ตอนที่1 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W7189040/W7189040.html
ตอนที2http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W7193346/W7193346.html#2
3
เขาไม่ค่อยเต็มใจมาโรงพยาบาลนัก ทุกคนรู้เหตุผลดีว่าเขาเกลียดโรงพยาบาลยังกะอะไรดี แค่นอนรักษาอาการจากอุบัติเหตุตั้งเดือนหนึ่งก็มากเกินพอแล้ว เราไม่ได้เป็นอะไรซักหน่อย มันก็เป็นเพียงแค่ความฝัน (เขาบอกตัวเองอย่างนี้) ออกจะหงุดหงิดยายส้ม เพื่อนจอมจุ้นอยู่ไม่น้อย เขาจึงไม่พูดอะไรกับเธอตั้งแต่เช้า เลยพาลไปคุยกับเอกไปด้วย
รถของเอกหยุดลงข้างตึกประสาทวิทยา ชายหนุ่มก้าวลงมาก่อนคนอื่นอย่างไร้อารมณ์ และเดินนำหน้าเข้าไปโดยไม่รอเพื่อนทั้งสอง ชาติชายกระแทกตัวนั่งรออยู่บริเวณหน้าห้องตรวจสมอง
ผ่านไปหลายนทีเพื่อนทั้งสองจึงเดินมาถึง
ไม่รอเลยนะ ปล่อยให้หากันแทบแย่ นึกว่านายจะหนีไปซะแล้ว
ฉันไม่หนีไปไหนหรอกเขาตอบห้วนๆ
ตรวจเสร็จจะได้ไปซักที
จะไปไหน
ก็กลับบ้านน่ะสิ เขาตอบเสียงแข็ง จ้องเธอแบบจะกินเลือดกินเนื้อ ส้มจึงเงียบลง
เวลาผ่านไปอย่างเชื่อช้าขัดกับใจเขาที่อย่างให้มันผ่านไปเร็วๆ ไม่รู้นานเท่าใด
นางพยาบาลในห้องเรียกชื่อเขา ทั้งสามจึงรุดเดินผ่านประตูเข้าไป
หมอผู้ตรวจฉายแผ่นเฟรมการสแกนสมองให้ส้ม และเอกดูพลางชี้อธิบายที่ทั้งสองไม่ค่อยเข้าไป
จากการสแกนสมอง ดูแล้วสมองทั้งสองซีกได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรงจากอุบัติเหตุเมื่อเดือนก่อน ทำให้เซลล์ประสาทเกี่ยวกับความทรงจำบางส่วนถูกทำลายไป แต่เราได้สอบถามผู้ป่วยแล้ว พบว่าความทรงจำที่หายไปอาจไม่ใช่ความทรงจำสำคัญที่มีผลต่อการใช้ชีวิตในปัจจุบัน เพราะเขาตอบคำถามได้หมดทุกอย่าง จึงไม่มีอะไรที่น่าเป็นห่วง แต่ควรจะให้จะให้ผู้ป่วยได้พบกับจิตแพทย์เป็นครั้งคราว ถ้าเกิดเหตุการณ์อย่างเมื่อวานอีก เพราะอาจเป็นไปได้ว่าผู้ป่วยได้รับการกระทบกระเทือนทางจิตใจจากเหตุการณ์บางอย่างทำให้สร้างภาพลวงตา หรือคิดในสิ่งที่ไม่มีอยู่จริง เกิดปล่อยไว้นานๆ อาจเป็นอันตรายต่อตัวเขาและ ผู้อื่นได้
เพื่อทั้งสองมองหน้ากันอย่างวิตกกังวล
หลังจากตรวจเสร็จเขาก็แอบออกจากห้องโดยไม่รอฟังผลตรวจ และบอกเพื่อนทั้งสอง ชายหนุ่มโบกรถแท็กซี่ท่ามกลางเปลวแดดอันร้อนระอุจนทำให้หน้ามืด เขานั่งมองบรรยากาศที่เคลื่อนไปอย่างรวดเร็วภายนอก จราจรแออัด เต็มไปด้วยมลพิษ ขอทาน และเด็กเร่ร่อน จะมีอะไรดีไปกว่าการได้อยู่กับตัวเองอีกล่ะ ชาติชายต้องอุดจมูกในที่สุดเมื่อกินสาบสางจากอะไรบางอย่างในรถทวีความรุนแรงขึ้น แต่ดูเหมือนไร้ผลเมื่อยังได้กินจนแทบจะเป็นลม เขามองคนขับรถอย่างฉุนเฉียว
