Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com


    กระทงกับแสงเทียนในอ่างสีดำ

             วันนี้เป็นวันขึ้นสิบสามค่ำเดือนสิบสอง ผมนึกทบทวน พลางก้าวเท้าเข้าบ้านอย่างเหงา ๆ และว่างเปล่ากับบรรยากาศ

    คิดถึง. . .

          . . . . .ทุ่งดอกบัวตองที่กำลังบาน

    เทศกาลยี่เป็งที่จังหวัดเชียงใหม่

    งานเผาเทียนเล่นไฟที่จังหวัดสุโขทัย

    เพลงเรือในแม่น้ำเจ้าพระยาหน้าศูนย์ศิลปาชีพบางไทร

    ลิเกทรงเครื่องคณะศิษย์พ่อครูท่านหนึ่ง ซึ่งผมเคยคุ้นที่นครสวรรค์

    รวมไปถึงวงลำตัดและเพลงฉ่อย ที่แสนจะครึกครื้นและเป็นกันเอง
    ด้วยฤทธิ์ของน้ำตาลเมา ป.ต.อ.
    ( ประชาชน ต้ม เอง )

    ที่ชายทุ่งมีนบุรีบ้านของเพื่อนรัก
    ครูกิจกรรมที่มากไปด้วยความสามารถ

    และภาพความงาม ในงานรื่นเริง ณ สถานที่ต่าง ๆ ที่ผุดขึ้นมา
    ท่ามกลางเสียงถอนหายใจของผม
    ขณะกำลังนั่งลูบหัวแมวน้อยสีน้ำตาลแก่
    เพื่อนตัวเดียวในชั่วโมงนี้ของผม

    เสียงร้องแง้ว. . .ราวกับล่วงรู้จินตนาการของผม
    ทำให้ผมก้มลงไปสบตาสีเหลืองหม่น ของนางสาวทองดำหางขอด บนตัก
    ที่กำลังเงยหน้ามองผมอยู่พอดี

    ผมยิ้มให้มัน พลางเอามือวางแปะลงบนต้นคอของเจ้าแมวอ้วน
    เพื่อนเฝ้าบ้านของผมตัวนั้น  แล้วก็ยิ้มให้มันอีกครั้ง

                       " ปีนี้ แกต้องลอยกระทงกับฉัน นะ "

                                         * * * * *

            เสียงกริ่งโทรศัพท์ที่ดังขึ้น  ในค่ำวันขึ้นสิบเอ็ดค่ำเดือนสิบสอง  ทำให้ภวังค์ที่กำลังดื่มด่ำ ในนวนิยายเรื่อง"เลือดเย็น" ของท่าน มนัส สัตยารักษ์ ถูกกระชาก
    ให้ผมรู้สึกตัว กลับมาเผชิญกับโลกที่เป็นจริง

    ผมถอนหายใจพลางหยิบที่คั่นหนังสือมาเสียบค้างไว้
    ตรงหน้าพ็อคเก็ตบุ๊คส์ที่ผมกำลังอ่าน

    วางหนังสือลง
    บนกองระเกะระกะ
    ของเพื่อนแท้ผู้ไม่มีเสียง
    มากมายหลายเล่มเหล่านั้น
    แล้วก็ลุกขึ้นอย่างเกียจคร้าน
    ไปรับโทรศัพท์

    " หนูฝ้ายนะคะ . . . . ."

    เสียงใส ๆ นั้นสวนมาทันควันเมื่อผมบอกชื่อไป
    แล้วก็ระรัวต่อมา
    อย่างที่ผมกำลังสงสัยอยู่ว่า
    เธอจะเอาช่องว่างของการพูดที่ไหนมาหายใจ

    ". . . . .ดนตรีไทยกับการพัฒนาวุฒิภาวะของนักเรียนปฐมวัย. . ."

