกินกว่าเรียลลิตี้ของเมืองไทย ดูคล้ายหนังของหว่องกาเวยมากไปหน่อย คุณคงต้องหาโอกาสมาเก็บข้อมูลเมืองไทยใหม่แล้วล่ะ
จากคุณ :
Cafe_noir
- [
27 ต.ค. 51 14:36:27
]