Closer
If you believe in love at first sight, you never stop looking
เนื่องจากอยากเขียนเกี่ยวกับเรื่องทั่ว ๆ ไปบ้าง .... เลยพักเรื่องโรคทางจิตเวชไว้ก่อนมาเขียนอันนี้แทรกไปบ้าง .....
หนึ่งในภาพยนตร์เกี่ยวกับความรักที่ชอบมาก ๆ พูดถึงปรัชญาความรักได้อย่างคมคาย และสร้างประเด็นคำถามที่น่าสนใจได้อย่างมากมาย หนังเกี่ยวกับเรื่องราวความรักของคน 4 คน ที่ผูกพันกันไปมา (มีตัวแสดงเพียง 4 คนจริง ๆ ที่เหลือมีแต่ตัวประกอบประเภทเดินผ่านแวบไปแวบมา ไม่มีบทพูด ไม่มีแม้แต่ชื่อ) และมีแต่บทพูดสนทนาอันคมคายตลอดเรื่อง (คงเพราะเดิมเป็นละครเวทีมาก่อน ทำให้บทพูดมีความสำคัญ และมีตัวแสดงน้อยไม่มาก) ชนิดที่ต้องตั้งใจฟังเป็นอย่างมาก ด้านการแสดงนั้นต้องบอกว่าทุกคนนั้นเล่นได้อย่างยอดเยี่ยม โดย Natalie Portman และClive Owen นั้นได้เข้าชิงลูกโลกทองคำจากเรื่องนี้ด้วย
หนังเรื่องนี้อาจไม่ใช่หนัง feel good แบบ love actually ที่ทุกอย่างจบลงอย่างมีความสุข แต่กลับจบลงอย่างเศร้า ๆ อึ้ง ๆ พร้อมกับความผิดหวัง เพราะในสงครามความรักครั้งนี้ ทั้ง 4 คน ไม่มีใครที่มีความสุข สมหวังในความรักเลยซักคน ทุกคนต่างได้รับบาดแผลไปทั้งสิ้น
เรื่องราวความรักอันวุ่นวายสับสน เริ่มจาก แดน ชายหนุ่มอารมณ์ศิลปิน ผู้เป็นนักเขียนคอร์ลัมไว้อาลัยที่ไม่มีใครอ่าน เขาตกหลุมรักอลิซสาวนักเต้น ทันทีเมื่อแรกพบ ทั้งสองคนรู้จักกันได้เพราะ อลิซถูกรถชน แดน (ที่ปิ๊งเธอไปแล้ว) เข้าไปช่วยพาอลิซส่งโรงพยาบาล ก่อนที่ทั้งสองจะสานความสัมพันธ์และคบหากันต่อไป .... หนังตัดข้ามมา เมื่อแดนเป็นกลายเป็นนักเขียน ความสัมพันธ์ที่วุ่นวายก็ขึ้นเมื่อ แดนได้เจอกับแอนนา ช่างภาพที่ถ่ายรูปสำหรับลงปกหนังสือให้เขา เมื่อแดนเจอเธอ เขาก็ตกหลุมรักเธออีก และเชื่อว่าแอนนานั้นเป็นคู่แท้ของเขา (ทั้ง ๆ ที่ตอนนั้นเขาก็คบและอยู่กับอลิซ ) แอนนาเองตอนนั้นยังไม่มีใคร เธอเองก็แอบมีใจให้แดนด้วยเหมือนกัน แต่เธอก็รู้ว่าเขากับอลิซเป็นแฟนกัน เพราะว่าตอนที่แดนมาถ่ายรูปก็มากับอลิซ ......... หลังจากนั้นแอนนาได้เจอกับลารรี่แพทย์โรคผิวหนังหนุ่ม (ผู้หมกมุ่นในเรื่องเพศ) โดยบังเอิญ อันเป็นผลมาจากการที่แดนเล่นเน็ต chat กับลาร์รี่ โดยแดนนั้นแกล้งเล่นสวมรอยเป็นผู้หญิงคุยกันแล้วนัดเจอกับลาร์รี่ที่พิพิตภัณท์สัตว์น้ำ (แน่นอนว่าแดนไม่ไป) ที่นั่นเองที่ทำให้เขาได้เจอกันแดนที่บังเอิญไปนั่งอยู่ตรงที่ ๆ แดนนัด ลาร์รี่ชอบแอนนาตั้งแต่เจอกันครั้งแรก และคบหากันเรื่อยมาจนแต่งงานกัน ภายหลังที่ทั้งสองแต่งงานกัน แดนกับแอนนายังกลับยังติดต่อกันแดน และทั้งคู่แอบมีความสัมพันธ์ลับๆ ทั้ง ๆ ที่เธอแต่งงานแล้วและลาร์รี่เองก็ดีกับเธอ ทั้งแดนและแอนนาต่างก็ปิดบังและหลอกคู่ของตัวเองตลอดเวลา จนท้ายที่สุด เมื่อแอนนาทนรู้สึกผิดไม่ได้ เธอได้สารภาพความจริงกับลาร์รี่ ซึ่งทำให้เขาโกรธเสียใจอย่างมากและไล่เธอออกจากบ้านไป ส่วนแดนเอง เมื่อเขาสารภาพความจริงกับอลิซ เธอก็ทิ้งเขาไป หลังจากที่แดนและแอนนาได้เลิกกับแฟนของแต่ล่ะคน ทั้งคู่ได้คบกันต่อไปทุกอย่างดูเหมือนจะจบอย่างมีความสุขสำหรับคนทั้งสอง เหตุการณ์ก็กลับผันแปรอีกครั้ง เมื่อแอนนาจะเอาใบหย่าไปให้ลาร์รี่เซ็น เขายื่นข้อเสนอว่า เขาจะยอมเซ็นต์ใบหย่าให้ต่อเมื่อเธอยอมนอนกับเขาอีกครั้ง .... และเธอก็ยอมเพื่อจะให้ได้ใบหย่ามา แต่กลายเป็นว่าเมื่อแดนรู้ว่าแอนนาไปมีความสัมพันธ์กับอดีตสามี เขาก็รับไม่ได้ และบอกเลิกกับแอนนา .... เมื่อแดนเลิกกับแอนนาแล้ว ด้วยความเหงาไม่มีใคร ทำให้เขากลับไปคบกับอลิซอีกครั้ง แต่เมื่อเขารู้ว่า ช่วงที่ผ่านมาอลิซ เคยมีอะไรกับลาร์รี่ (ตอนที่เขาเลิกกับแอนนาไปแล้ว) เขาก็กลับโกรธ และรับไม่ได้อีก ....... จนสุดท้าย อลิซก็ทนไม่ได้และหนีเขาไป ..........