    วลีที่คล้าย ๆ กับหัวข้อการสัมมนาอะไรสักอย่างหนึ่ง
    เป็นเสียงที่ผมได้ยินต่อจากนั้น

    “ พี่พจคงเห็นคัทเอ๊าท์ที่ริมกำแพงมหา’ลัย แล้วใช่ไหมคะ "

    มหาวิทยาลัยที่เธอว่านั้น อยู่ติดถนนใหญ่หลังบ้านผมเอง

    " ฮื่อ. . . . .ทำไมหรือ "

    " พรุ่งนี้ก็จบแล้วค่ะ. . . . . .โอย เหมือนยกภูเขาออกจากอก "

    " แล้วเธอไปยุ่งอะไรกับเขา " ผมออกปากไปทั้ง ๆ ที่ยังไม่สร่างงง

    " ฝ้ายโดนเกณฑ์มาเป็นวิทยากรผู้ช่วยค่ะ ปวดหัวมากเลย พรุ่งนี้เสร็จงานตอนเย็น  แล้ว  ฝ้ายจะมาคุยกับพี่ได้ไหมคะ  ข้ามถนนแล้วก็เดินดุ่มเข้าซอยมาเลย. . .ถ้า.. . . . . ."

    เสียงของเธอลังเลราวกับจะนึกขึ้นได้ ". . . . ถ้า พี่ว่าง "

    " เฮ้ย. . . . ." ผมยังตั้งสติไม่ทัน ก็เลยพยายามเบรค เพราะเราอยู่
     บ้านคนเดียว. . .อ้อ. . .กับนางสาวทองดำอีกตัวหนึ่ง

    " ถ้าพี่ไม่ว่าง ฝ้ายก็ขอโทษค่ะ. . ." น้ำเสียงนั้นอ่อนลง

    " . . . . .เพียงแต่. . .ฝ้ายอยากระบาย. . . . ."

    " นี่. . .ยายบ๊อง. . . . " ผมพยายามระงับความฉุน อันเกิดจากการที่ดู
     เหมือนกำลังถูกมัดมือชก

    " ฉันน่ะพอจะว่างอยู่หรอก
     แต่ฉันว่าวิธีที่ดีที่สุด
     คือเธอควรจะวางหู
     แล้วกลับไปนึกดีเทลส์ วิธีการ รายละเอียด
     ที่อยากจะมาเจอกัน
     แล้วโทรมาบอกฉันอีกที. . ." ผมเว้นระยะนิดหนึ่ง
    ". . . ในเวลาที่หายบ้า
      หรือมีสติมากกว่านี้อีกหน่อย. . .
      ดีไหมขอรับ "


    ผมโพล่งออกไปแล้วก็รอฟังคำตอบในหูโทรศัพท์นั้น. . . .
    แต่มันก็เงียบไปหลายวินาที

    " ถ้ารบกวน. . . ฝ้ายก็ขอโทษค่ะ. . . ."
    สำเนียงตัดพ้อคล้ายกับกำลังจะวางหูโทรศัพท์นั้น
    ทำให้ผมต้องรีบพูดสวนไป
    ด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนลง  
    ราวกับกำลังปลอบนางสาวทองดำ

    " ใจเย็น ๆ ไอ้หนู.....
      สักสองสามทุ่มโทรมาหาพี่อีกทีหนึ่ง....
      พี่จะรอสาย "
      แล้วผมก็เปลี่ยนเสียงเป็นเข้มขึ้น
    "  นี่เป็น คำสั่ง. . . ไม่ใช่คำขอร้องนะโว้ย "
                     
    " ค่ะ "
     พยางค์สุดท้ายนี้ตามมาด้วยเสียงกริก จากการวางโทรศัพท์

     
    ผมถอนหายใจเฮือก

    " ท่าจะบ้า...."

    ผมบ่นกับหูโทรศัพท์ที่ว่างเสียงนั้น
    แล้วก็ไม่ได้สนใจอะไรอีก หลังจากวางหูลงบ้าง

                           * * * * * * * *
                           
    สามทุ่มเศษของคืนนั้น
    ในขณะที่ผมเพิ่งเริ่มอ่านนวนิยายแปล
    เรื่อง "เมรัยมรณะ"
    ฝีมือแปลของคุณ นพดล เวชสวัสดิ์
    ได้เพียงสองสามหน้า
    เสียงกริ่งโทรศัพท์ก็ดังขึ้นอีกครั้ง

    " ฝ้ายเหรอ...." ผมกรอกเสียงลงไป เมื่อได้ยินเสียงทักทายที่คุ้นหู

    ".....ว่ายังไง คิดออกหรือยัง "

    " ก็อย่างเดิม
     จบสัมมนาหนูก็เดินไปคุยกับพี่ที่บ้าน
     ก็พี่บอกเองว่าว่างไม่ใช่หรือคะ
     อีกอย่างหนึ่ง
     หนูจะได้หอบรายงานสัมมนาไปให้พี่ดูด้วย  
     เผื่อจะขอข้อแนะนำประเมินผลด้วย
     ได้ไหมคะ "

                       ในวินาทีนั้น มันเหมือนกับมีอะไรแล่นปราด เข้ามาในสมองของผมโดยไม่ทันตั้งเนื้อตั้งตัว

                       " ฝ้าย... "

                       " คะ... "

                       " พี่อยู่บ้านคนเดียวนะ "

                       " ค่ะ..."