ท่าจะไม่รู้สึกรู้สาเลย รถตัวเองเหม็นยังกะอะไรตาย
ในที่สุด ทนไม่ได้เขาจึงถามโพล่งขึ้น
ในรถพี่มีอะไรตายหรือป่าว ทำไมมันเหม็นอย่างนี้
กลิ่นอะไรเหรอครับ ก็ไม่เห็นได้กลิ่นนี่
คนขับสูดหายใจยาวๆ สีหน้างุนงงก่อนมองเขาจากกระจกมองหลัง แล้วยิ้มกริ่ม
อ๋อ อย่างนี้นี่เอง แพ้ท้องแทนเมียล่ะสิถ้า
แพ้ท้องแทนเมียอะไรกันพี่
ผู้โดยสารเริ่มหงุดหงิด หาทางเปลี่ยนเรื่องกลิ่นเน่าในรถตัวเองล่ะสิ
เอ้า ก็คนที่นั่งมาด้วยไม่ใช่เมียหรอกรึคนขับพูด
เออน่า ไม่ต้องอายหรอก ผู้ชายก็ท้องแทนเมียได้ ลุงเองยังเคยเป็นเลย แล้วว่าแต่เมียเองท้องกี่เดือนแล้วล่ะ
ชายหนุ่มคัวแข็ง เขาขึ้นรถมาคนเดียว!
ช่วงเวลาอันน่าพรั่งพรึง เขาหันไปมองรอบๆ มีเพียงคนเดียวที่โดยสารรถคันนี้
แล้วลุงคนขับรถหมายถึงใคร!
นั่นทำให้หัวใจแทบหยุดเต้น กลิ่นสาบเริ่มทวีความรุนแรงขึ้นจนรู้สึกคลื่นไส้ สายตาพลันเหลือบไปตรงกระจก เงาสะท้อนนั้นคือเขา ทว่า...
ใครคนหนึ่งกำลังซบไหลเขา ร่างนั้นเต็มไปด้วยเลือด!
ลุง จอด จอด จอดเดี๋ยวนี้! เขาตะโกนลั่น
รถจอดไม่ทันสนิท ชายหนุ่มรุดลงไปข้างทางปล่อยอาเจียนออกมา มือยันเข่าอย่างอ่อนแรง
สูดอากาศภายนอกลึกๆ ปราศจากกลิ่นเหม็น เมื่อหายจากอาการคลื่นไส้แล้ว ชายเดินไปหาคนขับรถพร้อมยื่นเงินค่าโดยสาร
ผมลงตรงนี้แหละ
ดูแลตัวเอง และเมียด้วยล่ะ
รถแล่นออกไปทิ้งให้เขายืนนิ่งขึงอยู่ตรงนั้น ป่าเบื้องหลังโบกสั่นไปมาอย่างน่าหวาดกลัว
เจอไหม ส้ม
ไม่เจอเลย หาจนทั่วตึกแล้ว
ทั้งสองคนเดินออกมาจากห้องก็พบว่าชายไม่อยู่เสียแล้ว ความคิดอันหวาดวิตกพลันเกิดขึ้น
ถ้าเขาเกิดเสียความทรงจำ เดินหลงทางไปแล้วเสียไม่รู้ จะเกิดอะไรขึ้นกับเขาบ้าง
เราลองไปดูที่บ้านเขาก่อนดีกว่า เผื่อชายจะกลับไปที่นั่น
ไม่รอช้า สองคนรีบขึ้นรถก่อนจะตะบึงหายไปท่ามกลางรถอันหนาแน่นบนถนน
ขออย่าให้เห็นอะไรเลย
ส้มภาวนาเมื่อรถขับแยกเข้ามาในถนนดินแดง สองข้างทางเป็นป่าสูงใหญ่ดูลึกลับ
เอกสัมผัสมือส้มเบาๆ ปลอบใจ
อย่าเพิ่งคิดในแง่ร้ายเลย เขาอาจจะไม่ได้เป็นอะไรก็ได้ บางทีเราไปบ้าน และพบว่าเขานั่งเล่นอยู่หน้าบ้านแล้ว
ทว่าเอกกลับไม่ได้คิดดังเช่นที่พูดออกมา ใจเขาก็ประหวั่นไม่น้อยไปกว่าส้มเลย
แต่ขอให้เป็นอย่างที่พูดเถอะ
จากคุณ :
ดาราสมุทร
- [
11 พ.ย. 51 18:02:49
]