หากเรามาพิจารณาถึงแต่ละคนแล้ว จะเห็นว่า
แดน ชายหนุ่มอารมณ์ศิลปิน เขาคงเป็นคนที่ดำเนินตามสโลแกนของหนัง If you believe in love at first sight, you never stop looking มากที่สุด มีรักแรกพบ แต่ดันมีหลายครั้ง จนทำให้คำว่ารักแรกพบกับเจ้าชู้นี่ช่างต่างกันเพียงเส้นบาง ๆ เขาเป็นผู้ที่มีความเหงาอยู่ในใจตลอดเวลา ทำให้รักของเขานั้นเป็นเพียงการมีใครสักคนและการครอบครองเท่านั้น ดังที่เขาบอกอลิสนั้น เธอน่ารักเกินกว่าที่เขาจะทิ้งได้ แม้เขาจะรู้สึกรักแอนนาอยู่ด้วยก็ตาม และเมื่อเขาบอกความจริงกับอลิส แล้วเธอจะไปจากเขา เขาก็ยังพยายามรั้งเธอไว้ เพระเพียงไม่อยากจะสูญเสีย สิ่งนี้คงเป็นเหตุให้อลิสนั้นรู้สึกว่า แม้เขาจะอยู่ด้วย บอกรักเธอยังไง ก็เป็นเพียงแค่คำพูด แต่ไม่ได้รู้สึกเลยว่ารัก (ดูได้จากฉากที่แดนกอดอลิสตอนไปที่ดูนิทรรศการภาพถ่าย ซึ่งดูแล้วจะรู้สึกเย็นชามาก ทั้ง ๆ ที่เขากอดเธอ) สุดท้ายเขาก็ต้องสูญเสียคนที่รักเขาไปหมด และคงต้องอยู่กับความเหงาไม่มีใครต่อไป
อลิส หญิงสาวที่มาอังกฤษเพราะผิดหวังในความรัก ก็ยังคงผิดหวังจากความรักต่อด้วยเหตุเดิมคือผู้ชายไปมีคนอื่น ทั้ง ๆ ที่เธอเป็นคนมอบความรักให้กับแดนอย่างมาก และน่าจะเป็นคนที่เชื่อในความรักมากที่สุด มากจนดูเหมือนหลอกตัวเอง เพราะเธอเองก็รู้เรื่องแดนกับแอนนาอยู่ก่อนแล้ว แต่เธอกลับปล่อยไปไม่ได้ทำอะไร เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น จนท้ายที่สุด เมื่อถึงจุดหนึ่ง เธอก็ต้องหนีหายไปอีกครั้ง เหมือนที่เธอกล่าวตอนต้นเรื่องว่า เมื่อเธอหมดรัก เธอก็จะทิ้งเขาไว้ และหายไป
ลาร์รี่ นั้นมีลักษณะบุคลิกภาพแบบ narcissistic (หลงตัวเอง) ชอบพูดชมตัวเอง อารมณ์ร้อน ยึดติดกับการแพ้ ชนะ และความแค้น สนใจแสวงหาแต่ความจริง (ที่หลายครั้งไม่รู้ว่าจะหาไปทำไม) เช่นตอนที่ทะเลาะกับแอนนา(ซึ่งเป็นฉากหนึ่งที่ Owen แสดงได้อย่างยอดเยี่ยม ทั้งอารมณ์ สีหน้า น้ำเสียง) เมื่อเธอบอกว่าเธอคบกับแดนอยู่ (เป็นชู้นั่นแหละ) สิ่งที่เขาสนใจ กลับเป็นความจริงเกี่ยวกับเรื่องบนเตียงของเธอกับแดน และถามว่าเขากับแดนใครเก่งกว่ากัน เธอทำอะไรกับแดนกี่ครั้ง ที่ไหนบ้าง ตรงนี้อาจมองได้ว่า ความจริงที่เขาต้องการนั้นเพียงเพื่ออยากรู้ว่าใครเก่งกว่ากัน เพราะเขาไม่อยากจะแพ้ การที่แอนนาไปมีอะไรกันแดนนั้น ทำให้เขาเสียความมั่นใจเสีย self อย่างรุนแรง (narcissistic injury) เมื่อแอนนามาให้เขาเซ็นต์ใบหย่า เขาตั้งเงื่อนไขว่าจะยอมเซ็นต์ใบหย่าให้ถ้าแอนนายอมที่จะนอนกับเขาอีกครั้ง .... (ซึ่งแอนนาก็ยอม) สิ่งนี้คงเป็นเพียงเพื่อล้างแค้นและเอาชนะแดน (อาจรวมถึงแอนนาด้วย) แม้ภายหลังเขาจะได้กลับไปครอบครองแอนนาอีก แต่สิ่งนี้คงไม่ใช่ความรักที่แท้จริง