                       " หนูอาจจะต้องคุยกับทองดำนะ "

                       " หนูคิดถึงมันมากกว่าพี่อีก " ผมก็ได้แต่หัวเราะ

                       " โอเค...พี่จะรอ จำบ้านพี่ได้แน่นะ "

                       " ประมาณทุ่มนึงเจอกันค่ะ ขอบพระคุณครูมากค่ะ "
                       แล้วก็มีเสียงวางสาย ผมยังคงถือหูโทรศัพท์ค้างอยู่อย่างนั้น เธอเปลี่ยนสรรพนามผมเสียแล้วแฮะ. . .

                                         * * * * *

    เมื่อหลายปีก่อน ที่ผมเพิ่งเริ่มริจะเป็นครูดนตรี
    นางสาว...น่าจะเป็น เด็กหญิง มากกว่า....
    วีรยา...ก็ได้มาเป็นสมาชิกส่วนหนึ่ง ของชมรมดนตรีไทย
    ที่ผมตั้งขึ้นเองอย่างไม่เป็นทางการ
    ตั้งแต่เธอยังไม่ได้เลิกผูกคอซองเสียด้วยซ้ำกระมัง

    ถ้าจำไม่ผิด เด็กคนนี้มีความกระตือรือร้น มีพรสวรรค์
    และมีความรักศิลปวัฒนธรรมไทยในสายเลือด.....
    ผมน่าจะวิเคราะห์ได้ดังนั้น....
    และกาลเวลาที่ผ่านมา ก็พิสูจน์ได้ว่าผมคาดการณ์ไม่ผิด

    หลังจากจบการศึกษาและได้งานทำแล้ว  
    วีรยา...ผู้ซึ่งขณะที่เรียนอยู่ในชั้นอุดมศึกษา
    ก็ยังมาปรึกษาหารือ และขอเวลามาซ้อมดนตรีไทยกับผมอยู่เสมอ  
    เมื่อเธอมีเวลาว่างบ้าง  

    ส่วนงานในหน้าที่ประจำของฝ่ายธุรการ หรือเลขานุการ ในปัจจุบัน
    หรืออะไรประมาณนั้น
    ผมไม่ได้ทราบเรื่องราวรายละเอียดเลย

    และก็ไม่ได้เคยให้ความสนใจไปมากกว่า
    ปัญหาปลายเหตุบางประการ
    ที่เธอเคยมาระบายให้ผมฟังบ้าง ในบางครั้ง. . .

    แต่. . .ผมว่า. . .ผมเห็น และสัมผัสความรู้สึกได้
    จากวุฒิภาวะ และพัฒนาการของเธอเอง

    จริงอยู่หรอกครับ  จากอายุสิบสามสิบสี่ปีของเธอ
    กับอายุใกล้สามสิบของผมเมื่อก่อน
    ถึงระยะห่างมันจะเท่ากันตามเดิม

    แต่...สภาพสังคม....ผมขออนุญาตกล่าวโทษส่งเดชอย่างนี้แหละครับ.....
    ทำให้อายุยี่สิบสี่ปี กับสามสิบค่อนของผม...

    . . .หวั่นไหว. . .ไปได้บ้าง. . .ในบางครั้ง. . . . .                                      

                                         * * * * *

    (ต่อใน comment # ๑ เลย ขอรับ)

    แก้ไขเมื่อ 13 พ.ย. 51 16:50:10

    แก้ไขเมื่อ 13 พ.ย. 51 01:29:35

    แก้ไขเมื่อ 11 พ.ย. 51 00:35:20

    แก้ไขเมื่อ 10 พ.ย. 51 22:23:50

    แก้ไขเมื่อ 10 พ.ย. 51 21:53:49

    จากคุณ : พจนารถ๓๒๒ - [ 10 พ.ย. 51 21:29:31 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com