แอนนา หญิงสาวที่ไม่กล้าตัดสินใจ ไม่แน่ใจในตัวเอง ไม่กล้าที่จะเลือก และไม่สามารถควบคุมอารมณ์ ความปรารถนาของตัวเองได้ จนทำให้เธอดูแล้วเป็นคนที่ทำผิดศีลธรรมเยอะที่สุด แต่เธอไม่ใช่คนที่ไม่รู้ผิดชอบชั่วดี ความปรารถนา ความต้องการ อันขัดแย้งกับศีลธรรม (superego) อันดีของเธอ ทำให้เธอต้องใช้ชีวิตกับความรู้สึกผิดเรื่อยมา การที่เธอกลับไปคบกับ Larry นั้นอาจเป็นเพราะ ความรู้สึกผิด ความคุ้นเคย หรือเป็นเพียงการต้องการมีใครสักคน (เพราะแดนทิ้งเธอไปแล้ว) หรือทั้งหมดรวมกัน แต่ยังไงสิ่งเหล่านี้ก็คงไม่สามารถทำให้ตัวเธอมีความสุขได้ หากเธอยังเฝ้าแต่จะหาใครมาเติมเต็มชิวิตเธอ โดยที่ตัวเธอไม่เติมเต็มชีวิตตัวเองก่อน
หลังดูหนังเรื่องนี้จบแล้วได้สะท้อนข้อคิดและเกิดคำถามเกี่ยวกับความรักหลายอย่าง ทั้งคำถามจากตัวเนื้อเรื่องเอง และจากบทพูดของตัวละคร รวมถึงเห็นความล้มเหลวของชีวิตคู่ของคนทั้งสี่ ตัวหนังเองก็ไม่ได้ให้คำตอบหรือบทคลี่คลาย( solution) ให้แต่อย่างใดใด ๆ ปล่อยให้คนดูเอาไปขบคิดต่อกันเอาเอง ...... คำถามต่าง ๆ ที่เข้ามีในหัวผมทันทีที่ภาพยนตร์จบลงได้แก่ ....
1. คนเราสามารถรักคนสองคนพร้อมกันได้หรือไม่ ? ( แดนและแอนนา ที่คบสองคนพร้อม ๆ กัน )
2. การโกหก กับคนรัก (อลิส นั้นเชื่อว่า ไม่จำเป็นที่ต้องพูดความจริงทั้งหมด เหมือนที่เธอเองก็ไม่ได้บอกชื่อจริงกับแดน หรือ ที่เธอบอกแดนว่า ให้โกหกบ้างก็ได้หากว่านั่นจะทำให้คนรักเสียใจ ในขณะที่ Larry นั้นต้องการรู้ความจริงทุกอย่าง แม้แต่เรื่องบนเตียงของแอนนากับแดนก็ยังอยากรู้ (ไปทำไม) )
3. ความรักคือการครอบครอง และไม่อยากสูญเสีย ? ( เหตุผลที่แดนไม่กล้าบอกอลิสว่าเขาคบกับแอนนาอยู่ด้วยเพราะ เขาบอกว่า เขากลัวที่จะสูญเสียเธอไป และที่เขาทิ้งแอนนาเพราะรู้ว่าแอนนากลับไปมีอะไรกับ Larry แม้ว่าเธอจะทำเพื่อให้ได้อยู่กับเขาก็ตาม )
4. รักอย่างเดียวเพียงพอรึเปล่า ( why isnt love enough เป็นประโยคที่ อลิส ถาม แดน เมื่อแดนสารภาพว่าตัวเองแอบคบแอนนาอยู่)
5. ถ้าคุณรักใครมากพอ คุณจะอภัยให้เขา ( if you love me enough, you will forgive me เป็นประโยคที่แดนพูดกับอลิส)
6. สุดท้าย ความรัก คืออะไร ..... หากคุณมีคนที่อยู่ด้วย กอดคุณ บอกรักคุณเป็นร้อย ๆ ครั้งแต่คุณไม่รู้สึกอะไรเลย นั่นคือความรักรึเปล่า (อลิสพูดกับแดนตอนท้ายเรื่อง)
แก้ไขเมื่อ 10 พ.ย. 51 09:31:50
จากคุณ :
ผมอยากที่จะเชื่อ
- [
10 พ.ย. 51 09:29:24
]